ราเมง สุดยอด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นที่ต้องไปกินให้ได้ !!
มาถึงโทกุทั้งทีต้องไม่พลาดสุดยอด ราเมง ของญี่ปุ่น!
อีกหนึ่งอาหารญี่ปุ่นที่เราต้องเคยห็นแน่ๆ นั่นก็คือราเมงนั่นเองค่ะ แต่จะให้แนะนำราเมงธรรมดาก็ดูไม่ใช่แนวทางกูรูเท่าไหร่ วันนี้เราเลยจะพาไปชิมคิตะกะตะราเมง หนึ่งในสามสุดยอดราเมงที่ถ้ามาถึงโทโฮกุแล้วไม่ได้กินเนื่ยบอกเลยนะว่าอย่าไปบอกใครเชียว เดี๋ยวเค้าจะหาว่าคุณมาไม่ถึงโทโฮกุ
คิตะกะตะราเมงเป็นราเมงขึ้นชื่อของเมืองคิตะกะตะ (ก็แหงล่ะสิ!) จังหวัดฟุกุชิมะ ภูมิภาคโทโฮกุ รสชาติและส่วนผสมที่ผสานออกมาเป็นคิตะกะตะราเมงนั้นถือว่าเป็นของขึ้นชื่ออย่งมากเลยทีเดียว ไม่ใช่แต่ในโทโฮกุเท่านั้นด้วยนะเพราะคิตะกะตะนี่อร่อยระดับประเทศเลยทีเดียวล่ะ มีการขยายสาขา เปิดร้านที่ใช้สูตรคิตะกะตะตามเมืองต่างๆ ทั่วญ่ปุ่น ทั้งโตเกียว เกียวโต โอซาก้า เรียกได้ว่าแทรกซึมไปทุกที่เลย (อ๋า นึกถึงก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาหรือก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยเลยเนอะ) ซึ่งการที่จะสามารถแทรกซึมได้ขนาดนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เพราะคิตะกะตะราเมงขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในสามสุดยอดราเมงของญี่ปุ่นเลยเชียวแหละ
เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้คิตะกะตะราเมงต่างไปจากราเมงอื่นๆ อย่างแรกเลยก็คือความหนาของเส้นราเมงที่มีขนาดถึง 4 มิลลิเมตรนั่นเองจ้ะ ความหนาของเส้นราเมงทำให้เวลาทานเข้าไปจะมีความแน่นนุ่มเต็มปากเต็มคำแบบที่เส้นอื่นๆให้ไม่ได้ บวกกับความหยักของเช่นทีช่วยพิ่มสัมผัสเวลาเคี้ยวได้อย่างเพลินพลิน เพราะเส้นจะดีดตัวเวลาเคี้ยวได้รสสัมผัสที่ต่างไปอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือเส้นที่หนานุ่มนี้ยังดูดซับน้ำซุปรสกล่อมกล่อมไว้ได้อย่างเต็มอิ่ม กว่าเราจะรู้ตัวก็คีบเส้นโซ้ยเข้าปากไปจนหมดชามไปเสียแล้ว
นอกเหนือจากเส้นแล้วอย่างที่เคยเขียนไปในบทความก่อนหน้าว่าโทโฮกุเป็นดินแดนแห่งผลผลิตทางการเกษตรด้วย เพราะงั้นเครื่องหน้าต่างๆ ในคิตะกะตะราเมงนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะทั้งผักหวาน สดใหม่ที่เอามาโรยหน้าหรือเคี่ยวเป็นซุปได้อย่างกลมกล่อมละมุนลิ้น ที่สำคัญคือที่นี่เขาเลือกใช้ผลผลิตตามฤดูกาลมาผสานเป็นหน้าราเมงที่หลากหลายตามความชอบของคนทานได้อย่างลงตัวเลย
พูดถึงเส้นแล้ว เครื่องหน้าก็แล้ว ต่อไปที่จะมาเล่าคือเครื่องปรุงรสที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของราเมง โดยทั่วไปถ้าใครเคยดูวิธีการทำราเมงมาบางน่าจะเคยเห็นว่าจะมีการใส่เครื่องปรุงต่างๆ ลงไปในชามก่อนที่จะตามด้วยซุป เส้นและเครื่องหน้า ซึ่งเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปมักจะหนีไม่พ้นซอสถั่วเหลือง (โชยุ) และมิโสะนั่นเอง ซึ่งราเมงที่ชิ้โสะในน้ำซุปจะต้องมีมิโสะที่มีรสชาติและกลิ่นที่ดีมาก ซึ่งคิตะกะตะเองก็ขึ้นชื่อเช่นกันล่ะ ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ ก็ไม่ต้องพูดถึง สดใหม่ เพิ่มความหอมและเพิ่มรสชาติให้ทวีความอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัวเลยล่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบรสจัดจ้านเราแนะนำว่าแค่รสชาติซุปมิโสะแบบออริจินอลของคิตะกะตะราเมงก็กินขาดแล้ว!
สิ่งสำคัญที่สุดของราเมงที่นี่คือน้ำนั่นเอง ขอแอบเล่าสักนิดว่าคิตะกะตะเป็นอีกเมืองที่บ่มสาเกรสดีได้ติดอันดับของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแปลว่าน้ำที่นี่ต้องมีคุณภาพสูงมาก อาจจะเพราะว่าสภาพธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์มากด้วยทำให้คุณภาพน้ำบริสุทธิ์มาก และน้ำคุณภาพสูงขนาดบ่มสาเกได้เมื่อนำมาเคี่ยวกับวัตถุดิบสดใหม่เลย ตู้ม! กลายเป็นสุดยอดซุปราเมงที่แค่กลิ่นโชยมาก็พาให้หน้ามืดตาลายอยากกระโจนตามลงหม้อไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งน้ำที่คิติกะตะได้รับเลือกเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำคุณภาพของญี่ปุ่นอีกด้วย
เส้นเด่น เครื่องหน้าดี น้ำซุปยอดเยี่ยมสามผสานขนาดนี้ถึงจะสมกับตำแหน่งหนึ่งในสามสุดยอดราเมงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะงั้นถ้าใครได้แวะมาที่ฟุกุชิมะหรือภูมิภาคโทโฮกุแล้วล่ะก็ ห้ามพลาดมาลองลิ้มชิมรสสุดยอดราเมงแบบฉบับต้นตำหรับกันได้ที่นี่นะ เพราะมีความหลากหลายและวัถุดิบยอดเยี่ยมจนทำให้คุณๆ ลืมราเมงที่เคยได้ทานๆ ไปได้อย่างแน่นอนเลยล่ะ และก็เช่นเดียวกับร้านราเมงอื่นๆ ที่จะมีครื่อง มีหน้าราเมงหลายๆ แบบให้ได้ทานตามความชอบแต่ก็ยังคงความเป็นคิตะกะตะราเมงไว้ได้ทุกเมนูเลยล่ะ
ขอแทรกวัฒนธรรมการกินราเมงแบบญี่ปุ่นกันสักหน่อยนะคะ
เวลาไปกินราเมง เคยเห็นคนญี่ปุ่น สูดเส้นเสียงดังกันหรือเปล่าคะ..?
อย่าเพิ่งไปรังเกียจเค้าเสียก่อนหล่ะ
เพราะว่าการสูดเส้นเสียงดังแบบนี้เป็นวัฒนธรรมการกินราเมงแบบคนญี่ปุ่นเค้าล่ะค่ะ
ยิ่งเสียงดัง…ยิ่งอร่อย
เป็นการกระทำที่คนญี่ปุ่นเค้าสื่อสารกันผ่านทางการรับประทานราเมง
เหมือนเป็นการส่งต่อความรู้สึกผ่านไปให้คนทำราเมงได้รับรู้
เป็นการขอบคุณสำหรับการทำอาหารอร่อยๆแบบนี้มาให้ค่ะ
เราว่าการแสดงความขอบคุณแบบนี้…ก็น่ารักดีเหมือนกันนะคะ
ติดแต่ตรงที่ว่า คนไทยอย่างเราไม่ค่อยจะชินสักเท่าไหร่
กลัวกระเด็นกระดอนบ้าง เปื้อนบ้าง หรือว่ารู้สึกไม่สุภาพบ้าง
ยังไงก็ตาม เราอยากบอกว่า อย่าไปทำหน้าค้อนใส่เค้านะคะ
รักจะกินอาหารญี่ปุ่น ก็ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านการกินด้วยถึงจะสนุก 55+
เราคิดแบบนั้น ยังไงก็…รับประทานราเมงให้อร่อยนะคะ
ว่าแล้วก็ขอตัวไปต้มมาม่ากินแทนคิตะกะตะราเมงไปพลางๆ ก่อนดีกว่า รอเก็บตังค์สำหรับหยุดยาวครั้งหน้ารับรองว่าต้องไปโดนสุดยอดราเมงชามนี้แน่นอน!
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.kitakata-kanko.jp