Mushroom Travel

8 น้ำหอมฝรั่งเศส สำหรับหญิงและชาย รุ่นน่าใช้ยอดฮิต ของมันต้องมี!

น้ำหอมฝรั่งเศส

ฝรั่งเศส ประเทศที่ได้ฉายาว่าเป็น “ดินแดนน้ำหอม” ที่นี่คือ แหล่งผลิตน้ำหอมที่มีชื่อเสียง และใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยแหล่งผลิต น้ำหอมฝรั่งเศส ที่สำคัญของประเทศจะอยู่ที่เมือง Grasse ในแคว้น Provence ที่เริ่มการผลิตน้ำหอมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 หากใครมีโอกาสได้ไปเยือน ที่นี่ก็ได้มีการเปิดโรงงานผลิตน้ำหอมให้เข้าชมด้วยนะ รวมทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์น้ำหอมเมือง Grasse ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวัฒนาการในการผลิตน้ำหอม นับตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงปัจจุบันเลยล่ะค่ะ

Credit : canva.com

ส่วนใครเป็นขาช้อปและชอบสะสมน้ำหอม ไปถึงแหล่งทั้งที่ก็ต้องได้หิ้ว น้ำหอมจากฝรั่งเศส กลับไปเมืองไทย จะใช้เองหรือนำไปเป็นของขวัญ ของฝาก ก็ได้ วันนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล คัด 8 น้ำหอมฝรั่งเศส รุ่นยอดฮิต ทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย มาแนะนำแล้วจ้าา จะซื้อที่ฝรั่งเศสก็ได้ หรือถ้ายังไม่ได้ไปเที่ยวก็หาซื้อที่เมืองไทยได้เลย

1. CHANEL N°5 EDP

Credit: chanel.com

เปิดตัวกันที่ CHANEL N°5 EDP ที่คงจะไม่มีใครไม่รู้จักและต้องยอมรับว่า No. 5 คือน้ำหอมที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Chanel เลยก็ว่าได้ สำหรับการนำ Aldehyde เข้ามาเป็นส่วนผสมในการปรุงน้ำหอมเป็นกลิ่นแรกของโลก ทำให้ CHANEL N°5 กลายเป็นน้ำหอมแนว Floral – Aldehyde ที่มีส่วนประกอบสำคัญคือ Aldehyde ซึ่งผสมเข้ากับดอกไม้อื่น ๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น กระดังงา มะกรูด มะนาว ดอกส้ม มะลิ ลิลลี่ กุหลาบ ดอกโอรีส หญ้าแฝก ไม้จันทน์ วานิลลา และอำพัน จนกลายเป็น น้ำหอมฝรั่งเศส ที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น จนใครก็เลียนแบบไม่ได้

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย : (35 ml.) 72 EUR, 3,450 บาท / (50 ml.) 97 EUR, 4,700 บาท / (100 ml.) 137 EUR, 6,600 บาท / (200 ml.) 221 EUR
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

2. Coco Mademoiselle Chanel perfume 

Credit: chanel.com

ยังคงอยู่กันที่ CHANEL กับ COCO MADEMOISELLE น้ำหอมอีกหนึ่งรุ่น เป็นกลิ่นยอดนิยม ที่ขายดีตลอดกาล ของแบรนด์ CHANEL โดยกวาดรางวัลจากหลากหลายเวทีมาแล้ว ทั้ง FiFi Award, Advertising Campaign TV และ Bath & Body Line of the year เป็นเครื่องการันตีถึงความหอม ที่เต็มไปด้วยคุณภาพของ COCO MADEMOISELLE ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมแบบหรูหรา คลาสสิก ที่เกิดจากการผสมระหว่างผลไม้อย่างมะกรูด ส้ม และพิมเสน รวมถึงกลิ่นแนว Floral ในช่วง Middle Notes ที่ได้จากการรวมตัวของดอกไม้หลาย ๆ ชนิด เช่น กุหลาบ มะลิ และดอกส้มเข้าด้วยกัน และปิดท้ายด้วยกลิ่น Base Notes ของวานิลลากับถั่วตองก้าบีน นั่นเองค่ะ

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย : (35 ml.) 72 EUR, 3,450 บาท / (50 ml.) 97 EUR, 4,700 บาท / (100 ml.) 137 EUR, 6,600 บาท / (200 ml.) 221 EUR, 10,600 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

3. CHLOÉ Nomade Absolu de Parfum

Credit: chloe.com

หากต้องการ น้ำหอมฝรั่งเศส ขอแนะนำเป็น CHLOÉ Nomade Absolu de Parfum เลยค่ะ มาพร้อมขวดที่ตกแต่งด้วยหมุดสีทอง และหนังสีน้ำตาลเฮเซลนัท กับขวดน้ำหอม Nomade ในสีโทนอุ่น ที่ยังคงกลิ่นโอ๊ค มอสส์ เอาไว้ ผสานด้วยโทนกลิ่นฟรุ้ตตี้จากดาวาน่า และเติมความสดใส ความหวาน ความเร้าใจ จากผลเชอร์รี่ พลัม เป็นกลิ่นอบอุ่น อ่อนโยน สดชื่น เข้มแบบพอดี ๆ หรูหราตามสไตล์ของ CHLOÉ สำหรับน้ำหอมรุ่นนี้ก็มีทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ 30 ml. 50 ml. และ 75 ml.

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย : (30 ml.) 68 EUR / (50 ml.) 99 EUR, 4,500 บาท / (75 ml.) 119 EUR, 5,750 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

4. Givenchy Irresistible EDT

Credit: givenchybeauty.com

มาถึงอีกหนึ่ง น้ำหอมจากฝรั่งเศส อย่าง Givenchy Irresistible EDT ที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน วันพักผ่อน หรือวันไหน ๆ ด้วยคอนเซปต์ หอม “เกินต้านทาน” หรือ ไม่อาจต้านทานได้  กับกลิ่น Floral-Woody Fruity โดยมีกลิ่น Top Notes เป็น Blackcurrant, White tea กลิ่น Heart Notes เป็น Rose Essential LMR, Orris และกลิ่น Base Notes เป็น Virginia Cedar Wood, Musk รับรองว่าใครได้กลิ่นเป็นต้องหลงเสน่ห์ความหอมแน่นอนค่ะ ขวดมาพร้อมลวดลายปริซึมสี่เหลี่ยมจัตุรัส กับ 3 ขนาด ได้แก่ 35 ml. 50 ml. และ 80 ml.

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย : (35 ml.) 52 EUR, 2,370 บาท / (50 ml.) 77 EUR, 3,380 บาท / (80 ml.) 93 EUR, 4,000 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

5. J’adore Eau de Parfum

Credit: dior.com

มาต่อกันที่ J’adore Eau de Parfum จาก Christian Dior โดดเด่นด้วยแพ็กเกจที่เป็นขวดสีทองสวยหรู สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น กลิ่นของตัวน้ำหอมเองก็หรูหราไม่แพ้ขวดเช่นกันค่ะ โดยเป็นกลิ่นแนว Floral หอมหวาน ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย นุ่มนวล จากดอกไม้ทั้งหมด 3 ชนิด นั่นก็คือ ดอกกระดังงา ดอกกุหลาบ และดอกมะลิอาหรับ เมื่อฉีดครั้งแรกกลิ่นที่นำเด่นมาเลยจะเป็นดอกกระดังงา แฝงกับกลิ่นมะลิที่คู่กันมาอย่างพอดี และเมื่อผ่านไปสักพักหนึ่ง กลิ่นดอกไม้ทั้ง 2 ชนิดก็จะค่อย ๆ จางลง จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกกุหลาบ ใครที่ชื่นชอบน้ำหอมแนว Floral ต้องห้ามพลาดกับน้ำหอมขวดนี้เลยล่ะค่ะ

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย : (30 ml.) 65 EUR, 3,000 บาท / (50 ml.) 95 EUR 5,100 บาท / (100 ml.) 136 EUR, 6,600 บาท / (150 ml.) 180 EUR, 8,100 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

6. YVES SAINT LAURENT Beauté

Credit: yslbeautyth.com

มาที่ฝั่งของน้ำหอมผู้ชายกันบ้างค่ะ และที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ กับ YVES SAINT LAURENT Beauté หรือ อีฟ แซงต์ โรงลองต์ โบเต้ น้ำหอมฝรั่งเศส ที่มาพร้อมกลิ่นอายความเท่ แบบฉบับของร็อกสตาร์ กับกลิ่นแนวหอมสะอาด สดชื่น ปนเซ็กซี่ แต่ยังคงความเข้มดุดัน กับการผสมผสานที่ลงตัว ระหว่างลาเวนเดอร์ และแบล็กซีดาร์วูด (black cedarwood) มาในขวดสีดำวาว และรอยบากรูปตัว “Y” ดูเท่ครบ จบในขวดเดียวเลยค่ะ

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย : (60 ml.) 89 EUR, 4,800 บาท / (100 ml.) 115.50 EUR, 6,100 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

7. Louis Vuitton Nouveau Monde 

Credit: fr.louisvuitton.com

ไม่เพียงแต่โด่งดังในเรื่องของแฟชั่น หากได้เห็นโลโก้ ลวดลายโมโนแกรม ลายตารางหมากรุก และตัวอักษร LV ต่างก็ยังเป็นที่จดจำ และถูกพูดถึงอยู่เสมอ และ น้ำหอม Louis Vuitton ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ทางแบรนด์ได้รังสรรค์ออกมาเป็นน้ำหอมชั้นดีเยี่ยม ด้วยการนำเมล็ดโกโก้ดิบ และไม้กฤษณา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอม ความหายากจากอัสสัม มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ออกมาเป็น Nouveau Monde

ราคาขายที่ฝรั่งเศสและไทย :  (100 ml.) 225 EUR, 9,450 บาท / (200 ml.) 350 EUR, 13,600 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

8. CELINE NIGHTCLUBBING

Credit: celine.com

ปิดท้าย น้ำหอมฝรั่งเศส กันด้วย NIGHTCLUBBING จาก Celine ที่กลิ่นมีเอกลักษณ์ ใช้ได้ทั้งหญิงและชาย หลังจากที่ห่างหายกันไปนานนับสิบปี แบรนด์นี้ก็ได้กลับมาพร้อมคอลเลคชั่นน้ำหอม Celine HAUTE PARFUMERIE พร้อมด้วยน้ำหอมคุณภาพถึง 11 กลิ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นมีน้ำหอมที่น่าสนใจอย่าง Nightclubbing ที่สะท้อนภาพของผู้คน แสงไฟ ไนต์คลับ กลิ่นอายเมืองปารีสในยามค่ำคืน โดยสัมผัสแรกของกลิ่นจะให้กลิ่นที่คล้ายกับบุหรี่นั่นเองค่ะ เหมาะกับดินเนอร์ในช่วงค่ำ หรือนัดสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ในช่วงดึก และไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้ ไม่มีการจำกัด หรือแบ่งแยกเรื่องของเพศค่ะ

ราคาขายที่ฝรั่งเศส : (100 ml.) 225 EUR, 9,500 บาท / (200 ml.) 350 EUR, 14,000 บาท
*ราคาและขนาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่ละพื้นที่

เพลิดเพลิน..พร้อมรับความหอมกันไปเต็มที่ กับ 8 น้ำหอมจากฝรั่งเศส ที่ได้แนะนำกันไปข้างต้นแล้ว ก็ต้องบอกเลยนะคะว่า ยังมีน้ำหอมจากแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่ต่างก็ได้รับความนิยมให้อยู่ในใจของคนรัก น้ำหอมฝรั่งเศส อาทิ Roger & Gallet, Creed, Coty, Caron, Lanvin และ Hermès เป็นต้น ซึ่งต่างก็มีความหอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ทั้งนี้ทุกคนก็สามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ และงบประมาณที่มีเลยได้เลยค่ะ


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ฝรั่งเศส ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

8 น้ำหอมฝรั่งเศส สำหรับหญิงและชาย รุ่นน่าใช้ยอดฮิต ของมันต้องมี! was last modified: September 24th, 2021 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version