สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่มีแพลนจะขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ อาจจะมีความกังวลใจว่า คนท้องขึ้นเครื่องบิน ได้ไหม? ถ้าเดินทางจะปลอดภัยกับลูกในท้องหรือเปล่า? และต้องเตรียมตัว เตรียมความพร้อม หรือใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติมบ้าง? วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี คำแนะนำดีๆ ในการเตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน ฉบับคุณแม่ตั้งครรภ์ มาให้คุณแม่มือใหม่ทุกท่านค่ะ
ระยะการตั้งครรภ์ของคุณแม่
ก่อนจะอื่นเราต้องทราบก่อนว่า ระยะการตั้งครรภ์จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง หรือ 3 ไตรมาส ดังนี้
ไตรมาสแรก คือ เดือนที่ 1-3 หรือ 1-13 สัปดาห์
คนท้องขึ้นเครื่องบิน ในช่วงนี้ถือว่ามีความเสี่ยงมากที่สุด ต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากท้องกำลังอ่อนๆ และบางท่านอาจมีอาการแพ้ท้องหนัก อาเจียน เวียนหัว ไม่มีเรี่ยวแรงในการเดินทาง หากคุณแม่มีความจำเป็นต้องเดินทาง พี่เห็ดแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่คุณแม่ฝากครรภ์ไว้เพื่อตรวจสุขภาพ เพราะต้องคำนึงถึงสุขภาพของคุณแม่เป็นหลัก ให้คุณหมอจ่ายยาบำรุงครรภ์ หรือแก้อาเจียน เพื่อให้เดินทางได้อย่างสะดวกราบรื่น
ไตรมาสสอง คือ เดือนที่ 4-6 หรือ 14-27 สัปดาห์
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงดีที่สุดที่ คนท้องเที่ยวต่างประเทศ หรือขึ้นเครื่องบินได้ค่ะ เพราะคุณแม่จะเริ่มปรับตัวได้ อาการแพ้ท้องจะน้อยลง หรือไม่แพ้ท้องแล้ว ท้องจะแข็งแรงมากขึ้น และยังเป็นช่วงที่ไม่เสี่ยงต่อการแท้ง สามารถเดินทางได้เลยโดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ แต่ต้องเป็นครรภ์เสี่ยงต่ำ เช่น ไม่ใช่ครรภ์แฝด ไม่ใช่ภาวะที่เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น และควรแจ้งสายการบินตอนเช็กอิน พร้อมระบุอายุครรภ์ บางสายการบินจะมีแบบฟอร์มให้ผู้โดยสารเซ็นก่อนขึ้นเครื่อง
ไตรมาสสาม คือ เดือนที่ 7-9 หรือ 28-40 สัปดาห์
ในช่วงนี้อายุครรภ์เริ่มเยอะขึ้น ท้องเริ่มใหญ่ขึ้น คุณแม่ที่มีอายุครรภ์อยู่ในช่วง 28-35 สัปดาห์ และมีความจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบิน ยังสามารถเดินทางได้ แต่ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ Fit to Fly อนุญาติให้ คนท้องขึ้นเครื่องบิน ที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องมีอายุไม่เกิน 7 วัน หรือ 30 วันก่อนวันเดินทาง (แนะนำให้ตรวจสอบอายุของเอกสารกับสายการบินอีกครั้ง) และพกติดตัวไปวันเดินทางด้วย โดยนอกจากใบรับรองแพทย์แล้ว เพื่อความอุ่นใจ พี่เห็ดแนะนำว่าให้พกสมุดฝากครรภ์มาเผื่อด้วยค่ะ แต่หากอายุครรภ์ 35 สัปดาห์ขึ้นไป สายการบินจะไม่อนุญาตให้เดินทางแล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด หรือ น้ำเดิน ขณะอยู่บนเครื่องบิน หรืออยู่ที่ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม แต่ละสายการบินก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย เช่น อายุครรภ์ที่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ อายุของเอกสาร เป็นต้น หากคุณแม่ท่านใดมีความจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบินขณะตั้งครรภ์ หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ แนะนำให้แจ้งสายการบิน และตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ อีกครั้งค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์ขึ้นเครื่องบินอย่างไรให้ปลอดภัย
1. ดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรง เนื่องจากสุขภาพร่างกายของคุณแม่เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก จึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน พร้อมสำหรับการเดินทาง
2. แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบิน เจ้าหน้าที่สายการบินจะได้ช่วยจัดที่นั่งที่เหมาะสมให้กับคุณแม่ เพื่อไม่ให้รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น โดยอาจจะเป็นที่นั่งริมทางเดิน ช่วยให้สะดวกในการลุกเข้าห้องน้ำ เนื่องจากคนท้องจะปวดปัสสาวะบ่อย ซึ่งคุณแม่ห้ามกลั้นไว้นะคะ เพราะอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และมีเชื้อโรคเข้าไปในครรภ์ ทำให้อันตรายต่อทารกได้
3. เตรียมเอกสารให้พร้อม นอกจากเอกสารสำหรับการเดินทางที่ต้องเตรียมตามปกติแล้ว อย่าลืมขอใบรับรองแพทย์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และนำมาในวันเดินทางด้วย
4. สวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม หาก คนท้องขึ้นเครื่องบิน และใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง ควรสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น ใส่ถุงเท้า ให้สะดวกกับการนั่งเครื่องบินนานๆ และอย่าลืมพกหมอนรองคอไปด้วย
5. บริหารร่างกายเล็กน้อย คุณแม่สามารถยืดแข้งยืดขา หมุนข้อเท้าไปมา ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นได้ และไม่ควรนั่งไขว้ห้าง เพราะอาจทำให้เป็นเส้นเลือดขอด
6. จิบน้ำตลอดทาง เพื่อให้ร่างกายมีความชุ่มชื่น และป้องกันร่างกายขาดน้ำ
7. เตรียมยาที่จำเป็น หากคุณแม่มียาที่ต้องทาน ควรเตรียมไปกับเพียงพอต่อการเดินทาง และตลอดทริป
ทริคในการท่องเที่ยวต่างประเทศ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
1. เลือกประเทศที่จะไปเที่ยว คนท้องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ควรเลือกเดินทางไปประเทศที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ โลดโผน ปีนป่าย ภูเขาสูง ซึ่งจะทำให้คุณแม่หายใจลำบาก ก่อให้เกิดอันตรายได้ค่ะ
2. ดูแลสุขภาพของตนเองในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการยกกระเป๋า การถือของหนัก การเดินให้ช้าลง การก้าวขึ้นลงบันได ขึ้นลงรถ ระมัดระวังการลื่น เป็นต้น
3. แต่งกายให้เหมาะสม สวมเสื้อผ้าใส่สบาย สวมรองเท้าที่คล่องแคล่ว กันลื่น และไม่ยุ่งยากในการก้มลงถอดและใส่รองเท้า
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ คนท้องเที่ยวต่างประเทศ คลายความกังวลใจไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับคำแนะนำที่พี่เห็ดนำมาฝากในวันนี้ แต่หากใครไม่อยากเตรียมตัวเที่ยวเอง พี่เห็ดก็มีอีกหนึ่งทางเลือก คือ เลือกเที่ยวกับทัวร์ เพราะบริษัททัวร์จะจัดการให้หมดทุกอย่าง ทั้งตารางเที่ยว การเดินทาง ร้านอาหาร ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และยังมีหัวหน้าทัวร์ดูแล คอยอำนวยความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง สบายใจหายห่วง แถมทางทัวร์ยังมีประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางให้คุณแม่ด้วย โดยคุณแม่อาจจะซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ทริปนี้ไม่ยุ่งยาก คนท้องขึ้นเครื่องบิน ได้อย่างสบายใจ และท่องเที่ยวอย่างมีความสุขตลอดทั้งทริปค่ะ