ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมา รีวิวเที่ยว อิตาลี หน้าร้อน ตลอดทริป 8 วัน ใครกำลังวางแผน อยากไปเยือนเมืองที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ไปตามรอยกันได้เลยค่ะ
แบกกล้องตะลุยอิตาลี !!! Go Go ITALY Summer Trip ตอนที่ 1
สวัสดีอีกครั้งครับ
เมื่อเดือนกรกฎาปีที่แล้ว จขกท.ไป เที่ยว อิตาลี หน้าร้อน มา และกดรูปมาเยอะมาก เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ
** กระทู้นี้เน้นรูปถ่ายเป็นหลักนะครับ ไม่ค่อยมีข้อมูลมาแชร์นัก เพราะตอนนั้นไปกับเพื่อนและเพื่อนเป็นคนแพลนทริปทั้งหมด ทั้งตั๋วรถไฟ ที่พัก บลาๆๆ เลยไม่ค่อยอยู่ในหัวผมเท่าไหร่ ขอโทษนะครับ
นี่เป็นสรุปสถานที่แลนด์มาร์คคร่าวๆ ของทริปนี้ครับ
เส้นทาง เที่ยวอิตาลี ที่วางแผนไว้ก็จะไล่ตามนี้ครับ
1. Milano
2. Lake Como – Bellagio – Varenna
3. Dolomite
4. Venezia
5. Pisa
6. Cinque Terre
7. Firenze
8. Roma
DAY 1 – BKK – MILANO
เริ่มต้นทริป อิตาลี หน้าร้อน จขกท. บินไปมิลานด้วยสายการบินอาหรับสีเลือดหมู ไปเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา ประเทศกาต้าร์
ภายในห้องโดยสาร เพิ่งเคยนั่งเครื่องบินที่มีหนังให้ดูครั้งแรก เปิดประสบการณ์ใหม่ ไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว
เปลี่ยนเครื่องที่โดฮา
พอมาถึงสนามบิน Malpensa, Milano เพื่อนก็มารับที่สนามบิน ละนั่งรถบัสไปสถานี Milano Centrale
วางของ เช็คอินที่พักอะไรเสร็จแล้วก็ไป เที่ยวอิตาลี ลุย landmark แรกกันเลยครับ
** DUOMO DI MILANO
อลังการมากๆ ครับ เห็นแล้วขนลุก
จากนั้นก็เดินไปชมสถานที่ข้างๆ กันก่อนที่จะไปเข้าชมภายในโบสถ์ครับ
** A VITTORIO EMANUELE II. I MILANESI
เรามาเข้าไปชมภายในโบสถ์กันเลยดีกว่า รับรองว่าอลังการมากๆ ครับ
ต่อไปก็ถึงคิว ขึ้นไปชมด้านบนของโบสถ์กันครับ สุดยอดมากๆ
ชมด้านบนเสร็จก็มาเดินถ่ายรูปรอบๆ ลานด้านหน้าอีกที
ปิดท้ายวันแรกด้วยการนั่ง tram ไปกินข้าวและกลับที่พักครับ
DAY 2 – LAKE COMO – BELLAGIO – VARENNA
วันที่สอง ออกจากมิลานไปเที่ยว lake como กันนะครับ ละก็กลับมานอนมิลานต่ออีกคืนนึง
เดินทางโดยรถไฟครับ
ถึงที่หมายก็เดินกันยาวหน่อย
ขึ้นรถราง ขึ้นเขาลอดอุโมงค์
เริ่มเห็นวิวแล้ว
ถึงจุดสิ้นสุดละก็ลงเดินรอบๆ กันครับ
วิวอลังการมากกกกกกกกกก
ละก็ขึ้นเรือไปต่อที่ เบลลาโจ้กัน
จุดเด่นคือบ้านช่องสีสันสดสวยงดงาม
มีร้านขายพวก แก้วเป่าเป็นสัตว์หรือตัวละครรูปทรงต่างๆ
แวะกินพาย หรือทาร์ตแอปเปิ้ล (มั้งนะ)
และไอติมมมมม
วิวสวยงาม
ละก็ข้ามเรือต่อไปที่วาเรนน่า เรือแบบ ขนรถข้ามไปได้ด้วย
เมืองนี้ก็สวยไม่แพ้กัน
จากนั้นก็หาซื้อตั๋วรถไฟภายในเมือง เพื่อกลับมิลาน
สถานีรถไฟ วาเรนน่า
ถึงที่พักก็เก็บของเพื่อไปต่ออีกเมือง
จบวันที่ 2 แล้วนะครับ ไปเที่ยว อิตาลี หน้าร้อน ต่อวันถัดไปกัน
DAY 3 – DOLOMITE – ORTISEI
มาต่อวันที่สามกันครับ ออกจากมิลานมุ่งสู่เหนือเพื่อจะไปเยี่ยมชมเขา Dolomite และพักที่ Ortisei กันสองคืนครับ
นั่งรถไฟ Trenitalia ไปยาวๆ เลยครับ ละก็ต่อด้วยรถบัสเข้าเมือง
เมืองนี้จะอยู่ติดๆ กับออสเตรียแล้ว ดีไซน์ของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ภาษาที่ใช้ สำเนียงของคนที่นี่ จะคนละอย่างกับมิลานที่ผมเพิ่งเดินทางมาเลยครับ บ้านเมืองเค้าน่ารักมาก ให้อารมณ์ชนบท ร่มรื่น และสบายมากๆ ครับ
ร้านขายเนื้อ (ร้านที่นี่ปิดเร็วมากครับ เย็นๆ ก็ปิดแล้ว)
บรรยากาศคือดีงาม อากาศเย็นกำลังสบายๆ เลยครับ รู้สึกดีเพราะที่มิลานคือร้อนมาก แต่แดดที่นี่ก็ยังแรงมากไม่แพ้กัน
เดินถึงที่พักแล้ว ชื่อว่า Dr. Senoner
ที่พักเมืองนี้จะราคาแพงพอสมควร และเต็มบ่อยเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมาก นี่เป็นห้องเดี่ยวของผม ส่วนเพื่อนอีกสองคนนอนห้องคู่แยกไปครับ ห้องไม่มีแอร์ แต่อากาศเย็นสบาย แง้มหน้าต่างได้เลยให้อากาศถ่ายเท พื้นพรม ห้องน้ำสะอาด ห้องไม่ได้เล็กมากเหมาะสำหรับคนๆ เดียวมากครับ
นี่คือวิวของห้องเพื่อนผม สุดยอดดดดด
พอเก็บของเสร็จ เราก็รีบวิ่งไปให้ทันรถบัส เพื่อจะไปชมเขา Dolomite ครับ
นั่งรถบัสไปลงที่นึง แล้วก็เดินต่อไปขึ้นรถบัสอีกที่นึง มึนอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมโยนภาระนี้ให้เพื่อน ผมถ่ายรูปรัวๆ อย่างเดียว
ระหว่างทางเดินครับ สวยตลอดทาง
ธรรมชาติมากๆ
ป้ายรถเมล์ เหมือนอู่
ละก็มาดรอปลงตรงนี้ครับ ต่อจากนี้คือเดินต่อกันยาวยาวววววว
เธอเห็น ภูเขา นั่นไหมมมมม
เป็นการเดินทางไกลแบบไม่ได้เตรียมใจอะไรมาเลย เหนื่อยมากๆ
แต่สิ่งที่ได้เห็นนั้น คุ้มค่ามากครับ
จากนั้นก็เดินทางกลับมาที่พัก
นั่งกินพิซซ่าและสปาเกตตี้ + โค้กเย็นๆ ชื่นใจ แล้วก็กลับมาพักที่ห้อง
เราพักที่นี่สองคืน เพราะว่าเที่ยวที่นี่ใช้เวลาพอสมควรครับ มีอะไรให้ชมอีกเยอะ เลยต้องการเวลามากกว่าเมืองอื่น เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศให้เต็มที่
วิวของห้องเพื่อนตอนกลางคืนครับ
เดี๋ยวเที่ยวต่อวันถัดไป ยังอยู่แถบๆ เดิมนะครับ ยังไม่ย้ายเมือง
DAY 4 – ORTISEI – SECEDA
วันนี้เราจะไปบุกอีกภูเขานึงนะครับ เป็นวันที่ต้องเตรียมใจเดินทางไกลมากมาก แต่ยังดีที่มีกระเช้าให้ขึ้นด้วย
ที่สำคัญคือ คิดถูกมากที่ตัดสินใจ ยอมเสียเงินเพิ่มเพื่อขึ้นกระเช้าไปไกลกว่าที่แพลนไว้ตอนแรก วิวที่ได้นั้นคุ้มค่ามากมากจริงๆ ครับ
ตื่นเช้ามาก็เข้ามารับประทานอาหารเช้าตุนกันไว้ก่อน (แอบเอาหนมปังติดออกไปด้วยชิ้นสองชิ้นเป็นเสบียง)
กินอะไรเสร็จก็ออกลุยกันครับ เดินออกจากฝั่งนึงของเมือง ข้ามไปอีกฝั่ง
ขึ้นกระเช้ากันครับ จะเป็นทรงกลมๆ สีแดง
พอขึ้นถึงสุดทาง ก็ออกมาเจอวิวนี้ครับ (ตอนนี้อากาศเริ่มเย็น ยิ่งสูงยิ่งหนาววววว แต่ เที่ยวอิตาลี หน้าร้อน แดดยังแรงปกติครับ)
แล้วเราก็ไปขอเค้าเข้าห้องน้ำในบาร์แถวๆ จุด start (คือเราจะเดินทางไกลกันต่อจากนี้ครับ ไกลแบบ ไกลมาก)
บาร์น่ารักมาก
เสร็จกิจก็ลุยยยย
วิวสวยมากๆ ครับ
เดินลงไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มเห็นเส้นทางที่กระเช้าวิ่งผ่านเราไป เราเลือกเส้นทางที่เดินลง แล้วก็ค่อยขึ้นกระเช้ากลับขึ้นมาครับ เดินไปกลับไม่ไหวแน่ๆ
คนที่นี่เค้าชอบฤดูร้อนกันนะครับ เพราะได้ออกมาทำกิจกรรม Hiking กันบนพื้นที่เขียวขจีนี้ ปกติถ้าหนาวๆ คงเดินกันไม่ไหว
คนอายุมากๆ ผมขาวทั้งหัว รุ่นอากงอาม่านี่ เดินกันปร๋อเลยครับ อุปกรณ์ก็พร้อมมาก ไม้ กระเป๋า หมวก คือเจ๋งมาก ดูทรงเดินอึดกว่าผมแน่ๆ ผมนี่บ่นตลอดทางเลย
พอเดินถึงจุดรับส่งกระเช้า ก็ขึ้นยาวไปครับ
เสร็จแล้วก็หามื้อเที่ยงกินกันซักหน่อย ไปกินพิซซ่ากับสปาเกตตี้ในร้านนี้ครับ
บรรยากาศดี ร้านน่ารัก
จากนั้นเราจะไปดูภูเขา Seceda กันครับ ถ้าจำไม่ผิดตอนซื้อตั๋ว มันจะมีจุดลงกระเช้าอยู่ 2 ช่วง กลางทางกับปลายทางนู้นเลย ราคาไม่เท่ากัน สุดท้าย ไหนๆ ก็มาแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปให้สุดทางกันครับ
ซื้อตั๋วละไปกันเลย
กระเช้าช่วงแรก
แล้วก็ลงกลางทาง เดินไปรอกระเช้าอันถัดไปที่จะส่งเราขึ้นไปสูงกว่านี้
ยืนชมวิวรอบด้านกันไปยาวๆครับ สวยมาก
นี่คือภาพที่เห็นเมื่อถึงสถานีกระเช้าบนสุดครับ
แล้วจากนั้นก็ออกมาข้างนอก เพื่อเดินชมวิวให้ทั่วบริเวณ เดินกันยาวอยู่ครับ วิวตรงนั้นคือ สุดลูกหูลูกตาจริงๆ อลังการมากๆ
นอนตากลมหนาวๆ ชมวิวกันพักนึง ดื่มด่ำบรรยากาศ
แถวนั้นมี statue พระเยซูตรึงกางเขนอยู่ด้วยครับ เสาสูงอยู่นะ
นี่คือ Seceda mountain ครับ
พอเดินกันจนขาตายแล้วก็กลับลงมา เข้าซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อตุนเสบียงไปเวนิสวันถัดไปครับ
ก็ซื้อพวก ขนมปัง ทูน่ากระป๋อง ที่สามารถเก็บและพกพาได้ง่ายไปด้วย
เดินเล่นระหว่างทางกลับที่พัก มีร้านขายของเล่นไม้ทำมือ น่ารักมาก
วันถัดไปต้องขึ้นรถบัสรอบเช้ามาก ไม่ทันอาหารเช้าของที่พัก เลยแจ้งเค้าไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ว่ารบกวนเตรียมให้ได้มั้ย
พอกลับถึงที่พัก เค้าก็เตรียมขนมปังผ่าครึ่งแล้วสอดไส้พวกเบคอน แฮม ทำเป็นเบอร์เกอร์เลย น่าจะรวม 6 ชิ้น , แอปเปิ้ลอีก 3 ลูก (คร่าวๆ นะครับ จำรายละเอียดไม่ค่อยได้) เจ้าของที่พักน่ารักมาก พยายามสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษบ้าง บวกภาษามือเพราะเค้าก็พูดอังกฤษไม่ค่อยได้
เค้าก็แจ้งให้เอากุญแจคืนที่ไหน เพราะเช้าไปฟร้อนเคาท์เตอร์ยังไม่เปิดนะ เช็คเอ้าท์ไปเลยคืนนั้น
เป็นสองคืนที่เหมือนหลุดออกนอกอิตาลีจริงๆ เป็น scenery ที่สุดๆ มากๆ ครับ
จบวันที่ 4 แบบขาลาก รอชมวันถัดไปกันต่อใน ตอนที่ 2 เราจะไปเวนิสกันครับ
ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ Sun Ma-มะ สังกัด Pantip จากกระทู้ “แบกกล้องตะลุยอิตาลี !!! Go Go ITALY Summer Trip !!!” ที่มาพาเที่ยว อิตาลี หน้าร้อน ลุยที่เที่ยวต่างๆ ในแบบที่รูปสวยจัดเต็มสุดๆ ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเลย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩