ถ้าไม่นับช่วงต้นปีกับปลายปี อีกหนึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการลาพักร้อน ชวนครอบครัวชวนคนรู้ใจไป ทัวร์ญี่ปุ่น ก็เห็นจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี่แหละ โดยเฉพาะใครที่อยากไปยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดต้องไม่พลาด เพราะถึงจะเป็นช่วงหน้าร้อน แต่ก็เป็นช่วงเวลาเดียวของปีที่จะได้สัมผัสกับ ทุ่งลาเวนเดอร์ ญี่ปุ่น สีม่วงบานสะพรั่ง และส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งสวน โดยดอกลาเวนเดอร์ที่ญี่ปุ่นจะชมได้ ตั้งแต่ประมาณ กลางเดือนมิถุนายน ถึง ปลายเดือนสิงหาคม แล้วแต่พื้นที่ ในช่วงนี้ฟาร์มดอกไม้หลายๆ แห่งในญี่ปุ่นจะเริ่มจัดเทศกาลชมดอกลาเวนเดอร์ มีพิกัดสวยๆ อยู่ทั่วประเทศ ใครอยากไปชมทุ่งดอกไม้สีม่วง พี่เห็ด มัชรูมทราเวล คัดพิกัด 10 ทุ่งลาเวนเดอร์ทั่วญี่ปุ่น มาให้แล้ว เตรียมตัวไปชมกัน
1. ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) – ฮอกไกโด
เริ่มด้วย ทุ่งลาเวนเดอร์ ญี่ปุ่น ที่โด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ฟาร์มโทมิตะ เมืองฟุราโนะ แห่งฮอกไกโด ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี! จุดเด่นของฟาร์มแห่งนี้คือการผสมผสานทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงเข้ากับทุ่งดอกไม้ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดอกยิปโซฟิลล่า ดอกป๊อปปี้ ดอกทิวลิป เรียงกันเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีเหมือนสายรุ้ง สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนี้ต้องไม่พลาดการชิมซอฟท์ครีมรสลาเวนเดอร์ หอมหวานอร่อยถูกใจ ใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ต้องมา ทัวร์ฮอกไกโด ชมดอกไม้ที่ฟาร์มโทมิตะ รับรองว่าฟิน!
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้น – ปลายเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ : 08.30 – 17.30 น.
เว็บไซต์ : https://www.farm-tomita.co.jp/
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Furano หรือ สาย Furano-Biei Norokko มาลงที่สถานี Lavender Batake (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5-10 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yrWCWf1A4u7GUHRi6
2. สวนชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai no oka) – ฮอกไกโด
อีกหนึ่งทุ่งดอกไม้น่าเที่ยวในฮอกไกโด ก็ต้องเป็น สวนชิกิไซโนะโอกะ สวนดอกไม้ขนาดใหญ่แห่งเมืองบิเอะ มีจุดเด่นอยู่ที่ ทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ปลูกปกคลุมอยู่ทั่วเนินเขา เมื่อมองไปจะเห็นพื้นที่ต่างๆ เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ไล่สี สวยงามราวกับภาพวาดศิลปะ และยังมีทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงอีกด้วย ใครไม่อยากเดินให้เหนื่อย ที่นี่ก็มีบริการนั่งรถพาชมรอบสวน ได้ชมดอกไม้ทั่วบริเวณแบบชิลๆ และยังมีฟาร์มอัลปาก้าอีกด้วยนะ
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้น – ปลายเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ :
เดือนมกราคม – เมษายน เวลา 09.10 – 17.00 น.
พฤษภาคม และ ตุลาคม เวลา 08.40 – 17.00 น.
มิถุนายน – กันยายน เวลา 08.40 – 17.30 น.
พฤศจิกายน – ธันวาคม เวลา 09.10 – 16.30 น.
เว็บไซต์ : https://www.shikisainooka.jp/
การเดินทาง :
– นั่งรถไฟสาย JR Furano ลงที่สถานี Bibaushi เดินต่อประมาณ 25 นาที
– นั่งรถไฟสาย JR Furano ลงที่สถานี Biei แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 12 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/yG2LDVFXCcarrMY27
3. ไฮแลนด์ ฟุราโนะ (Highland Furano) – ฮอกไกโด
ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศ ทุ่งลาเวนเดอร์ แบบใกล้ชิด ชนิดที่ว่าตื่นเช้าปุ๊บ เดินออกมาจากที่พักเพียงไม่กี่ก้าวก็เจอทุ่งลาเวนเดอร์ได้เลย ต้องมาที่ Highland Furano สถานที่ที่มีทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟุราโนะ แห่งฮอกไกโด ที่นอกจากจะมีทุ่งลาเวนเดอร์บานสะพรั่งทั่วบริเวณในช่วงหน้าร้อนแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของเรียวกังและออนเซ็นขึ้นชื่อของฮอกไกโดด้วยค่ะ เหมาะสำหรับใครที่อยากได้บรรยากาศชมดอกไม้ชิลๆ มีที่แช่ออนเซ็น พร้อมห้องพักสบายๆ ต้องมาที่นี่เลย
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้น – ปลายเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ : ออนเซ็น 09.00 – 22.00 น., ร้านอาหาร 11.00 – 20.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.highland-furano.jp/
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Furano แล้วต่อรถบัสท้องถิ่นมาลงที่ Highland Furano ป้ายสุดท้าย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/hmhe9pTRK4YjjFvd7
4. เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha) – ฮอกไกโด
ยังอยู่ในฮอกไกโด ที่นี่คือ เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ ทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปที่มีความสูง 13.5 เมตร ล้อมรอบด้วยเนินขนาดใหญ่ ที่ในช่วงฤดูร้อนจะกลายเป็นทุ่งลาเวนเดอร์กว่าแสนต้น เป็นสถานที่ที่ได้ทั้งสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและศิลปะ แถมยังได้ถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้อีกด้วย
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้น – ปลายเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ : เมษายน-ตุลาคม 09.00 – 16.00 น. / เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม 10.00 – 15.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.takinoreien.com/
การเดินทาง :
– นั่งรถไฟสาย JR Furano ลงที่สถานี Bibaushi เดินต่อประมาณ 25 นาที
– นั่งรถไฟสาย JR Furano ลงที่สถานี Biei แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 12 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/hFLUEEabjKiztz5p7
5. โออิชิ ปาร์ค (Oishi Park) – คาวากูจิโกะ, ยามานาชิ
มาเที่ยวใกล้โตเกียว ชมภูเขาไฟฟูจิที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ ที่นี่มีสถานที่ชม ลาเวนเดอร์ ญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงนั่นก็คือ โออิชิ ปาร์ค หนึ่งในจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุด ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องแวะมาชมวิวที่จุดนี้ และเมื่อถึงช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์ผลิบาน เราก็จะได้เห็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีฉากหลังเป็นทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิพร้อมๆ กัน อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล Fujikawaguchiko Herb Festival อีกด้วย มาเที่ยวที่จุดนี้จะได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่นแบบเต็มๆ ตา พร้อมกับดอกไม้สวยๆ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อของที่ระลึกและของฝากเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย รับรองว่ามาเที่ยวที่นี่ได้รูปสวยๆ กลับไปหลายช็อตแน่นอน
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ปลายเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ : เข้าชมได้ตลอด
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย JR Chuo – Limited Express Kaiji จากสถานี Shinjuku ประมาณ 1 ชม. 10 นาที ไปยังสถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Fujikyuko Kawaguchiko ประมาณ 50 ไปยังสถานี Kawaguchiko แล้วต่อรถบัส Fujikyu Retro Bus สาย Lake Kawaguchiko ประมาณ 32 นาที ลงป้าย Kawaguchiko Natural Living Center (สายสีแดง ป้าย 22)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/zc8acaGmBdiNveWHA
6. สวนยางิซากิ (Yagisaki Park) – คาวากูจิโกะ, ยามานาชิ
อีกสถานที่ชมลาเวนเดอร์ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ นั่นก็คือ สวนยางิซากิ ซึ่งจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกลาเวนเดอร์ทุกปี มาที่นี่จะได้พบกับทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงแสนสวย ในบรรยากาศสบายๆ เหมือนได้มานั่งปิกนิก เพลิดเพลินไปกับการชมดอกไม้ และถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ใกล้ๆ กันยังมีดอกไฮเดรนเยียให้ชมอีกด้วย ชมดอกไม้เสร็จแล้วก็อย่าลืมซื้อของฝากและของที่ระลึกน่ารักๆ จากที่นี่ด้วยนะคะ
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ปลายเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม
เวลาทำการ : เข้าชมได้ตลอด
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Chuo – Limited Express Kaiji จากสถานี Shinjuku ประมาณ 1 ชม. 10 นาที ไปยังสถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Fujikyuko Kawaguchiko line ประมาณ 50 ไปยังสถานี Kawaguchiko แล้วต่อบัส Fujikyu Retro Bus สาย Lake Saiko ประมาณ 12 นาที ลงป้าย Yakizaki Park
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/UnvCjGjioqAKdac89
7. เซ็นเน็น โนะ โซโนะ ลาเวนเดอร์ ฟิลด์ (Sennen no Sono Lavender Field) – ไซตามะ
อีกหนึ่งสวน ลาเวนเดอร์ ญี่ปุ่น ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ก็คือ เซนเนน โนะ โซโนะ ลาเวนเดอร์ ฟิลด์ ในจังหวัดไซตามะ ไปชมความอลังการของทุ่งลาเวนเดอร์บนพื้นที่กว่า 6.5 เฮกตาร์ มีลาเวนเดอร์กว่า 22,000 ต้น จากสายพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 10 สายพันธุ์ โดยที่นี่จะมีการจัดเทศกาลชมลาเวนเดอร์ที่ชื่อว่า Ranzan Lavender Festival ตั้งแต่ต้นถึงปลายเดือนมิถุนายน ทั่วทั้งพื้นที่ขนาดใหญ่จะเต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงบานสะพรั่ง และยังมองเห็นวิวภูเขาและแม่น้ำอีกด้วย ถูกใจคนชอบถ่ายรูปแน่นอน หลบหนีความวุ่นวายในเมือง มาเดินเล่นที่ทุ่งลาเวนเดอร์แสนสวยที่อยู่ไม่ไกลโตเกียว แนะนำที่นี่เลยค่ะ
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้น – ปลายเดือนมิถุนายน
เวลาทำการ : 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เว็บไซต์ : https://www.ranzan-kanko.jp/lavenderfestival
การเดินทาง : จากรถไฟสาย Tobutojo Line สถานี Musashi ranzan ทางออก West ให้ขึ้นรถบัสที่จะไป Seseragi Bus Center มาลงที่ป้าย Kyuuyouchi Iriguchi (休養地入口) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/jwkbLpcsEc923RJN6
8. ทัมบาระ ลาเวนเดอร์ ปาร์ค (Tambara Lavender Park) – กุนมะ
อีกหนึ่งแห่งแนะนำสำหรับ ทุ่งลาเวนเดอร์ ใกล้โตเกียว นั่นก็คือ สวนทัมบาระ ลาเวนเดอร์ ปาร์ค ในจังหวัดกุนมะ เป็นสวนสวยอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นที่มีดอกไม้เยอะมาก ในช่วงฤดูร้อนจะเปิดเป็นสวนดอกไม้ที่มีทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ แต่พอถึงฤดูหนาวที่นี่ก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว และเปิดเป็นลานสกีให้นักท่องเที่ยวได้มาเล่นกิจกรรมสนุกๆ และอีกหนึ่งความพิเศษของสวนแห่งนี้ก็คือ เราสามารถนั่งลิฟท์สกีชื่นชมความงามของดอกลาเวนเดอร์กว่า 50,000 ต้นจากมุมสูงได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชมดอกไม้ที่น่าประทับใจมากๆ
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้นเดือนกรกฎาคม – ปลายเดือนสิงหาคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, เด็กประถม 500 เยน, เด็กก่อนวัยเรียน เข้าชมฟรี
เวลาทำการ : 08.30 – 17.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายถึงเวลา 15.45 น.)
เว็บไซต์ : https://www.tambara.co.jp/lavenderpark/
การเดินทาง : นั่งรถบัสประมาณ 50 นาที หรือนั่งรถแท็กซี่ ประมาณ 40 นาที จากสถานีรถไฟ Numata สาย Joetsu ของ JR
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/cKAAPu1Mh4Ge1LiN6
9. สวนอาราโกะกาวะ (Arakogawa Park) – นาโงย่า, ไอจิ
ไปต่อกันที่ สวนอาราโกะกาวะ สวนแสนสวยและบรรยากาศดีที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ สวนสาธารณะริมแม่น้ำแห่งนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Arakogawakoen ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดพักผ่อนสำหรับชาวเมืองนาโกย่า เพราะมีทั้งสนามเด็กเล่น สนามกีฬา ทางเดินที่ขนาบข้างไปด้วยต้นซากุระ สวนญี่ปุ่นดั้งเดิม สวนพฤกษศาสตร์ และสวนลาเวนเดอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 3,300 ตารางเมตร เมื่อถึงเวลาผลิบานในฤดูร้อนจะส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งสวนเลยล่ะค่ะ และในช่วงเดือนมิถุนายนจะมีการจัดเทศกาลชมลาเวนเดอร์ด้วยนะ ภายในงานก็จะมีการจำหน่ายสินค้าต่างๆ เกี่ยวกับลาเวนเดอร์ ทั้งชา และสินค้าทำมือต่างๆ รวมถึงมีคอนเสิร์ตเล็กๆ ใครไปเที่ยวนาโกย่าช่วงนี้ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันนะคะ
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้นเดือนกรกฎาคม – ปลายเดือนสิงหาคม
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : เข้าชมได้ตลอด
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Aonami จากสถานี Nagoya มาลงที่สถานี Arakogawakoen แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/7bmYBAmCFqwk9nEr6
10. สวนดอกไม้คุจู (Kuju Flower Park) – โออิตะ
ปิดท้ายกันที่ภูมิภาคคิวชู พาไปชมลาเวนเดอร์ที่ สวนดอกไม้คุจู แห่งจังหวัดโออิตะ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 220,000 ตารางเมตร มีทั้งพื้นที่ป่าและสวนดอกไม้ ที่มีดอกไม้มากมายกว่า 500 ชนิด มากกว่า 3 ล้านดอก รวมถึงมีทุ่งลาเวนเดอร์ให้ชมในช่วงฤดูร้อน มาที่นี่รับรองว่าถูกใจคนชอบดอกไม้ และสายถ่ายรูปแน่นอน เติมความสดใสให้ช่วงหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
ช่วงเวลาชมลาเวนเดอร์ : ต้นเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฏาคม
เวลาทำการ : 08.30 – 17.30 น.
การเดินทาง : ขับรถเที่ยวเอง หรือขึ้นรถแท็กซี่จากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ Bungo-Taketa Station
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/EtjbFoshRenssxzi7
ช่วงเทศกาลชม ลาเวนเดอร์ ญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจะเยอะมากเป็นพิเศษ ใครสนใจไป ทัวร์ญี่ปุ่น หรือ ทัวร์ฮอกไกโด ชมดอกลาเวนเดอร์ อย่าลืมจองทัวร์กันตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ ใครที่ทำงานเยอะ อยากไปเที่ยวพักผ่อนชาร์จแบตสักพัก แนะนำว่าเที่ยวกับทัวร์จะสะดวกสบายที่สุด ไม่ต้องวางแผนเอง ได้เที่ยวอย่างเต็มที่ ลืมงานที่ทำอยู่สักพัก รับรองว่าเติมพลังและสร้างแรงบันดาลใจได้อีกเยอะเลยค่ะ