@MushroomTravel
นอกจากการช้อปปิ้งเสื้อผ้า ขนม ของฝากแล้ว สกินแคร์ ญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนชอบซื้อเวลาไปเที่ยว เพราะนอกจากจะราคาถูกกว่าที่ไทย คุณภาพก็ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็น เซรั่ม น้ำตบ โทนเนอร์ ครีมกันแดด หรือ ครีมบำรุงต่างๆ ใช้แล้วติดใจจนต้องซื้อซ้ำ แถมบางยี่ห้อหรือบางรุ่นก็หาซื้อที่ไทยไม่ได้ด้วย มาญี่ปุ่นทั้งทีเลยไม่พลาดที่จะขนกลับไปแบบเต็มกระเป๋า แต่ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่รู้ซื้ออันไหนดี วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มาแจกลิสต์ 13 แบรนด์ สกินแคร์ญี่ปุ่น ยอดฮิต น่าใช้ ไปถึงแล้วต้องสอยกลับมา จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย !
1. Elixir
สกินแคร์ญี่ปุ่น แบรนด์แรกที่อยากแนะนำคือ Elixir ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือ SHISEIDO ครองตำแหน่งยอดขายอันดับ 1 ในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน และได้รับรางวัลการันตีมากมายในญี่ปุ่น วางใจได้เลยว่าเรื่องคุณภาพไม่แพ้ใครแน่นอน แบรนด์นี้โดดเด่นเรื่องสกินแคร์กลุ่ม Anti-Aging ใช้แล้วริ้วรอยลดเลือนอย่างเห็นได้ชัด ดูแลตั้งแต่โครงสร้างผิว อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวให้กระชับ ชุ่มชื้น สุขภาพดี กระจ่างใส ฉ่ำวาว เปล่งประกายราวกับไข่มุก ตัวยอดฮิตก็คือ Design Time Serum และแน่นอนว่าราคาถูกกว่าที่ไทยมากๆ
2. Bifesta
ต่อด้วยแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีอย่าง Bifesta เป็นแบรนด์ที่ดังเรื่องผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง และทำความสะอาดผิวหน้า เช่น Cleansing Water, Cleansing Sheet, Cleansing Balm เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ ลบเครื่องสำอางสะอาดได้หมดจด ทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และมลภาวะ ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว และยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น สุขภาพดี ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แถมยังมีสูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายอีกด้วย
3. Minon
ใครผิวแห้งกร้าน หรือ ผิวบอบบางแพ้ง่าย ต้องลอง Minon เป็น สกินแคร์ ญี่ปุ่น ที่มาพร้อมคอนเซปต์ Three nons หรือปราศจาก 3 สิ่ง คือ สารก่อภูมิแพ้ สารพิษ และความเป็นด่าง เพราะทางแบรนด์เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเจออาการแพ้หลังใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และผสมกรดอะมิโน 9 ชนิด ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ส่งเสริมกลไกปกป้องผิว มาช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้ง บอบบาง แพ้ง่าย สามารถใช้ได้ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่เอสเซนส์ โลชั่น ครีมบำรุง ไปจนถึงกันแดดเลยค่ะ
4. Skin Aqua
ต่อด้วยอีกหนึ่งแบรนด์ยอดฮิตที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง Skin Aqua เป็นแบรนด์กันแดดชื่อดังของญี่ปุ่น ผลิตโดย Rohto Pharmaceutical บริษัทเวชสำอางในญี่ปุ่น มีทั้งแบบธรรมดา และแบบ Tone-up ที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส เหมือนเป็น Makeup Base ไปในตัว ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและลำตัว ทาแล้วซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังกันน้ำ กันเหงื่อ ได้ดีมาก จะแดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ นอกจากนี้ยังมี ไฮยารูลอน (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย
5. Hada Labo
ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำตบ แบรนด์สกินแคร์ญี่ปุ่น อย่าง Hada Labo ขึ้นชื่อที่สุดแล้ว มีหลายสูตร หลายสี ตอบโจทย์กับทุกสภาพผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีมาก เพราะมีส่วนผสมของ ไฮยารูลอน (Hyaluronic Acid) หลายชนิด มีขนาดโมเลกุลหลากหลาย ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นในระดับผิวที่ต่างกัน จึงซึมลึกเข้าไปบำรุงได้ตั้งแต่ผิวชั้นนอกจนถึงชั้นใน ใช้แล้วผิวใส นุ่มเด้งสุดๆ โดยนอกจากน้ำตบตัวดังแล้ว แบรนด์เขาก็มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น แผ่นมาส์กหน้า, เจล, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า และครีมกันแดดอีกด้วย
6. Kanebo
Kanebo เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่ญี่ปุ่นมานานมาก เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ของหลายๆ คนก็ยังรู้จัก มาในคอนเซ็ปต์ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่กับความงามอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับความหวัง ทำให้ผู้คนสามารถมีความสุขบนความหลากหลาย ปัจจุบันแบรนด์ไปรวมอยู่ภายใต้เครือยักษ์ใหญ่อย่าง KAO และทางแบรนด์ก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงปรับรูปลักษณ์ให้ทันสมัยมากขึ้น มีผลิตภัณฑ์มากมายทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอาง หลายตัวก็ได้รางวัลมาการันตีด้วย เช่น Radiant Skin Refiner โลชั่นสูตรพิเศษที่ช่วยบำรุงและขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ, Veil of Day กันแดดเนื้อเซรั่ม บางเบา ซึมง่าย ไม่เป็นคราบ, Cream in day และ Cream in night ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง พร้อมสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวมีชีวิตชีวา
7. SK-II
SK-II เป็น แบรนด์สกินแคร์ญี่ปุ่น ที่โด่งดังระดับโลก ก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ 1980 ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติในการต่อต้านและลดเลือนริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว เพราะมีส่วนผสมสำคัญอย่าง “พิเทรา (PITERA™)” ที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ ซึ่งทางแบรนด์ต้องใช้เวลาศึกษานานกว่า 5 ปี จนค้นพบว่า นี่แหละเคล็ดลับที่ทำให้ผิวเนียนใสเหมือนผิวเด็ก สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยลองผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ พี่เห็ดแนะนำ SK-II Facial Treatment Essence ผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับหนึ่งของแบรนด์ ตัวนี้ช่วยให้ผิวเนียนละเอียด กระจ่างใส รูขุมขนเล็กลง ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน ใครใช้ก็ติดใจ
8. Melano CC
ส่วนใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ขอแนะนำ สกินแคร์ญี่ปุ่น ยี่ห้อ Melano CC ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้น ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และตรงเข้าจัดการกับปัญหาจุดด่างดำได้ถึงต้นตอ ช่วยกระชับรูขุมขนทำให้ผิวเรียบเนียน แถมยังช่วยลดการเกิดสิวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตบ เอสเซนส์ หรือเจลบำรุงผิว ก็มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย ทาแล้วสบายผิวมาก เจออากาศที่ไทยก็ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะมันเยิ้มเลย
9. ONE by Kose
ONE by Kose แตกไลน์มาจากแบรนด์ดังอย่าง Kose และเน้นไปที่กลุ่มเซรั่มโดยเฉพาะ จุดเด่นคือส่วนผสม Rice Power® No. 11 ที่สกัดจากข้าวญี่ปุ่น 36 ชนิด ช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตเซราไมด์ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวแข็งแรง คงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Inner boost prescription EX ที่ช่วยให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เหมาะสำหรับผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ การันตีคุณภาพด้วยรางวัลมากถึง 34 รางวัล
10. Curel
Curel เป็นแบรนด์เวชสำอางชั้นนำของญี่ปุ่น ที่คิดค้นและวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยตรง ปราศจากสารที่ก่อความระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของแบรนด์จะมีส่วนผสมของ “เซราไมด์ (Ceramide)” ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ยังเสริมความแข็งแรงให้ปราการผิว และปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน บอบบางแพ้ง่าย ใช้แล้วผิวจะกลับมานุ่ม ชุ่มชื้น และดูสุขภาพดีแบบสุดๆ
11. SANA
มาต่อกันที่ SANA สกินแคร์ญี่ปุ่น ราคาเบาๆ แต่คุณภาพสุดปัง จุดเด่นอยู่ที่การใช้สารสกัดจากถั่วเหลืองสายพันธุ์ต่างๆ ที่ผ่านการหมักมาอย่างดี จึงอุดมไปด้วย “ไอโซฟลาโวน (Isoflavone)” สารต้านอนุมูลอิสระที่ให้ความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตเจนในเพศหญิง ใช้แล้วผิวฉ่ำมาก ผลิตภัณฑ์มีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น, กลุ่มเพิ่มความขาวกระจ่างใส และกลุ่มลดเลือนริ้วรอย ที่ช่วยเพิ่มความกระชับ สามารถเลือกใช้ได้ตามปัญหาผิวของแต่ละคนเลย
12. Calamee
เอาใจคนผิวมันกันบ้าง ใครที่กังวลเรื่องหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน รูขุมขนกว้าง แนะนำแบรนด์ Calamee เป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งออกมาได้ไม่นาน มีส่วนผสมของผงคาลาไมน์ ที่ช่วยดูดซับซีบัม หรือน้ำมันที่ผลิตออกมาจากต่อมไขมัน จึงช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูละเอียดขึ้น อีกทั้งยังใส่ส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นมาแบบจัดเต็มถึง 6 ชนิด
13. Retinotime
ปิดท้ายกันที่ Retinotime เป็นสกินแคร์ในกลุ่ม Anti-Aging ที่มอบการบำรุงอย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน และชะลอการเกิดริ้วรอย แบรนด์นี้คัดแต่ส่วนผสมเด็ดๆ คุณภาพสูงมาใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์ เช่น อนุพันธ์วิตามินซี, ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid), สารสกัดจากทองคำขาวบริสุทธิ์ ฯลฯ คุณสมบัติอัดแน่น ใช้ดีไม่แพ้สกินแคร์จากเคาน์เตอร์แบรนด์เลย
ใครชอบช้อปสกินแคร์แบบพี่เห็ด เวลาไปญี่ปุ่นก็ลองไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านยาต่างๆ เช่น Loft, Matsumoto Kiyoshi, Sun Drugs, Don Quijote ฯลฯ กันดูนะคะ บอกเลยว่ามี สกินแคร์ญี่ปุ่น ให้เลือกเยอะจนตาลายเลยค่ะ เข้าร้านไปแต่ละทีคือช้อปเพลินจนลืมเวลา ออกมาของเต็มสองมือแบบไม่รู้ตัวเลย !