รีวิว Costa Fortuna เที่ยวเรือสำราญ เส้นทางแหลมฉบัง สีหนุวิลล์ เกาะฟูก๊วก เกาะสมุย 5 วัน 4 คืน
ถ้าจะพูดถึงอีกหนึ่งรูปแบบของการท่องเที่ยวที่หลายคนให้ความสนใจก็ต้องยกให้ ทัวร์เรือสำราญ เทรนด์เที่ยวที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเที่ยวเรือสำราญเป็นยังไง หรือน่าสนใจยังไงบ้าง มาทางนี้เลยค่ะ วันนี้ มัชรูมทราเวล จะมาเล่าให้ฟัง มาชม รีวิว Costa Fortuna เรือสำราญสุดหรูไซส์ยักษ์ ในเส้นทาง แหลมฉบัง สีหนุวิลล์ เกาะฟูก๊วก เกาะสมุย จัดเต็ม 5 วัน 4 คืน !! โดยเราเดินทางเมื่อวันที่ 4 – 8 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา เก็บข้อมูลมาให้ชมแบบเน้นๆ ใครที่กำลังสงสัยหรือกำลังตัดสินใจ ไปชมกันได้เลย
วันแรก : จุดนัดพบ & พาสำรวจเรือ Costa Fortuna
เริ่มต้นเช้าวันแรกของการเดินทาง รีวิว Costa Fortuna เราจะไปขึ้นรถบัสที่จัดไว้ให้ในโปรแกรมเพื่อเดินทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งสะดวกสบายมากๆ จุดขึ้นรถอยู่ในกรุงเทพนี่เอง เหมาะสำหรับใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปเอง โดยจุดนัดพบเพื่อขึ้นรถจะอยู่ที่ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ด้านหลังสนามจุ๊บ ใกล้ตลาดสามย่านใหม่นั่นเอง
หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วเก็บกระเป๋าขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ในส่วนตรงนี้ถ้าใครสะดวกเดินทางไปที่ท่าเรือแหลมฉบัง ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ก่อนวันเดินทางได้เลย สะดวกที่ไหนไปที่นั่นจ้า
ทำความรู้จักกับ เรือสำราญ Costa Fortuna
ช่วงเวลาบ่ายโมงเราก็เดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง เช็คอินให้เรียบร้อย พร้อมลงเรือสำราญ Costa Fortuna เรือสำราญลำใหญ่ราวกับตึกลอยน้ำ เป็นเรือสัญชาติอิตาลี มีความสูงทั้งหมด 17 ชั้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 3,740 คน ภายในตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ยุโรป แถมมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และจุดชมวิวบนเรือ พร้อมด้วยกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย คนที่ชอบเที่ยวชิลๆ บอกเลยว่า ทัวร์เรือสำราญ ตอบโจทย์มากๆ
ห้องพักบนเรือสำราญ
รีวิว Costa Fortuna มาถึงส่วนของห้องพักกันบ้าง ห้องที่เราได้พักเป็นห้อง Classic Room มีเตียง 2 ชั้น สามารถพักได้ทั้งหมด 4 คน ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี ตู้เสื้อผ้า โทรศัพท์ กาต้มน้ำ ไดร์เป่าผม แนะนำว่าให้เอาปลั๊กยูนิเวอร์แซลมาด้วย เพราะปลั๊กแบบไทยใช้บนเรือนี้ไม่ได้ พกปลั๊กพ่วงมาด้วยก็ดีค่ะ เพราะจุดเสียบปลั๊กมีน้อย
สำหรับห้องน้ำก็สะอาด ดูใหม่ น่าใช้งานมากๆ และ Wi-Fi ไม่ฟรีนะจ๊ะ ต้องซื้อแพ็คเกจ Wi-Fi ราคาขั้นต่ำ 30 USD
บนที่นอนของเราจะมีโปรแกรมกิจกรรมทุกวัน รวมถึงทริปวันเดย์ของแต่ละจุดจอดเรือ ส่งมาให้ทุกวัน อัพเดทแบบวันต่อวันนะคะ อ่านดูโปรแกรมและวางแผนทำกิจกรรมตามต้องการได้เลย
ลงทะเบียนครูซการ์ด
หลังจากเก็บของที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่งนั่นก็คือ การลงทะเบียนครูซการ์ด ถ้าถามว่ามันคืออะไร? มันคือบัตรที่ใช้แทนเงินสดในระหว่างที่ใช้บริการอยู่บนเรือ รวมถึงการซื้อทริปวันเดย์ต่างๆ ก็ต้องซื้อผ่านการ์ดตัวนี้เท่านั้น ทุกคนจำเป็นต้องทำบัตรครูซการ์ดเพราะการเก็บค่าทิปลูกเรือในวันสุดท้ายก็จะหักผ่านบัตรนี้เช่นกัน สรุปง่ายๆ คือบนเรือจะไม่ใช้เงินสดกันค่ะ เงินขั้นต่ำในการลงทะเบียนอยู่ที่ 150 USD หรือ ผูกกับบัตรเครดิตก็ได้นะ แต่กรณีที่ใช้เงินไม่หมดสามารถเคลมคืนได้
ห้องอาหารบนเรือสำราญ
มา รีวิว Costa Fortuna ในส่วนต่างๆ กันต่อ เริ่มต้นที่ห้องอาหารบนเรือ ที่ระบุในโปรแกรมจะมีทั้งหมด 3 ห้อง เนื่องจากคนเที่ยวเรือจำนวนมาก จึงต้องแบ่งทานอาหารกันเป็นรอบๆ ยังไงอย่าลืมเช็คตารางรอบของตัวเองให้ดีนะคะว่าต้องทานที่ห้องไหน
– ห้องอาหารจานเดี่ยว A La Carte
ใครอยากทานอาหารเป็นคอร์สๆ แบบจานเดียว ให้ไปที่ห้องอาหาร Michelangelo และ Raffaello จะเปิดบริการเป็นรอบๆ จัดเสิร์ฟในรูปแบบเมนคอร์ส สามารถเลือกทานอาหารได้เป็นหมวดหมู่ตั้งแต่ ของทานเล่น อาหารหลัก ไปจนถึงของว่าง หมวดไหนไม่ต้องการรับประทานก็สามารถบอกพนักงานว่าไม่รับหมวดนี้ ที่สำคัญมีเมนูภาษาไทยด้วยนะ ส่วนเครื่องดื่มก็มีบริการน้ำเปล่าฟรี แต่ซอฟต์ดริ้งและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องเสียเงินเพิ่มนะจ๊ะ
– ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์
สำหรับใครที่หิวจนทนไม่ไหว เพราะยังไม่ถึงรอบของตัวเอง แนะนำให้ไปห้องอาหาร Colombo ซึ่งจะเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่อาหารจะเยอะในช่วงเวลาทานอาหารเช้า เที่ยง และช่วงเย็นในเวลาอื่นๆ ก็มีนะคะ แต่อาจจะมีเป็นซุ้มกรุบกริบ ทานแก้หิวระหว่างวันได้ค่ะ
สำรวจกิจกรรมบนเรือสำราญ มีอะไรบ้าง…?
รีวิว Costa Fortuna มาถึงส่วนที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือกิจกรรมบนเรือ ที่ให้เราเลือกเข้าร่วมทำในขณะเดินทาง มีมากมาย รวมถึงกิจกรรมที่ผลัดเปลี่ยนในแต่ละวัน มีอะไรบ้างเรามาดูภาพรวมไฮไลท์กันดีกว่า
โรงละคร เร็กซ์ เธียร์เตอร์
เปิดให้ชมการแสดงฟรีทุกวัน มีโชว์สนุกๆ ทั้งเต้นรำ ร้องเพลง กายกรรม โชว์ฟองสบู่ และอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่เช็คตารางโปรแกรมก็สามารถเข้าชมตามเวลาได้เลย
คาสิโน
สำหรับคนชอบเสี่ยงโชคต้องไม่พลาด บนเรือมีคาสิโนให้คุณได้สนุกรับโชคทุกรูปแบบ โดยคาสิโนจะเปิดให้เล่นในช่วงที่เรือล่องอยู่ในบริเวณน่านน้ำสากลเท่านั้น
สระว่ายน้ำ
ใครที่เบื่อๆ อยากคลายร้อน เตรียมชุดว่ายน้ำให้พร้อม มาว่ายน้ำบนเรือสำราญกันดีกว่าค่ะ บนเรือมีสระว่ายน้ำ 2 สระด้วยกัน มีทั้งสระสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ แถมมีสไลด์เดอร์ขนาดใหญ่ให้เล่นกันมันส์ๆ ด้วยนะ สามารถเล่นได้ฟรีตลอดที่พักอยู่บนเรือเลยค่ะ
ฟิตเนส
มาใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในระหว่างการเดินทาง ทัวร์เรือสำราญ กันดีกว่าค่ะ รับรองว่าดีต่อสุขภาพ ด้วยห้องฟิสเนสเปิดให้ใช้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมชุดและรองเท้าออกกำลังกายมาให้พร้อม สำหรับเครื่องเล่นก็มีหลายแบบเลยค่ะ
ดิวตี้ฟรี
ขาช้อปทั้งหลายไม่ต้องกลัวว่ามาอยู่บนเรือแล้วจะเบื่อ เพราะไม่มีที่ให้ช้อป ขอบอกเลยว่าบนเรือมีโซนดิวตี้ฟรีที่เต็มไปด้วยแบรนด์ชั้นนำมากมายจากหลายสัญชาติ เดินช้อปปิ้งเพลินๆ บนเรือสำราญในราคาที่ถูกกว่าเมืองไทย ทั้งกระเป๋า น้ำหอม เครื่องสำอาง โดยจะเปิดบริการช่วงที่เรือล่องอยู่ในบริเวณน่านน้ำสากลเท่านั้นเช่นกันจ้า
นอกจากไฮไลท์กิจกรรมและส่วนต่างๆ บนเรือแล้ว ทัวร์เรือสำราญ ก็ยังมีอะไรให้ทำอีกมาย เช่น ร้านเสริมสวย ร้านนวดสปา ตู้เกมส์ สำหรับการบริการหรือกิจกรรมบางอย่างอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ยังไงลองเช็คและสอบถามก่อนการใช้บริการส่วนต่างๆ ด้วยนะคะ
วันที่ 2 : สีหนุวิลล์
วันที่ 2 ของการเดินทาง เรือพาเรามาที่จุดแวะเที่ยวที่แรก นั่นก็คือ สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองกัมปงโสม เป็นที่เที่ยวพักตากอากาศอันดับ 1 ของกัมพูชา สำหรับคนที่จะเที่ยววันเดย์ทริปสามารถซื้อโปรแกรมทัวร์ได้จากบนเรือ มีให้เลือกหลายโปรแกรมหลายราคา สามารถเลือกในแบบที่ต้องการได้ บางโปรแกรมมีพร้อมทานอาหารกลางวันด้วยราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย หรือสามารถซื้อตั๋วรถเวียนเพื่อเที่ยวเองก็ได้ ราคาจะอยู่ที่ 25 USD โดยจะพาไป 3 จุด คือ ตลาดกลางเมือง รูปปั้นสิงโตทอง และเล่นน้ำพักผ่อนบนชายหาด โดยต้องกลับมาขึ้นเรือก่อน 4 โมงเย็นนะคะ
ส่วนจุดจอดเรือเพื่อแวะเที่ยวตลอดโปรแกรม ถ้าใครไม่ลงไปเที่ยวก็สามารถอยู่บนเรือได้เลย จะพักผ่อนชมวิวชิลๆ ตามอัธยาศัย หรือจะสนุกไปกับกิจกรรมที่ในเรือจัดไว้ให้ก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรทำแน่นอนค่ะ
วันที่ 3 : เกาะฟูก๊วก
จุดแวะพักต่อมาในวันที่ 3 ของการเดินทางก็คือ เกาะฟูก๊วก เป็นเกาะที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเวียดนาม บอกเลยว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่สวยงามมากๆ สามารถซื้อโปรแกรมทัวร์วันเดย์จากบนเรือได้เช่นกันค่ะ
สำหรับทริปนี้เราเลือกนั่งกระเช้าข้ามทะเล เป็นกระเช้าที่มีความยาวที่สุดในโลก พร้อมเที่ยววัดโฮวก๊วก ไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่บนเขา และเป็นจุดชมวิวอ่าวไทยที่สวยที่สุด ถ้าเวลาเหลือๆ ก็มาเล่นน้ำบนชายหาดเกาะฟูก๊วกได้ค่ะ แต่อย่าลืมกลับมาขึ้นเรือให้ทัน 4 โมงเย็นนะคะ
วันที่ 4 : เกาะสมุย
รีวิว Costa Fortuna มาถึงวันที่ 4 แล้ว วันนี้เราจะไปแวะเที่ยวที่ เกาะสมุย แดนดินถิ่นไทย เที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษให้วุ่นวาย จะซื้อโปรแกรมทัวร์ก็ได้ หรือจะเหมารถสองแถวพาเที่ยวตามใจตัวเองก็ดี สถานที่เที่ยวแนะนำก็คือ หินตาหินยาย ชมหินรูปลักษณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จนกลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง หรือจะไปเที่ยวหาดเฉวง เล่นน้ำ ทานอาหารริมหาดก็ชิลๆ ถ้าคิดถึงอาหารไทยก็จัดส้มตำแซ่บๆ สักจานคู่กับชมวิวทะเลสวยๆ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
สำหรับในคืนที่ 4 ก่อนเดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบัง จะมีการเรียกรวมกระเป๋าเดินทางไว้เป็นจุดๆ เพื่อสะดวกในการขนย้าย เพราะฉะนั้นเราจะต้องแบ่งเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นไว้ใช้ในวันต่อไปด้วยนะคะ
วันที่ 5 : ท่าเรือแหลมฉบัง
วันสุดท้ายของการล่องเรือสำราญ Costa Fortuna หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ เตรียมเช็คของเก็บของให้เรียบร้อยเพื่อทำการเช็คเอ้าท์ตรงจุดที่กำหนด สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปกรุงเทพให้ขึ้นรถบัสตามที่แจ้งไว้ในโปรแกรมได้เลยค่ะ
จบครบเรียบร้อย สำหรับ รีวิว Costa Fortuna ทริปทัวร์เรือสำราญ ในเส้นทาง แหลมฉบัง สีหนุวิลล์ เกาะฟูก๊วก เกาะสมุย บอกเลยว่าทริปนี้เป็นการเที่ยวพักผ่อนที่คุ้มค่ามากๆ ได้ใช้เวลาชิลๆ บนเรือ แถมยังได้เที่ยวหลายที่ในทริปเดียว ต่างจากการนั่งเครื่องบินอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ ได้ทำกิจกรรมบนเรือเหมือนได้เที่ยวไปในตัว ใครที่อยากหาเวลาพักผ่อน คลายความเครียดจากการทำงาน หรืออยากพาคุณพ่อคุณแม่พักผ่อน บอกเลยว่าเหมาะมากๆ ได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า แถมได้ไปหลายประเทศด้วย แนะนำว่าเป็นการเที่ยวอีกรูปแบบนึงที่น่าสนใจเลยทีเดียว