หลังจากจบสิ้นฤดูหนาว ประเทศญี่ปุ่นก็จะก้าวเท้าเข้าสู่ช่วงฤดูที่นักท่องเที่ยวชาวไทยรอคอยกันมากที่สุดก็ว่าได้ นั่นก็คือฤดูใบไม้ผลิ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ดอกไม้สีชมพูอันบอบบางอย่างดอกซากุระนั่นเอง ซึ่งในปีนี้ทางเว็บไซต์ sakura.weathermap ก็ได้ออกมาอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับดอกซากุระว่ามีแนวโน้มที่จะบานช้ากว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยดอกซากุระสายพันธุ์ที่มีสีอ่อนจะเริ่มบานกว่าสายพันธุ์ที่มีสีเข้มกว่า
ทั้งนี้ทางเว็บไซต์ได้อัพเดทข้อมูลล่าสุดในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้เริ่มพยากรณ์ช่วงที่ดอกซากุระบานล่วงหน้าได้แก่ ภูมิภาคคันโต จูบุ คันไซ จูโงะกุและชิโกะกุ รวมถึงคิวชู ไว้ดังนี้
ซากุระ ปีนี้บานเมื่อไหร่ เช็คความพร้อมก่อนใครที่นี่!!
ภูมิภาคคันโต ดอกซากุระจะเริ่มบานที่เโคฟุเป็นที่แรกในวันที่ 26 เดือนมีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 1 เมษายน ส่วนกรุงโตเกียวดอกซากุระจะเริ่มบานพร้อมกับโยโกฮามะ ในวันที่ 27 มีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 2 เดือนเมษายน และปิดท้ายภูมิภาคคันโตที่นากาโนะ
ภูมิภาคคันไซ ดอกซากุระจะเริ่มบานพร้อมกันระหว่างเกียวโตและวากายามะในวันที่ 28 มีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 5 เมษายน และปิดท้ายที่งฮิโกเนะ
ภูมิภาคคิวชูเป็นภูมิภาคที่ดอกซากุระจะบานก่อนภูมิภาคอื่นๆ โดยเริ่มที่ฟูกุโอกะในวันที่ 23 เดือนมีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 2 เมษายน และปิดท้ายที่คาโกะชิมะในวันที่ 7 เมษายน
สำ
จูโงะกุและชิโกะกุนั้นดอกซากุระจะเริ่มบานในช่วงเดือนมีนาคม โดยเริ่มโคจิในวันที่ 25 มีนาคม และบานเต็มที่ในวันที่ 3 เมษายน และไปปิดท้ายที่มัตสึเอะและต็อตโตริ ทั้งนี้ที่มัตสึเอะดอกซากุระจะบานเต็มที่ในวันที่ 7 เมษายนซึ่งช้อกว่าที่ต็อตโตริ 1 วัน
ทั้งนี้ดอกซากุระที่ญี่ปุ่นนั้นมิได้มีแค่สายพันธุ์เดียวหรือมีสีเดียวอย่างที่เราเข้าใจ แต่มีหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งนอกจากจะแตกต่างกันทั้งในเรื่องของสีดอกซากุระแล้ว ยังมีความแตกต่างกันกระทั่งลำต้น พุ่มดอก จำนวนของกลีบ และระยะเวลาที่บานอีกด้วย โดยในปีนี้ดอกซากุระที่มีสีอ่อนจะเริ่มบานก่อนดอกซากุระที่มีสีเข้ม โดยซากุระสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นที่เรามักจะคุ้นเคยและเห็นกันอยู่ทั่วไปมีดังต่อไปนี้
Somei Yoshino (Yoshino Cherry) ซากุระสายพันธุ์นี้นิยมปลูกกันมาตั้งแต่ในสมัยเอโดะ และเป็นสายพันธุ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น โดยลักษณะของดอกจะมีทั้งหมด 5 กลีบ มีสีขาวอมชมพู
Yamazakura นี่คือซากุระสายพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งส่วนมากจะสามารถพบเห็นได้ตามหุบเขา โดยดอกของซากุระพันธุ์นี้จะมีสีชมพูอ่อนและมีทั้งหมด 5 กลีบ แต่กลีบดอกจะค่อนข้างเล็กกว่า Somei Yoshino
Shidarezakura (Weeping Cherry) ความพิเศษของดอกซากุระสายพันธุ์ Shidarezakura ก็คือ จะมีลักษณะลำต้นเป็นทรงหยดน้ำ คือช่อดอกจะออกเป็นกลุ่มและห้อยลงมาจากกิ่ง ซากุระพันธุ์นี้จะมีกลีบดอกทั้งหมด 5 กลีบ และในบางสายพันธุ์ก็จะมีมากกว่า 5 กลีบ ปัจจุบันเรียกว่า Yaeshidare sakura
Ichiyo ซากุระสายพันธุ์ Ichiyo มีกลีบดอกเป็นสีชมพูอ่อนแบ่งออกเป็นประมาณ 20 กลีบ และมีใบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่ที่ช่อดอก ความแปลกของซากุระพันธุ์นี้ก็คือ ตามปกติแล้วเมื่อดอกซากุระบานก็จะผลัดใบไปจนหมด แต่สายพันธุ์นี้กลับยังมีใบอ่อนแซมอยู่ระหว่างช่อดอก
Ukon ดอกซากุระสายพันธุ์ Ukon นี้มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนซากุระพันธุ์ไหนๆ เลยก็คือ แทนที่กลีบดอกจะมีสีขาวหรืออมชมพู แต่ Ukon กลับมีกลีบดอกที่สีออกเหลือง โดยมีทั้งหมดประมาณ 10-20 กลีบ และมีใบออกสีทองแดง
Kanzan ในบรรดาซากุระสายพันธุ์พื้นเมืองพื้นเมืองของญี่ปุ่น พันธุ์ Kanzan เป็นหนึ่งพันธุ์ที่สามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด โดยลักษณะของดอกจะมีกลีบประมาณ 30-50 กลีบ และมีมีสีชมพู เวลาบานจะมีใบสีเขียวแทรกตามช่อดอกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นซากุระเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ที่ไม่มีการผลัดใบ
Fugenzo นี่คือดอกซากุระที่บานช้า โดยเป็นพันธุ์พื้นเมืองเช่นเดียวกัน โดยทั่วไปจะมีกลีบดอกอยู่ประมาณ 30-40 กลีบต่อหนึ่งช่อดอก มีสีขาวอมชมพูไปจนถึงชมพูอ่อน แต่เมื่อบานเต็มที่สีของกลีบดอกกลับเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มขึ้น ส่วนสีของใบนั้นจะออกเป็นสีเขียวอมน้ำตาล
Shogetsu ซากุระพันธุ์ Shogetsu เป็นซากุระที่บานช้าที่สุดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ และจัดเป็นพันธุ์พื้นเมืองอีกชนิดหนึ่ง มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สีของกลีบดอกเป็นสีขาวประมาณ 20-30 กลีบ และมีใบเลี้ยงสีเขียวเมื่อออกดอก ไม่ผลัดใบเช่นกัน
Kikuzakura (Chrysanthemum Cherry) ซากุระพันธุ์ Kikuzakura นี้จะมีกลีบดอกมากกว่า 100 กลีบ ลักษณะของดอกจะคล้ายๆ กับดอกเบญจมาศ ดังนั้นจึงได้ชื่อของสายพันธุ์ว่า Kikuzakura และนี่ก็อีกหนึ่งพันธุ์ที่ค่อนข้างบานช้า ดอกจะมีสีชมพูเข้ม
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับข้อมูลของการชมซากุระที่มัชรูมทราเวลนำมาฝาก ว่างวันไหน รักเมืองไหน ก็วางแผนก่อนการเดินทางไว้ให้ดีนะคะ เพราะหากพลาดโอกาสแล้วล่ะก็ คงต้องรอจนปีหน้าเลยนะเออ…