เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 7 คืน 8 วัน @Seoul #ไปทั้งทีต้องไปให้สุด

เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 7 คืน 8 วัน @Seoul #ไปทั้งทีต้องไปให้สุด

หัวใจ อันยองฮาเซโย…

จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้คือ… เริ่มแรกเราดูซีรีย์ ดูไปดูมาก็เอ๊ออออ อยากไป เที่ยวเกาหลี ด้วยตัวเอง จัง อยากไปเห็นให้ได้ด้วยตาสักครั้ง และมันก็ดี๊ดีย์ตรงที่มีเพื่อนเป็นแฟนคลับนักร้องเกาหลีอยู่แล้ว ก็เลยชวนกันเล่นๆ คุยไปคุยมา ไปไม่ไปไปไม่ไปอยู่นั่น จนได้ตั๋วราคาถูกใจมาในที่สุด จองแบบไม่คิดเลยว่าจะลางานกันยังไง ? ตั้ง 7-8 วัน เอาว้ะๆ ค่อยว่ากัน พอได้ตั๋ว ทุกอย่างจะค่อยๆ ตามมาเอง และทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น…

#กระทู้นี้ : ) อาจจะใช้คำไม่ค่อยสละสลวย เราขออธิบายแบบเหมือนเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังละกันน๊า แล้วเรื่องพิกัดพูดเลยว่าไม่เป้ะเลย ฮ่าๆๆ #ความแม่นยำเรื่องสถานีหรือทางออกของสถานที่ต่างๆ หาไม่ได้จากกระทู้นี้แน่นอนน๊า : ) แต่ยังไงก็ฝากด้วยน๊า

วันเดินทาง 4-11 มีนาคม 2560

เดินทางโดยสายการบิน : Thai Air Asia X

ที่พักตลอด 7 คืน : Kor Stay Insadong

ถ่ายภาพโดย กล้อง Sony a6000 เลนส์คิท ปรับสีบ้างเล็กน้อยจาก Snapseed

ม า เ ริ่ ม เ ดิ น ท า ง เที่ยวเกาหลี ด้วยตัวเอง กั น ไ ด้ เ ล ย ย ย ย…

Day 1
4 มีนาคม 2560

เช้าแล้ว…ใกล้ถึงสนามบินอินชอนแล้วจ้า *เราบินไฟล์ท XJ700 ออกจากสนามบินดอนเมือง 02.20น.
ระหว่างทางหลับตลอด ตื่นมาเจอแบบนี้ สดชื่นขึ้นมาทันที ^^
ข้างบนคงหนาวมาก น้ำแข็งเกาะกระจกเลย

ภาพนี้ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือนะคะหยิบกล้องลำบาก อิอิ

ออกจากเครื่องมาแล้ววววว ไปค่ะ! ไปเจอ ตม. กัน แอบลุ้นพอสมควรเลย

เดินตามกันไป ยิ้ม ไม่ต้องกลัวหลง เพราะมีป้ายบอกตลอดทางจ้า

กำลังรอขึ้นรถไฟ.. จะไปหา ตม. อันเลื่องชื่อในความโหด

ตัดภาพไปก่อนภาพนี้คือ…รอดแล้ววววว ได้เที่ยวแล้ว ฮ่าๆๆๆ โดน ตม.ผู้หญิง นางถามถึงใบโปรแกรมว่า มาเกาหลี จะไปไหนบ้างใน 8 วัน ? เท่ เอิ่ม…เราก็ตื่นเต้นจนลืมเอาเอกสารจากเพื่อน ที่ปริ้นท์กันไปเป็นปึกๆ กล้องก็เอาใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้สะพาย ง่ายๆคือ เหมือนไม่ได้มาเที่ยว

เราก็เลยเปิดกรุ๊ปไลน์ที่สร้างไว้คุยกับเพื่อนเรื่องเที่ยวทริปนี้ให้นางดู นางก็ดูอารมณ์ตึงๆ ใจไปอยู่ที่ตาตุ่มมาก กลัวจะได้เข้าห้องเย็น…

และแล้ววววววว เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น ตุ้บๆๆ ! นางปั้มในเล่มให้ เราก็รีบเลยจ้าาาาาา ไม่หันกลับไปมองแม้แต่นิด กลัวนางเรียกกลับ 55555
.
.
.
ไปค่ะ ! ไปรับกระเป๋ากัน
.
.
.
รับกระเป๋าแล้วออกมาซื้อ T-money น่าร๊ากกกกกตามภาพเลย อิอิ
จากนั้นไปเติมเงินใส่ 50000won ไว้สำหรับเดินทางในทริปนี้ พอไม่พอ รอดูอีกทีน๊า

ยืนงงกันแปปนึง ไปค่ะหาทางไปขึ้นรถไฟเพื่อเข้าโซล ณ จุดนี้ ลุยจ้าาาาาาา

 ที่พักนะค๊าาาาา ตอนจองใช้ชื่อว่า Hi5 Hostel พอใกล้ๆวันเดินทางเปลี่ยนชื่อเป็น KorStay Insadong จ้า
พิกัดอยู่ใกล้กับ Jongno Tower เลยจ้า ใกล้มากเลย สถานี Jonggak ทางออกที่ 7 เดินออกมาเข้าซอยนิดนึง ถึงเล๊ย
.
.
.
มุมด้านหน้าที่พัก…

Day 1 อย่างเต็มรูปแบบ ออกจากที่พักค่ะ ไปคลองชองเกซอน-จตุรัสกวางฮามุนกันน๊า

อันนี้บริเวณถนนติดกับทางเข้าสถานี Jonggak ทางออก 7 จ้า

ฮัลโหลลลลลลล…. เกิดอะไรขึ้น งงจ้า ไม่ได้ทำการบ้านมา

คลองชองเกซอน…

บริเวณจตุรัสกวางฮามุน จตุรัสใจกลางเมือง เดินๆดูแปปนึง ก็ออกเลยค่า ดูท่าจะไม่เหมาะกับการเที่ยว 55555

แวะถ่ายรูปแฟนแปป ^^ อิอิ
พระเอกเรื่อง Jealousy incarnate

ถึงแล้ววววววว จากกวางฮามุน โผล่มาสถานี Ehwa University จ้า
วิวสวย ของขายเพียบบบบบ ราคาน่ารัก นักศึกษาๆ ^^
มาดูบรรยากาศย่าน Ehwa กันจ้า

ต็อกป๊กกีร้านป้า 3800won จ้า กินไม่หมดเลย ได้เยอะมากๆ

 Hello อีแด **ใช้เรียกย่านมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา

 ใสๆ อีกมุมของอีแด

 ถุงเท้าน่าร๊ากกกก คู่ละ 1000won เป็นเงิน 30 บาทไทยจ้า

*ขออภัยเบลอนีสนึงงงง

รถวิ่งน้อย บรรยากาศน่าเดินมากๆจ้า

ถนนค่อนข้างจะเป็นเนิน สูงๆ ต่ำ สวยไปอีกแบบ แต่ร้านค้าจะไม่ได้เยอะเท่าฮงแดนะค๊า
ส่วนใหญ่จะเป็นร้านเสื้อผ้าผู้หญิ๊ง…ผู้หญิง

มุมมหาชน ใครมาก็ต้องถ่ายมุมเน้ จุ๊บๆ

อีกมุมนึงนะค๊า…
ทำไมต้องควงแขน ? ทำไมต้องสวีทเบอร์น๊านนนนนย้ะ ? 55555

รองเท้าคู่นี้เราซื้อจากวังหลัง 350.- ที่ใส่แบบนี้เพราะคิดว่าจะเจอหิมะ 555555 ใส่วันเดียวจอดที่ห้องเลยจ้า ไหนหิมะ ?
แต่ แต่ แต่ เราเจอหิมะน๊าาา หิมะสุดท้ายของฤดูด้วย อิอิ รอติดตามนะค๊า

ร้านเสื้อผ้าเยอะมาก สาวๆต้องชอบแน่ๆ

ร้านเคสก็เยอะ แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าเคสบ้านเราจะเยอะกว่า น่าซื้อกว่า
อันที่ลายน่ารักๆจะไม่ค่อยคลุมรอบเครื่องเท่าไหร่ เราเลยไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับเคสเท่าไหร่

ร้านรองเท้าก็เยอะ แต่จะแนวผู้หญิ๊ง…ผู้หญิง จุ๊บๆ

เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะราคา 10000won ประมาณ 300บาทไทย น่ารักดี สไตล์เกาหลีเค้าแหละ…

ส่งท้ายวันแรกที่อีแดค้าบบบ…

มาทานข้าวเย็นกันจ้า ร้านนี้อยู่ตรงทางเข้าที่พักเราเลยจ้า ทริปนี้กินร้านป้าแทบทุกวัน
บรรยากาศอบอุ่นดี มี 2 โซน นั่งแบบเก้าอี้และนั่งกับพื้น แน่นอนเราและเพื่อนเลือกแบบหลัง สบายๆดี

เมนูที่เรากับเพื่อนกินบ่อยมาก บิบิมบับจ้า บอกเลยว่าเพิ่งรู้ว่ากินอะไรที่เป็นต้นตำรับ มันดี๊ดีย์ อร่อยมว๊ากก

Bye.. Day 1 #คืนนี้นอนหลับลึกมาก เหนื่อยมาทั้งวัน เก็บแรงลุยต่อพรุ่งนี้ ^^

Day 2
5 มีนาคม 2560

นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Gapyeong เพื่อต่อรถแท็กซี่ไปลงที่ท่าเรือเกาะนามิ
ค่ารถแท็กซี่ 3800won เท่านั้นจ้า เราใช้ T-money ในการจ่ายค่ารถด้วย สะดวกมากๆค่ะ

ไปเกาะนามิกันจ้า ^^ คุณลุงขับรถเร็วม๊ากกกก ดริ๊ฟๆ 5555

ถึงแล้วววจ้า ซื้อบัตรเข้า แล้วเดินไปรอขึ้นเรือได้เลย

ใบไม้แทบจะไม่เหลือแล้วววว แต่ก็ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ

ขึ้นเรือกันเลย เห็นธงชาติไทยไหม ? สวยเด่น เป็นสง่า

Hello Nami Island ดอกไม้

 ถึงจุดนี้ก็เดินไปเรื่อยๆเลยจ้า มีดอกไม้สีสันสดใส รอต้อนรับเราอยู่ อากาศดีมากๆ สดชื่น พระอาทิตย์
ลูกโป่งสีขาว ประดับติดต้นสนกันเป็นระยะๆ…

เรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่อร่อยดีค่า 2000won

…ร ะ ห ว่ า ง ท า ง เ ดิ น…
เลยเบยองจุนมานิดนึง เห็นวิวนี้เลย ยังมีน้ำแข็งในน้ำอยู่เลย ^^

 .
.
.

หิมะกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว…ขอน้ำแดงด่วน ราดกินซะเลย ประหลาดใจ

บ๊ายบายยยย…เกาะนามิ

 ออกจากเกาะนามิ นั่งรถแท็กซี่กลับมาสถานีเพื่อกลับโซล

เหนื่อยๆ โดนนี่ซะหน่อย สดชื่นเลยยยยย

ราขอเล่าความประทับใจหน่อย ^^
ขณะรอรถเพื่อจะกลับเข้าโซล ก็งงกันอยู่ว่าต้องรอฝั่งไหน พอมาก็ไม่กล้าขึ้น เพราะไม่มั่นใจ
เพิ่งใช้รถไฟได้ไม่กี่ครั้ง ก็ไม่ชินเป็นธรรมดา ตอนนั้นอากาศหนาวมาก ลมก็แรง ยืนกันอยู่ที่สถานีกันอย่างโดดเดี่ยว 55555
คุณลุงคนนี้ ชวนพวกเราเข้าไปนั่งในที่รอ อบอุ่นขึ้นมาก เค้าพยายามจะสื่อสารกับเราว่าจะไปไหน ก็พอรู้เรื่องได้บ้าง
ลุงก็วาดแผนที่ให้อย่างละเอียดว่าต้องไปไหน ลงที่ไหน คือลุงน่ารักมาก ใจดี เอาลูกอมมาให้พวกเราอีก
ที่สำคัญพอลุงรู้ว่าเรามาจากประเทศไทย ลุงก็เอากระเป๋าออกมาให้ดูมีเงินไทยอยู่หลายแบงค์มาก ยิ้ม ปลื้มเลย
พอรถไฟมา..ลุงก็ชี้ให้เราไปขึ้น อมยิ้ม17 ขอบคุณนะคะ ลุงมีน้ำใจและใจดีมากๆ

บอกแล้วไง…ว่าขึ้นช่วงแรกๆมักจะหลง เริ่มค่ำแล้ว อากาศก็เย็นลง แถมลงสถานีผิดอีก
ที่เห็นในภาพคือเบื้องหลังของสถานี Sinnae #วิวสวยดีแต่หยิบกล้องไม่ได้ค่ะ #มือแข็งหนักมาก

ถึงแล้วค่ะ ร้านหมูย่างเกาหลี(บุฟเฟต์) Hong Bar พิกัดเมียงดง อยู่ใกล้ปากซอย Myeongdong 10-gil
สังเกต Nature Replublic จะอยู่แถบเดียวกัน กดลิฟต์ไปชั้น 3F เลยจ้า ถึงเลยๆ
เราขออัพเดตราคาร้านนี้นะคะ 12900won/คน ราคานี้คุ้มค่ามากๆนะคะ มีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู กิมจิ นั่นนี่จัดหนักไปเลยจ้า

 บรรยากาศในร้านค่ะ

เค้าจะให้เซ็ตแรกมา หมู ไก่ เนื้อเป็นชิ้นโตๆเลย พอหมดก็ไปตักเอาตามใจชอบเลยจ้า

 กิมจิก็ม๊าาาาาา..

ปิดท้าย…สตอเบอรี่หว๊านหวาน อันนี้เราซื้อเองน๊าในเมียงดงนี่แหละ 6000วอน
*อยากแนะนำเรื่องซื้อสตอเบอรี่น๊า เราซื้อ6000วอน พอเข้าไปลึกๆเหลือ 5000วอน ไปเจอที่อีแด 4000วอน #ราคาขยับตามพิกัดซะงั้นอิ่มแล้วววววว…กลับห้องนอนพระจันทร์ #พอเดินออกจากร้านฝนก็ตกเลยค่ะ #เย็นฉ่ำกันไปเล๊ย

Day 3
6 มีนาคม 2560

บรรยากาศสบายๆ สำหรับวันนี้

เรากำลังเดินทางจะไปลงสถานี Apgujeong กันจ้า

 ถึงแล้ววววว..มีหนุ่มๆมารอต้อนรับกับเพียบเลย ฮ่าๆๆๆ เพื่อนเราถ่ายรูปกระจายจ้า ณ จุดนี้
ทางออกสถานี Apgujeong ดูสวยแปลกต่างจากสถานีอื่นๆค่ะ

 เมื่อมองย้อนกลับไปทางออกของสถานี…

 เรากำลังจะไป JYP กันค่ะ เพื่อนเราตั้งใจจะไปหาหนุ่มๆ Got7 ยิ้ม
ระหว่างทางมีตึกของแบรนด์ดังๆตั้งอยู่เรียงรายเลยค่ะ เรารู้สึกว่าย่านนี้ไอโซ๊ ไฮโซ รถหรูวิ่งเต็มไปหมดเลย

ถ่ายไปเรื่อยๆ สักพักมือเริ่มแข็ง เพราะหนาวมาก ลมก็แร๊ง…แรง

K-Star Road…อาจจะเป็นเพราะถนนสายนี้จะมีตึกทำการของค่ายเพลงชื่อดังต่างๆอยู่ย่านนี้ SM, JYP จ้า เพื่อนเราพาไปหมดเลย ^^

 เดินไปเรื่อยๆ น๊าาา

เสยกล้องขึ้น…*ทริปนี้เราเสยภาพขึ้นเยอะมาก 5555555 และจะมีอีกเยอะมาก

ดูดีค่ะ เราชอบ ^^

Omega ก็มา… จริงๆมีหลายแบรนด์มากเลยน๊า

 ถึงแล้วววววววววววววววว… JYP Entertainment Center
จุดที่พวกเรานั่งรอศิลปินเป็นร้าน Dunkin Donut ค่ะ ถ้าจะนั่งเก้าอี้ จุดมองดีๆ ซื้อน้ำสักแก้วค่ะ นั่งยาวๆเลย
แต่อย่าไปซื้อพวกมาม่ามากินนะคะ พนักงานในร้านจะออกมาห้ามค่ะ #เดี๋ยวเขิล 55555
ข้ามถนนมานิดนึงจะเจอ Gs25 ถัดไปก็จะเจอ Olive Young ค่ะ ถ้ารอเพื่อนนานๆก็เดินเล่นได้จ้า

 ขอนำเสนอนี่เลย…ไฮไลท์ 5555555 น่ารักมากๆ รถขายนมนั่นเอง

จากนั้นเราเดินทางกลับไปเมียงดงเพื่อจะไปร้านกาแฟของแจจุง(แฟนเพื่อนเรา อิอิ) Cafe J Holic

ถึงแล้ว…เมียงดง

เดินหาวนไป…แล้วแล้วววววววว นั่นไงเจอป้ายร้านแล้ว ลุ้นๆๆๆ

ปรากฏว่า…ร้านถูกย้ายไปแล้ว FacepalmFacepalm โอ้ย! ร้องห้ายยยย
พอเปิดข้อมูลดูอีกทีจากเพจร้านโดยตรงเลย ร้านถูกย้ายไปอยู่แถว Bongeunsa
*เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเวลาแพลนอะไรห้ามเชื่อใจกระทู้ 555555 ให้เช็คอีกทีว่าพิกัดชัวร์ไหม จะได้ไม่เสียเวลาจ้า
แต่ แต่ แต่ เราไม่ย่อท้อกันน๊าาาา Bongeunsa ก็จะไปเว้ยยยยยยย

 ถึงแล้วค่ะ Cafe J Holic หลิ่วตา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริงๆ
 หายเหนื่อยค่ะ…ชื่นจายยยย

เราก็นั่งชิลล์กันจนหายเหนื่อย จากนั้นก็กลับมาโซ้ยมาม่า โอ้ยก็ฟินนะ จุ๊บๆ ทำเป็นเล่นไป

Day 4
7 มีนาคม 2560
วันนี้เราจะไปที่ไหนบ้าง ? ตามมาเลย 

เรากำลังจะไปพระราชวังเคียงบกกันนะคะ เราเดินทางโดยรถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม ไปลงสถานีคยองบกกุง (Gyeongbokgung)

*ถ้าเป็นทางออกที่ 5 จะสามารถเดินออกมาแล้วใกล้ถึงพระราชวังเลยนะคะ
แต่! เราไม่ทำแบบนั้น เราเลือกที่จะใช้ทางออกที่ 4 (เอ๊ะ! หรือเราหลง) เพราะเราจะได้ลองเดินชมวิวไง

นั่นไง… ถึงแล้ววววว
แต่ ! คุณคะ วันอังเค้าเค้าปิดค่ะ มาทำไม ? ไม่เป็นไรดูวิวเพลินๆ #พลาดอีกแล้ว #ร้องไห้แปป

 พอหันกลับไปทางด้านหน้าวัง อ่าวเห้ย! จตุรัสกวางฮามุน
**ที่เราเดินทางไปในวันแรกไง แต่ไม่ได้เดินขึ้นไปเพราะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเยอะมาก
เลยไม่เห็นว่าเคียงบกกุงอยู่ตรงกันข้ามเอง เพราะถ้ารู้แบบนี้ก็แวะมาตั้งแต่แรกแล้ว

ไม่เป็นไร ไหนๆก็พลาดแล้วก็เดินต่อไป
 เราเดินต่อกันเพื่อจะไปหมู่บ้านบุกชอน ฮันอก
มาดูวิวระหว่างทางกันนะคะ
 ต้นไม้แห้งๆ ก็มีเสน่ห์น๊า…

 ระหว่างเดินทุกอย่างมันแปลกตา มันมีอะไรให้ดูเพลินๆตลอด ทุกวันใช้รถไฟตลอดไม่เคยเดินเยอะแบบนี้เลย ชอบค่ะๆ

เซอร์ไพร์ซ… 5555555555 #แอบตกใจกันนิดหน่อย แต่ไม่มีความรุนแรงใดๆค่ะ สงบ เที่ยวได้อย่างปกติ
ตำรวจเกาหลีเค้าดูแลประชาชน นักท่องเที่ยวดีมากๆค่ะ คอยให้ความช่วยเหลือบอกเส้นทางในทุกจุดเลย

เจอแล้ววววววว …หมู่บ้านบุกชอน ฮันอก “ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัยของกรุงโซลนั้น
หมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังคงรักษาอาคารบ้านเรือนในสมัยโบราณ มีกลิ่นอายของเกาหลีในยุคเก่าแก่”
#ขอบคุณบทความจาก www.chilloutkorea.com

 แผนผังคร่าวๆ บริเวณบุกชอน ฮันอก

มีเสน่ห์เหลือเกิน..

 มุมมหาชน(เห็นโซฬลทาวเวอร์ด้วย) คนถ่ายภาพเยอะมาก ไปที่อื่นก็ได้ ^^
 มีสาวๆ ใส่ชุดฮันบกถ่ายภาพกันด้วย

นั่งหน้าบ้าน(ใครก็ไม่รู้) พักกินสตรอเบอรี่กันซะหน่อย
อากาศเย็น ลมโชย กับสตรอเบอรี่เนื้อฟู รสหวานๆ เข้ากันดีจังเลย

 เดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟ เดี๋ยวเราจะไปโซลทาวเวอร์กันน๊า เริ่มต้นกันที่สถานีนี้เลยค่ะ
จาก Jongno 3(sam)-ga ต่อสายสีน้ำเงิน ไปลง Seoul station ค่ะ

 เมื่อถึง Seoul station ให้เลือกใช้ทางออกที 9 เดินออกมานิดนึงจะเจอป้ายรถเมย์ค่ะ ยืนรอเลยเดี๋ยวมาๆ ^^

 สายรถที่เราจะขึ้นคือ 03 นะจ้ะ ย้ำ!

 แตะ T-money แล้วขึ้นรถเลยจ้า ง่ายและสะดวกมาก
มีเสียงเตือนและป้ายไฟขึ้นที่หน้ารถตลอดว่าถึงสถานีไหนแล้ว ดี๊ดีย์ ไม่มีหลง

 วิวเมืองระหว่างทาง เพลินๆ

 ถึงแล้วค่ะ … โซลทาวเวอร์

 ห้ามสูบบุหรี่น๊าาาา ไม่น่ารัก

 มาชมวิวระหว่างเดินขึ้นกันค่ะ

 อากาศดีมากค่ะ มีแดด มีความเย็น โอ้ย…ลงตัว

 หายเหนื่อยเลยหัวใจ

 ต้องมีคู่ หัวใจหัวใจ ณ จุดนี้

 เดินกลับลงมาขึ้นรถกันค่ะ วิวดี มุมถ่ายรูปเยอะมาก ดอกไม้
เมื่อถึงจุดที่รถจอดส่งเรา ให้เรารอตรงนั้นนะคะ รถสายเดิมจะเวียนกลับมารับเราเอง

 นี่คือหน้าตาของรถที่เราจะนั่งกลับค่ะ สาย 03 น๊าาา

นี่ก็วันที่ 4 แล้ว คิดถึงอาหารไทยมาก ไปค่ะ ยังไงก็ต้องไปโดน
“Amazing หนองคาย”

พิกัด: Hongik University station ทางออก 1 เดินตรงมาเรื่อยๆ ข้ามไฟแดงมา
จะเจอโชว์รูมรถ Hyundai เลี้ยวขวาเข้ามาในซอย

ต้มแซบ ส้มตำปูปลาร้า ส้มตำแตง ลุยยยยยยยยยยย !

อิ่มแล้วววววว…กลับห้องกัน

จบวันที่ 4 แทบหมดแรง

Day 5
8 มีนาคม 2560

วันนี้เรามาเข้าวัดเข้าวากันบ้างนะคะ นี่คือวัดโซเกซาค่ะ… ใกล้กับที่พักเรามากๆ เราเดินทะลุจากอินซาดงมาวัด ซึ่งใกล้กันมากๆค่ะ

มีการประดับโคมไฟบริเวณลานวัด ตอนกลางคืนต้องสวยมากแน่ๆ การประดับโคมไฟยังไม่เสร็จทั้งหมดนะคะ

บริเวณลานวัด ก่อนเข้าด้านใน

 วันที่เราไปมีคนสวดมนตร์กันอยู่ เราไหว้พระและออกมาเลย ไม่ได้ถ่ายด้านใน เพราะคนเยอะมาก

 สี สั น ส ด ใ ส
 ประดับโคมดอกบัวตามกิ่งไม้
 จากนี้…คือก็นั่งคิดกันว่าจะไปไหนอีก เปิดไกด์บุ๊คเจอ “พิพิธภัณฑ์เงื่อนโบราณของเกาหลี” Dong-Lim Knot Museum
เราเดินจากวัดผ่านกลับมาอินซาดงอีก จากนั้นเดินต่อไปทางบุกชน ฮันอก *เพราะพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ใกล้บุกชน ฮันอก มากๆค่ะ
ระหว่างทาง…

แวะเติมพลังร้านป้านิดนึง ร้านนี้เราแวะกินโอเด้งเมื่อวาน ติดใจ เลยมาซ้ำอีกรอบ แฮ่ๆ ในภาพนี้คือชุนแดค่ะ เพื่อนพากิน อร่อย หนึบๆ จิ้มกับพริกเกลือเกาหลี เข้ากันดีค่ะ

ตอนแรกคือเราก็นั่งเก้าอี้หน้าร้านซึ่งมีแค่เก้าอี้ 2 ตัวพอดี สักพักป้าก็ยกโต๊ะมาให้พวกเรา ใจดีจังเลย ^^ เรากับเพื่อนก็นั่งชิลล์กันริมถนน เอื่อยเฉื่อยๆ ลมพัดเย็น แสงแดดอ่อนๆ มองดูผู้คนเดินไปมา สัมผัสกับบรรยากาศเกาหลี๊..เกาหลี เที่ยวจนไม่รู้จะไปไหน จนพวกเราไม่อยากกลับไปทำงานกันเลย : )

ป้าน่าร๊ากกกก… แช๊ะภาพหน่อยสิ๊……กิมมมมมจิ

บ๊ายบาย…อาจุมม่า แล้วมางานกินต่อ 555555
ในภาพคือ ปลาหมึกย่าง ราดซอส ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่อร่อยอยู่น๊า

พิพิธภัณฑ์เงื่อนดง-ลิม Dong-Lim Knot Museum (동림매듭박물관)

เข้ามาข้างในกันดีกว่า…

แดดโชยอ่อน…

มีใครอยู่ไหมคะ ?
คำตอบคือมี…แต่ไม่เปิดประตู 55555 (ระหว่างที่เราเข้าไปมีนักท่องเที่ยวอยู่ 4-5คน) ซึ่งรอให้เปิดประตูเช่นกัน

ไม่เป็นไรเนอะ ดูข้างนอกก็ได้ค่ะ

นั่งรับลมหน้าบ้านกันแปปนึง…แล้วเดินต่อค่ะ

เดินต่อ…มาโบสถ์เมียงดง นั่งหน้าโบสถ์กัน แวะกินขนมแปปนึง

มีคนเคยรีวิวว่าอร่อย แต่เราเฉยๆ

Market-O ก็โออยู่น๊าาา แต่ไม่ค่อยนุ่มเท่าไหร่…

**พวกเราสายถึก…เดินกันไหว แต่ใครไม่ชอบเดิน ก็นั่งรถไฟต่อได้น๊า
วิธีการ : แค่ดูว่าสถานที่ ที่เราจะไปอยู่ใกล้สถานีไหน? สายสีอะไร? ทางออกที่เท่าไหร่? เราสามารถวางแผนการเดินทางเองได้เลย

ภาพประกอบเส้นทางรถไฟ #เครดิต http://www.seoulciety.com

อิ่มแล้ว…เดินชมโบสถ์เมียงดงกันนะคะ

สวย อลังการมากค่ะ

เราไม่ได้เข้าไปด้านในน๊า เดินชมบริเวณโดยรอบจ้า

มองย้อนกลับมาด้านหน้าโบสถ์ เห็นเมียงดงเลยจ้า งั้นเดินเมียงดงช็อปปิ้งละกัน

เดินไปเดินมา…เดินมาเดินไป ปรากฎว่าา..หิมะตกจ้า นี่แหละที่รอคอย

เสียดายตกนิดเดียวเอง…สัญญาว่าจะ มาเกาหลี ช่วงหิมะตกอีกให้ได้ จุ๊บๆ

หลักฐานๆ งืออออร้องไห้ตกนิดเดียวเอง

เดินเที่ยวเล่นต่อด้วยความหนาวเย็น และแล้วหิมะก็กระหน่ำลงมาอีกครั้ง(หยิบกล้องไม่ทัน) #หิมะสุดท้ายของฤดู

หนาวมากแล้ว กลับบ้านกันเถอะ.. เช่นเคยเดินจากเมียงดงกลับที่พัก #สายถึกเท่านั้นที่อยู่รอด 5555
กลับมากินข้าวเย็นร้านอาจุมม่าหน้าซอย..จัดหนักกันไปเล๊ย

Day 6
9 มีนาคม 2560
ณ อินซาดงยามเช้า เดินเล่นหาซื้อของที่ระลึก อากาศค่อนข้างเย็นสบาย

ร้านรับทำตรายาง

โปสการ์ด ของที่ระลึกเพียบ

บรรยากาศโดยรอบ

เบลอๆ หน้าร้านชา O’Sulloc

เดินต่อกันไปเรื่อยๆ อากาศเย็นสบาย เดินได้ยาวๆ

เดินมาสุดถนนจะเจอประติมากรรมรูปพู่กันทางด้านซ้ายมือ

เลี้ยวขวาจะเจอร้านกระเป๋าร้านนี้ 10000won/300บาทไทยเท่านั้น

เดินตรงจากหน้าร้านกระเป๋าเรื่อยๆ เพื่อนั่งรถไฟจะไป Lotte World

เดินตรงไป…

ตรงไป…

เห็นคลองชองเกซอนด้วยน๊าา

ข้ามถนนกันจะเจอตึกนี้…ข้ามถนนกันจะเจอตึกนี้…

ไป Lotte World กัน…

วิธีเดินทางที่เราใช้ไป Lotte World รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานีชัมซิล (Jamsil) ทางออก 1, 2 ออกมาเจอทางเข้าเลย

หรูหราสมคำร่ำลือ…

เดินเล่นกันอย่างจุใจ..

มากินชาที่(โคตร)สั่งยากสั่งเย็น เค้าถามเยอะมากค่ะ น้ำตาลแค่ไหน? หวานมากไหม? น้ำแข็งแค่ไหน? OMG!
นั่นหล่ะฮะ…ท่านผู้ชม รสชาติที่ออกมาก็งงๆ ตามความเอ๋อของคนสั่ง

และเราก็มากันอีกค่ะ…ครั้งที่สอง

ระหว่างรอเพื่อนติ่งนั้น… เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรอร่อยๆ น่าโดนบ้าง
อันนี้อร่อยดีค่ะ รสชาตเจ้มจ้น อิอิ

ซื้อมา 1 แพ็คใหญ่ ว่าจะเอาไปฝากเพื่อน แต่นั่งกินเล่นกันหมดเลย 555555555

ยืดๆเหนียวๆ รสเปรี้ยวนิดนึง คล้ายๆซูกัสบ้านเรา อร่อยดีค่ะ

#ถัดจากนี้ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อคืน..มาต่อกันเลย
โชจูรสนี้ ค่อนข้างแรง เมาได้เลยทีเดียวเชียว

อันนี้ดีย์…แนะนำค่ะ มันได้เนื้อส้มที่มีความจริง อร่อยๆ หวานอมเปรี้ยว

มันคือ Coffee Milk มันคือกาแฟอ่อนๆ ที่เฉยๆสำหรับเรามาก แต่ขวดน่ารักเฉยๆ อิอิ

อันนี้มันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดมาก ซ่าส์สะใจ ใครไปต้องโดน

ขวดน่ารักดี แต่รสชาติเฉยๆมาก ยาคูลย์บ้านเราเด็ดกว่าเยอะเว้ยยยย

กลับกัน..

ไปเมียงดงกัน อะเก๊นนนนนนนน อมยิ้ม16
หาเดินกินนั่นนี่จนอิ่ม แล้วกลับที่พักกัน

Day 7
10 มีนาคม 2560
มาม้ะ..มาดูวิวย่านอัพพูจองกันเพลินๆ

สะอาดตามาก หลงรักเลย

อีกมุม….

รถหรูจอดกันเพียบ

วันนี้เรามา JYP กันเป็นครั้งที่สาม และแล้วภารกิจของเพื่อนเราก็สำเร็จดังที่ตั้งใจ #missioncomplete

ยิ้มบรรยากาศในร้านโดนัทสาขานี้…ถูกใจใครหลายคนอยู่ไม่น้อย

ทุกคนคงสงสัยว่าเรามาย่านนี้กันบ่อย…เข้าห้องน้ำที่ไหน ?
นี่ค่ะ Dunkin Donut เค้ามีบอกให้เลยว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ติ่งกันไปแบบเพลินๆ

บรรยากาศภายในสถานีรถไฟ เมื่อไม่มีผู้คน นี่แหละที่เราใช้เดินทางกันทุกวัน บางทีก็หลงค่ะ แต่ก็สนุกดี

ตู้ที่เราใช้เติมเงินใส่บัตร T-money อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง สะดวกดีค่ะ

ส่งท้ายกันที่อีแด…

*ในส่วนของฮงแดเราไปกันมาเกือบสองครั้ง แต่ลืมสนิท ลืมแบบจริงจัง ไม่ได้ถ่ายรูปกันเลย
แถวนั้นเดินเพลิน เจริญหูเจริญตามาก อปป้าดี๊ดีย์..หาได้เลยที่ฮงแด อมยิ้ม22

อีแดครั้งนี้..หมดไปหลายหมื่น(วอน)

ของกินคือมีตลอด

อีฮวา…แบบเบลอๆ

Line friend, 10*10 ร้านดัง รีวิวเพียบ

สตรอเบอรี่

ส่งท้ายกันร้านอาจุมม่าหน้าปากซอย#กินกันเทบทุกวันจริงๆร้านนี้
เหตุผลที่มากินร้านป้าบ่อยๆ เพราะอาหารสะอาด ร้านสะอาด ใกล้ที่พัก(มาก) อาหารอร่อย(สุดพลัง)ตามแบบฉบับดั้งเดิม

เมนูวันนี้ก็คล้ายๆกับทุกๆวัน ฮ่าๆๆๆ

ชัดๆ ซูมมมมมเข้าไป

Day 8
11 มีนาคม 2560
บ๊ายบาย…Kor Stay Insadong

ที่พักโดยรวมแล้วเต็ม 10 เราให้ 8 เพราะสะดวกในเรื่องของการเดินทาง ใกล้ร้านอาหาร ติดสถานีรถไฟ
และเชื่อมต่อสถานที่เที่ยวที่เราไปกันบ่อยๆด้วยวิธีเดินได้ แต่หักที่ห้องค่อนข้างเล็ก, และอาหารเช้าเป็นพวกขนมปัง
ซึ่งผิดจากที่เราคาดหวังไว้ว่าจะเป็นพวกอาหารต้นตำหรับ ซุปอะไรแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ แต่โดยรวมแล้วโอเคค่า ^^

วิธีการเดินทางไปสนามบินนั้น เราไปที่สถานี Seoul Station เพื่อจะนั่งรถไฟไปสนามบินเหมือนตอนที่เรามา
แต่ปรากฎว่าวันนี้ รถไฟสายที่ไปสนามบินอินชอนหยุดให้บริการ ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร? จะนั่งรีมูซีนก็กลัวไม่ทันเพราะคนรอเยอะมาก

พวกเราเลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่จาก Seoul Station ไปสนามบิน ค่าโดยสาร 52000won คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1560.-
เพราะฉะนั้นเราขอเตือนว่า จะช็อปหรือใช้จ่ายอะไร ถ้าไปกันเองแบบพวกเรา ให้เผื่อเงินไว้เหตุฉุกเฉินกันด้วยน๊า
ถึงสนามบินแล้วไปรอเช็คอินที่เคาว์เตอร์ Dกันเลยจ้า

ตอนเดินทางมาก็คิดว่าพอ…พอวันกลับไม่พอจ้า งอกกระเป๋าคนละใบ เชิดๆ 55555

อย่าลืม Tax Refund กันน๊า สำหรับใบเสร็จ 30000won ขึ้นไปน๊า ถึงจะขอคืนได้

สแกนตรงนี้ก่อน พอเข้าไปในเกทค่อยไปรับเงินที่ Gate no. 27 น๊า
ระหว่างรอเช็คอิน…อร่อยๆ

เคาวเตอร์เปิดแล้ว เช็คอินกันจ้า…น้ำหนักมาเกินตรงอีใบที่งอกมานั่นแหละ
ไม่ยอมจ่ายเงินก็ถือขึ้นเครื่องตามระเบียบ(โถ..กระเป๋าฉันก็ไฮโซซะด้วย) 55555

Gate 27 ขึ้นบันไดเลื่อนมา ยื่นใบเสร็จ รับเงินคืนได้เลย *พนักงานน่ารัก พูดภาษาไทยด้วย

ระหว่างรอเวลา…

ใจหายเหมือนกัน… เวลาผ่านไปไวมาก ไม่อยากกลับเลย #แอบมาม่า 5555555

บินแล้วววววว..

 หิวจ้าาาาา ซัดมาม่าตามระเบียบ
ประหลาดใจมาม่า 80.- น้ำ 60.- ประหลาดใจ

ท้ อ ง ฟ้ า เ ป ลี่ ย น สี
…ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางนะ เราเหนื่อยกันมากในแต่ละวัน ถามว่าเหนื่อยอะไร ไปเที่ยวนะ?
มันเหนื่อยจริงๆนะ การเดินทางกันเอง ต้องใช้แรงกาย แรงใจมากๆ…
“ทั้งอะไรที่แปลกใหม่ ต้องหาเส้นทางไปตามที่ต่างๆ สภาพอากาสที่ไม่คุ้นชิน”
เราเหนื่อย แต่พวกเราไม่เอ่ยปากพูดกันเลยว่าเหนื่อย เพราะมันจะยิ่งเหนื่อยคูณกันไปอีก

เราขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกระทู้ เที่ยวเกาหลี ด้วยตัวเอง กันแบบงงๆนี้จนจบหัวใจ
หัวใจขอบคุณข้อความหลังไมค์และข้อสงสัยหรือคำติชมที่ส่งเข้ามาด้วยน๊าหัวใจ
..แ ล้ ว พ บ กั น ใ ห ม่..