เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ เยือนแผ่นดินจีน สัมผัสธรรมชาติสวยสุดอลังการ ต้องไปที่ แชงกรีล่า (Shangri La) เมืองสวยแห่งเทือกเขาหิมาลัย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนาน เดิมมีชื่อว่า เมืองจงเตี้ยน (Zhongdian) อยู่ห่างจากเมืองลี่เจียง 200 กิโลเมตร ดินแดนในฝันของใครหลายคน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ มีภูเขาสูงโอบล้อม ส่วนตัวเมืองมีความเก่าแก่ ทั้งวัด ทะเลสาบ ภูเขา ได้กลิ่นอายความเป็นชนบท สถาปัตยกรรมงดงาม และยังเป็นดินแดนที่ตั้งอยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,160 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้เมืองแห่งนี้ไม่ต่างจากสวรรค์บนดิน มาเปิดตำนาน พร้อมชี้เป้า 9 ที่เที่ยวแชงกรีล่า ปักหมุกพิกัดไฮไลต์เด็ดต้องไป และแนะนำช่วงเวลาแต่ละฤดูกาล ช่วงไหนไปแล้วสวยที่สุด เก็บกระเป๋าให้พร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเลยยย
สภาพอากาศ แชงกรีล่า
แชงกรีล่า ประเทศจีน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละช่วงเวลาก็จะมีความสวยงามแตกต่างกัน โดยมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ตามนี้
– ฤดูใบไม้ผลิ : เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ 4 – 15 องศา เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยว แชงกรีล่า เพราะนอกจากอากาศจะสดใส หนาวเย็นกำลังดีแล้ว ยังเป็นช่วงที่ต้นไม้ ดอกไม้ ผลิดอกออกผล
– ฤดูร้อน : เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อุณหภูมิประมาณ 10 – 20 องศา อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป เป็นช่วงเวลาแห่งความชุ่มฉ่ำ เพราะมีปริมาณน้ำฝนมากที่สุด มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาพันธุ์
– ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนกันยายนถึงตุลาคม อุณหภูมิประมาณ 6 – 18 องศา อีกหนึ่งช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมาเยอะที่สุด เพื่อมาชมใบไม้เปลี่ยนสี ไล่เรียงเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ทุ่งหญ้า และสถานที่ต่างๆ ของเมือง สีสันสดใส เห็นแล้วสดชื่น ดีต่อใจมากๆ
– ฤดูหนาว : เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม อุณหภูมิประมาณ -9 ถึง 12 องศา อากาศแห้งและหนาวเย็นจนอุณหภูมิลดต่ำถึงขั้นติดลบ บรรยากาศทั่วทั้งพื้นที่ต่างปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน สวยงามไปอีกแบบ
สรุปแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยว แชงกรีล่า จะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ไปจนถึง เดือนตุลาคม อากาศไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ไม่ค่อยมีมรสุม ได้ชื่นชมทุ่งดอกไม้สวยๆ ที่บานสะพรั่ง มีทิวทัศน์ของภูเขาหิมะเป็นฉากหลัง เสริมให้บรรยากาศมีสีสันสดใส ลากยาวไปจนถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้บรรยากาศสวยงามโรแมนติกเป็นพิเศษยิ่งกว่าฤดูกาลไหนๆ
1. ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge)
เปิดทริปมาก็ตื่นตาตื่นใจไปความสวยงามที่แปลกประหลาดของธรรมชาติ เพราะ ช่องแคบเสือกระโจน เป็นช่องหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซี (Yangtze River) ในมณฑลยูนนาน ตั้งอยู่ระหว่างทางแยกของเมืองลี่เจียง และแชงกรีล่า ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO ด้วยความที่ช่องหุบเขานี้มีความยาว 15 กิโลเมตร ช่องแคบที่แคบที่สุดกว้างเพียง 30 เมตร ทำให้น้ำไหลเชี่ยวและลึกมาก แต่บรรยากาศโดยรอบสวยงาม ความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาเพื่อชมความงดงามนี้
ค่าเข้าชม : 65 หรือ 45 หยวน (ตามแต่ฤดูกาล)
เวลาทำการ : 09.00 – 16.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/SompA6KFUVBzRP1w7
2. ภูเขาหิมะสือข่า (Shika Snow Mountain)
อีกหนึ่งพิกัดไฮไลต์ ที่เที่ยวแชงกรีล่า ที่ไม่อยากให้พลาดจริงๆ กับ ภูเขาหิมะสือข่า หรือรู้จักกันดีในชื่อ “หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน” (Blue Moon Valley) หุบเขาที่มีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี และยังเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยกวางสีแดง สัญลักษณ์ของการมีอายุยืนและสันติภาพ เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่คนทิเบตนับถือเป็นอย่างมาก เชื่อว่าใครที่ได้พบเห็นกวางบนภูเขาแห่งนี้จะโชคดี และด้วยความที่เป็นยอดเขาสูง ทำให้นักท่องเที่ยวต้องนั่งกระเช้าขึ้นมาด้านบนเท่านั้น โดยตลอด 1 ชั่วโมง เราจะได้เห็นวิวสองข้างทางสวยสุดลูกหูลูกตา ชื่นชมธรรมชาติได้แบบเต็มตา ถ้ามาตอนเช้าจะได้สัมผัสกับหมอกเย็นๆ อีกด้วย พอถึงด้านบนยอดเขา ก็จะมีสะพานไม้ให้เดินได้โดยรอบ มีจุดสักการะบูชาของชาวทิเบตอยู่หลายจุด ที่สำคัญทุกจุดถ่ายรูปสวยหมด ถ่ายกันไปเพลินๆ ได้เลย
ค่าเข้าชม : 270 หยวน (รวมค่ากระเช้าไปกลับ)
เวลาทำการ : ทุกวัน 08.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/rUng3QFd3J6bvJfr8
3. วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery)
มาเที่ยว แชงกรีล่า ทั้งทีก็ต้องมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดซงจ้านหลิน แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง เป็นวัดนิกายลามะแบบทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี หลังคาสีทองอร่าม บริเวณรอบวิหารด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ สถาปัตยกรรมของวัดสร้างตามแบบพระราชวังโปตาลา (Potala Palace) ในเมืองลาซา (Lhasa) จึงได้ชื่อว่าพระราชวังโปตาลาน้อย ช่วงที่มีเทศกาลชาวทิเบตจะมีการเต้นระบำหน้ากาก และเป่าแตรงอน เพื่อรักษาวัฒนธรรมและประเพณีให้คงอยู่ ไฮไลต์เด็ดอยู่บริเวณหน้าวัด ตรงจุดทะเลสาบลาหมู่ยางชั่ว (Lamuyangcuo Lake) มุมมหาชนที่ต้องแวะถ่ายรูป จากมุมนี้จะได้ภาพวัดสะท้อนผืนน้ำ สวยงาม ดูมีมนต์ขลังไม่เหมือนที่ไหน
ค่าเข้าชม : 115 หยวน
เวลาทำการ : 08.00 – 18.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FLUFNuKfoZZMyJ8ZA
4. ทะเลสาบลาหมู่ยางชั่ว (Lamuyangcuo Lake)
ขยับมาไม่ไกลจากวัดซงจ้านหลิน เราจะได้ชมความสวยงามแบบใกล้ชิดของ ทะเลสาบลาหมู่ยางชั่ว หรือทะเลสาบจิตวิญญาณแห่งนางฟ้า ชาวทิเบตเชื่อว่าเป็นที่อาศัยของพระเจ้าสูงสุด มีจุดชมวิวแนะนำคือ Conggulong Village และจุดกึ่งกลางของทะเลสาบ สามารถมองเห็นวัดได้อย่างชัดเจน และถือเป็นจุดถ่ายรูปวัดที่ดีที่สุด นอกจากนี้รอบๆ ทะเลสาบยังมีทางเดินเป็นวงกลมระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ให้ได้เดินเล่นกันเพลินๆ ถ่ายรูปสวยๆ มีสะพานไม้ทอดยาวออกไป บรรยากาศเงียบสงบ เรียกได้ว่าดื่มด่ำกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์แบบเต็มปอดกันเลยทีเดียว
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FbS8tGXmeAx9dQR57
5. วัดกุยชาน (Guishan Temple)
ตามมากราบไหว้สิ่งศักดิ์ศิทธิ์กันต่อที่ วัดกุยชาน หรือคนไทยเรียกว่า “วัดต้าฝอ” วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของแชงกรีล่า บริเวณด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ ไฮไลต์ของวัดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “กงล้อยักษ์สีทอง” สูง 23 เมตร ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกงล้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนทิเบตนิยมมาหมุนเพื่อให้บทสวดดังไปถึงสวรรค์ พร้อมภาวนาขอพร นอกจากจะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ อีกด้วย ตอนกลางคืนมีการประดับไฟหลากสีสัน เพิ่มความสวยงามกว่าเดิมไปอีก เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวแชงกรีล่า ที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ
เวลาทำการ : 08.30 – 21.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/v8rM3A8Vb4taMpz5A
6. เมืองโบราณตู๋เค่อจง (Dukezong Ancient Town)
ถัดมาไม่ไกลจากวัด เราจะเห็น เมืองโบราณตู๋เค่อจง ย่านเมืองเก่าที่มีอายุยาวนานกว่า 1,300 ปี อีกทั้งยังมีความสำคัญมากๆ เพราะเคยเป็นเส้นทางขนส่งใบชาโบราณ (Ancient Tea Horse Road) เริ่มตั้งแต่เมืองคุนหมิง (Kunming) มาถึงแชงกรีล่า และยาวไปจนถึงอินเดีย เราจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวเมือง รวมถึงอาคารบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมโบราณไว้เป็นอย่างดี บริเวณด้านหน้าเมืองโบราณมีน้องหมาทิเบตและจามรีสีขาวที่สามารถมาถ่ายรูปได้ ย่านนี้เป็นเหมือนเป็นแหล่งพักใจของชาวเมือง และเหล่านักท่องเที่ยว เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่ระลึก รวมถึงที่พักต่างๆ ด้วย ถ้าใครหิวๆ อยากแวะหาของกินอร่อยๆ มาเดินเล่นแถวนี้รับรองอิ่มท้อง แถมได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเพียบแน่
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/n5xodMmoCXh1yZoc8
7. โค้งแรกแม่น้ำแยงซี (Chang Jiang Yi Wan Fan Dian)
ใครอยากมาชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ต้องมาที่ โค้งแรกแม่น้ำแยงซี เป็นจุดที่แม่น้ำแยงซีไหลมาจากที่ราบสูงทิเบต แล้วตกลงมากระทบกับภูเขาไห่หลอ ทำให้ทิศทางของแม่น้ำหักโค้งและไหลย้อนขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 180 องศา จนเกิดเป็นโค้งที่สวยงาม อีกทั้งจุดนี้ในอดีตเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ขบวนทัพของขงเบ้งและกุบไลข่านใช้ข้ามเพื่อไปทำศึก รวมถึงเหมาเจ๋อตงยังเคยใช้ที่นี่หลบหนีการล้อมปราบจากพวกก๊กมินตั๋งอีกด้วย ถือว่าเป็นโค้งน้ำที่สวยเด่นที่สุดของแยงซีเกียง ควรค่าแก่การมาเที่ยวมากๆ
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Pu41fouQC6NmCDyf6
8. ทุ่งกุหลาบพันปี (Xiaozhongdian Pasture)
ในระหว่างการเที่ยวจีนในเส้นทางลี่เจียงถึงแชงกรีล่า เราจะเห็น ทุ่งกุหลาบพันปี ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่เรื่อย ๆ ตลอดเส้นทาง ยิ่งถ้ามาช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม บอกได้เลยว่าสวยสะกด เพราะดอกไม้ป่าหลากหลายชนิด หลากหลายสายพันธุ์จะบานสะพรั่ง สีสันสวยงามเต็มท้องทุ่ง บางครั้งเราอาจได้เห็นเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ของทิเบตออกมาเดินเล่นรอบๆ รับรองได้ว่าแวะจอดถ่ายรูป ได้รูปสวยไปอวดเพื่อนในโซเชียลแน่นอน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/R98oqgFXXnyNM2fi9
9. ภูเขาหิมะฮาปา (Haba Snow Mountain)
ปิดท้ายทริปด้วยการเอาใจสายปีนเขา กับที่เที่ยวอย่าง ภูเขาหิมะฮาปา ภูเขาสำหรับนักปีนเขามือใหม่ที่อยากจะลองขึ้นเขาด้วยเส้นทางที่เต็มไปด้วยหิมะ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 5,396 เมตร ด้วยลักษณะรูปทรงของภูเขาที่ค่อนข้างลาดชัน ทำให้เอื้ออำนวยต่อการปีนเขามาก นักปีนเขาจึงมักเลือกที่นี่ให้เป็นประตูบานแรกในการปีนภูเขาหิมะ อีกทั้งขณะปีนยังมีไกด์ที่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว นอกจากความท้าทายของการปีนเขาแล้ว ยังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติทั้งป่าไม้ ทุ่งหญ้า น้ำตก และลำธารที่สวยงามตัดกับท้องฟ้าสีสดใส โดยเฉพาะถ้าได้ไปช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจะสวยที่สุด แถมมีดอกไม้บานให้ได้ชมระหว่างปีนเขา แนะนำสายผจญภัยเลยว่าต้องมา
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/XZ2sTonFqKTDQFs19
ด้วยความสวยงาม และวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของ แชงกรีล่า ทำให้ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต่างปักหมุดให้เป็นดินแดนในฝัน และต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะความสวยงามที่คิดไว้ อาจไม่สวยงามเท่ากับการที่เราได้ไปสัมผัสด้วยตาของตัวเอง