From Russia with Rain and Love

Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้ เป็นหญิงสาวที่เธอใช้นามปากกาว่า “โทโมะจัง” ค่ะ ซึ่งเธอได้บอกกับมัชรูมทราเวลว่า เธอเป็นผู้หญิงคนนึงที่หลงใหลและหลงรักการสะพายเป้ท่องโลก ในแบบที่เรียกว่า Backpack มากๆ เลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะการได้ไปชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ของทางฝั่งประเทศในยุโรปเนี่ย คือแนวของเธอเลยล่ะ ซึ่งวันนี้เธอจะมารีวิวการท่องเที่ยวในประเทศรัสเซียให้เราได้ชมกัน ไปดูกันเลยค่ะว่าการแบกเป้ท่องดินแดนหมีขาวของเธอนั้นจะน่าตื่นเต้นสักแค่ไหน

From Russia with Rain and Love

ขอนำชมทริปรัสเซียช่วงต้นตุลา 59 เป็นทางเลือกสำหรับการหลบคนในช่วง High season ข้อมูลอื่นๆ เราหาจากในPantip มีเพื่อนๆ ใจดีหลายท่านทำเอาไว้ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ ต้องรีบรีวิวก่อนที่จะลืม

เดินทาง 1-9 ตุลา 59 ไปกัน 3 คนแม่น้องสาวและเรา รีวิวนี้เน้นวิธีเอาตัวรอดและการเดินทางเป็นหลักนะคะ

เดินทางสายการบิน Qatar ไปลงที่สนามบิน Domodedovo (DME) ตอนจองพึงระวังและวางแผนดีๆ นะคะ การเดินทางระหว่าง Moscow -เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (STB) ด้วยเครื่องบิน ถ้าเป็น Aeroflot จะใช้สนามบิน SVO ส่วน Qatar, S7 ใช้ DME เผื่อเวลาเข้าคิวผ่าน ตม. ไว้นานๆ เลยค่ะ เค้าส่องพาสปอร์ตเหมือนส่องพระเครื่องเลยเชียว

อ้อ อย่าลืมซื้อซิมนะคะ มันคือเครื่องมือช่วยชีวิตชั้นเลิศ แปลภาษาหาสายรถไฟ Metro bus เน้นคนขายว่าเอาแบบที่ใช้สองเมือง Moscow & STB

เราไปถึง Moscow แล้วนั่งเครื่องต่อไป STB เลยค่ะ อากาศที่โน่นตามพยากรณ์จะเป็น 5-11 องศาเซลเซียส ยิ่งมีฝนคือเย็นมาก วิธีเข้าเมืองสำหรับเรา 3 คนคิดว่า Taxi สะดวกสุดค่ะ ใช้บริการ Uber แบบจ่ายเงินสดค่ะ

วันแรกทำตามตำราเป๊ะ นั่งสาย 39 ไปลง Metro Moskovskaya รถเมล์รัสเซียมีกระเป๋าเก็บเงินนะคะ ถ้าเราแบก Luggage ใบใหญ่เค้าคิดเพิ่มเป็น 1 คน พอลงรถเมล์ให้มองไปรอบๆ ตัวจะเห็นทางลง Metro ค่ะ

วิธีใช้เมโทร เราใช้แบบครั้งต่อครั้ง มองหาตู้ขาย Token (เป็นเหรียญทองๆ) ใส่ตังเข้าไป (1 Token = 35 Rub) จนกว่าจะพอใจ แล้วกดปุ่ม confirm ซ้ายมือ เครื่องจะปล่อย token กับตังค์ทอน ใช้เหมือนรถใต้ดินบ้านเราค่ะ ใส่เหรียญแล้วเดินเข้าไป

ที่พัก เอาสะดวกก็พักตามแนวถนน Nevsky prospect มันอารมณ์ถนนนาธานของฮ่องกงอ่าค่ะ ไปถึงเย็นมากแล้ว เราเลยแค่ไปส่องๆ Supermarket ใกล้ๆ ที่พัก พอดีพกมาม่ามาเลยทำกินกันเอง ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา ส่วนใครอยากลองอาหารรัสเซียก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะแยะค่ะ

ตามโปรแกรมวันรุ่งขึ้นไป Hermitage Peter and Paul fortress แล้วก็ St. Issac เปิดแอพ google map บอกนั่งรถเมล์ไปได้ ป้ายรถเมล์ก็ไม่ไกล เลยลองใช้บริการ คนไม่เยอะค่ะ ค่าโดยสาร 30 Rub/คน นับป้ายเอาค่ะ เดินจากป้ายที่ลงไป มองทางขวา ถ้าเห็นลานกว้างๆ ให้เดินไปเลยค่ะคือ Palace sq.

ถ่ายรูปเล่นแล้วไปเข้าคิวเข้า Hermitage สัก 9.30 น. เค้าจะปล่อยให้เข้าไป แต่ก็ต้องรอจน 10.00 น. กว่าจะปล่อยให้เข้าไปในตัวตึกจริงๆ ของเยอะแยะสิ่งมากมายบรรยายไม่หมด เป็นอันว่าถ้าทำการบ้านพวกชิ้นที่เป็น highlight ว่าอยู่มุมไหน ก็พุ่งตรงไปเลยค่ะ ขนาดเราที่ไม่ได้มาสายนี้ยังจมอยู่ถึงเที่ยง ท้องร้อง เลยเดินออกมานั่งกินแซนด์วิชในสวนด้านหน้า

ช่วงที่ไปใบไม้เปลี่ยนทั้งเมืองเลยค่ะ สวยมาก กินเสร็จเริ่มมีแรง ลูกทัวร์ตกลงใจจะเดินไป Peter and Paul Fortress ก็เดินออกมาด้านหน้าของ Palace sq. หันหน้าเข้าเสาตรงกลางแล้วเดินไปทางขวา

จะเจอสวนเล็กๆ ให้เดินทแยงมุมไปหาไฟแดง ขนาด google map ยังบอกให้เดินทแยงมุมผ่าสวนไป คงไม่ผิดกติกามารยาทนิ พอข้ามไฟแดงจะเห็นยอดสีทองๆ ด้านขวามือ นั่นล่ะค่ะ เดินไปเรื่อยๆ สองกิโลเมตรได้มั้ง ไปกลับ 5 กิโลเมตร เพลงกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึงของพี่เบิร์ดลอยมา

แต่สุดท้ายก็ถึงค่ะ เดินชมภายในประวัติศาสตร์ตามกระทู้ของท่านอื่นๆ นะคะ

ด้านในของตัวโบสถ์ อลังการงานสร้างจริงๆ

จะเห็น Hermitage ริมอ่าวเลย

แล้วกลับทางเดิมแต่เป้าหมายคือโบสถ์ St. Isaac ขณะที่เดินมาถึงสวนทแยงมุมคราวนี้ไม่ทแยงแล้วค่ะ เดินชิดขวา เลี้ยวขวาผ่านไปจะเจออีกสวน อยู่หน้าตึกกองทัพเรือ (Admiralty) จะเห็นยอดสีทองของ St. Isaac อยู่วับๆ แวมๆ ต่อให้ไม่มี GPS นำทางก็หาเจอแน่นอน

ตั๋วเข้าชมมีทั้งแบบขึ้นโดม กะไม่ขึ้น ดูสังขาร หน. และลูกทัวร์ตัดสินใจไม่ขึ้นดีกว่า ขากลับก็นั่งรถเมล์มาลงหน้าโรงแรม แวะซื้อของที่ SPAR express อารมณ์ Mini C บ้านเรา ของไม่แพง ผักสด เอามาทำสลัดอร่อยไปเลยค่ะ

วันรุ่งขึ้น Catherine palace –Smolny วันนี้ออกนอกเมืองกันค่ะ Catherine palace กับพุชกิ้นเป็นของคู่กัน วิธีไปก็ตามตำราค่ะ นั่งเมโทรไปลง Moskovskaya เดินไปทางอนุสาวรีย์ท่านเลนิน คารวะ 1 ทีแล้วเดินไปทางตึกที่อยู่ด้านหลัง นึกถึงท่ารถตู้อนุสาวรีย์ เค้าเห็นคนหน้าเด๋อๆ แบบเราก็จะร้องทักสองคำ ไม่ Catherine ก็พุชกิ้น ค่าโดยสารรอบนี้เราจ่ายคนละ 40 Rub ค่ะ นั่งไปนอกเมือง พอถึงคนขับจะหันมาสบตาเร แล้วบอกให้ลง ถ้ามีนักท่องเที่ยวไปด้วยจะอุ่นใจค่ะ ลงพร้อมๆ กัน

พอลงรถให้เดินไปทางขวา จะเห็นอาคารสีฟ้า ระหว่างทางมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก แต่เราพกแซนด์วิชไป อิอิ เดินมาถึงถนนใหญ่ เนื่องด้วยมิได้จองไปล่วงหน้า เลยเดินไปด้านซ้ายซื้อตั๋วเข้าสวนก่อน ถ่ายรูปเดินเล่นจนหนำใจ

สวนเปิดขายบัตรตั้งกะ 7 โมง ตรงตู้เล็กๆ แบบป้อมยามอ่าค่ะ อันนี้ขีดเส้นใต้ปากกาแดงเลย ถ้าเห็นคนเริ่มต่อคิวก็รีบไปต่อคิวนะคะ จะสลับกันยืนเฝ้าแล้วไปถ่ายรูปในสวนก็ได้ เพราะคิวโหดสัสรัสเซียมาก ปล่อยเข้าทีละ 20-30 คนได้ เรารออยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เพื่ออออออออออ

ออกมาก็มาเก็บรูปอีกพัก ขากลับนี่ฮานิดๆ ในหนังสือบอกว่าให้ขึ้นรถตู้มาลงเมโทรอะไรก็ได้ แต่ถนนมันเป็น one way ไง เราก็เดินอ้อมเพื่อไปขึ้นอีกฝั่ง เจอครอบครัวจีนรอรถที่ป้าย ก็เออ ตามๆ เค้าไป พอสุดสายมันเป็นสถานีรถไฟค่ะ (รถไฟปู๊นๆๆ เลยอ่ะ) ตอนนี้เพลง อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่เคยคุยกันไว้นี่นาลอยมา

เลยหาที่ขายตั๋ว ใจคอบ่ดีละ แม่ก็ถามไปไงต่อ อยากบอกแม่ว่า อ้าวเฮ้ยมาก แต่กลัวแม่ใจเสียเลยทำเป็นนิ่ง บอกเดี๋ยวหนูไปซื้อตั๋วรถไฟก่อนนะแม่ ป้าย Eng น้อยมากถึงมากที่สุด เปิดแอพหาทางกลับเมโทรสีฟ้า เดชะบุญ ขบวนที่กำลังจะมา ผ่านเมโทร kuchnio พอดี เลยยื่นหน้าจอให้เจ้าหน้าที่แล้วทำมือ 3 นางก็ OK! แล้วก็เขียนเวลาที่รถจะมา เราก็เฮละโลกันออกมา แต่เดี๋ยวก่อน ต้องไปชานชาลาไหนวะคะ

มีช่องเข้าอันไหนเรายื่นตั๋วดะเลย เจ้าหน้าที่อ่านแล้วทำมือให้ไปด้านใน พอเข้าไป ตะหงิดใจ ถามคุณน้าข้างๆ นางบอก ต้องไปฝั่งตรงข้ามนะหนู (คุณพี่คนข้างๆ ก็หันมาร่วมวงสนทนา ก็เออออว่าฝั่งตรงข้าม)

พอมุดทางลง อ้าว ปิดซ่อมคร่า ต้องวิ่งไปข้ามนอกสถานีที่รถยนต์ข้าม พอขึ้นมาชานชาลา รถไฟเลี้ยวโค้งมาพอดี ได้ไปสัมผัสชีวิตรถไฟชั้นสาม คนรัสเซียน่ารักดีนะคะ ป้าข้างๆ เราแกท้วมๆ (ก็อ้วนนั่นแหละ) แกใส่เสื้อโค้ทไม่ได้ ก็หันมาสะกิดเราแบบให้ช่วยดึงตรงไหล่ให้ที แล้วแกก็หันมาขอบคุณก่อนจะลงไป คือทั้งหมดทั้งมวลใช้ภาษามือทั้งสิ้น

พอมาถึง kuchino ชีวิตเริ่มดี ใจเริ่มมา แต่ดูแววตาแม่กะน้องคงเหนื่อยมาก เลยตัด smolny ทิ้ง พาแม่กลับไปนอนโรงแรม ส่วนเรากะน้องเดินออกมาลั้ลลาแถวถนน Nevksy prospect

วันที่สาม Peterhof เท่าที่อ่านมีหลายตำรามาก เราไปลงเมโทรสถานี avtobo สายสีแดง แล้วข้ามทางข้ามไปอีกฝั่ง หาท่ารถตู้ ถ้าจำสายได้ก็เล็งตามโพย ถ้าจำไม่ได้ก็ Peterhof รอบนี้ 70 Rub ค่ะ ตอนไหนจะลง ใช้วิชาสบตาคนขับ เพราะงั้นได้ที่นั่งที่สามารถส่งสายตาให้คนขับง่ายๆ จะดีมาก ถ้าเค้าหันกลับมาสบตา บุ้ยปาก ก็ถึงแล้ว

เดินต่อไปอีกนิดจะเจอทางเข้าในส่วนของ upper park อันนี้ฟรี ส่วนเสียเงินอยู่ด้านหลังนี้ หันหน้าเข้าหาสวน เดินไปด้านซ้ายค่ะ จะมีช่องขายตั๋ว Peterhof จะมีน้ำพุ grand cascade คือจากการทำการบ้านของเรา น้ำพุนี้เปิด 11.00 มโนไปเองว่าเค้าเปิดแป๊บเดียวมั้ง ยิ่งเห็นคนไปยืนจับจองที่ ring sideก็ยิ่งมั่นใจ ปรากฏ มันเปิดทั้งวันนะยู ไม่ต้องรีบไปยืนจองที่อะไรทั้งนั้น ช่วงที่เริ่มเปิดจะมีเพลงประกอบ ใครอยากอัดคลิป light and sound จะไปยืนจองก็ไม่ว่ากัน

ว่าแล้วก็ต่อคิวเข้า Peterhof ด้านในถ่ายรูปไม่ได้นาจา เที่ยงก็หยิบแซนด์วิช โยเกิร์ตมากินในสวน รื่นรมย์ดีมาก

ขากลับต้องรีบทำเวลา เดินข้ามฝั่งไปทางโบสถ์อีกอัน มันจะมีป้ายรถตู้ ขึ้นสายตามโพยเลยคราวนี้ เข็ดแล้ว เดี๋ยวมี อ้าวเฮ้ย..รอบสอง มาลง avtobo นั่งเมโทรไปหยดเลือดกะคาซาน จะเดินอันไหนก่อนก็แล้วแต่อัธยาศัย

ขากลับเดินกลับโรงแรม ผ่านห้าง Gostinydvor แต่ไม่ใช่แนวของหญิงเลยไม่เสียเงิน วันเปิด ปิดของแต่ละที่ไม่ตรงกันนะคะ เอาปฏิทินมากางแล้วเขียนเลยว่าวันไหนอะไรเปิด อะไรปิด แล้วแพลนว่าวันไหนจะไปอะไรยังไง ไม่งั้นเสียเที่ยว

แปะรูปต่อเพราะชอบมากๆ

เช้าวันพุธเราเดินทางกลับ Moscow นั่งเครื่องบินจาก LED –SVO ค่า Taxi Uber 700 Rub ได้ส่วนลดจากการใช้ครั้งแรก 300 Rub เลยจ่ายแค่ 400 RUb คนขับ fast and furious มากกกก น้องไปขับเมืองไทยได้สบาย

มาถึงมอสโคว์เลยใช้บริการ taxi เช่นเคย ขอบอกจากใจว่าการเดินทางเมโทรพร้อมผู้สูงวัยและกระเป๋าใบโตมิใช่สิ่งท้าทายใดๆ เรานั่ง taxi ไปที่พักแถว pushkin sq ค่าเสียหาย 850 RUb ถูกกว่านั่ง aero express อีก (โรงแรมเราต้องต่อเมโทร 2 สาย) ขอแนะนำให้พักแถวที่มี aero express ก็น่าจะสะดวกดี

วิธีใช้เมโทร ถ้าไปหลายคนจะดีมาก โหลด app yandex คนนึงเปิด ver.eng คนนึงเปิด ver.russia ส่วนการซื้อตั๋ว เราใช้แบบ 20 เที่ยว 650 RUb ตั๋วแบบนี้ต้องซื้อกะคนเท่านั้น แถมเป็นคนที่ไม่พูด eng อีก ดีไปอีกกกกก ก็ใช้แอพ google translate พิมพ์ไปเลยค่ะ 20 rides 650 RUb ป้าคนขายยิ้มเลย ใช้ร่วมกันได้นะคะ แตะบัตรแล้วเข้าทีละคนๆ

ไปสายสีอะไรก็เดินไปตามนั้น ขั้นต่อไปคือขึ้นฝั่งไหน ก็ดูชื่อปลายสายแบบเมโทรทั่วๆ ไปค่ะ เทียบกับ yandex ver.russia แล้วไปยืนฝั่งนั้น พอเข้าไปแล้วต้องมีสตินะคะ นับว่าที่จะลงมันสถานีที่เท่าไร เจอรถไฟใหม่ๆ มีป้ายไฟบอก เจอขบวนเก่านี่ร้องไห้ ถ้าต้องการเปลี่ยนสายก็เดินตามสีไป พอจะออกให้หาคำว่าทางออก ด้วยความที่ยังเด๋อๆ กะเมโทรวันนี้ก็เลยนั่งไปลง St. savior

เห็นว่าจัตุรัสแดงอยู่ไม่ไกลก็เลยเดินมาค่ะ ดูนั่นนี่นู่น เลาะตามถนนมา จะผ่านสถานี metro หลายอัน เราเดินไปจนเจอโรงแรม four season จะมีทางเข้าจัตุรัสแดง

เดินผ่านจุด 0km ให้โยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายแล้วจะได้มาอีก ผ่านประตูเข้าไปจะเจอ St. Basil อยู่ตรงหน้าไกลๆ ซ้ายมือเป็นห้าง Gum ขวามือเป็นกำแพงวังเครมลินสีแดง เดินเล่นวนไปมาแล้วนั่งเมโทรกลับโรงแรม

วันที่สองไปซากอส นั่งไปเมโทร komsomolskaya ออกมาเจอสถานีแบบหมอชิต เราพิมพ์คำว่า sergiav posad เป็นภาษารัสเซียไป ระวังนิดนะคะ ถ้าซื้อเกิน 10.00 รถไฟมาเที่ยงเลย กว่าจะไปถึงก็บ่ายโมงนิดๆ พอสัก20 นาทีก่อนเวลาก็ลองไปเล็งๆ ป้ายด้านในค่ะว่ารถไฟเราเข้าไปจอดชานชาลาไหน ไม่มีคำว่า posad แต่เป็นชื่อต้นทาง ปลายทาง เน้นดูเวลาว่าตรงกัน หรือไม่ก็เปิด google map เลือกเวลาเดินทางเดียวกันมันจะขึ้นชื่อปลายทางให้เราเอาไปเทียบกะจอได้ เฮ้อเหนื่อย

ไปถึงก็เดินไปค่ะ ชมนกชมไม้ไป ซื้อตั๋วด้านหน้า

ขากลับจะเห็นอุโมงค์ข้ามถนน ด้านล่างมีขายของฝาก พวกตุ๊กตาแม่ลูกดก ราคาถูกมาก ถูกสุดในทริปที่เจอมาเลยทีเดียว ตอนกลับเราเล็งเวลาไปแล้วเดินไปให้ทัน ขึ้นฝั่งตรงข้ามกะขามา ขากลับแวะซื้อของที่จัตุรัสแดง ไม่ได้ซื้อที่ Gum เพราะฐานะไม่อำนวย เป็นห้างที่เชื่อมกะเมโทร อยู่ตรงหน้าโรงแรม for seasonเลย ออกแนว Siam discovery

วันต่อมาแพลนว่าอยู่ในวังเครมลินทั้งวันเพราะดูฝนฟ้าพยากรณ์แล้วฝนตก

Trick การเที่ยวเครมลิน

1. จะเข้าชม Armoury chamber รึเปล่า ห้องขายตั๋วเริ่มขาย 9.30 ถ้าไม่เข้าก็เลือกซื้อช่องที่ไม่ได้เขียนว่า amoury chamber แล้วเข้าประตูที่อยู่ใกล้ที่ขายตั๋วได้เลย

2. ถ้าเข้า…จะซื้อออนไลน์แล้วมาแลกเป็นตั๋วจริงต้องโชว์พาสปอร์ตด้วย หรือมาซื้อเอาวันนั้นเลยก็ได้

3. จะดู diamond fund ห้องเพชรรึเปล่า ถ้าเก็งเวลาดี ซื้อที่นี่ไปเลยเพราะเค้าจำกัดคน ไม่มีให้ซื้อออนไลน์นะ diamond fund มันตึกเดียวกะ armoury chamber แหละ ดู armoury พอได้เวลาดูเพชรก็เดินลงมาดู ห้องเพชรเฮี๊ยบนะ มือถือก็ให้ปิด พอดูเพชรจบก็ขึ้นไปดู armoury ต่อได้ แต่ต้องโชว์ตั๋ว

4. ในส่วนที่เป็น ปืนใหญ่ กะระฆังแตก ต้องมีตั๋วอีกใบนะ ซื้อไปเลย เพราะไม่งั้นต้องวิ่งกลับมาซื้อที่ห้องขายตั๋วอีก

5. ฝากของ ถ้าเป็นกระเป๋าสะพายสตรีไม่ต้องฝาก แต่ถ้าเป้ backpack ต้องฝาก ถ้าไม่ชัวร์ไปห้องฝากของ คุณน้าจะประเมินว่าเอาเข้าไปได้หรือเปล่า ที่ฝากของกะประตูเข้า armoury ค่อนข้างไกล เดินไปมาก็หอบได้

พอดูจบก็ออกมาเดินจัตุรัสแดงอีกรอบ พอดีแม่ไม่สบายเลยพากลับโรงแรม ส่วนเรากะน้องออกมาสวีวี่วีที่จัตุรัสแดงกันอีก

ตัดหลายรายการออกเพราะแม่คงเดินไม่ไหว ตอนเช้าเดินทางกลับไปขึ้นเครื่องที่D ME ค่า taxi 1,000 Rub

Take home message

• คนรัสเซียอัธยาศัยดีกว่าที่คิด
• จะเที่ยวต้องมีสติ ระวังข้าวของ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลิน
• กระเป๋าคล้องคอใส่พาสปอ์รต บัตรเครดิต และแยกเงินเอามาแค่พอใช้แต่ละวัน ทำให้เราเที่ยวแบบอุ่นใจ
• ผู้หญิงรัสเซียสวยมากกกกกกกกกก เหมือนเจอมาเรีย ซาราโปว่า เต็มไปหมด
• ผู้ชายรัสเซียคล้ายปูตินไปหมด ถถถุ อันนี้คิดไปเอง
• น้ำพุที่ Peterhof ไม่ได้เปิดทั้งปีนะคะ สักกลางตุลาจะไม่เปิดแล้ว

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ไปเที่ยวรัสเซียกันนะคะ

ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
เครดิต: www.facebook.com/bearalone

บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/