@MushroomTravel
สวัสดี เดือนแห่งการท่องเที่ยวสุดท้ายของปีค่ะ คิดว่า ส่วนใหญ่คงจะวางแผนจองสถานที่ท่องเที่ยวไว้ในใจกันแล้ว ยังไงก็ขอให้เที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลยนะคะ สำหรับใครที่แพลนจะไปเที่ยวต่างประเทศ เราคงไม่มีอะไรจะแจ้ง อ้อ…อาจจะมีอย่างนึง ก็คือ อย่ารูดปรื๊ด…รูดปรื๊ด จนงานงอกทีหลังนะคะ เพราะงานนี้ไม่มีส่วนลด มีแต่ควักเนื้อตัวเองเท่านั้น แต่..สำหรับคนที่แพลนจะเที่ยวในประเทศแล้วล่ะก็ เราขอแสดงความยินดีด้วย เพราะว่า
แค่ “ เที่ยวไทย ก็ ลดหย่อนภาษี ได้ด้วย”
ซึ่งการเก็บใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับ ภาษี ค่าซื้อแพคเกจทัวร์ หรือค่าที่พักโรงแรมจากการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่นำมาใช้คำนวณเพื่อลดหย่อนภาษี ได้ถึง 15,000 บาทต่อปีตามการประกาศมาตรการทางภาษี เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ และช่วยฟื้นฟูการท่อง เที่ยวไทย ที่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2557 นั้น มีผลบังคับใช้ได้ถึงแค่วันที่ 31 ธันวาคม 2558 นี้เท่านั้น เพราะฉะนั้น ใครที่แพลนไป เที่ยวไทย เดือนนี้ ก็อย่าลืมเก็บใบเสร็จต่างเอาไว้ อย่าให้ขาดหาย หรือใครที่เที่ยวมาตั้งแต่ต้นปี หรือว่ากลางปี ก็สามารถรวบรวมใบเสร็จตลอดทั้งปีมาใช้ยื่นคำนวณเพื่อลดหย่อนภาษีได้เช่นกันนะจ้ะ
ดังนั้น อย่าลืมไปยื่น ใช้สิทธิ์ของพวกคุณกันด้วยนะเออ….
ทีนี้มาเช็คความถูกต้องของ “ใบเสร็จรับเงิน” กันหน่อยดีมั้ย…?!
ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี สำหรับค่าบริการนำ เที่ยวไทย หรือค่าที่พักโรงแรมภายในประเทศ ที่เราจะนำมาใช้เป็นหลักฐานนั้น ผู้ยื่นขอต้องเรียกขอจากผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วย ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โดยเอกสารนั้นๆต้องระบุ…
1. ชื่อ – นามสกุล ของผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี จำนวนเงิน และวัน, เดือน, ปี ในใบเสร็จหรือใบกำกับภาษี ให้ชัดเจน
2. ใบเสร็จรับเงินทั้งหมดจะนำมาใช้คำนวณลดหย่อนภาษี ได้ตามจ้านวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
3. ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี ที่ลงวันที่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2558 ให้นำไปใช้ลดหย่อนภาษีของปี 2558 ที่เป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559
ใครใช้สิทธิ์ได้…แล้วใครใช้ไม่ได้บ้าง…?!
สิทธิลดหย่อนภาษี ครั้งนี้เป็นการให้สิทธิแก่ผู้เสียภาษีที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อย ดังต่อไปนี้
1. สามีหรือภรรยา มีเงินได้เพียงฝ่ายเดียว ให้ใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี เฉพาะผู้ที่มีเงินได้เท่านั้น
2. สามีและภรรยามีเงินได้ทั้งคู่ และในใบเสร็จรับเงิน ระบุชื่อผู้จ่ายเงินทั้งสามีและภรรยา ให้ใช้หลักเกณฑ์ดังนี้
– กรณีสามีภรรยาต่างฝ่ายต่างแยกยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีได้ตามจ้านวนที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ 15,000 บาท
– กรณีที่สามีภรรยาตกลงยื่นแบบและเสียภาษีรวมกัน ให้หักลดหย่อนภาษีได้ทั้งสองฝ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง และไม่เกินคนละ 15,000 บาท
สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่า ทัวร์แบบไหน หรือว่าโรงแรมประเภทไหน ที่จะสามารถขอใบเสร็จรับเงินเพื่อใช้สิทธิ์กันได้บ้าง วันนี้เราก็มีช่องทางเพื่อบอกต่อข้อมูลมาฝากกันด้วยล่ะค่ะ
คลิกตรวจสอบกันได้เลยค่า….
รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมักคุเทศก์ ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอหักลดหย่อนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอหักลดหย่อนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับมาตรการดีๆแบบนี้ ทุกท่านคิดว่า เป็นการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศกันหรือเปล่า…? นอกจากจะเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศแล้วยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว, โรงแรม รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนของประเทศนี้อีกด้วย อ้อ…ลืมไปหนึ่งอย่าง เป็นการสานสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความรักความอบอุ่นภายผ่านกิจกรรมระหว่างการท่องเที่ยวในครอบครัวอีกด้วย….จริงมั้ยล่ะคะ…?!
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมสรรพากร