ทริปญี่ปุ่นนี้ สายช้อปพร้อมลุย! พี่เห็ดจะพาไปเก็บข้อมูลแหล่งช้อปปิ้งในโอซาก้า อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสุดฮิต คนชอบ ช้อปปิ้ง ญี่ปุ่น ต้องไม่พลาด โอซาก้าเป็นศูนย์กลางแห่งสีสันและความคึกคักในภูมิภาคคันไซ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่สิ่งที่น่าสนใจ ทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้าแฟชั่น และของฝากอีกเพียบ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไปลุย 10 แหล่ง ช้อปปิ้ง โอซาก้า เด็ดๆ มีทั้งย่านดังและห้างใหญ่ ช้อปให้กระหน่ำ จัดให้คุ้ม พร้อมเคล็ดลับที่สายช้อปต้องถูกใจ เซฟเงินได้อีกเยอะ ตามไปดูกันเลย
1. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ใครที่มา ช้อปปิ้ง โอซาก้า สถานที่แรกที่ต้องแวะ คงหนีไม่พ้น ย่านโดทงโบริ ถนนเส้นหลักใจกลางเมือง เป็นถนนที่ยาวเลียบคลอง สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ.1612 โดยการขุดคลองเพื่อเชื่อมต่อกับแม่น้ำในสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นย่านการค้าที่สำคัญมาก เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว และเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย ที่สำคัญห้ามพลาดแลนด์มาร์กเด่นอย่าง ป้ายกูลิโกะ รูปนักวิ่งชายกำลังชูมือ สัญลักษณ์สำคัญของเมืองโอซาก้า ทำให้นักท่องเที่ยวต่างแวะมาถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก เช็กอินเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันถ้วนหน้า
การเดินทาง : นั่งรถไฟลง สถานีนัมบะ (Namba Station) ทางออก 14 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/YC3Gva4HzqoZAXWCA
2. ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi)
ติดกับย่านโดทงโบริจะเป็น ย่านชินไซบาชิ ถนนช้อปปิ้งแสนคึกคักที่ทอดยาวเป็นระยะทาง 600 เมตร ตลอดทางเราก็จะเห็นร้านรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น, แบรนด์ชั้นนำ, เครื่องสำอาง, ของกิน, ของฝาก, ร้านแบรนด์เนมมือสอง, ร้านปลอดภาษี (Duty Free), ร้านขายยา ไปจนถึง Game Center ที่มีตู้คีบตุ๊กตาและกาชาปองให้หมุนสุ่มกันสนุกๆ แถมยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุด ช้อปปิ้ง โอซาก้า ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้สะดวกสุดๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ รับรองว่าใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันทั้งคืนเลยแหละ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายใต้ดินสาย Midosuji Line หรือ สาย Nagahoritsurumiryokuchi Line ลงสถานีชินไซบาชิ (Shinsaibashi Station)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/sSqUfm9JXYui5tKe6
3. ย่านเอบิสุบาชิ (Ebisubashi)
ยังคงวนเวียนอยู่แถวๆ นี้ เชื่อมต่อจากย่านโดทงโบริและอยู่ตรงข้ามชินไซบาชิ จะมีทางเดินยาวที่เรียกว่า ย่านเอบิสุบาชิ ตั้งอยู่ด้านหน้าของสถานีรถไฟนัมบะ (Namba) เส้นช้อปปิ้งอีกแห่งในโอซาก้า ถึงแม้ถนนสายนี้จะมีทางยาวเพียง 350 เมตร จากสะพานเอบิสุบาชิไปจนถึงห้างสรรพสินค้าทาคาชิมาย่า (Takashimaya) แต่อัดแน่นไปด้วยร้านค้ามากมาย ถือเป็นขุมทรัพย์ของแฟชั่นทุกเพศทุกวัย เน้นไปที่สินค้ากลุ่มแฟชั่นต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า หมวก กระเป๋า หรือเครื่องสำอาง ถ้าเดินเหนื่อยๆ ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ หรือสตรีทฟู้ด รวมไปถึงโรงหนังและศูนย์รวมความบันเทิงอื่นๆ อีกด้วย ถ้าใครชอบสินค้าแฟชั่นในราคาย่อมเยา ถนนสายนี้ตอบโจทย์สุดๆ
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานีนัมบะ (Namba) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 4 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/7RSKb48tU3y4pi8U9
4. Orange Street
ลัดเลาะเดินกันไปอีกนิดจะเจอกับ Orange Street หรือคนญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อ Tachibana Dori ถนนสายครีเอทสุดฮิปใจกลางโอซาก้า ความยาวประมาณ 800 เมตร แหล่งรวมแฟชั่นและร้านฮิปๆ ตั้งอยู่ระหว่างย่านนัมบะ (Namba) กับชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ใครชอบเสื้อผ้าวินเทจ เสื้อผ้ามือสองสไตล์ญี่ปุ่นต้องมา! เดิมเป็นย่านขายของเก่าและเฟอร์นิเจอร์มาตั้งแต่ปลาย ค.ศ.1800 เนื่องในวิกฤตเศรษฐกิจของญี่ปุ่นทำให้ซบเซาลงไป แต่ภายหลังได้มีการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จนกลายเป็นถนนแฟชั่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ตลอดทางเดินทอดยาวประมาณ 800 เมตร เราจะเห็นร้านเสื้อผ้า กาแฟ อาหาร รวมไปถึงร้านขายของตกแต่งบ้าน เป็นถนนดีมีรสนิยม เปรี้ยว เท่สมชื่อจริงๆ
การเดินทาง : นั่งรถไฟลง สถานียตสึบาชิ (Yotsubashi Station) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/JT9j3DgcHK7muhY97
5. หมู่บ้านอเมริกา (Amerika-Mura)
ใครเป็นวัยรุ่นเอเชียแต่หัวใจเมกันต้องมาย่านนี้ หมู่บ้านอเมริกา หรือชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดีในชื่อ Amerika-mura ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 เปิดขายเสื้อผ้าวินเทจ สินค้าแบรนด์เนม และสินค้ามือสองอื่นๆ จากฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา จนเป็นที่มาของชื่อในย่านนี้ ด้วยความที่สินค้าต่างๆ ค่อนข้างมีราคาถูกและมีความหลากหลาย ทำให้ย่านนี้กลายเป็นย่านที่ได้รับความนิยมและขึ้นชื่ออย่างมากในหมู่วัยรุ่นหนุ่มสาว และหมู่นักช้อปที่มองหาสินค้าแฟชั่นอินเทรนด์ แถมในช่วงค่ำคืนย่านนี้ก็คึกคักไม่แพ้กัน เพราะเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่มีทั้งคลับ บาร์สไตล์อเมริกันไว้ให้บริการ
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Shinsaibashi Station หรือสถานี Yotsubashi Station จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/31Qk8LycbrCoYdoY9
6. ย่านอูเมดะ (Umeda)
ไปลุยกันต่อกับย่านดังที่คอเกมและขาช้อปห้ามพลาด ย่านอูเมดะ ย่านธุรกิจที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจคันไซ และถือเป็นย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยที่นี่มีห้างสรรพสินค้ามากถึง 6 แห่ง รวมร้านค้าต่างๆ ทุกอย่างที่มีไว้ในที่เดียว ทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงของจิปาถะต่างๆ เดินช้อปกันให้จุใจไปเลย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านเกมจากค่ายดังๆ เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น CAPCOM, Nintendo หรือ Pokemon ก็มีให้เลือกเดิน เท่านั้นยังไม่พอ ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายจุด บอกได้เลยว่าย่านนี้บรรยากาศคึกคักตั้งแต่เช้ายันดึกเลยค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Osaka Umeda ใช้เวลาประมาณ 4 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/ThtYDpLRqeXffBqY7
7. เดนเดนทาวน์ (Den Den Town)
ยังคงอยู่ในแหล่ง ช้อปปิ้ง ญี่ปุ่น ที่ฮอตฮิตสุดๆ Den Den Town หรือ ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยกันดีในชื่อ นิปปงบาชิ (Nipponbashi) แหล่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า รวมร้านค้ากว่า 300 ร้านไว้ด้วยกัน แถมคุณภาพดี ราคาไม่แรง นอกจากนี้ยังมีร้านขายของเก่า ของมือสอง และเป็นแหล่งรวมร้านของเล่น โมเดล เกม มังงะ และอนิเมะ อีกด้วย ใครอยากตามหาแรร์ไอเท็มที่หาไม่ได้จากที่ไหนลองมาหาที่นี่ได้เลย แถมบางทีอาจราคาถูกกว่าด้วย สายสะสมต้องไม่พลาด
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Osaka Metro Sakaisuji Line ลงสถานี Ebisucho Station จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที หรือ นั่งรถไฟสาย Kintetsu Line, Sennichimae Line ลงสถานี Nipponbashi Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/as6hYdVNQvPU3knP9
8. ย่านชินเซไก (Shinsekai)
เดินลงมาทางทิศใต้ของเดนเดนทาวน์จะพบกับ ย่านชินเซไก ยกให้เป็นย่านในโอซาก้าที่โดดเด่นมากในเรื่องของอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ราคาย่อมเยา มีให้เลือกกินเยอะมาก แถมบรรยากาศของย่านนี้มีความเก่าแก่ ให้ฟีลญี่ปุ่นย้อนยุคสุดๆ เหมาะแก่การเดินเล่น เดินดูสินค้าท้องถิ่นราคาถูกเพลินๆ ไม่เน้นสินค้าแบรนด์เนม หรือเน้นแฟชั่นเหมือนย่านอื่น ยิ่งตกดึกบรรยากาศยิ่งคึกคัก มีร้านเกมยิงเป้าฟีลงานวัดบ้านเราให้เล่นสนุกๆ อีกด้วย มาย่านนี้ห้ามพลาดแวะถ่ายรูปกับ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเลยก็ว่าได้ หรือใครจะซื้อบัตรขึ้นไปชมวิวด้านบนก็ได้จ้า
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji ลงสถานี Ebisucho ทางออก 3 ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที หรือ นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Shin Imamiya ทางออก East และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/WDDsSzPu4ZXX5i329
9. ห้างสรรพสินค้าเทนโนจิ มิโอะ (Tennoji MIO)
ตามไป ช้อปปิ้ง โอซาก้า กันต่อ จากย่านชินเซไกเดินลงมาเรื่อยๆ เราจะพบกับ ห้างสรรพสินค้า Tennoji MIO ตั้งอยู่ในย่านเทนโนจิ (Tennoji) เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อีกแห่งของเมือง เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ JR Tennoji ทำให้ผู้คนนิยมมาเดินช้อปปิ้งกันอย่างไม่ขาดสาย อัดแน่นไปด้วยร้านค้ากว่า 380 ร้าน มีทั้งสินค้าแบรนด์ดัง แฟชั่น เครื่องสำอาง ร้านอาหาร หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวบรวมไว้ให้ขาช้อปเลือกกันแบบจุใจ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Tennoji
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/2BsvkrchzNSJNTUw8
10. ริงคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (Rinku Premium Outlet)
พิกัด ช้อปปิ้ง โอซาก้า ที่สุดท้าย ขอเอาใจสายช้อปแบบเพียวๆ ด้วย Rinku Premium Outlet เอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดในโซนตะวันตก บรรยากาศเหมือนท่าเรือตอนใต้ของอเมริกา ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสนามบินนานาชาติคันไซเลย ฉะนั้นถ้าจะช้อปก่อนกลับไทยแบบจัดเต็มเลยก็เหมาะสุดๆ แต่อยากให้เผื่อเวลาเดินไว้หน่อย เพราะที่นี่ใหญ่มาก ต้องใช้เวลาในการเดินพอสมควรเลย มีร้านค้ารวมกันกว่า 200 ร้าน ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าสำหรับเด็ก มีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นที่ลดราคากันจุกๆ หรือแบรนด์สัญชาติอื่นๆ ก็มีลดกันกระหน่ำเช่นกัน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Hanwa Line ลงสถานี Rinku-Town Station จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 6 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/bid96vV7DiVAu4fp7
5 เคล็ดลับ ช้อปปิ้ง ญี่ปุ่น
ถ้าเพื่อนๆ อยากช้อปปิ้งให้สนุก แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าให้ทำตามนี้ รับรองว่าประหยัดทั้งเงินและเวลาอย่างแน่นอน
1. เลือกร้าน Tax free : สำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่จะได้สิทธิ์นี้ แต่ต้องซื้อครบจำนวนเงินที่ระบุไว้ ขั้นต่ำประมาณ 5,000 เยน ก็จะสามารถได้คืนภาษี 10% เท่านี้เพื่อนๆ ก็ได้เงินคืนไว้ไปช้อปปิ้งที่อื่นต่อแล้วล่ะ
2. ไปแต่เช้า : ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาช้อปปิ้งไปกับการเข้าแถวนานๆ พี่เห็ดแนะนำให้ไปแต่เช้าเลย โดยเฉพาะร้านที่มีชื่อเสียง อาจมีลูกค้ารอต่อคิวยาวเหยียด
3. ซื้อเสื้อผ้าช่วงเปลี่ยนฤดูกาล : หากซื้อเสื้อผ้าลดราคาในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล สินค้าอาจลดราคาสูงถึง 30 – 50% หรือบางครั้งอาจลดถึง 70% เลยทีเดียว เพราะถึงเวลาต้องเปลี่ยนคอลเลคชั่นแล้ว โดยฤดูกาลลดราคาของญี่ปุ่นจะมีปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงฤดูร้อน และฤดูหนาว
4. อย่ากลัวที่จะถาม : ส่วนมากร้านค้าในญี่ปุ่นพนักงานจะไม่ค่อยเข้ามายุ่งวุ่นวายตอนที่เราเดินเลือกซื้อของ ถ้าเรามีข้อสงสัยหรือหาสินค้าไม่เจอให้เดินเข้าไปถามได้เลยทันที แต่อาจต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจด้วยนะ ทางที่ดีเซฟรูปสินค้าที่จะซื้อเก็บไว้ แล้วก็โชว์ให้เค้าดูเลยค่ะ
5. ซื้อของลดราคาตอนซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ปิด : หลายคนอาจทำบ่อยๆ เพราะซูเปอร์ฯ ส่วนใหญ่จะลดราคาของที่อยากขายให้หมดในวันนั้นประมาณ 30 – 50% ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนร้านปิด อย่างเช่น พวกอาหารที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน ฉะนั้นถ้าใครอยากกินมื้อดึก หรือเก็บไว้กินเป็นมื้อเช้าก็จัดไปเลยค่ะ
สำหรับใครที่มีแพลนไป ทัวร์ญี่ปุ่น ที่เมืองโอซาก้า พี่เห็ดได้รวมพิกัดช้อปปิ้งมาให้แบบจัดหนักจัดเต็มพร้อมชี้เป้าขนาดนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะถูกใจกันนะคะ ไปช้อปปิ้ง ที่โอซาก้ารอบนี้ รับรองได้ของครบ เตรียมเงินไว้ให้ดี จดลงลิสต์ไว้ให้พร้อม แล้วไปช้อปให้หนำใจเลย