@MushroomTravel
สวิตเซอร์แลนด์ เป็นจุดหมายยอดฮิตของคนไปเที่ยวยุโรป ที่โดดเด่นด้วยธรรมชาติและบ้านเมืองที่สวยงาม ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่วิวสวยชวนใจละลาย การเดินทางก็สะดวกสบายมาก เพราะมีรถไฟที่เชื่อมต่อเมืองต่างๆ ครอบคลุมทั่วประเทศ แถมเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่านยังวิวสวยสุดๆ มองเห็นยอดเขาสูงตระหง่าน ทุ่งหญ้า ทะเลสาบ และหมู่บ้านสุดน่ารัก ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ใครกำลังจะไปเที่ยวแต่ยังไม่รู้ว่ามีเส้นทางไหนบ้าง หรือแตกต่างกันยังไง วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีเส้นทาง รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ มาแนะนำถึง 5 เส้นทาง จะสวยงามน่าเที่ยวขนาดไหนไปดูกัน !
1. Glacier Express
Glacier Express เป็น รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมากที่สุด โดยขึ้นชื่อว่าเป็นรถไฟด่วนที่ช้าที่สุดในโลก วิ่งระหว่าง เซนต์มอริทซ์ (St. Moritz) เมืองสกีรีสอร์ทสุดหรูบนเทือกเขาแอลป์ ในรัฐเกราบึนเดิน (Graubünden) กับ เซอร์แมท (Zermatt) เมืองชนบทสุดน่ารักที่อยู่บริเวณเชิงเขาแมทเธอร์ฮอร์น (Matterhorn) รวมระยะทาง 291 กิโลเมตร เส้นทางจะแบ่งเป็น 4 ช่วง ได้แก่
1. ระหว่าง เซอร์แมท (Zermatt) และ บริก (Brig)
2. ระหว่าง บริก (Brig) และ อันเดอร์แมทท์ (Andermatt)
3. ระหว่าง อันเดอร์แมทท์ (Andermatt) และ คูร์ (Chur)
4. ระหว่าง คูร์ (Chur) และ เซนต์มอริตซ์ (St. Moritz)
โดยสามารถเลือกนั่งระยะสั้นเพื่อแวะเที่ยว หรือนั่งยาวไปเลย 8 ชั่วโมงก็ได้ เพราะมีวิวสวยๆ ให้ชมตลอดทางแบบไม่มีเบื่อเลย ความพิเศษของ รถไฟ Glacier Express คือ ตู้ขบวนของรถไฟจะมีหน้าต่างและเพดานเป็นกระจกใสแบบ Panoramic ทำให้ชมวิวสวยๆ ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติได้ตลอดเส้นทาง รถไฟจะพาเราข้ามสะพาน 291 สะพาน ลอดอุโมงค์ 91 แห่ง แทรกตัวผ่านช่องเขาโอแบร์อัลพ์ (Oberalppass) ที่ระดับความสูง 2,045 เมตร ผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งเทือกเขา หุบเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ และธารน้ำแข็ง ยิ่งถ้ามาในช่วงที่มีหิมะปกคลุม บรรยากาศจะสวยงามเหมือนฝันเลย
ค่าโดยสาร :
– ค่าตั๋วเดินทางสำหรับการเดินทางไกล 159 – 272 CHF / เด็ก (อายุ 6 – 16 ปี) จ่ายค่าโดยสาร 50% / เด็ก (อายุต่ำกว่า 6 ปี) ฟรี
– ค่าจองที่ค่าจองที่สำหรับการเดินทางระยะไกล 49 CHF (ต้องจ่ายทุกคน)
*** ราคาจะแตกต่างกันไปตามระยะทางและชั้นที่นั่ง หากมีบัตร Swiss Travel Pass ไม่ต้องเสียค่าตั๋ว แต่ต้องเสียค่าจองที่นั่ง
เว็บไซต์ : https://glacierexpress.ch/en
2. Bernina Express
อีกหนึ่งวิธีที่จะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแอลป์คือ การนั่ง รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ Bernina Express ที่มาพร้อมหน้าต่างแบบพาโนรามา โดยจะผ่านอุโมงค์ 55 แห่งและสะพานมากกว่า 196 แห่ง ซึ่งจะพาทุกคนออกเดินทางไปบน เส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ชันที่สุดในโลก และยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2008 ด้วย โดยเริ่มจาก เมืองคูร์ (Chur) เมืองเก่าแก่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine) ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 5,000 ปี วิ่งไต่ระดับขึ้นไปถึง สถานี Ospizio Bernina บนความสูง 2,253 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเส้นทางนี้ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 4 ชั่วโมง ทำให้มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาแอลป์ได้อย่างชัดเจน และไปสิ้นสุดที่ ติราโน (Tirano) เมืองเล็กๆ อันแสนอบอุ่นในอิตาลี นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพสวยๆ ที่เปลี่ยนไปตลอดทาง ยังผ่านแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น สะพานแลนด์วาสเซอร์ (Landwasser Viaduct) ที่วิวเหมือนในหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์, สะพานบรูซิโอ (Brusio Spiral Viaduct) ที่โค้งเป็นวงกลม 360 องศา, ธารน้ำแข็งมอร์เทอรัตช์ (Morteratsch Glacier) ที่จะมีสีนสันสดใส สวยงามยิ่งกว่าเดิมในฤดูงใบไม้ร่วง เป็นต้น
ค่าโดยสาร :
– ผู้ใหญ่ 66 – 226 CHF / เด็ก (อายุ 6 – 16 ปี) จ่ายค่าโดยสาร 50% / เด็ก (อายุต่ำกว่า 6 ปี) ฟรี
– ค่าจองที่ 32 – 36 CHF (ต้องจ่ายทุกคน)
*** ราคาจะแตกต่างกันไปตามระยะทางและชั้นที่นั่ง หากมีบัตร Swiss Travel Pass ไม่ต้องเสียค่าตั๋ว แต่ต้องเสียค่าจองที่
เว็บไซต์ : https://www.berninarailway.com/
3. Golden Pass Line
อีกหนึ่งเส้นทาง รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ ก็คือ สาย Golden Pass Line เชื่อมจากใจกลางประเทศไปจนถึงชายฝั่งทะเลสาบเจนีวา รวมระยะทางทั้งหมด 191 กิโลเมตร ผ่าน 6 รัฐ ข้าม 3 ช่องเขา จาก ลูเซิร์น (Lucerne) ไปยัง มองเทรอซ์ (Montruex) สามารถนั่งยาวไปจนสุดทางโดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง หรือแวะเที่ยวที่ อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) เมืองตากอากาศอันโด่งดังของสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ แนะนำให้นั่งฝั่งขวาวิวจะสวยมาก ระหว่างทางจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไร่องุ่น และทะเลสาบที่ส่องประกายระยิบระยับถึง 8 แห่ง เช่น ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz), ทะเลสาบทูน (Lake Thun), ทะเลสาบลุงเงิร์น (Lake Lungern) ฯลฯ รถไฟสวิส สายนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ลูเซิร์น (Lucerne) – อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken Ost), อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken Ost) – ซไวซิมเมน (Zweisimmen) และ ซไวซิมเมน (Zweisimmen) – มองเทรอซ์ (Montreux) ซึ่งสายนี้จะมีแยกย่อยออกมา 2 แบบ ได้แก่ GoldenPass Panoramic ที่จะมีกระจกพาโนรามาขนาดใหญ่พิเศษให้ชมวิวกันแบบชัดๆ และ GoldenPass Belle Epoque ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา คลาสสิก ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปในอดีตเลยค่ะ
ค่าโดยสาร :
– GoldenPass Express ราคา 56 – 96 CHF (มี Swiss Travel Pass ขึ้นฟรี)
*** เด็ก (อายุ 6 – 16 ปี) จ่ายค่าโดยสาร 50% / เด็ก (อายุต่ำกว่า 6 ปี) ฟรี โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามระยะทางและชั้นที่นั่ง
เว็บไซต์ : https://www.gpx.swiss/
4. Gotthard Panorama Express
มาต่อกันที่ Gotthard Panorama Express เส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ที่เชื่อมระหว่าง เมืองลูเซิร์น (Lucerne) และ เมืองลูกาโน (Lugano) เส้นทางนี้มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เพราะรวมทั้งเรือและ รถไฟสวิส ไว้ในเส้นทางเดียว สามารถเริ่มเดินทางด้วยเรือจากทะเลสาบลูเซิร์น โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที มาลงที่เมืองเฟลอเลิน (Fluelen) และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ ซึ่งจะพาวิ่งผ่านหุบเขารอยส์ (Reuss Valley) อันสวยงาม และใช้เส้นทางลอดอุโมงค์รถไฟกอททาร์ด (Gotthard Rail Tunnel) 15 กิโลเมตร ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1882 เพื่อให้เราได้ชมวิวภูเขาสวยๆ กันแบบเต็มอิ่ม จากนั้นจะเข้าสู่เบลลินโซนา (Bellinzona) เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยปราสาท และไปสิ้นสุดที่เมืองลูกาโน ในรัฐตีชีโน (Ticino) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในแบบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ขบวนนี้ไม่ได้เปิดให้บริการตลอดนะคะ จะเปิดแค่ช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม และให้บริการแค่วันอังคาร – อาทิตย์ วันละ 1 รอบ เท่านั้น
ค่าโดยสาร :
– ผู้ใหญ่ 164 CHF / เด็ก (อายุ 6 – 16 ปี) จ่ายค่าโดยสาร 50% / เด็ก (อายุต่ำกว่า 6 ปี) ฟรี
– ค่าจองที่ค่าจองที่ 24 CHF (ต้องจ่ายทุกคน)
*** ราคาจะแตกต่างกันไปตามระยะทางและชั้นที่นั่ง หากมีบัตร Swiss Travel Pass ไม่ต้องเสียค่าตั๋ว แต่ต้องเสียค่าจองที่
เว็บไซต์ : https://www.gotthard-panorama-express.ch/
5. Jungfrau Railway
Jungfrau Railway เป็น รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะพาขึ้นไปยังยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) หรือจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) หนึ่งในยอดเขาแอลป์ที่มีความสูงถึง 3,454 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จุดเริ่มต้นจะอยู่ที่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) ในแคว้นเบิร์น (Bern) และมีเส้นทางให้เลือก 2 เส้นคือ เส้นทางที่ผ่านเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) และ เส้นที่ผ่านเมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) ซึ่งใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ว่าจะขึ้นขบวนไหนก็แนะนำให้นั่งฝั่งขวาไว้ค่ะ จะได้ชมวิวหุบเขาสีเขียวชอุ่มและทุ่งหญ้าอัลไพน์ที่สวยเป็นพิเศษ รถไฟสวิส ทั้ง 2 ขบวนนี้จะไปบรรจบที่เดียวกันคือ สถานีไคลน์ไซเด็ก (Kleine Scheidegg) หากใครอยากจะขึ้นไปให้ถึงยอดเขา ก็สามารถนั่ง Jungfrau Railway ต่อจากสถานีนี้ได้เลย
ค่าโดยสาร :
– ตั๋วไปกลับ Interlaken – Jungfraujoch 223.80 CHF
– ผู้ที่ถือ Swiss Travel Pass 147.80 CHF
เว็บไซต์ : https://www.jungfraujochtickets.com/
เห็นในรูปว่าสวยแล้ว พี่เห็ดบอกเลยว่าของจริงสวยกว่าเป็นร้อยเท่า ! ใครอยากไปสัมผัสของจริงด้วยตาตัวเอง ก็อย่าลืมวางแผนการเดินทางดีๆ เช็กวันเวลา เลือกรอบ จองตั๋ว กันให้เรียบร้อย เพราะบางขบวนก็มีเพียงแค่วันละไม่กี่รอบเท่านั้นเองค่ะ พี่เห็ดแนะนำให้ซื้อ Swiss Travel Pass ไปด้วย จะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถบัส รถราง เรือ ในใบเดียว รวมๆ แล้วยังถูกกว่าไปซื้อตั๋วแยกด้วย