ลอง นั่งชินคันเซน เที่ยวเกียวโต ชมซากุระและฟูจิ กันเถอะ!
“แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน”
เพราะฉะนั้นหากใครที่คิดอยู่เสมอว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศและชมความงามของซากุระและฟูจิในเกียวโตแน่ๆ ก็ลองเปลี่ยนความคิดกันดูนะคะ เพราะการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ทำให้เราผิดหวังกันแน่ๆ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมเกียวโต ซากุระและภูเขาฟูจิด้วยการ นั่งชินคันเซน กันค่ะ รับรองเลยว่าให้บรรยากาศฟินๆ สุดโรแมนติกในแบบที่จะหาจากที่ไหนไม่ได้แน่นอน
แนะนำการเดินทางด้วยการ นั่งชินคันเซน
สำหรับ ชินคันเซน นั้น จริงๆ แล้วก็คือรถไฟความเร็วสูงนี่แหละค่ะ ถ้าเราเดินทางโดย นั่งชินคันเซน กันไป ก็จะประหยัดเวลาได้มากเลย เพราะจะใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าการขึ้นรถไฟฟ้าบนดินหรือใต้ดินหลายเท่า เราจึงสามารถนั่งมาเที่ยวโตเกียว ชมซากุระ และภูเขาไฟฟูจิกันได้อย่างสบายๆ
โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หลังจากลงเครื่องที่สนามบินนาริตะแล้ว สามารถ นั่งชินคันเซน ตรงเข้าโตเกียวได้เลย แล้วค่อยนั่งต่อไปเกียวโต หรือ ชินโอซาก้า โดยประเภทของรถไฟให้เลือกหลักๆ ดังนี้
1.) ชินคันเซนสายฮิคาริ จะใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไปเกียวโตในเวลาแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 21,400 เยน จะจอดแค่บางสถานีที่กำหนดไว้ รวมถึงมีสถานีที่จอดตรงกับสายโนโซมิด้วย
2.) ชินคันเซนสายโนโซมิ เป็นรถไฟสายความเร็วสูงสุด ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึง ราคาเริ่มต้น 25,700 เยน
3.) ชินคันเซนสายโคดามะ จะเป็นสายที่ค่อนข้างช้าที่สุดกว่าจะถึงเกียวโต เพราะจอดทุกสถานี
การระบุที่นั่ง จะมีในรถไฟชินคันเซน 2 ประเภทด้วยกัน คือ
1.) แบบที่ทุกคนจะต้องจองที่นั่งเข้ามา ซึ่งจะเป็นตั๋วนั่งทั้งหมด จะมีตั๋วยืนเฉพาะกรณีที่ที่นั่งเต็มแล้วเท่านั้น
2.) แบบที่ต้องจองหรือไม่ต้องจองเข้ามาก็ได้ แต่ถ้าซื้อตั๋วแบบจองจะต้องระบุเลขที่นั่งด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถขึ้นรถไฟได้
การซื้อตั๋วโดยสาร
1. ไปที่เครื่องขายตั๋ว เลือกหมวด “English” กันก่อนนะคะ จะได้อ่านแต่ละปุ่มได้รู้เรื่อง
2. เลือกประเภทว่าจะซื้อแบบระบุที่นั่ง หรือไม่ระบุที่นั่ง แต่ถ้าจองล่วงหน้ามาแล้ว ให้กด “รับบัตรโดยสาร” ได้เลย
3. เลือกประเภทบัตรโดยสารที่ต้องการ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นรถไฟชินคันเซนเท่านั้น แบบที่เป็นรถไฟด่วนพิเศษ หรือแบบที่สามารถใช้ได้กับทั้งสองสาย
4. เลือกเส้นทางรถไฟที่ต้องการ
5. เลือกสถานีที่เราจะขึ้น
6. เลือกสถานีจุดหมายที่เราต้องการจะไป
7. เลือกวันที่จะนั่ง (เนื่องจากสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ แต่ต้องไม่เกิน 1 เดือน)
8. เลือกจำนวนตั๋วที่ต้องการ เช่น 2 ใบ 3 ใบ และเลือกด้วยว่า เป็นตั๋วเด็กหรือผู้ใหญ่
9. สามารถเลือกได้เลยนะคะ ว่าจะซื้อแค่ตั๋วชินคันเซนหรือจะซื้อตั๋วสำหรับขึ้นรถไฟธรรมดาไปด้วยพร้อมๆ กัน
10. เลือกว่าต้องการซื้อแบบไปขาเดียว หรือทั้งไปทั้งกลับ
11. กดยืนยัน
12. เมื่อเข้าสู่หน้าชำระเงิน ก็เลือกจ่ายได้เลยค่ะ ว่าจะจ่ายด้วยเงินสด บัตร IC Card หรือบัตรเครดิตก็ได้
13. เมื่อชำระเสร็จแล้ว สามารถเลือกต่อได้ด้วยนะคะ ว่าต้องการใบเสร็จด้วยหรือไม่
14. รับบัตรโดยสาร
แค่นี้ก็ใช้บริการชินคันเซน เที่ยวสนุกๆ กันได้อย่างสบายแล้วล่ะค่ะ จากนั้นค่อยต่อรถไฟฟ้า JR หรือ MRT ไปเที่ยวฟินๆ ที่อื่นกันต่อ หรือจะ นั่งชินคันเซน ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ และใช้นั่งไปจุดชมวิวอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มัชรูมทราเวลจัดมาให้แล้วค่ะ ตามไปดูกันเลยดีกว่า !!
เกียวโต
1.วัดคิโยมิสึ
สำหรับวัดนี้ตั้งอยู่ที่เกียวโตเลยค่ะ มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า วัดน้ำใส เพราะมีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไหลผ่าน แถมยังเป็นวัดเก่าแก่ที่มีจุดชมวิวสวยมากๆ ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยค่ะ ที่วัดแห่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมากันแทบทุกปี
เวลา เปิด-ปิด : 6:00-18:00
ระดับความน่าไป : ✰✰✰✰✰
วิธีการเดินทาง : หลังจาก นั่งชินคันเซน มาถึงเกียวโตแล้ว ก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
แผนที่ :
2.ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
หรือที่เรียกกันว่า ศาลเจ้าจิ้งจอกนั่นเองค่ะ แถมที่นี่ยังถือเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่คนให้ความเคารพบูชากันมาก และมีความเก่าแก่สุดๆ อีกด้วย ส่วนไฮไลต์ของที่นี่ ที่โดดเด่นที่สุด ก็คือเสาประตูสีแดงหลายหมื่นต้นที่เรียงรายกันตลอดทางเดินทั่วเขาอินาริเลยทีเดียว
เวลา เปิด-ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
ระดับความน่าไป : ✰✰✰✰
วิธีการเดินทาง : ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานี Inari เลยค่ะ สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีนี้ได้เลย
แผนที่ :
โอซาก้า
1.หุบเขาโอวาคุดานิ
หุบเขาที่มีบ่อน้ำแร่ยอดฮิตพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ตัดกับธรรมชาติโดยรอบได้อย่างสวยงาม แถมน้ำพุร้อนที่นี่ยังเป็นน้ำพุที่มีธาตุกำมะถันเจือปนอยู่ ทำให้เปลือกไข่ที่คนนำมาต้มกลายเป็นสีดำ จนกลายเป็นความเชื่อที่ว่า ถ้าได้กินไข่ดำ 1 ลูก อายุจะยืนขึ้นถึง 7 ปี
เวลา เปิด-ปิด : 8:30-17:00
ระดับความน่าไป : ✰✰✰✰
วิธีการเดินทาง : หลังลงชินคันเซน ก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี โอวาคุดานิ แล้วเดินต่ออีก 5 นาทีก็ถึง
แผนที่ :
2.อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่
ถือเป็นอุทยาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวและธรรมชาติโดยรอบที่สวยงามมาก เพราะมีทั้งต้นไม้ล้อมรอบและทะเลสาบอะชิขนาบข้าง ตัดกับวิวของภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ดังนั้น ใครที่อยากจะเก็บภาพสวยๆ กลับไปล่ะก็ พลาดที่นี่ไม่ได้เลยนะคะ
เวลา เปิด-ปิด : 8:00-17:00
ระดับความน่าไป : ✰✰✰✰✰
วิธีการเดินทาง : อยู่ห่างจากโตเกียวไม่ถึง 100 กิโลเมตร สามารถ นั่งชินคันเซน แล้วต่อรถไฟฟ้า ก็มาถึงได้เลย
แผนที่ :
ฟูจิ
1.ภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของญี่ปุ่นเลยจริงไหมคะ มาเที่ยวกันทั้งที ยังไงก็ต้องได้ชมความสวยงามกันดูสักครั้ง ส่วนจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิได้ ก็มีหลายแห่งเลยล่ะค่ะ ใครชอบตรงไหนก็จัดเต็มกันได้เลย
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ระดับความน่าไป : ✰✰✰✰✰
วิธีการเดินทาง : สามารถ นั่งชินคันเซน ชมวิวฟูจิ หรือจะนั่งไปลงยังจุดชมวิวอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
แผนที่ :
2. ชมซากุระ
จริงๆ แล้ว แค่วิวซากุระ ก็สวยสุดๆ กันอยู่แล้ว จริงไหมคะ? แต่ถ้ามีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังด้วย รับรองว่าต้องฟินสุดๆ แน่นอน ซึ่งจะชมวิวแบบนี้ก็มีหลายที่เลยค่ะ เช่น แถวทะเลสาบคาวากุจิโกะ หรือเจดีย์วูเรโตะ ก็มีจุดชมวิวสวยๆ แบบนี้เช่นกัน
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ระดับความน่าไป : ✰✰✰✰✰
วิธีการเดินทาง : สำหรับจุดชมวิวที่คาวากุจิโกะ สามารถนั่งรถมาลงที่สถานีคาวากุจิโกะโดยตรงได้เลย แล้วค่อยต่อรถบัสไปที่จุดชมวิวอีกประมาณ 25 นาทีก็ถึง
แผนที่ :
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับที่เที่ยวน่าสนใจ ที่สามารถใช้บริการชินคันเซนมาเที่ยวกันได้ง่ายๆ แถมยังถึงเร็วทันใจอีกด้วย รับรองว่าได้สนุกสนานถูกใจแน่นอน แต่ถ้าใครที่ไม่สะดวกกับการเดินทางด้วยตัวเอง เพราะกลัวหลงแล้วล่ะก็ มัชรูมทราเวลก็มีโปรแกรมทัวร์สุดสนุก ในราคาสุดคุ้ม ที่จะพาคุณ นั่งชินคันเซนอย่างประทับใจมาฝากเช่นกัน คลิกเข้ามากันได้เลย! ที่ >> www.mushroomtravel.com
บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง
