@MushroomTravel
หากพูดถึง “เกม” หลายคนๆ อาจมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไหร่ แต่ใครจะรู้บ้างว่า เกมสมัยก่อนที่สร้างกันขึ้นมา ล้วนแต่ไม่ใช่เกมที่เล่นเพื่อความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเกมที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาสมองและการหยั่งเชิงของฝ่ายตรงข้าม อย่างเช่น กระดานหมากรุกของญี่ปุ่น หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “โชงิ” (Shogi) นั่นเอง
หมากรุกญี่ปุ่น หรือ โชงิ เป็นเกมกระดานของญี่ปุ่นที่มีกระดานและวิธีการเล่นที่แปลกและแหวกออกไปจากชาติอื่นๆ ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น กฎการเล่นที่ไม่ได้อิงกับความเป็นสากล แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หรือ กระดานโชงิที่เล่นบนกระดานแบบ 9×9 โดยที่กระดานหมากรุกสากลเล่นกันแบบ 8×8 รวมไปถึง ตัวหมากมีลักษณธเป็น 5 เหลี่ยม ซึ่งทั่วไปแล้วจะมีลักษณะกลมๆ แบนๆ นอกจากนี้หมากในเกมยังไม่มีการทำสีหรือลักษณะของทั้ง 2 ฝ่ายให้แตกต่างกัน นั่นเพราะ เมื่อเรากินหมากของคู่ต่อสู้แล้ว หมากนั้นจะเป็นของเราทันที และเราสารมารถนำหมากที่กินมานั้นใช้ลงเล่นแทนเสมือนเป็นหมากของเรามาตั้งแต่ชาติปางก่อนเลยก็ได้ พูดง่ายๆ ก็คือ หมากแปรพรรค นั่นเอง
เมื่อพูดถึงความนิยมของ โชงิ หรือ หมากรุกญี่ปุ่น และความเป็นญี่ปุ๊น…ญี่ปุ่น ผสมผสานกัน ก็คงหนีไม่พ้น การ์ตูนญี่ปุ่น เรียกได้ว่า การ์ตูนญี่ปุ่น ก็เป็นผลงานขึ้นชื่อของญี่ปุ่นและคนรู้จักไปทั่วโลกเช่นกัน ดังนั้น เมื่อการ์ตูนญี่ปุ่นมาฟีเจอร์ริ่งกับการต่อสู้กันในเกมโชงิรับรองได้เลยว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องดุเดือดเลือดพล่าน พร้อมการสู้รบกันทั้งไหวพริบปฏิภาณและเกมจิตวิทยาที่จะใช้หลอกล่อคู่ต่อสู้ให้หลงกลกับท่าที แววตา และสีหน้าที่สื่ออกมาให้เชื่อว่าเราจะเดินเกมอย่างไร อาทิเช่น การ์ตูนเรื่อง Mononofu, Ayumu no Koma, Killing Pawn ฯลฯ รวมไปถึงการ์ตูนสุดยอดการแข่งโชงิ ที่มีทั้งความตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปตลอดเวลา กับการ์ตูนเรื่อง March Comes in Like a Lion หรือ ตราบวันฟ้าใส ซึ่งเป็นการ์ตูนที่สามารถคว้ารางวัล Tezuka Osamu Cultural Prize เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมากสำหรับชาวอาทิตย์อุทัย เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จและมีคนติดตามเป็นจำนวนมากกกันเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่า การ์ตูนและเกมโชงิ มารวมกันจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสร้างผลงานได้ขนาดนี้
และแน่นอนว่า เมื่อ โชงิ หรือ กระดานหมากรุกญี่ปุ่นเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามขนาดนี้ ย่อมต้องมีเมืองที่ผลิตเกมหมากรุกญี่ปุ่นนี่โดยเฉพาะ นั่นคือ เมืองเทนโด (Tendo) จังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ภูมิภาคโทโฮกุ และเป็นจังหวัดที่ถูกปิดล้อมด้วยภูเขา ซึ่งจังหวัดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องผลไม้ส่งออก บ่อน้ำพุร้อน และหมากรุกญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า “โชงิ” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า เมืองเทนโด เป็นแหล่งผลิตชั้นดี กว่า 90% ของเกมโชงิ คือทำมาจากเมืองเทนโด ซึ่งเริ่มมีมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ
หมากรุกญี่ปุ่น หรือ โชงิ โด่งดังและเป็นที่นิยมถึงขนาดเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลชมดอกซากุระบานเลยทีเดียว ทุกเดือนเมษายน สำหรับเมืองเทนโดจะมีเทศกาล Ningen Shogi หรือ หมากรุก มนุษย์ เหตุผลที่จัดงานนี้ขึ้นเพื่อระลึกถึงประวัติศาสตร์หมากรุกญี่ปุ่นที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ในสมัยเอโดะ และท่านโชกุน และเทศกาลหมากรุกมนุษย์คือ การแต่งองค์ทรงเครื่องกับตัวมนุษย์ให้มีความหมายเหมือนหมากในเกมโชงิในสมัยเอโดะ อาทิ ราชา, ขุนพล, องครักษ์ ฯลฯ และใช้มนุษย์สำหรับเดินและเล่นเกมหมากรุกญี่ปุ่นจริงๆ ซึ่งเทศกาล Ningen Shogi หรือ หมากรุกมนุษย์ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลเฉลิมฉลองดอกซากุระบานที่เรียกว่า “Tendo Sakura Matsuri” นั่นเอง นอกจากนี้ภายในงานเทศกาลหมากรุกมนุษย์ที่เมืองเทนโด ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถลองเพ้นท์หมากโชงิเองได้อีกด้วย
ใครจะไปคิดว่า เกมหมากรุกญี่ปุ่น หรือ โชงิ จะมีทั้งความเป็นมาที่ยาวนานและความสำคัญสำหรับเมืองเทนโด จังหวัดยะมะงะตะ ได้ขนาดนี้ ทั้งยังเป็นงานที่สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และทำให้คนทั่วไปได้เห็นความสำคัญและคุณค่าของเมืองกลางเกาะ อย่างเมืองเทนโดนี่เอง ทั้งเกมโชงิ ยังเป็นเกมที่ใช้ความคิด ไหวพริบ ในการเดินหมากแต่ละตัวอย่างไร เพราะเมื่อเดินพลาดแล้ว มันไม่สามารถย้อนกกลับมาแก้ไขอะไรได้ และยังต้องใช้กึ๋นในการเดินเพื่อที่จะเดินแบบไม่ให้คู่ต่อสู้รู้ตัวว่าเราวางแผนการรบไว้อย่างไร เกมทุกเกม…ถ้าเรารู้จักเล่น เกมนั้นมีแต่จะพาเราพัฒนาสมองไปให้รู้จักคิดและวางแผนมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ เล่นให้เป็น