ใครกำลังเตรียมตัวไป ทัวร์ญี่ปุ่น ต้องรู้! ก่อนจะเผลอตัวหยิบข้าวของติดไม้ติดมือไปด้วยความเคยชิน ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนั้นเข้มงวดมากในเรื่องการตรวจจับของต้องห้าม และสัมภาระของนักท่องเที่ยว หากโชคดีเจอโทษสถานเบาก็อาจแค่โดนเตือนหรือโดนปรับ แต่ถ้าถึงขั้นร้ายแรงอาจโดนโทษจับเข้าคุกเลยก็ได้ นอกจากอาวุธ ยาเสพติด และสิ่งที่ผิดกฎหมายแล้ว อาจยังมีสิ่งของอย่างอื่นที่ห้ามเข้าญี่ปุ่นและเรายังไม่ทราบหรือมองข้ามไป ฉะนั้นถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากหมดสนุก ไม่อยากโดนจับปรับ ตามพี่เห็ดมาเช็คกันว่า ของห้ามเข้าญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง รู้ไว้ไม่เสียหายแน่นอน
1. เงินสดเกิน 1 ล้านเยน
อย่างแรกต้องรู้ก่อนเลยว่า ถ้าพก เงินสดเกิน 1 ล้านเยน รวมถึงทองคำ หรือทองรูปพรรณที่มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม อาจถูกเรียกเข้าห้องเย็นไปสอบสวน ไถ่ถามถึงสาเหตุว่าทำไมต้องพกเงินหรือของที่มีมูลค่ามากขนาดนั้นมาด้วย เพราะเป็นการสุ่มเสี่ยงว่าเราอาจนำเงินเข้าไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือทำการฟอกเงินก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เป็นข้อห้ามอะไรมาก ฟังดูแล้วไม่ร้ายแรง แต่ก็ถือว่าต้องเสียเวลาอธิบายให้กับเจ้าหน้าที่เป็นชั่วโมงๆ ถ้าสายเปย์อยากช้อปปิ้งแบบจัดหนัก ทางที่ดีควรพกบัตรเครดิต บัตร Travel Card หรือแบ่งเงินกันถือในจำนวนที่เหมาะสมจะดีกว่า
2. ยาห้ามนำเข้าญี่ปุ่น 11 ชนิด
ถึงแม้ว่ายาจะเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพกติดตัวไว้ และขาดไม่ได้สำหรับบางคน แต่ต้องรู้ก่อนว่า ยาบางชนิด นับเป็น ของห้ามเข้าญี่ปุ่น มิเช่นนั้นจะถือว่ามีความผิด โดยเป็นยาที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด และสารไดเฟนอกไซเลต (Diphenoxylate) ที่จัดเป็นสารเสพติด ยาห้ามนำเข้าญี่ปุ่น มีทั้งหมด 11 ชนิดด้วยกัน คือ TYLENOL COLD, NYQUIL, NYQUIL LIQUICAPS, ACTIFED SUDAFED, ADVIL COLD & SINUS, DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”, DRISTAN SINUS, DRIXORAL SINUS, VICKS INHALER และ LOMOTIL ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลใจจนเกินไป เพราะยาส่วนใหญ่นี้ไม่มีขายในประเทศไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เช็คให้ชัวร์กันไว้ก่อน หรือถ้าใครจำเป็นหรือมีโรคประจำตัวที่ต้องพกยาเฉพาะ ก็ต้องมีเอกสารใบรับรองจากแพทย์ ระบุรายละเอียดของยาเป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน ที่สำคัญควรพกยาไปในปริมาณที่เหมาะสมกับวันท่องเที่ยวของเรานะคะ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยได้ว่าทำไมถึงพกยามาเยอะจัง
3. เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสัตว์ หรือน้ำนมดิบ
หากใครที่กำลังคิดว่าจะซื้อ ไส้กรอก, ไส้อั่ว, หมูยอ, แคบหมู, กุนเชียง, เนื้อแดดเดียว, ไก่หยอง หรืออะไรก็ตามที่มาจากเนื้อสัตว์ ซื้อไปเป็นของฝากให้ญาติๆ ที่อยู่ญี่ปุ่น หรือพกติดตัวไปกินที่นู้น ต้องหยุดคิดก่อน เพราะการนำ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสัตว์ หรือน้ำนมดิบ เข้าประเทศญี่ปุ่นนับเป็นโทษสถานหนัก มีสิทธิ์ถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านเยนเลยทีเดียว แต่หากจำเป็นต้องนำเข้าจริงๆ ต้องมีเอกสารรับรองการตรวจจากประเทศต้นทางก่อน อีกอย่างที่ต้องระวังก็คือ ของกินเล่นที่มีเนื้อสัตว์แปรรูปอย่าง ข้าวตังหมูหยอง หรือแซนด์วิชไส้เนื้อสัตว์ต่างๆ ที่ซื้อติดกระเป๋าไว้ เราอาจจะเผลอนำเข้าประเทศญี่ปุ่นโดยไม่รู้ตัว ส่วนกรณีที่คุณแม่ปั๊มน้ำนมไว้ให้ลูก ก็ต้องมีเอกสารยืนยันว่าไม่ได้มาจากสัตว์เหมือนกัน สาเหตุที่ทางสนามบินญี่ปุ่นเข้มงวดในเรื่องนี้ก็เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมาจากปศุสัตว์นั่นเอง ฉะนั้นถ้าไม่อยากยุ่งยาก ควรหลีกเลี่ยงจะเป็นการดีที่สุดค่ะ
4. ผักและผลไม้บางชนิด
ใครจะไปคิดว่า ถ้าเรานำ ผักและผลไม้สดบางชนิด ไม่ว่าจะเป็น กล้วย, ส้ม, มะเขือเทศ, พริกสด, ฝรั่ง, ลิ้นจี่, มังคุด, แก้วมังกร และมะม่วง ติดตัวเข้าไปก็ถือว่าเป็น ของห้ามเข้าญี่ปุ่น เหมือนกัน เพราะพืชผักที่นำมาอาจมีสารปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรียต่างถิ่น โดยเฉพาะผลไม้หรือพืชประจำถิ่น อนุญาติให้เฉพาะผลไม้ที่ปลูกในญี่ปุ่นเท่านั้น และต้องมีใบรับรองที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบมาอย่างถูกต้องแล้ว มิเช่นนั้นจะถือว่ามีความผิด เว้นแต่ว่าผักผลไม้นั้นผ่านการแปรรูปมาแล้ว จำพวกของหมัก ของดอง เป็นใบชา หรือผลไม้กระป๋องต่างๆ ที่มีตราสินค้ามาตรฐาน บรรจุภัณฑ์แน่นหนา ได้รับการรับรองมาแล้ว ก็สามารถนำเข้าได้นั่นเอง
5. แมลงที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต
ไป ทัวร์ญี่ปุ่น ทั้งทีก็อยากจะเอาแมลงทอดไปฝากพี่ๆ น้องๆ สักหน่อย แต่เพื่อนๆ รู้กันรึเปล่าว่า แมลงที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต นั้นเป็น ของห้ามเข้าญี่ปุ่น เลยนะ นอกจากพวกแมลงทอดแล้ว อย่าง ตั๊กแตน, ผีเสื้อ หรือ หนอน ก็ถือว่ามีความผิด อาจได้รับการดำเนินคดีทางกฎหมายได้ สาเหตุก็เพราะเป็นมาตรการป้องกันด้านสิ่งแวดล้อม ทำลายระบบนิเวศ หรือก่อให้เกิดโรคระบาดต่อการเกษตรของญี่ปุ่นได้ หากจะนำเข้าก็ต้องได้รับการอนุญาตเป็นพิเศษเท่านั้นนะคะ
6. ดิน พืชที่มีดินติดอยู่ ฟาง และแกลบข้าว
ดิน พืชที่มีดินติดอยู่ ฟาง และแกลบข้าว อาจมีเชื้อโรคและแมลงศัตรูพืชติดปะปนมาด้วย ถึงแม้หลายคนตั้งมั่นกับตัวเองไว้ว่าจะไม่นำของเหล่านี้เข้าญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แต่บางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจสอดไส้ แฝงตัวมาอยู่ในของฝากก็เป็นได้ อย่างพวก หมอนฟาง หรือพวกอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ รวมถึง ไข่เค็มที่ยังมีดินพอกอยู่ ฉะนั้นต้องตรวจสอบให้ละเอียดถึงไส้ในด้วยนะคะ
7. สิ่งของที่ไม่มีใบรับรองอนุญาตนำเข้า
ข้อนี้ทางประเทศญี่ปุ่นระบุไว้อย่างชัดเจนเลยว่า สิ่งของที่ไม่มีใบรับรองอนุญาต ห้ามนำเข้าเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้บางอย่าง เช่น ทุเรียน สับปะรด, พวกผักแห้ง เช่น ถั่ว พริกแห้ง รวมถึงเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ดังนั้นถ้าใครจะนำสิ่งของเหล่านี้มา ต้องไปขอใบอนุญาตก่อนนะคะ ถึงจะนำเข้าญี่ปุ่นได้
8. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
หลายคนอาจชะล่าใจว่าถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่พี่เห็ดบอกเลยว่า ทางประเทศญี่ปุ่นเคร่งครัดเรื่อง สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า, กระเป๋า, เครื่องประดับ, สินค้าแบรนด์เนม หรือสินค้ารูปตัวการ์ตูนต่างๆ หากเจ้าหน้าที่เรียกตัวและขอตรวจสอบ เมื่อพิสูจน์แล้วว่าเป็นของปลอม ก็อาจทำให้ถูกยึด และดำเนินคดีได้ ถึงแม้ว่าอาจจะตรวจสอบยาก แต่ถ้าโดนขึ้นมาจะเสียหายทั้งใจและเงินในกระเป๋าอย่างแน่นอน ทางที่ดีควรป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นดีกว่านะคะ
เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบมาก อะไรที่เป็น ของห้ามเข้าญี่ปุ่น ก็ไม่ควรฝ่าฝืนนำเข้าไป ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะเป็นการดี ไม่อย่างนั้นเพื่อนๆ อาจต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกได้ และอาจสร้างความทรงจำไม่ดีในการไป ทัวร์ญี่ปุ่น อีกด้วย ฉะนั้นแล้วก่อนแพ็คกระเป๋าเดินทางควรเช็คให้ละเอียดถี่ถ้วนกันหลายๆ รอบ ระมัดระวังตัวกันด้วยนะคะ