@MushroomTravel
ช่วงปิดเทอมของเด็กๆ เป็นเวลาที่เหมาะกับการพาลูกๆ ออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา รับประสบการณ์ใหม่ๆ มากเลยค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะไม่ได้มีเวลาว่างติดกันหลายวันมากมาย วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะพาทุกคนไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย กับ 10 ที่เที่ยวสิงคโปร์ สำหรับเด็ก รับประกันความสนุก น่าตื่นตาตื่นใจ เด็กๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกเหนือตำราเรียน แถมคุณพ่อคุณแม่แฮปปี้ เที่ยวได้ทั้งครอบครัว จะมีพิกัดไหนน่าสนใจ เอาไว้วางแผน พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ บ้าง ไปดูกันเลยยยย
1. สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo)
พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ ที่แรก ให้เด็กๆ ได้มาใกล้ชิดกับสัตว์หลากหลายชนิดที่ สวนสัตว์สิงคโปร์ เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1973 ภายในมีสัตว์กว่า 2,800 ตัว จากจำนวนมากกว่า 300 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์หายาก ให้เราเดินชมกันได้ทั้งวัน อีกทั้งบรรยากาศภายในสวนสัตว์ยังตกแต่งแบบจำลองธรรมชาติและป่าในแบบต่างๆ ได้เหมือนจริงมากๆ สำหรับที่อยู่ของสัตว์ก็จะใช้การสร้างกำแพงหินและลำธารแทนการใช้กรงขังอีกด้วย ดังนั้นสัตว์ที่นี่ก็จะอาศัยอยู่แบบธรรมชาติมากๆ เราเองก็สามารถชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ถึง 11 โซนด้วยกัน ได้แก่ Frozen Tundra, Wild Africa, Fragile Forest, Australian Outback, Great Rift Valley of Ethiopia, Treetop Trail, Gibbon Island, Primate Kingdom, Reptile Garden, Critters Longhouse และ Tropical crops and orchid garden โดยมี ไฮไลท์ที่เด็กๆ พลาดไม่ได้อย่าง เสือโคร่งขาว ช้างเอเชีย ลิงจมูกยาว อุรังอุตัง ฮิปโปแคระ ตัวตุ่นเปลือย และอีกมากมายเลยค่ะ นอกจากนี้ภายในสวนสัตว์ยังมีการจัดแสดงโชว์ต่างๆ ที่น่าสนใจตลอดทั้งวันอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 SGD / เด็ก (อายุ 3 – 12 ปี) 35 SGD
การเดินทาง : รถไฟ MRT สาย North-Sounth ลงสถานี Khatib จากนั้นต่อรถ Shuttle Bus ของสวนสัตว์ที่บริเวณหน้าสถานี
เว็บไซต์ : https://www.mandai.com/en/singapore-zoo.html
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Gwut92pZNpevsJ49A
2. ริเวอร์ซาฟารี (River Safari Singapore)
ขยับมาข้างๆ กันเป็นที่ตั้งของ ริเวอร์ซาฟารี หรือ สวนสัตว์ซาฟารีแบบแม่น้ำ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ทางน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการทั่วทุกโซน ภายในจัดแสดงสัตว์แบบผสมผสานกันระหว่างแบบ Aquarium และแบบซาฟารี และมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศสดชื่นเย็นสบายมากๆ นอกจากเด็กๆ จะได้พบกับสัตว์น้ำนานาชนิดแล้ว ยังมีแพนด้า แพนด้าแดง พะยูน และสัตว์แปลกๆ เกือบทั่วทุกมุมโลกภายในริเวอร์ซาฟารีแห่งนี้อีกด้วยค่ะ ริเวอร์ซาฟารี เป็นสวนสัตว์น้องใหม่ของสิงคโปร์รองมาจาก กับ Singapore Zoo และ Singapore Night Safari และมีพื้นที่ติดกับสวนสัตว์ทั้งสอง ภายในจะถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ Rivers, Wild Panda Forest, Wild Amazonia และ River Safari Cruise Boat Ride นอกจากนั้นไฮไลท์ของสวนสัตว์แห่งนี้ก็คือ Amazon River Quest หรือการล่องแก่งตามลำน้ำชมสัตว์จากป่าอเมซอนนั่นเองค่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 SGD (ประมาณ 730 บาท), เด็ก 20 SGD (ประมาณ 490 บาท), ผู้สูงอายุ 14 SGD (ประมาณ 340 บาท)
การเดินทาง : รถไฟ MRT สาย North-Sounth ลงสถานี Khatib จากนั้นต่อรถ Shuttle Bus ของสวนสัตว์ที่บริเวณหน้าสถานี
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/suShCZng9TJhcdeE7
3. สวนสัตว์กลางคืน ไนท์ซาฟารี (Night Safari Singapore)
ไปกันต่อกับ สวนสัตว์กลางคืน ไนท์ซาฟารี ไหนๆ มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องไปให้ครบ! ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับสวนสัตว์สิงคโปร์ และริเวอร์ซาฟารี เป็นสวนสัตว์ที่เปิดให้บริการในเวลากลางคืน มีสัตว์กว่า 2,500 ตัว จาก 130 สายพันธุ์ นั่งท่องเที่ยวจะได้นั่งรถราง พร้อมฟังคำบรรยายจากไกด์ เพื่อไปสำรวจพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของโลกทั้ง 7 โซน แต่ถ้าใครอยากใกล้ชิดกว่านั้น เขาก็มีเส้นทางเดินป่าให้บริการถึง 4 เส้นทาง ได้แก่ Fishing Cat Trail, Leopard Trail, East Lodge Trail และ Tasmanian Devil Trail (เส้นทางแทสเมเนียนเดวิล) ทั้งยังมีการแสดงจากสัตว์กลางคืนให้ได้ชมอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 19.15 – 00.00 น.
การเดินทาง : รถไฟ MRT สาย North-Sounth ลงสถานี Khatib จากนั้นต่อรถ Shuttle Bus ของสวนสัตว์ที่บริเวณหน้าสถานี
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 56 SGD / เด็ก (อายุ 3 – 12 ปี) 39 SGD / ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) 20 SGD
เว็บไซต์ : https://www.mandai.com/en/night-safari.html
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/TBqLEpVv4GfcUvKt7
4. สวนสนุก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio Singapore)
พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ ทั้งทีจะขาดที่นี่ไปไม่ได้เลยค่ะ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ สวนสนุกระดับโลกในเครือ Universal Studios จากประเทศอเมริกา หลังจากที่ประสบความสำเร็จที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ก็เลยขยายสาขามาที่สิงคโปร์บ้าง โดยภายในประกอบไปด้วย 7 โซน ดังนี้
1. Hollywood โซนนี้จะตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้า และทางออกของสวนสนุก เป็นโซนที่รวบรวมความบันเทิงต่างๆ คล้ายกับเราได้ไปยืนอยู่กลาง Hollywood จริงๆ เลยค่ะ ซึ่งความน่าสนใจในโซนนี้ก็จะเป็นการแสดงดนตรีของ Monster Rock, Daddy O’s, Mel’ Dinettes ส่วนใครชอบช้อปปิ้ง อยากได้ของที่ระลึกจากสวนสนุกก็มาเลือกซื้อได้ตามร้านค้าในโซนนี้เลย
2. New York โซนที่จำลองบรรยากาศเหมือนกับมหานครนิวยอร์ก ที่มีความน่าสนใจอยู่ที่การแสดง Lights, Camera, Action Hosted by Steven Spielberg ที่เต็มไปด้วยเอฟเฟ็กต์สุดแสนอลังการ และยังมีการแสดงแบบ Street Entertainment ของ The Rockafellas และ Sesame Street Stage Shows ด้วยค่ะ
3. Sci Fi City ใครชอบเครื่องเล่นมันส์ๆ น่าหวาดเสียว มาโซนนี้เลย ไฮไลต์อยู่ที่รถไฟเหาะคู่ที่สูงที่สุดในโลกที่มีชื่อว่า Battles Galactica ซึ่งเราสามารถเลือกระดับความหวาดเสียวได้ว่าจะนั่งสีแดงหรือสีน้ำเงิน
4. Ancient Egypt สำหรับโซนนี้ความโดดเด่นก็คงจะอยู่ที่การตกแต่ง คล้ายกับย้อนไปในสมัยที่อียิปต์กำลังรุ่งเรือง โดยเครื่องเล่นของที่นี่ที่อยากแนะนำให้ลองดูสักรอบก็เห็นจะเป็น Revenge of the mummy รับรองว่าคุณจะลืมไม่ลงเลยทีเดียวค่ะ
5. Lost World โซนที่จำลองเกาะไดโนเสาร์คล้ายกับเรื่อง Jurassic Park เอาไว้ โดยเครื่องเล่นที่น่าสนใจของที่นี่ก็ได้แก่ Canopy Flyer, Jurassic Park Rapids Adventure ที่เด็กๆ ก็สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนาน โดยมีคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้าง และอย่าพลาดชมการแสดง WaterWorld ด้วยนะคะ
6. Far Far Away โซนนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กผู้หญิง เพราะมีปราสาทเหมือนอยู่ในเทพนิยายตั้งโดดเด่นเป็นสง่า ส่วนไฮไลต์คือการชมภาพยนต์ 4D เรื่อง Shrek รวมไปถึงการแสดงของ Donkey LIVE ที่นอกจากจะมีเพลงเพราะๆ ให้ฟังแล้ว เรายังสามารถพูดคุยกับเจ้า Donkey ได้ด้วย
7. Madagasca โซนยอดนิยมสำหรับครอบครัว โดยมีเครื่องเล่นไฮไลต์ได้แก่ Kin Julien’s Beach Party-Go-Round รวมไปถึง Madagascar: A Crate Adventure ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่เด็กๆ ชอบกันมากเลยค่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 83 SGD, เด็ก (อายุ 4 – 12 ปี) 62 SGD
การเดินทาง : นั่งรถ MRT ไปลงที่สถานี HarbourFront จากนั้นเดินไปยังชั้น 3 ของห้าง Vivo City เพื่อต่อรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Waterfront
เว็บไซต์ : https://www.rwsentosa.com/en/play/universal-studios-singapore
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/JG8bQZ2C5D5n7QZK8
5. พิพิธภัณฑ์ไอศกรีม (Museum of Ice Cream Singapore)
เด็กๆ ที่ชอบทานขนมหวานต้องไปที่ พิพิธภัณฑ์ไอศกรีม พิพิธภัณฑ์สีพาสเทลสุดน่ารักที่ได้รับการพัฒนามาจากพิพิธภัณฑ์แบบเดียวกันในสหรัฐอเมริกา ภายในมีการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของขนมหวานและไอศกรีม มีการจัดแสดงผลงานศิลปะ สนามเด็กเล่น รวมไปถึงไฮไลต์อย่าง สระ Sprinkle Pool จุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกัน นอกจากนี้เขายังมีบริการไอศกรีมแบบไม่อั้น แต่ละรสชาติรังสรรค์มาเฉพาะพิพิธภัณฑ์นี้เท่านั้น พร้อมด้วยขนมและของทานเล่นอีกหลากหลายเมนู แถมยังมีสินค้าที่ระลึกให้ได้ช้อปติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย ถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 19.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
การเดินทาง : รถเมล์สาย 7, 75, 77, 105, 106, 123, 174 ลงที่ป้าย CSC Dempsey Clubhouse จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 700 เมตร
ค่าเข้าชม : บัตรเข้าชมทั่วไป 35 SGD / บัตรเข้าชมระดับพรีเมียม 45 SGD
เว็บไซต์ : https://www.museumoficecream.com/singapore/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/iLqhNzZWGWdt5h3h7
6. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. (S.E.A. Aquarium)
สนุกกันมาหลายที่แล้ว คราวนี้มาผจญภัยในโลกใต้ทะเลที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. Aquarium กันดีกว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลแห่งนี้ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถมยังครองอันดับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ภายในมีสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ ราว 100,000 ตัว มากกว่า 800 สายพันธุ์ ภายในแท็งก์บรรจุน้ำมากกว่า 60 ล้านลิตร รับรองได้เลยว่า พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ ที่นี่จะต้องฟินอย่างแน่นอน สำหรับ S.E.A. Aquarium แห่งนี้ตั้งอยู่ในโซนของ Marine Life Park ภายใน Resort World บนเกาะเซ็นโตซ่า ไม่ไกลจากสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอเลยค่ะ เที่ยวยูนิเวอร์แซลเสร็จก็มาต่อที่นี่ได้เลย ภายในอควาเรียมแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 โซน โดยเริ่มตั้งแต่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านอ่าวอาหรับ และออกสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ปลากระเบนราหู และฉลามหัวค้อน ที่เราสามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจกใสยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 44 SGD, เด็ก (อายุ 4 – 12 ปี) 33 SGD
การเดินทาง : นั่งรถ MRT ไปลงที่สถานี HarbourFront จากนั้นเดินไปยังชั้น 3 ของห้าง Vivo City เพื่อต่อรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Waterfront
เว็บไซต์ : https://www.rwsentosa.com/en/play/sea-aquarium
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/PmqUhVSgcE9KHepZ6
7. สิงคโปร์ ซิตี้ แกลเลอรี่ (Singapore City Gallery)
พาลูกไปเปิดประสบการณ์การเรียนรู้กันที่ สิงคโปร์ ซิตี้ แกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมา โครงการต่างๆ ของประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นประเทศเล็กๆ จนพัฒนามาเป็นประเทศสิงคโปร์อย่างในปัจจุบัน ด้านในเปิดให้เข้าชมทั้งหมด 3 ชั้น แบ่งออกเป็นห้องกว่า 50 ห้อง มีการนำเสนอผ่านเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) ที่ทำให้เห็นภาพสิงคโปร์ทั้งเมือง เป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ สําหรับเด็ก ที่ทั้งสนุกและได้ความรู้ แถมเข้าชมฟรีอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงสถานี Tanjong Pagar ทางออก A ขึ้นมาที่ถนน Maxwell Road จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FqQg95jqizGNXYP27
8. จีเวล ชางงี แอร์พอร์ต (Jewel Changi Airport)
ลงเครื่องปุ๊บก็ พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ ปั๊บ เพราะ จีเวล ชางงี แอร์พอร์ต เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ติดกับสนามบินชางงี มีครบทั้งร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ HSBC Rain Vortex น้ำตกในอาคารที่มีความสูงถึง 40 เมตร สามารถชมได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา ทั้งยังมี Canopy Park สนามเด็กเล่นที่สามารถวิ่งเล่นได้อย่างเต็มที่, Changi Experience Studio ที่มีเกมส์ให้เล่นเพียบ รวมไปถึง Pokémon Centre Singapore การ์ตูนสุดฮิตที่ภายในร้านมีทั้งของเล่น และสินค้าน่ารักๆ ให้ได้เลือกช้อปเต็มไปหมด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 24 ชั่วโมง / Canopy Park จันทร์ – ศุกร์ 10.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 23.00 น.
การเดินทาง : รถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงสถานี Changi Airport ที่เชื่อมต่อกับ Terminal 2 และ 3 จากนั้นเดินต่อมายัง Terminal 1 / รถเมล์สาย 858 110 53 36 34 20 24
เว็บไซต์ : www.jewelchangiairport.com
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/X8zPuDkT3o52scM18
9. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ (ArtScience Museum)
ถือเป็น ที่เที่ยวสิงคโปร์ สำหรับเด็ก ที่โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์เลยค่ะ สำหรับ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ เพราะตัวอาคารมีการออกแบบให้มีรูปร่างแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร บางคนบอกคล้ายดอกบัวที่กำลังผลิบาน บางคนก็บอกคล้ายนิ้วมือ ด้านในแบ่งเป็นห้องจัดแสดงทั้งหมด 21 ห้อง บอกเล่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความรู้แขนงอื่นๆ มีทั้งนิทรรศการถาวร นิทรรศการที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ และนิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟ น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 19.00 น.
การเดินทาง : รถไฟ MRT ลงสถานี Bayfront จากกนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม : ราคาแตกต่างกันไปตามนิทรรศการที่เลือกชม
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/86kJTRnomLsatzwR7
10. มารีน่า บาร์ราจ (Marina Barrage)
บ้านไหนที่อยากเที่ยวชิลๆ แนะนำให้ไป มารีน่า บาร์ราจ หนึ่งในแหล่งเก็บน้ำของประเทศสิงคโปร์ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้กลายเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง มีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปิกนิก พายเรือคายัค ปั่นจักรยาน เล่นว่าว ฯลฯ บริเวณดาดฟ้าเป็นจุดที่สามารถชมวิวเมืองได้แบบพาโนรามา โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทติย์ตก สวยงาม บรรยากาศดี เที่ยวได้ทั้งครอบครัวเลย
การเดินทาง : รถไฟ MRT ลงสถานี Marina Bay ต่อด้วยรถเมล์สาย 400
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/EeXgL9f2KmYKZ45TA
จัดเต็มกับ 10 ที่เที่ยวสำหรับเด็กในสิงคโปร์ น่าเที่ยวทุกที่จริงๆ นอกจากนี้แล้วสิงคโปร์ยังมีที่เที่ยวที่เป็นแหล่งเรียนรู้มีประโยชน์กับเด็กๆ อีกมากมายเลยค่ะ ปิดเทอมนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ลองวางแผนไป ทัวร์สิงคโปร์ กันทั้งครอบครัวได้เลย เชื่อว่าคุณลูกน่าจะสนุกสนานจนมีเรื่องไปเล่าให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟังได้อีกเยอะเลยค่าาา