ถ้าถามว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงไหนดี ถึงจะฟินสุดๆ หลายคนคงจะตอบว่า ไปตอนฤดูใบไม้ผลิสิ เพราะดอกซากุระกำลังบานเลย แต่จริงๆแล้วมันขึ้นอยู่กับคุณมากกว่าค่ะ ว่าอยากจะไปดูอะไรเป็นพิเศษรึป่าว เพราะญี่ปุ่นสามารถเที่ยวได้ทั้งปีนั่นแหละค่ะ และถ้าหากว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของท้องถิ่นแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนได้เลย เพราะช่วงเวลานี้จะมีการจัดงานเทศกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายเลยหล่ะค่ะ ซึ่งในวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบเอาเทศกาลฤดูร้อนอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นมาฝากทุกคนกันอีกเช่นเคย แต่จะเป็นเทศกาลอะไรนั้นตามมาเลยค่ะ
เห็นริ้วกระดาษสีสันสดใสนั่นไหมคะ? นั่นแหละคะ เทศกาลที่เราจะพาคุณไปรู้จักกันในวันนี้ มันคือ เทศกาลทะนะบะตะ นั่นเอง เทศกาลนี้เป็นเทศกาลเก่าแก่ที่จัดสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่น ก่อนอื่นเรามาตามหาที่มาที่ไปของเทศกาลนี้กันค่ะ
ทะนะบะตะ หมายถึง ยามเย็นของวันที่เจ็ด ซึ่งเทศกาลนี้มันมีตำนานเล่าขานกันอยู่ มามะ จะเล่าให้ฟัง
คุณเคยได้ยินเรื่องเจ้าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัวรึป่าวคะ…? เรื่องมันมีอยู่ว่า มีธิดาของเทพผู้ครองสรวงสวรรค์องค์หนึ่งนามว่าเจ้าหญิงโอริฮิเมะ มีถิ่นพำนักอยู่ที่ริมฝั่งแม่นํ้าอามาโนะกาว่า ซึ่งก็คือทางช้างเผือก หรือแม่นํ้าแห่งสวรรค์ เจ้าหญิงมีหน้าที่ทอผ้าให้ทวยเทพบนสรวงสวรรค์ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า”เจ้าหญิงทอผ้า”
ผ้าที่เจ้าหญิงโอริฮิเมะทอขึ้นนั้นมีความสวยงาม ละเอียดอ่อน เป็นทีโปรดปรานของเหล่าเทพยิ่งนัก เจ้าหญิงจึงต้องทอผ้าทั้งวันทั้งคืน เทพผู้ครองสรวงสวรรค์จึงรู้สึกสงสารและเป็นห่วงธิดา จึงอยากให้เจ้าหญิงได้มีคู่ครอง และได้ประกาศหาคู่ให้นาง เจ้าหญิงโอริฮิเมะได้พบและต้องตาต้องใจกับชายหนุ่มชื่อฮิโกโบชิ ซึ่งเป็นชายเลี้ยงวัวอาศัยอยู่อีกฝั่งของทางช้างเผือก
หลังจากทั้งสองได้แต่งงานกันทั้งสองกลับละเลยหน้าที่ของตน เจ้าหญิงโอริฮิเมะไม่ทอผ้าอย่างขยันขันแข็งเหมือนก่อน ส่วนฮิโกโบชิก็ปล่อยวัวเดินเกะกะอยู่ทั่วสวรรค์ เทพผู้ครองสรวงสวรรค์ทรงพิโรธจึงลงโทษทั้งสองให้แยกจากกันอยู่คนละฟากของทางช้างเผือก และห้ามไม่ให้ทั้งสองพบกันอีก
เจ้าหญิงโอริฮิเมะเศร้าโศกเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่ต้องพรากจากชายอันเป็นที่รัก ทรงกรรแสงครํ่าครวญอย่างหนัก จนเทพแห่งสรวงสวรรค์ทรงเห็นใจอนุญาตให้ทั้งสองได้พบกันปีละหนึ่งครั้ง ในวันที่ 7 เดือน 7 ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นเทศกาล ทะนะบะตะ เทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองที่ดาวเวก้า (Vega) ของเจ้าหญิงทอผ้า และดาวอัลแทร์(Altair) ของชายเลี้ยงวัวได้โคจรข้ามทางช้างเผือกมาพบกัน
ซึ่งเทศกาลนี้จะถูกจัดขึ้นหลายแห่งในญี่ปุ่น แต่ที่ยิ่งใหญ่ งดงาม และมีชื่อเสียงมากที่สุด ต้องไปที่เมืองเซนไดค่ะ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งจะแตกต่างจากโตเกียวและในหลายเขตที่จัดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม เนื่องจากเซนไดยังนับวันตามปฏิทินจันทรคตินั่นเอง
เรามาดูบรรยากาศของเทศกาลนี้กันค่ะ
ในช่วงเทศกาล ทั่วทั้งบริเวณของเมืองเซนไดจะถูกประดับประดาไปด้วยต้นไผ่น้อยใหญ่ และริ้วกระดาษหลากสี ที่แต่งแต้มสีสันและเสน่ห์ให้กับเมืองทั้งเมืองได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดของเทศกาลนี้ก็คือ การเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นกระดาษค่ะ โดยเราจะต้องเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้า 5 สี ที่เรียกว่า “ทังซะขุ (Tanzaku)” แล้วนำไปห้อยบนกิ่งไผ่ เพราะเชื่อว่าคำอธิษฐานนั้นจะถูกส่งไปยังดวงดาว ใครยังไม่มีแฟน ก็จะขอพรให้ตัวเองได้เจอคู่ไวๆ ส่วนใครมีแฟนแล้ว ก็จะขอให้รักกันนานๆ หรือจะอธิษฐานขอเรื่องทั่วไป เช่น ขอให้มีความสุขหรือสุขภาพแข็งแรงก็ได้
ก่อนเขียนก็มาเลือกสีกระดาษกันนิดนึง ซึ่งแต่ละสีจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ค่ะ
สีฟ้า – ขอเรื่อง ความสุข ความโชคดี
สีชมพู – ขอเรื่อง ความรัก
สีแดง – ขอเรื่อง ความสำเร็จ
สีเหลือง – ขอเรื่อง ความมั่งคั่ง เงินทอง
สีเขียว – ขอเรื่อง ความสมปรารถนาในการเรียนและการทำงาน
พอเขียนเสร็จแล้วผู้คนก็จะมานั่งดูดาวกัน พอวันรุ่งขึ้น ก็จะนำกระดาษที่เขียนคำอธิษฐานนี้มาเผาหรือลอยน้ำ ภายในงานคุณจะได้พบเห็นผู้คน (โดยเฉพาะผู้หญิง) แต่งตัวด้วย ชุดยูกาตะ หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือ ชุดกิโมโน ออกมาเดินทอดน่องกัน ทำให้บรรยากาศของงานสดใสครึกครื้นขึ้นอีกเป็นกอง นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคุณก็มีมากมาย
ทั้งการแสดงดนตรีพื้นบ้าน รำทานาบาตะ ขบวนพาเหรด และการจัดแสดงดอกไม้ไฟก่อนวันเริ่มต้นเทศกาลคือวันที่ 5 สิงหาคมนั่นเอง ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องห่วง เพราะภายในงานมีอาหารอร่อยๆ และอาหารพื้นบ้านให้เลือกซื้อเลือกชิมมากมาย คุณสามารถเดินไปชิมไปได้ตลอดทั้งงาน
ทะนะบะตะ เทศกาลขอพรจากดวงดาวที่แสนโรแมนติก นอกจากจะได้ความสุข สนุกสนานแล้ว ยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและความศรัทธาของคนญี่ปุ่นอีกด้วย เป็นงานดีๆที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้น เตรียมคำอธิษฐานของคุณไว้ให้ดี แล้วหาโอกาสไปขอพรจากดวงดาวกัน ไม่แน่นะคะ คำอธิษฐานของคุณอาจจะเป็นจริงก็ได้ ต้องลองไปดูค่ะ