เมื่อไม่นานมานี้ ผมเปิดดูทีวี ได้ข่าวว่า เพื่อนบ้านอาเซียนของเรา อย่างประเทศสิงคโปร์ ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีการพัฒนาก้าวล้ำนำสมัยแซงหน้าหลายประเทศไปแล้ววว OMG! เรียกได้ว่าเป็นประเทศนักพัฒนาตัวจริงเสียงจริงเลยนะครับ สังเกตจากงานอีเวนท์ที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาคนในชาติอย่างมากมาย ทั้งอีเว้นท์ทางการศึกษา เทคโนโลยี ที่มีแบบไม่เว้น แต่ละงานก็มุ่งเน้นต่อการพัฒนาคน พัฒนาชาติทั้งน้านนน ยอดเยี่ยมจริงๆ ส่วนวันนี้ผมก็มีงานอีเว้นท์ของสิงคโปร์มาฝากกันด้วย ไม่ใช่งานเทคโนโลยี ไม่ใช่งานวิชาการ แต่มันคือเทศกาลอาหาร Singapore Food Festival ซึ่งก็ถือว่าเป็นการพัฒนาชาติทางหนึ่งด้วยนะ เพราะมันสามารถดึงดูดคนจากทั่วโลกให้หลั่งไหลมาร่วมงานนับแสนคนเลยทีเดียว พูดเลยว่าสายกินต้องห้ามพลาดกับงานสำคัญครั้งนี้!! Singapore Food Festival (SFF) เทศกาลอาหารสำหรับคนชอบกิน !
เทศกาลที่ยิ่งใหญ่และขึ้นชื่อที่สุดของสิงคโปร์ รวบรวมเมนูอาหารกว่าพันชนิด จากหลากเชื้อชาติ ทั้ง จีน มาเลย์ แขก อาหารตะวันออก อาหารตะวันตก ฯลฯ ที่ยกขบวนความอร่อยมาให้เลือกมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน โดยงานนี้จะถูกจัดขึ้นในทุกย่อมหญ้าของสิงคโปร์เลย ลองคิดดูนะครับว่าทั่วทั้งเกาะสิงคโปร์เต็มไปด้วยอาหาร มองไปทางไหนก็เจอ อยากกินอะไรก็กิน นี่มันเกาะสวรรค์ชัดๆ และงานเลี้ยงฉลองที่แสนยิ่งใหญ่นี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนกรกฎาคม
ห้ะ!! งานจัดเดือนกรกฎาคมหรอ? งั้นก็เดือนนี้แล้วซินะ เอ้า! จะชักช้าอยู่ใยล่ะครับ ไปดูกันดีกว่าา
“Savour the Past, Taste the Future.” “สัมผัสรสชาติอดีต ลิ้มรสชาติอนาคต” นี้คือธีมของปีนี้ ที่ผมแค่ฟังชื่อก็อยากจะไปใจจะขาดอยู่แล้วว ซึ่งงานนี้จะเป็นเทศกาลที่รวมเอาอาหารอร่อยทั้งจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต หลากรสหลากสไตล์ มารวมไว้ให้เลือกสรร ลิ้มลอง และฉลองกันอย่างมากมาย ในราคาพิเศษ!!
โดยในปีนี้เอง เค้าจะจัดเทศกาลเป็นเวลาครึ่งเดือน ตั้งแต่ 15 ก.ค. – 31 ก.ค. 2016 ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป (แต่ในใจผมนั้นอยากให้จัดซักสามเดือน) อย่างที่บอกว่าเทศกาลงานนี้จะจัดไปทุกหย่อมหญ้าของสิงคโปร์ จึงมีงานอีเว้นท์เกี่ยวกับอาหารเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงร้านอาหารทั่วไปก็จะมีการตกแต่งร้านและมีเมนูพิเศษที่ทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเทศกาลนี้เท่านั้น
เอาล่ะ มาเริ่มจากไฮไลท์ของเทศกาล ที่งาน “STREAT” จะจัดอยู่บริเวณ Clifford Square ซึ่งจะเต็มไปด้วยร้านอาหารที่มาตั้งบูธเรียงรายกันมากมาย และยังยกร้านอาหารระดับภัตตาคารที่มีเชฟมือฉมังของสิงคโปร์มารังสรรค์เมนูอาหารให้คุณได้ลิ้มลองท่ามกลางบรรยากาศดี๊ดีย์
อาหารที่นี่ก็มีทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารฝรั่ง และอาหารฟิวชั่นและปีนี้ยังมีอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย
งาน STREAT จะจัดขึ้น 2 วัน คือ วันที่ 15-16 กรกฎาคม เวลา 5 โมงเย็นถึงสี่ทุ่มนะครับ
พิกัด : Clifford Square, 1 Fullerton Rd, S(049213)
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้กิจกรรมภายในงานยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเวิ์รคช๊อปทำอาหาร การแข่งขันทำอาหาร การลิ้มลองอาหารที่ปรุงโดยเชฟชื่อดังของสิงคโปร์และเชฟมิชลิน ที่จะทำให้คุณฟินไปถึงสามโลก
และที่ผมชอบที่สุด คือการได้ตระเวนชมและชิมอาหารตามสถานที่ต่างๆทั่วเกาะมีอะไรบ้างน่ะหรอ? ตามมาเลยยย
งาน Singapore Favourite Food Village
เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลนี้ โดยได้รวบรวมร้านอาหารอร่อยจากหลายท้องถิ่น รวมไปถึงอาหารฟิวชั่นมากมาย ไปร่วมงานกันได้ในวันที่ 22 – 31 ก.ค. เวลา 17.00 – 11.00 น.
พิกัด : Rochor Event Space (Bugis MRT, Exit A)
งาน Open Stoves ที่ไม่ได้ให้ไปกินอย่างเดียว แต่ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกด้วย โดยเค้าจะมีเชฟมาบอกสูตรการทำอาหารแบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว
งานจัดวันที่ : 23 – 24 ก.ค. เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป
พิกัด : Timbre+, One-north (Fusionopolis), 73A Ayer Rajah Crescent, S(139957)
“รำลึกรสชาติของอาหารในวันวานที่งาน The 50 Cents Fest!”
เพลิดเพลินไปกับมนูอาหารจากยุค 50 ท่ามกลางบรรยากาศแสนคลาสสิค ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่สูตรไหหลำขนานแท้ ก๋วยเตี๋ยวปลารถเข็น หมี่ฮกเกี้ยน หมูสะเต๊ะ และขนมหาบเล่อีกมากมาย ที่เมนูไหนๆก็ราคาเพียงแค่ 50 เซ็นต์ (15 บาท) เรียกว่าคุ้มค่าเกินราคา
ใครไปสิงคโปร์ช่วงนี้แนะนำให้ไปประจำการที่นั่นได้เลยครับผม !!
งานจัดวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม
30 ก.ค. เวลา 15.00 – 23.00 น.
31 ก.ค. เวลา 11.00 – 23.00 น.
พิกัด : Chinatown Food Street, 7 Smith Street, S(058921)
“กาลครั้งหนึ่งกับอาหารปี 1970 ที่ถนน One Farrer’s Food Street”
เป็นถนนอีกหนึ่งสายที่จะรวบรวมเมนูอาหาร ในยุคปี 1970 เอาไว้ มีทั้งร้านแผงลอย หาบเร่ เมนูโบราณๆ อาหารท้องถิ่น เช่น โรตี Prata ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับแกง นาซี Biryani (ข้าวปรุงด้วยเครื่องเทศอินเดีย เป็นต้น
จัดงานวันที่ 16 – 17 กรกฎาคม และวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม
พิกัด : One Farrer Hotel, 1 Farrer Park Station Rd, S(217562)
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรับประทานอาหารในสวนที่บริเวณอ่าวมาริน่าเบย์ หรือหากอยากได้บรรยากาศแบบปิคนิคในร่มก็ต้องไปที่ ION Orchard และนี่ก็เป็นเพียงแค่กิจกรรมตัวอย่างที่ผมนำมาเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ยังมีอีกหลายกิจกรรมหลายสถานที่ ที่ผมคงจะสาธยายไม่หมด เพราะฉะนั้นคุณต้องไปพิสูจน์ด้วยตา และรับรสชาติด้วยโสตประสาทของตัวคุณเอง ส่วนผมขอเก็บกระเป๋าไปตะลุยงานนี้ก่อนล่ะกัน เพราะผมคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่ไม่ไปสิงคโปร์ตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปตอนไหนแล้วล่ะค้าบบ