ใครที่กำลังแพลนไป ทัวร์ยุโรป อาจกังวลใจว่าการ ขอวีซ่าเชงเก้น ยากไหม? ต้องเตรียมอะไรบ้าง? วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าเชงเก้น หรือ Schengen Visa มาศึกษาและเตรียมเอกสารไว้ล่วงหน้ากันดีกว่าค่ะ เวลาไปยื่นจริงจะได้ไม่มีอะไรตกหล่น
วีซ่าเชงเก้น คืออะไร ?

วีซ่าเชงเก้น หรือ วีซ่ายุโรป คือผลที่ได้จากความตกลงเชงเก้น (Schengen Agreement) โดยอนุญาตให้ประชาชนในกลุ่มเชงเก้นสามารถเดินทางระหว่างกันได้ โดยไม่ต้องถือหนังสือเดินทาง ส่วนประชาชนจากประเทศนอกกลุ่มเชงเก้นสามารถเดินทางระหว่าง 29 ประเทศเชงเก้นได้ โดยใช้ใบอนุญาตเพียงใบเดียว นั่นก็คือ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa)
ปัจจุบัน เขตเชงเก้นประกอบด้วย ประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป 25 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส, เยอรมนี, เดนมาร์ก, อิตาลี, ฮังการี, กรีซ, สวีเดน, สเปน, ออสเตรีย, แลตเวีย , สาธารณรัฐเชก, มอลตา, เบลเยี่ยม , บัลแกเรีย, เอสโทเนีย, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, โปรตุเกส, โปแลนด์, เนเธอร์แลนด์, ฟินแลนด์, ลิธัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, โครเอเชีย, โรมาเนีย และอีก 4 ประเทศนอกสหภาพยุโรป คือ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และลิกเตนสไตน์
ประเภทของวีซ่าเชงเก้น มีอะไรบ้าง ?
การขอวีซ่าเชงเก้น ประเภทใด ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทาง โดยหลักๆ วีซ่าเชงเก้นมี 4 ประเภท ดังนี้
1) วีซ่าแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน (ประเภท “A”) พลเมืองจากประเทศนอกเขตเชงเก้นบางประเทศที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังประเทศที่สาม และต้องการแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินในเขตเชงเก้น จะต้องขอวีซ่าแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน แต่ถ้าคุณไม่ได้ออกนอกสนามบิน ก็ไม่ต้องขอวีซ่าประเภทนี้
2) วีซ่าเดินทางผ่าน (ประเภท “B”) จะออกให้กับบุคคลซึ่งเดินทางผ่านประเทศเชงเก้นประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งประเทศ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม ออกให้สำหรับการเดินทางผ่าน 1 ครั้ง 2 ครั้ง หรือมากกว่านั้นในกรณีพิเศษ วีซ่าประเภท B จะคล้ายกับวีซ่าประเภท A แต่แตกต่างกันตรงที่ ระยะเวลาในการเดินทางผ่านแต่ละครั้งจะต้องไม่เกิน 5 วัน เช่น ปลายทางของเราคือสหรัฐอเมริกา แต่แวะผ่านโซนประเทศเชงเก้น ก็เข้าข่ายต้องขอวีซ่าประเภท B
3) วีซ่าพำนักระยะสั้น (ประเภท “C”) จะออกให้กับการเดินทาง 1 ครั้ง, 2 ครั้ง หรือหลายครั้ง โดยมีระยะเวลาที่อนุญาตให้พำนักแตกต่างกันออกไป แต่ไม่เกิน 90 วัน ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน *ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะขอวีซ่าเชงเก้นประเภทนี้*
4) วีซ่าเข้าได้แค่ประเทศที่ขอ (ประเภท “D”) เป็น Visa แบบ Long Stay อยู่เกิน 90 วัน ส่วนการเดินทางไปประเทศระหว่างกลุ่มเชงเก้นด้วยกันได้หรือไม่ ก็แล้วแต่กฎระเบียบแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน เช่น ประเทศเบลเยี่ยมจะต้องอยู่ที่คุณขอไปเท่านั้น ถ้าเป็นวีซ่านักเรียน สถานทูตจะออกวีซ่าประเภท D ให้ คือต้องเข้าเฉพาะเบลเยี่ยม และห้ามออกไปประเทศอื่น จนกว่าจะไปทำเรื่องขอ ID นักเรียนที่เบลเยี่ยมก่อน (แนะนำว่าเมื่อมาถึงที่เบลเยี่ยมแล้ว ให้รีบไปทำเรื่องเลย) พอได้ ID นี้แล้วจึงจะสามารถเดินทางไปประเทศในกลุ่มเชงเก้นประเทศอื่นได้ แต่ถ้าเป็นวีซ่าเช้งเก้น ประเทศฝรั่งเศส จะสามารถเข้าออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นด้วยกันได้เลย ดังนั้น ใครจะเดินทางไปประเทศไหนควรตรวจสอบเงื่อนไขของแต่ละประเทศให้ละเอียดก่อนนะคะ
ขอวีซ่าเชงเก้น ประเทศไหนดี ?

สำหรับหลักในการขอ วีซ่าเชงเก้น อธิบายอย่างง่ายคือ คุณสามารถยื่น ขอวีซ่าเชงเก้น ได้จากสถานทูตประเทศเชงเก้นใดก็ได้ในประเทศไทย หากมีแพลน ทัวร์ยุโรป มากกว่า 1 ประเทศ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ ดังนี้
1) กรณีที่เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น และใช้ระยะเวลาในการพำนักแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ให้เรายื่นขอวีซ่าประเทศที่เราพำนักนานที่สุด เช่น หากในทริปนั้น เดินทางไปฝรั่งเศส 8 วัน และอิตาลี 5 วัน ให้ขอยื่นตรวจวีซ่าผ่านประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่เราพำนักนานที่สุด
2) กรณีที่เดินทางไปยังประเทศเชงเก้น และมีเวลาการพำนักเท่ากัน ให้ยื่นขอวีซ่าผ่านประเทศแรกที่เดินทางไปถึง เช่น ทัวร์ยุโรป 10 วัน เดินทางไปออสเตรีย 5 วัน ฮังการี 5 วัน โดยบินลงที่ออสเตรีย เราต้องขอวีซ่ากับประเทศออสเตรีย เป็นต้น
ขอวีซ่าเชงเก้น ต้องใช้อะไรบ้าง ?

ในส่วนเอกสารของการ ขอวีซ่าเชงเก้น แนะนำว่าต้องเตรียมไปให้พร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้โดนปฏิเสธวีซ่า โดยเอกสารจำเป็นมีดังนี้
1. แบบฟอร์มคำร้องยื่นขอวีซ่า บางประเทศสามารถปริ้นท์ออกมากรอกลายมือได้ แต่บางประเทศให้กรอกออนไลน์ ดังนั้นควรเข้าไปดูที่เว็บไซต์สถานทูตของประเทศนั้นๆ
*กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้สำเนาสูติบัตรประกอบ
**กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปีที่เดินทางกับบิดาหรือมารดาเพียงคนใดคนหนึ่ง ต้องทำหนังสือยินยอมที่เซ็นโดยผู้ปกครองท่านที่ไม่ได้เดินทางกับผู้เยาว์ โดยต้องเป็นเอกสารที่ออกให้โดยสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ แสดงเอกสารฉบับจริงและยื่นตัวสำเนา
***กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปีที่เดินทางคนเดียว ต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมอย่างเป็นทางการจากผู้ปกครองอนุญาตให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ พร้อมลงลายมือชื่อบิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย โดยต้องเป็นเอกสารที่ออกให้โดยสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ แสดงเอกสารฉบับจริงและยื่นตัวสำเนา
****กรณีที่ผู้ปกครองท่านใดท่านหนึ่งหรือทั้งสองท่านไม่สามารถพาผู้เยาว์มาสมัครวีซ่าด้วยตนเองในวันที่ยื่นเอกสารสมัครวีซ่า ให้ทำหนังสือมอบอำนาจลงลายมือชื่อจากผู้ปกครองท่านที่ไม่สามารถมาได้ โดยยื่นพร้อมสำเนาหนังสือเดินทาง
หมายเหตุ : แต่ละประเทศมีเงื่อนไขและเอกสารที่แตกต่างดัน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับประเทศที่ยื่นวีซ่าอีกครั้ง
2. พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาหน้าพาสปอร์ตและหน้าที่มีตราประทับทุกหน้า พาสปอร์ตควรมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันยื่นขอวีซ่า และมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากระยะเวลาที่ได้ระบุไว้ในคำร้อง (ถ้ามีเล่มเก่า ให้ติดไปด้วย)
3. รูปถ่าย 2 ใบ ขนาด 2 นิ้ว ฉากหลังสีขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (บางประเทศกำหนดรายละเอียดขนาดของรูปค่อนข้างละเอียด ควรศึกษาที่เว็บไซต์ของสถานทูตเป็นหลัก)
4. หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องระบุตำแหน่ง วันที่เริ่มงาน เงินเดือน ช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลา (ซึ่งต้องครอบคลุมวันที่เราจะเดินทาง ถึงวันที่กลับมา) พร้อมลายเซ็นและตราประทับบริษัท ซึ่งหากใครเป็นเจ้าของกิจการ ให้ใช้ใบจดทะเบียนการค้า/ใบจดทะเทียนบริษัท พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนผู้ที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษาก็ขอหนังสือรับรองสถานภาพนักเรียน นักศึกษา (ภาษาอังกฤษ) ที่ออกโดยทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
5. เอกสารรับรองสถานภาพทางการเงิน เพื่อยืนยันถึงความสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในระหว่างการพำนักอยู่ในกลุ่มประเทศเชงเก้นได้ โดยหลักควรเตรียม Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของบัญชี โดยสามารถยื่นขอเอกสารได้ที่ธนาคาร แจ้งว่าเพื่อ ขอวีซ่าเชงเก้น อาจพกสมุดบัญชีตัวจริงและสำเนาหน้าบัญชีเคลื่อนไหวย้อนหลัง 3 เดือน (บรรทัดสุดท้ายของบัญชีเป็นวันที่ที่อัพเดตไม่เกิน 15 วันก่อนไปขอวีซ่า) เพื่อความเรียบร้อยของเอกสาร แนะนำให้ศึกษาข้อกำหนดของสถานทูตแต่ละประเทศ
6. ประกันการเดินทาง เป็นส่วนสำคัญมาก หากไม่มีอาจโดนปฏิเสธการขอวีซ่าได้ การซื้อประกันต้องระบุให้ครอบคลุมทั้งทวีปยุโรป (ระบุเป็น EUROPE) ตั้งแต่ระยะเวลาไป – กลับ วงเงินคุ้มครองทั้งค่าพยาบาล หรือประกันอื่นๆ ขั้นต่ำ 1,500,000 บาท (30,000 ยูโร) สามารถเช็ครายชื่อบริษัทประกันที่สถานทูตรับรองได้จากเว็บไซต์ของสถานทูตประเทศนั้นๆ (สามารถซื้อประกันออนไลน์ และปริ้นท์เอกสารออกมาได้เลย)
7. ตั๋วเครื่องบิน ระบุวันเดินทางไป – กลับ อาจเตรียมเป็นแค่เอกสารการจอง (ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนขอ วีซ่ายุโรป )
8. แผนการเดินทาง (Itinerary) ระบุวันที่ เมืองที่จะไป เดินทางด้วยพาหนะอะไร รายละเอียดคร่าวๆ ของแพลนเที่ยว ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีตั๋วพาหนะนั้นๆ ประกอบเลย เป็นเครื่องการันตีว่าคุณสามารถเดินทางภายในประเทศเชงเก้นได้
9. หลักฐานการจองที่พัก ปริ้นท์ใบจองออกมาเรียงตามแผนการเดินทางของคุณ พร้อมชื่อ, ที่อยู่, อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรม ซึ่งต้องมีรายชื่อผู้เดินทางทุกคนในใบจอง (ควรเลือกจองแบบยกเลิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เผื่อเปลี่ยนแพลน)
10. เอกสารทางราชการ ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง, ทะเบียนบ้านตัวจริง, ทะเบียนสมรส, ทะเบียนหย่า, ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) พร้อมสำเนา ลงนามสำเนาถูกต้อง
11. ค่าธรรมเนียมการออกวีซ่า ค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าพำนักระยะสั้น ผู้ใหญ่ 80 ยูโร, เด็ก (อายุ 6 – 11 ปี) 40 ยูโร ในบางกรณีอาจจะมีการลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม
*สำหรับพลเมืองของประเทศนอกสหภาพยุโรป ที่มีฐานะเป็นสมาชิกครอบครัวของพลเมืองสหภาพยุโรปหรือประเทศในความตกลงเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA Agreement) ที่ใช้สิทธิ์เดินทางโดยเสรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
*ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี นักเรียน นักศึกษาระดับปริญญาโทและครูผู้ติดตามที่เดินทางด้วยวัตถุประสงค์ทางการศึกษาหรืออบรม และนักวิจัยที่กำลังทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ตามที่นิยามไว้ใน Recommendation 2005/761/EC สามารถติดต่อสถานทูตประเทศนั้นๆ เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้
กฎระเบียบเพิ่มเติมสำหรับการขอวีซ่าเชงเก้น
1. การขอวีซ่าเชงเก้น ผู้ยื่นจำเป็นที่จะต้องมายื่นคำร้องขอวีซ่าด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อสแกนลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการสมัครขอวีซ่าครั้งต่อไปภายในระยะเวลา 5 ปี
2. ขยายระยะเวลาในการขอวีซ่าล่วงหน้าได้ 6 เดือนก่อนวันเดินทาง จากเดิม 3 เดือน ซึ่งสามารถยื่นได้ในประเทศที่มีถิ่นพำนัก (ยกเว้นเพียงบางกรณี) และสามารถยื่นผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าอย่างน้อย 15 วัน ก่อนการเดินทาง
3. เพิ่มระยะเวลาสำหรับวีซ่าแบบเข้า-ออกหลายครั้ง (Multiple-entry) สำหรับคนเดินทางท่องเที่ยวใน EU เป็นประจำ และมีประวัติการเดินทางที่ดี โดยมีระยะเวลาเริ่มตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี
ไปยุโรปกับทัวร์ ขอวีซ่ายากไหม ?

แม้ว่าการ ขอวีซ่าเชงเก้น จะเป็นการพิจารณาแบบรายบุคคล แต่การเดินทางไปเที่ยวยุโรปกับทัวร์ หรือให้ทัวร์เป็นผู้ดำเนินการเรื่องวีซ่าให้ก็มีข้อดีคือ ทางทัวร์มีประสบการณ์ในการยื่นวีซ่า ซึ่งจะช่วยให้คำแนะนำ เตรียมเอกสาร จองคิว เตรียมความพร้อม รวมทั้งแก้ปัญหาต่างๆ ช่วยลดโอกาสในการถูกปฏิเสธวีซ่าได้ ทั้งนี้หากใครไม่สะดวก และต้องการขอวีซ่าด้วยตัวเอง พี่เห็ดก็ได้รวบรวมข้อมูล 10 อันดับประเทศที่มีอัตราการปฏิเสธวีซ่าต่ำ จาก schengeninsuranceinfo.com มาให้ดังนี้
1. ไอซ์แลนด์ อัตราการปฏิเสธ 2.2%
2. สวิตเซอร์แลนด์ อัตราการปฏิเสธ 10.7%
3. ลัตเวีย อัตราการปฏิเสธ 11.7%
4. อิตาลี อัตราการปฏิเสธ 12%
5. ลักเซมเบิร์ก อัตราการปฏิเสธ 12.7%
6. ลิทัวเนีย อัตราการปฏิเสธ 12.8%
7. สโลวาเกีย อัตราการปฏิเสธ 12.9%
8. เยอรมนี อัตราการปฏิเสธ 14.3%
9. ออสเตรีย อัตราการปฏิเสธ 14.3%
10. กรีซ อัตราการปฏิเสธ 14.7%
ใครจะขอวีซ่าก็ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าให้ดีนะคะ เนื่องจากกระบวนการพิจารณาวีซ่าอาจใช้เวลาถึง 15 วัน หรือนานกว่านั้น แล้วแต่กรณี ยิ่งในช่วงเดือนเมษายน ตุลาคม และธันวาคม เป็นช่วงที่มีนักเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ควรวางแผนและเผื่อเวลาให้ดี อีกทั้งในบางประเทศจำเป็นต้องนัดหมายก่อนเข้ายื่นขอวีซ่า เช่น ออสเตรีย หรือสาธารณรัฐเชก เป็นต้น รวมถึงบางประเทศต้องขอวีซ่าผ่านตัวแทนอย่าง VFS Global หรือ TLSContact เช่น สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรีย เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น
อายุของวีซ่าเชงเก้น ขึ้นอยู่กับแพลนการท่องเที่ยวของคุณ (Itinerary) เช่น หากมีแพลนเดินทางไปยุโรป 15 วัน ก็จะได้วีซ่าเชงเก้น 15 วัน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่สถานทูต
การขอวีซ่าเชงเก้น จริงๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้ทางสถานทูตมั่นใจว่าคุณจะเดินทางท่องเที่ยวและกลับมายังภูมิลำเนาเดิม ที่สำคัญคือต้องคอยเช็กข้อมูลการเตรียมเอกสารของสถานทูตแต่ละประเทศ ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันอยู่ค่ะ
แต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจเรื่องการขอ วีซ่ายุโรป ด้วยตัวเอง ให้มัชรูมทราเวลช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณได้ ทางเรามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการและให้คำปรึกษาทางด้านการขอวีซ่า ทั้งในทวีปยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย คอยช่วยเหลือและให้ความสะดวกทุกขั้นตอนจนการรับผลวีซ่าจากสถานฑูตเลยค่ะ เพราะ “การทำเอกสารประกอบวีซ่าต้องถูกต้องสมบูรณ์ เสร็จทันเวลาก่อนลูกค้าเดินทาง นี่คือ หน้าที่ของเรา” เพื่อให้ทุกท่านได้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นและสบายใจที่สุด