อีกไม่นานซากุระที่ญี่ปุ่นก็จะผลิบานแล้วนะคะ ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมารีวิว ชมซากุระ โตเกียว เมื่อปี 2015 ให้เราได้ชม เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนไปชมของจริงในปีนี้ มีจุดไหนไม่ควรพลาด หรือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับดอกซากุระ ตามไปเก็บข้อมูลกันเลย
การชมซากุระนั้นมีหลักง่ายๆ แต่ทำยากคือ ไปตอนที่ซากุระ Full bloom หรือบานเต็มที่ ทั้งต้นจะมีแต่ดอกสะพรั่งไม่มีใบแซม เป็นช่วงที่ต้นซากุระงดงามที่สุด แต่ละปีซากุระจะอยู่ในช่วง Full bloom แสนสั้นแค่ 2-3 วันเท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาที่สามารถชมขณะที่ซากุระคงความงามอยู่นั้น ส่วนตัวผมให้ก่อนหน้า Full bloom 1 วัน + Full bloom 3 วัน + ช่วงเลย Full bloom อีก 1 วัน รวมแค่ 5 วัน นี่ยังไม่รวมการชดเชยสภาพอากาศ ที่หากมีฝน มีลมแรง ดอกซากุระจะร่วงเร็วขึ้น ช่วงเวลาสั้นลงอีก
ชาวญี่ปุ่นเจ้าถิ่นเองก็รอคอยการบานของซากุระอย่างจริงจังทุกๆ ปี ทั้งสำนักข้อมูลการท่องเที่ยวที่รายงานสภาพซากุระ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดต่างติดตามรายงานภาพต้นซากุระตั้งแต่ดอกเริ่มเป็นตุ่มเตรียมบาน ผ่านเว็บไซต์หรือ Facebook page ของตนเอง เพื่อให้ข้อมูลแก่นักเดินทางเดินทางมาชมซากุระในช่วงที่ดีที่สุด
สำหรับการไปชมซากุระที่จุดชมดังๆ นั้น นักท่องเที่ยวสามารถทราบข้อมูลได้ไม่ยาก ทั้งจากสำนักข่าวญี่ปุ่น หรือรีวิวต่างๆ หรือคลิกไปชมที่ จุดชม ซากุระ ญี่ปุ่น ทั่วประเทศ และ รวม 10 จุดชม ซากุระ โตเกียว
The March of Sakura 2015 : ไป ชมซากุระ โตเกียว
อย่างทริปชมซากุระในโตเกียวนี้ ผมไปวันที่ 1 เมษายน 2015 ช่วงก่อนเดินทางจะลุ้นสุดๆ ว่าพวกโรงแรม, Pass รถไฟ ที่เตรียมไว้จะใช้งานปรับตามการบานของซากุระได้ไหม ติดตามข่าวบางสำนักที่ญี่ปุ่นรายงานว่า Full bloom แล้วในวันที่ 29 มีนาคม บางสำนักก็รายงานว่าวันที่ 30 มีนาคม แปลว่าวันที่ 1 เมษายน ยังสวยอยู่ แต่ที่น่าหนักใจกว่าคือพยากรณ์อากาศที่แจ้งว่ามีฝนบางๆ แทบทุกวันในช่วงนั้น
ข้อมูลที่ควรทราบ หากจะไปชมซากุระที่ญี่ปุ่น
1. ซากุระที่ญี่ปุ่นนั้นจะบานเริ่มจากที่ที่อุณหภูมิสูงก่อน นั่นคือ ทางใต้ขึ้นเหนือ (ตรงข้ามกับใบไม้เปลี่ยนสีที่แดงจากเหนือลงใต้) ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมีนาคม ซากุระจะเริ่มบานที่เกาะใต้สุด คือ เกาะ Kyushu และสิ้นสุดฤดูกาลที่เกาะเหนือสุดคือเกาะ Hokkaido ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
2. Full bloom ของซากุระจะต่างกันในแต่ละปีตามสภาพอากาศ ปีไหนร้อนเร็วซากุระก็จะบานเร็ว
3. แม้ว่าแต่ละปีบานไม่ตรงกัน แต่ลำดับการบานนั้นต่อคิวกันเสมอ ใต้ขึ้นเหนือ พื้นที่ราบก่อนบนภูเขา เช่น ไปไม่ทัน Osaka/Kyoto ก็ไปชมจังหวัดที่อยู่เหนือขึ้นไป เช่น Shiga, Fukui, Ishikawa ถ้ามา Osaka/Kyoto แล้วปีนี้บานช้ายังไม่บาน ก็ไปจังหวัดที่อยู่ทิศใต้ที่บานเร็วกว่า เช่น Wakayama
4. สำนักข้อมูลที่รายงานสภาพ ซากุระญี่ปุ่น แนะนำให้ไว้พิจารณาข้อมูลแบบพยากรณ์ล่วงหน้าดีกว่า หากต้องการทราบข้อมูลแบบสดๆ ควรดูจากกรุ๊ปใน Facebook หรือเพจท่องเที่ยวที่รายงานสดดีกว่า เพราะสำนักข้อมูลญี่ปุ่นมีจำนวนจุดต้องรายงานมาก บางครั้งทำให้ข้อมูลจุดที่เราต้องการจะไปไม่ Update เช่น รายงานว่า Full bloom แล้ว แต่เวลาผ่านไปไม่ได้ Update ว่าที่นี่เลย Full bloom ไปแล้วเท่าไร หรือเลย Full bloom แล้วแต่ไปเอารูปของต้นที่ดีที่สุดมาลงรายงาน พอไปจริงๆ หน้างานร้อยกว่าต้นมีต้นที่ถ่ายรูปมาสวยนั้นเหลือต้นเดียว อื่นๆ ก็ดอกหล่นออกใบกันหมดแล้ว
นี่เรื่องจริงครับผมโดนมาแยะแล้ว… เอาล่ะครับไป ชมซากุระ โตเกียว กันดีกว่า รีวิวนี้เน้นภาพให้ดูกันเพลินๆ ไม่ได้มีข้อมูลหรือตัวเลขมากมายเหมือนรีวิวรถไฟ
สวนอุเอโนะ (Ueno Park)
เริ่มที่แหล่งชมซากุระที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ Tokyo กันก่อนเลย สวน Ueno นั่นเอง
วิธีการเดินทาง สวน Ueno ไปง่ายมากๆ ครับ มีรถไฟ รถใต้ดินผ่านเพียบ
1. JR Ueno ใช้ทางออก Park exit ด้านทิศตะวันตกครับ (ภาพแผนที่นี้ ทิศเหนืออยู่ด้านขวามือ)
2. Tokyo metro Ueno รถใต้ดินสาย Ginza Line และ Hibiya Line ขึ้นบันไดเลื่อนมาตามป้าย JR Ueno แล้วไปทางทิศตะวันตก
3. Keisei Ueno สายเอกชน ออกมาหันซ้ายเดินนิดหนึ่งก็ถึงครับ สายเอกชน Keisei นี้มีรถด่วนไปสนามบิน Narita คือ Limited Express “Skyliner” คู่แข่งของ Limited Express “Narita Express” ของ JR East ครับ
การเดินชมสวน ผมใช้เส้นทางจากจุด A ไปหาจุด B แล้วออกไปนั่งรถไฟกลับ
สวน Ueno สมกับเป็น จุด ชมซากุระ โตเกียว ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ต้นซากุระขนาดใหญ่จำนวนมากสองข้างทางที่ดอกแทบจะชนกัน เป็นอุโมงค์ซากุระที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็นครับที่นี่ แม้ว่าวันที่ 1 เมษายนนี้ ฟ้าครึ้มมีฝนโปรยๆ ทั้งวัน ฟ้าแม้จะไม่สดใส แต่ทำให้แหงนมองดอกซากุระได้อย่างสบายตา เห็นรายละเอียดได้ครบถ้วนจริงๆ
ที่นี่เป็นที่ที่พบนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุดครับ พบชาวต่างชาติที่นี่มากที่สุด ทางเดินในสวนก็ไม่ได้แคบมาก แต่ฤดูใบไม้ผลินี้นักท่องเที่ยวต่างมาชมซากุระจนทางเดินเหมือนแคบลงเหลือนิดเดียว จากจุด A วนซ้ายไปจุด B ตามแผนที่ หันขวาจะเจอ Benten Hall ที่อยู่กลางน้ำ แปลว่าอุโมงค์ซากุระจบบริเวณนี้ครับ
ย่านอาซากุสะ (Asakusa)
ชมซากุระ โตเกียว ที่ต่อไป ไปกันบริเวณวัดเซนโซจิ ในย่าน Asakusa ครับ แถวนี้มีที่เจ๋งๆ ให้ถ่ายรูปคู่กับซากุระเยอะดี
วิธีการเดินทาง แนะนำสถานี Asakusa ของ Tokyo metro Ginza line (กรอบน้ำเงิน) เพราะเดินไปวัด Asakusa ใกล้มากๆ ครับ ใครดูแผนที่จะงงว่าทำไมมีสถานี Asakusa เยอะจัง ผมตีกรอบบอกว่าเป็นของใครในแผนที่แล้วนะครับ เวลาใช้งานใน Hyperdia.com หรือ Google map จะได้ไม่งง รถใต้ดิน Tokyo metro Ginza line นี่สายแรกของประเทศเลยนะครับ มาจาก Ueno ต่อเดียวได้เลย
เริ่มจากจุด A บริเวณทางเข้าไปวัด Asakusa เลยซอยที่ขายของเยอะๆ จุดนี้แม้ซากุระไม่อลังเวอร์ แต่ได้เข้าเฟรมกับที่เที่ยวสุดฮิต พวกเราจึงต้องมาครับ จากนั้นหันหน้าเข้าวัด เลี้ยวขวาไปจุด B ชมต้นซากุระที่อยู่ริมแม่น้ำ Sumida แถวนี้สามารถถ่ายรูปซากุระคู่กับ Tokyo Sky Tree ได้ครับ
ไปที่จุด C กัน บนสะพานนี้เป็นมุมไกลที่จะเห็นซากุระจำนวนมากเป็นแนวยาว มีแถวขึ้นเรือ Tokyo Cruise หากรอสักพักจะมีขบวนรถไฟ Limited Express สวยๆ ของบริษัท Tobu มาร่วมเฟรมด้วย ขบวนที่เห็นนี้คือ Limited Express “Ryomo” รุ่น 200 Series ที่เริ่มวิ่งมาตั้งแต่ปี 1991 ครับ
ตอนแรกกะจะข้ามฝั่งไปชมซากุระที่สวน Sumida (กรอบแดงขวามือ) แต่ฝนเริ่มหนักขึ้นเลยย้ายที่ครับ
สวนอิโนะคาชิระ (Inokashira Park)
ผมปิดท้ายวันแรก 1 เมษายน ด้วยที่ที่ดังมากๆ อีกแห่งคือ สวน Inokashira ที่ในฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะเต็มไปด้วยความหวานของคู่รักที่นั่งเรือชมบึงด้วยกัน และความหวานของสีดอกซากุระต้นใหญ่รอบๆ บึงครับ
วิธีการเดินทาง แนะนำรถไฟสถานี JR Kichijoji ใช้ทางออกทิศใต้ Park exit เดินประมาณ 5 นาทีครับ ส่วนรถใต้ดินสถานี Inokashirakoen นี่ก็ใกล้ครับ แต่ที่ผมเลือก JR Kichijoji เพราะกะว่าขากลับจะแวะ Rilakkuma store ที่อยู่ทิศเหนือของสถานี แต่ก็ไม่ได้ไปครับไปดูซากุระก่อนฤดูนี้
ซากุระที่รอบบึงในสวน Inokashira แห่งนี้ ต้นทั้งสูงใหญ่และมีกิ่งยื่นไปในบึงยาวมากๆ ครับ ชมซากุระวันแรกของทริปฟ้าครึ้มทั้งวันเลย นี่เป็นแดดแรกของวันเลยครับ คนที่นั่งเรือนี่สามารถใกล้ชิด ต้นซากุระได้ไม่แพ้ที่คนที่มาปิกนิกริมทางเดินรอบสวนเลยครับ
มาที่สะพานแล้วครับ ตำแหน่งยอดฮิตที่ถ่ายรูปกันบนสะพานครับ ช่วงบ่ายแก่ๆ จุดนี้ถ่ายได้ตามแสงครับสบายๆ ตอนนี้แสงเริ่มจะหมดแล้วครับ
ข้ามไปอีกฝั่ง คล้ายกับอีกฝั่งคือมีลานกว้างให้นั่งเฮฮากัน และทางเดินริมบึง
ฝั่งนี้เป็นทางเดินที่ไม่มีเก้าอี้ให้คนนั่ง จึงสามารถถ่ายรูปในบึงได้ง่ายกว่าครับ
กิ่งซากุระยื่นไปในบึงยาวเลย ต้องมีที่รองรับกิ่งไว้ในน้ำด้วยครับ
ข้ามสะพานกลับไปฝั่งเดิม ปิดท้ายสวน Inokashira แม้สวนไม่ใหญ่มาก แต่ซากุระกับเรือในบึงทำให้มีมุมสวยๆ มากมายเลยครับ เดินชมซากุระ เดินถ่ายรูปได้ไม่เบื่อ
สวนชินจูกุเกียวเอน (Shinjuku Gyoen)
วันรุ่งขึ้น 2 เมษายน ที่โตเกียวอากาศแจ่มใส แดดดี ไร้เมฆ ซากุระวันนี้มีแดดขับให้สดชื่นมีพลัง ไปที่สวน Shinjuku กันเลยครับ
วิธีการเดินทาง แนะนำสถานี Shinjuku Sanchome ที่มีทั้งสาย Tokyo Metro Marunouchi Line กับ Fukutoshin Line และ Toei Shinjuku Line ใช้ทางออกไปทางทิศใต้ ใช้เวลาเดิน 10 นาที ที่สวน Shinjuku มีทางเข้าออกหลายทาง จากสถานี Shinjuku Sanchome นี้ใช้ Shinjuku gate ครับ
ค่าเข้า สำหรับผู้ใหญ่ 200 เยน
เข้ามาพบว่าพื้นที่กว้างกว่าที่คิดไว้มากๆ ผมวางแผนเดินไปชมซากุระบริเวณสวนแบบญี่ปุ่นและบึง พื้นที่ช่วงใกล้ๆ ทางเข้าคนจะเยอะนิดหนึ่ง
ต้นซากุระทางขวา เป็นพันธุ์ที่มีดอกสีขาวครับ
ตึกซ้ายมือนี้คืออาคาร NTT Docomo Yoyogi นี่เป็นอาคารสูง 240 เมตร สูงเป็นอันดับ 4 ในญี่ปุ่นครับ
ซากุระต้นใหญ่มากๆ ครับ สวยมากๆ เจอต้นนี้ผมเลี้ยวขวาไปในบริเวณพื้นที่สวนแบบญี่ปุ่นครับ
พื้นที่บริเวณนี้เป็นทางเดินเล็กๆ มีซากุระ 2 ฝั่งทางเดิน ต้นซ้ายมือเป็นพันธุ์ที่มีดอกสีชมพูเข้ม ผมว่าบอบบางกว่าซากุระพันธุ์มาตรฐาน Somei Yoshino ลมพัดมาทีกลีบดอกร่วงเยอะกว่าชัดเจนครับ ต้นนี้เป็นซากุระแบบย้อย (Weeping Cherry) สำหรับแหล่งชมซากุระแบบย้อยที่มีชื่อเสียงมากคือที่เมือง Kakunodate จังหวัด Akita แถบ Tohoku ครับ
มีพื้นที่ใต้ต้นซากุระให้นั่งพักผ่อนกันด้วยครับ บริเวณนี้คนน้อยกว่าแถวใกล้ทางเข้า ไม่ต้องนั่งเสื่อชนเสื่อกันครับ สบายๆ เจอต้นพันธุ์ดอกสีขาวอีกต้นหนึ่ง เด่นมากๆ เลยครับต้นนี้
มาบริเวณจุดที่งามๆ จุดหนึ่งในสวน Shinjuku บริเวณสะพานไม้ข้ามบึง คนเยอะสุดๆ ครับตรงนี้ ซากุระต้นนี้ก็อลังการมาก ห้ามพลาดครับจุดนี้
ศิลปินที่วาดภาพอยู่ริมบึง จริงๆ ตรงนี้คนเยอะนะครับ แต่ขยับมาด้านหลังเพื่อชมรูปวาดของเขากันเกือบหมด
ผมเดินออกมาลูกศรเหลืองในแผนที่ นี่เป็นทางเดินกลับไปออกที่ Shinjuku gate ครับ สวน Shinjuku เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดในการ ชมซากุระ โตเกียว ครับ พื้นที่กว้าง ซากุระต้นใหญ่ยักษ์ มีวิวสวยๆ หลากหลาย ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามานะครับ ส่วนพวกร้านขายอาหารหรือเครื่องดื่ม ผมไม่เห็นนะครับ ไม่แน่ว่ามีขายในสวนไหม ส่วนมากเขาถือมาจากข้างนอกกัน ใครจะมานั่งทานอาหารใต้ต้นซากุระซื้อเข้ามาครับชัวร์กว่า
แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River)
ที่ต่อไปที่นี่ทั้งสวยงามทั้งโรแมนติกเลยครับ ริมแม่น้ำ Meguro สองฝั่งมีซากุระยาวถึง 4 กิโลเมตรเลยครับ เลือกเดินตามที่พอใจ
วิธีการเดินทาง แนะนำรถใต้ดินสถานี NakaMeguro ของสาย Tokyo Metro Hibiya Line และ Tokyu Toyoko Line ใช้ทางออกไปทิศตะวันออก เดิน 2 นาที
ส่วนผมนั้นคิดว่าวันที่ 2 เมษายน ซากุระบานเต็มที่ 30 มีนาคม นี่เข้าช่วงเย็นวันที่ 4 แล้วจึงเลือกเดินไปทิศเหนือ เพราะต้นแถวด้านเหนือน่าจะบานช้ากว่า ดอกสมบูรณ์กว่าครับ
ไปถึงคนมุงเต็มเลยครับ เฮ้ย ดารามาหรือเปล่า พอเข้าไปดูบ้างก็เจอขวัญใจเจ้าถิ่น… ขอบอกว่าเหมียวตัวนี้นี่ไม่ไก่กานะครับ สำนักข่าว Rocketnews24 เคยรายงานว่า พบเหมียวตัวนี้ที่รูปปั้นเจ้า Hachiko ที่ Shibuya ถ้าเป็นนักสืบโคนันต้องบอกว่า คนที่เป็นเจ้าของแฝงตัวอยู่รอบๆ นั่นล่ะ ผมเริ่มจากจุดนี้เเล้วเดินขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแผนที่ที่แปะไว้ครับ
แดดยามเย็นช่วงแสงใกล้หมด ส่วนสายลมนั้นเริ่มแรงขึ้น
ทางเดินริมคลองเป็นร้านอาหาร ที่ดูดีมีสไตล์มากๆ ครับ เคยดูรูปจากเขาถ่ายจากร้านลงมาช่วงกลางคืน จะได้รับประทานอาหารพร้อมชม Light up ด้วยสวยมากๆ เลย เดินชมซากุระกันเพลินๆ มีร้านเครื่องดื่มชิคๆ ให้เลือกได้ตลอดเส้นทางครับ แต่ละร้านตกแต่งแก้วเครื่องดื่มกันเต็มที่ ทั้งผลไม้สดบ้าง Pocky บ้าง
จุดที่นิยมถ่ายรูปกันก็บนสะพานข้ามคลองครับ แสงแดดช่วงท้ายของวันแล้ว
ซากุระส่วนที่ต้องแสงแดดดูมีพลัง อบอุ่น สดชื่น ส่วนไหนที่ไม่ได้โดนแสงแดดก็จะดูอ่อนโยน โรแมนติกมากๆ ครับ ที่แห่งนี้ ถ้าใครอยู่ถึงช่วงค่ำที่นี่มีเปิดไฟ Light up ด้วยนะครับ
ก็จบไปสำหรับการ มาญี่ปุ่น ชมซากุระที่โตเกียวนะครับ ปีนี้ใครเตรียมตัวจะไปชมก็ขอให้วางแผนให้ดี ได้เจอซากุระบานสวยสมใจกันทุกคนเลย
ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ ที่มา รีวิว ชมซากุระ โตเกียว ให้ชมแบบสวยจัดเต็มขนาดนี้! ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ยย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : www.facebook.com/TheImmortalis