@MushroomTravel
สานฝันในวัยเยาว์ที่จะได้อยู่ท่ามกลางตัวการ์ตูนที่ชอบด้วยการไปตะลุย Tokyo Disneyland สวนสนุกยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น ที่มีนักท่องเที่ยวเกือบ 20 ล้านคนต่อปี เรียกได้ว่าเป็น Top List ที่ใครกำลังจะมา ทัวร์ญี่ปุ่น ต้องปักหมุดมาที่นี่ให้ได้สักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก หรือพาเด็กน้อยไปเที่ยว ก็สนุกได้ทุกวัยแน่นอน เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆ กำลังวางแผนว่าจะไปเที่ยว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ อยู่ละก็ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ได้รวม ทุกเรื่องที่ควรรู้ ก่อนเที่ยว Tokyo Disneyland ดินแดนมหัศจรรย์ ฉบับอัปเดต 2024 มาให้แล้ว ตามมาเที่ยวกันได้เลย
รู้จัก โตเกียว ดิสนีย์แลนด์
ไม่ต้องบินไปถึงสหรัฐอเมริกา แค่ไปโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็เที่ยวสวนสนุกระดับโลกได้ เพราะ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นับเป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Disneyland Park ที่แคลิฟอร์เนีย และ Magic Kingdom Park ที่ฟลอริดา ทำให้ได้กลิ่นอายความเป็นดิสนีย์แลนด์แบบฉบับคลาสสิคมาเต็มๆ ซึ่งสวนสนุกดิสนีย์ที่โตเกียวนั้นไม่ได้มีแค่ที่เดียวนะ แต่ยังมี โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) สวนสนุกดิสนีย์ที่มาในธีมการสำรวจทะเล แห่งเดียวในโลก! ถ้าใครมาเป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือเป็นคู่รัก บอกได้เลยว่าฟินสุด เที่ยวเล่นวันเดียวก็ไม่พอ เพราะที่นี่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก แถมยังแบ่งเป็นโซนๆ ให้เดินเพลินๆ กันทั้งวัน
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ VS โตเกียวดิสนีย์ซี ต่างกันยังไง ?
หากใครกำลังสับสนอยู่ว่า ทั้งสองสวนสนุกนี้ต่างกันยังไง พี่เห็ดได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้แล้ว
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
เป็นสวนสนุกสุดคลาสสิกที่อิงจากคาแรคเตอร์ของเหล่าเจ้าหญิง และตัวการ์ตูนต่างๆ ตามที่เราคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน พลาดไม่ได้ที่จะเห็น ปราสาทเจ้าหญิง ที่ถือเป็นไอคอนของดิสนีย์แลนด์ โดยที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์เป็น ปราสาทซินเดอเรลล่า แบบเดียวกับดิสนีย์แลนด์ที่ฟลอริด้าเลยด้วย แถมยังได้พบปะใกล้ชิดกับเหล่าบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์ และตัวละครต่างๆ ทำให้เครื่องเล่นของฝั่งนี้จะมีทั้งแนวซอฟท์ๆ เด็กเล็กเล่นได้ แต่ก็มีบางโซนที่มีเครื่องเล่นมันส์ๆ อยู่ด้วย พร้อมด้วยโชว์สุดพิเศษทั้ง ขบวนพาเหรดสุดน่ารัก และการแสดงพลุ แสงสีเสียง ยามค่ำคืน
โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disney Sea)
เป็นสวนสนุกที่เปิดแยกออกมา โดยมีความแปลกใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์การสำรวจทางทะเล มีแลนด์มาร์คอยู่ที่ ภูเขาไฟโพรมีธีอุส (Prometheus) ที่พ่นควันได้ด้วย ซึ่งความพิเศษของฝั่งนี้คือ เป็นสวนสนุกที่มีเพียงที่โตเกียวแห่งเดียวในโลก! เครื่องเล่นจะออกเป็นแนวผจญภัยทางน้ำ เน้นอิงจากภาพยนตร์ของดิสนีย์เป็นหลัก ดิสนีย์ซีจะมีเครื่องเล่นหวาดเสียวเยอะกว่า เหมาะสำหรับเด็กโต หรือผู้ใหญ่ที่มองหาความตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมด้วยโชว์และขบวนพาเหรดทางน้ำ จะได้เห็นเหล่าตัวการ์ตูนต่างๆ ใส่ชุดเท่ๆ และถ้าใครชื่นชอบเซ็ตตัวการ์ตูน Duffy and Friends ก็มาเจอได้ที่ดิสนีย์ซีเท่านั้น ฝั่งดิสนีย์แลนด์จะไม่มีนะคะ
โซนเครื่องเล่นห้ามพลาดใน Tokyo Disneyland
พื้นที่ภายในโตเกียวดิสนีย์แลนด์แบ่งออกเป็น 7 โซนหลักๆ ซึ่งแต่ละโซนมีธีมการตกแต่ง บรรยากาศ กิจกรรมการแสดง รวมถึงเครื่องเล่นแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นเพื่อนๆ ชอบสไตล์ไหน หรืออยากถ่ายรูปกับอะไร มาดูรายละเอียดแต่ละโซนกัน
1. World Bazaar
ประเดิมกันที่โซนแรก เป็นถนนสายหลักที่ทอดยาวเข้าไปสู่ปราสาทดิสนีย์ บรรยากาศกลิ่นอายอเมริกายุคต้นศตวรรษที่ 20 ตัวอาคารและหลังคากระจกจะตกแต่งสไตล์วิคตอเรีย สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ แวะช้อปปิ้ง หาพร็อพน่ารักๆ มาถ่ายรูปกันได้เลย เต็มอิ่มจุใจสุดๆ ส่วนใครอยากช้อปของฝาก พี่เห็ดแนะนำให้มาซื้อตอนขากลับนะคะ จะได้เล่นเครื่องเล่นแบบสะดวกๆ นอกจากนี้ยังเป็นโซนชมพลุและขบวนพาเหรดที่สวยที่สุดในสวนสนุกอีกด้วย
2. Tomorrowland
อีกหนึ่งธีมที่หลุดโลกได้อีก เพราะเป็นดินแดนแห่งโลกอนาคต เหมือนเราได้หลุดไปอีกโลกหนึ่งที่มีแต่ความล้ำๆ โลกของอวกาศและ Sci-Fi ที่มาจากภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่ที่พลาดไม่ได้ต้องจัดเครื่องเล่น Space Mountain รถไฟเหาะสุดหวาดเสียวที่เปรียบเหมือนยานอวกาศ พาทะยานไปสำรวจบรรยากาศนอกโลก ท่องกาแล็กซีต่างๆ หรือ Star Tours: The Adventures Continue เครื่องเล่นแนว 3D Simulator พาไปในจักรวาลของ Star Wars แบบสมจริง และอีกหนึ่งไฮไลต์กับ Monsters, Inc. Ride&Go Seek นั่งรถไปเล่นซ่อนหากับเหล่ามอนสเตอร์ ถ้าส่องไฟฉายเจอสัญลักษณ์ตัว M มากเทาไหร่ ก็ได้คะแนนเยอะมากเท่านั้น แค่นี้ยังเรียกว่าเป็นน้ำจิ้ม เพราะยังมีเครื่องเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกเพียบ ใครที่เป็นคอหนัง Sci-Fi ห้ามพลาดโซนนี้เลย
3. Fantasyland
ธีมไฮไลต์เด่นที่ใครมา โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ก็ต้องแวะ เพราะเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายดิสนีย์ อะไรที่มาจากการ์ตูนดิสนีย์คลาสสิค เราก็จะพบเจอได้จากโซนนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะมาจากเรื่อง Beauty and the Beast, Peter Pan, Pinocchio, Snow White หรือ Winnie The Pooh เป็นต้น แถมยังเป็นที่ตั้งของปราสาทของ Cinderella อีกด้วย เน้นความน่ารักสดใส เล่าเรื่องราว ทำให้โซนนี้เป็นโซนที่แทบไม่มีเครื่องเล่นโหดๆ หรือหวาดเสียวเลย อย่างเช่น Haunted Mansion เครื่องเล่นที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านผีสิง ตัวรถไฟจะวิ่งไปตามห้องต่างๆ แสง สี เสียง เอฟเฟ็กต์มาครบ แต่ไม่ได้หลอนน่ากลัวหรือน่าตกใจเหมือนบ้านผีสิงที่อื่น, Pooh’s Hunny Hunt ผจญภัยไปในโลกของหมีพูห์ ตามหาน้ำผึ้งแสนหวาน แต่ทีเด็ดของจริงต้องยกให้ Enchanted Tale of Beauty and the Beast เครื่องเล่นที่ฮอตฮิตที่สุดใน Tokyo Disneyland และมีที่เดียวในโลก โดยเราจะได้นั่งในถ้วยน้ำชาหมุนๆ พร้อมชมเรื่องราวความรักของเบลล์และเจ้าชาย เหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกของโฉมงามกับเจ้าชายอสูรจริงๆ ทั้งตัวปราสาท เนื้อเรื่อง ความสมจริงอลังการ ควรค่าแก่การเล่นมากที่สุด
4. Westernland
ขอเปลี่ยนบรรยากาศแหวกแนวด้วยธีม Wild West ผจญภัยไปในดินแดนอเมริกันตะวันตก ยุคศตวรรษที่ 19 หรือให้อารมณ์คาวบอยยุคดั้งเดิม แน่นอนว่ามาโซนนี้ต้องจัดเครื่องเล่น Big Thunder Mountain เป็นรถไฟเหาะในเหมือง ได้ทั้งความหวาดเสียวและบรรยากาศสวยๆ จากมุมสูง หรือถ้าใครอยากชิลๆ อยากชมวิวล่องเรือไปตามแม่น้ำอเมริกาก็ต้อง Mark Twain Riverboat รับรองว่ามาโซนนี้จะได้กลิ่นอายความเป็นหนุ่มสาวคาวบอยอเมริกาอย่างเต็มอิ่มแน่นอน
5. Critter Country
ไปต่อกันที่โซนเล็กๆ ที่มาในธีมป่าในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ เต็มไปด้วยต้นไม้และเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ ซึ่งเราจะได้เห็นตัวละครต่างๆ จากภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง Song of the South มากมาย ส่วนเครื่องเล่นห้ามพลาดในโซนนี้ก็คือ Splash Mountain นั่งเรือท่อนซุงยักษ์ล่องแม่น้ำ ชมสัตว์เพลินๆ ระหว่างทาง ก่อนจะไต่ระดับขึ้นไปอยู่บนยอดภูเขา จากนั้นปล่อยให้ไหลตกลงมาสู่ผืนน้ำเล็กๆ ด้านล่าง ใครที่นั่งโซนหน้าๆ บอกเลยว่ามีโอกาสเปียกสูงมาก แต่ก็หวาดเสียวสนุกถึงใจสุดๆ และถึงแม้จะเป็นโซนที่เล็กกว่าใครเพื่อน แต่ก็เป็นโซนที่ได้รับความสนใจ มีคนเข้ามาเล่นกันเยอะมากทีเดียว
6. Adventureland
ยังคงอยู่กับธีมป่าๆ ออกไปผจญภัยในป่าอันแสนห่างไกล บรรยากาศชวนให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด ผสมผสานความป่าในแอฟริกา เอเชีย อเมริกาใต้ และโอเชียเนีย จนออกมาเป็นการผจญภัยแบบใหม่ สำหรับเครื่องเล่นไฮไลต์ที่ต้องโดนคือ Pirates of the Caribbean ล่องเรือไปกับโจรสลัดในทะเลแคริบเบียน หรือ Jungle Cruise: Wildlife Expeditions เครื่องเล่นสุดคลาสสิกล่องไปตามแม่น้ำ ชมโลกลึกลับของโจรสลัดและสัตว์ป่า นั่งได้เพลินๆ ก่อนจะไปจบที่ The Enchanted Tiki Room นั่งดูโชว์น่ารักๆ ของลิโดแอนด์สติช เรียกได้ว่ามาโซนนี้ผจญภัยหลากหลายรูปแบบจริงๆ
7. Toontown
ดินแดนที่รวบรวมตัวการ์ตูนต่างๆ ของดิสนีย์ไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะใครที่เป็น FC เหล่ามิกกี้และผองเพื่อน บอกได้เลยว่ามีกรี๊ดแน่นอน เพราะจะได้สัมผัสตัวการ์ตูนโปรดแบบใกล้ชิด แต่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานนิดนึงในการต่อคิว เพื่อเข้าไปสำรวจ Mickey’s House และบ้านเพื่อนมิกกี้อีกหลายหลัง ไม่ว่าจะเป็น Goofy’s Paint ‘n’ Play House, Donald’s Boat หรือ Chip and Dale’s Treehouse เป็นต้น ส่วนเครื่องเล่นจะเน้นเป็นของเด็กเล็ก มาโซนนี้ก็เหมือนได้เข้าไปในโลกของมิกกี้ น่ารักจนใจเจ็บจริงๆ
ขบวนพาเหรดดิสนีย์ (Parade and Shows)
สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อได้มา Tokyo Disneyland นั่นก็คือ การมาดูขบวนพาเหรดของเหล่าตัวละครดิสนีย์ที่มาพร้อมพร็อพน่ารักๆ ชวนให้เราได้แชะถ่ายรูปกันรัวๆ สำหรับการแสดงหลักๆ แล้วจะมีในช่วงกลางวันและกลางคืน โดยช่วงกลางวันจะเป็นขบวนพาเหรด Disney Harmony in Color ที่จะนำเสนอการผจญภัย ความกล้าหาญ และมิตรภาพของตัวละครด้วยสีสันที่สดใส เพิ่มความมีชีวิตชีวา ส่วนตอนกลางคืนจะเป็นขบวนพาเหรด Tokyo Disneyland Electrical Parade Dreamlights ขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่กว่าที่เคยเห็นจากที่ไหน เพราะที่นี่เขาจัดแสงไฟ สีสัน และดนตรีแบบเต็มที่มาก เราจะเห็นมิกกี้เมาส์กับเพื่อนๆ อย่าง Aladdin, Toy Story และตัวละครอื่นๆ สวยงามเกินความคาดหมายแน่นอน แถมยังมีการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาที่บริเวณปราสาท สวยสะกดใจให้ยืนนิ่งมองดูได้ยาวๆ ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่างคริสต์มาสหรือปีใหม่ บอกได้เลยว่าเล่นใหญ่เกินเบอร์มาก ทั้งยังมีการตกแต่งประดับประดาปราสาทและทุกพื้นที่อีกด้วย
Tokyo Disneyland มีอะไรใหม่ในปี 2024 ?
1. Disney Harmony in Color
ขบวนพาเหรดช่วงกลางวันโฉมใหม่ เพื่อเปิดตัวงานเฉลิมฉลองยาวตลอดทั้งปี เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีการเปิดให้บริการสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งมาในธีม “Harmonious World of Colors” โดยจะมีเหล่าตัวละครจากภาพยนตร์ดิสนีย์หลายเรื่องมาร่วมแสดง ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที
2. The Diamond Variety Muster
การแสดงบนเวที The Diamond Horseshoe ที่จะทำให้มื้ออาหารเย็นอร่อยมากขึ้น นำแสดงโดยมิกกี้และผองเพื่อน มีทั้งวาไรตี้โชว์สุดฮาของอเมริกา และการร้องเพลงแสนไพเราะ ใช้ระยะเวลารวมทั้งหมดประมาณ 65 นาที
3. Quacky Celebration Donald the Legend
ขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่ที่ผองเพื่อนดิสนีย์มารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองให้กับโดนัลด์ ดั๊ก ตัวละครแต่งกายด้วยสีฟ้า เหลือง ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของโดนัลด์ ดั๊ก ใช้ระยะเวลารวมทั้งหมดประมาณ 35 นาที ใครเป็นแฟนโดนัลด์ ดั๊ก บอกเลยว่าต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะมีแสดงถึง 30 มิถุนายน 2024 เท่านั้น
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไป Tokyo Disneyland
ก่อนจะเข้าสวนสนุกพี่เห็ดนำทริคดีๆ และการวางแผนเที่ยวมาให้ จะได้สนุกกันให้เต็มที่!
1. ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าจากออนไลน์มาก่อน อย่าได้คิดมาซื้อตั๋วเข้าหน้างาน เพราะเสี่ยงที่จะไม่ได้เข้า หรือถ้ามีบัตรก็ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อนานมากเช่นกัน
2. อย่าลืมโหลด Application ของ Tokyo Disney Resort ไว้ด้วย เพราะจะช่วยให้เราวางแผนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจองคิวร้านอาหาร ซื้อของที่ระลึก ดูแผนที่สวนสนุกทั้งหมด ดูตารางโชว์ขบวนพาเหรด พลุ หรือแม้แต่จองคิวเล่นเครื่องได้ ซึ่งจะเป็นการแสดงลำดับคิวแบบเรียลไทม์ ทำให้เราสามารถจัดแจงเวลาได้ดีมากๆ ช่วยชีวิตในสวนสนุกได้เยอะเลย
3. ถ้าใครไม่อยากรอต่อคิวเล่นเครื่องเล่น แนะนำให้ซื้อบัตรพิเศษ เช่น Disney Premier Access ใช้ลดเวลาต่อแถวเครื่องเล่นฮิตๆ, Entry Request ใช้สำหรับจองรอบการแสดงต่างๆ และ Standby Pass ใช้สำหรับจองคิวร้านค้าและร้านอาหารที่กำหนด ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถซื้อผ่านแอปฯ Tokyo Disney Resort ได้เลย
4. วางแผนไว้ก่อนว่าอยากเล่นเครื่องเล่นไหน เพราะเมื่อสวนสนุกเปิดจะได้พุ่งตัวไปที่เครื่องเล่นนั้นทันที การวางแผนจะช่วยทำให้เรารู้ว่าจากจุดนี้จะไปจุดไหนต่อ แถมยังประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก
5. หลีกเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุด เพราะคนจะเยอะมหาศาล ทางที่ดีควรมาเที่ยวสวนสนุกในวันธรรมดา และควรไปตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนสวนสนุกเปิดเลยจะดีมาก คนต่อคิวเครื่องเล่นยอดฮิตอาจจะยังไม่เยอะ ที่สำคัญเราสามารถใช้เวลาทั้งวันในนี้ได้อย่างเต็มที่
6. ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้ามา ที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดในระดับหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วภายในสวนสนุกมีร้านอาหาร และของกินเยอะมาก แถมยังน่ารักน่ากินอีกด้วย แค่นี้ก็เลือกซื้อไม่ถูกแล้ว
7. เตรียมวิธีการใช้จ่ายเงินที่สะดวก เพราะจะช่วยให้การช้อปปิ้งสะดวกมากขึ้น โดยที่นี่สามารถใช้เงินสด บัตรเครดิต หรือ Travel Card ได้ ส่วนของที่ระลึกบางอย่างอาจจะผลิตออกมาขายเฉพาะเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ หมดแล้วหมดเลย เพราะฉะนั้นชอบชิ้นไหนก็จัดเลยจ้า
8. เตรียมความพร้อมทางร่างกายและจิตใจให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย ความพร้อมทางร่างกาย หรือความอดทน เพราะที่นี่เป็นสถานที่กลางแจ้ง อาจต้องเจอกับสภาพอากาศที่ไม่ได้ดั่งใจ หรือการที่ต้องต่อคิวนานๆ
วิธีการเดินทาง
รถไฟ :
– สาย JR Keiyo Line, Musashino Line หรือ Tozai Line มาลงยังสถานี Maihama จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
– สาย JR Disney Resort Line ลง Tokyo Disneyland จากนั้นเดินต่อไปเพียงไม่กี่ก้าว
Shuttle Bus : ขึ้น Shuttle Bus จากสถานีชินจูกุ รถจะขับมาส่งที่หน้าสวนสนุก
รายละเอียดเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00 – 21.00 น. (เวลาเปิด-ปิดแต่ละฤดูกาลอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้เช็กที่เว็บไซต์ของสวนสนุก)
ค่าเข้า : เช็กได้ที่ www.tokyodisneyresort.jp/en/tdl/ticket/index.html
เว็บไซต์ : www.tokyodisneyresort.jp
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/4q9qZuh6Bj8NBMdR8
จัดไปแบบเต็มอิ่มกับข้อมูลแน่นๆ จุกๆ อ่านจบแล้ว บอกได้เลยว่าเพื่อนๆ พร้อมที่จะไปเที่ยว Tokyo Disneyland แล้ว เหลือแค่เตรียมหัวใจและเงินในกระเป๋าไปให้พร้อม แต่ไม่ว่ายังไงพี่เห็ดก็อยากให้เพื่อนๆ เก็บสวนสนุกทั้งสองที่ให้ครบ ทั้ง โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์ซี แม้จะเป็นสวนสนุกจากดิสนีย์เหมือนกัน แต่ก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นยังไงก็จองตั๋วไป ทัวร์ญี่ปุ่น กันได้เลย