Highlights
- วางแผนเที่ยววันหยุดในเมืองไทยเดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่ยังอยู่ในช่วงหน้าฝน เหมาะกับการออกไปสัมผัสธรรมชาติ ทั้งป่าเขาและสายน้ำ
- แนะนำ 5 ที่เที่ยวในเมืองไทย สำหรับคนรักธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวสนุกๆ ที่ให้เราได้ผ่อนคลาย เที่ยวกับครอบครัว หรือจะวางแผนไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ก็ได้
เดือนสิงหาคมมีวันหยุดให้คนทำงานชื่นใจกันอีกแล้ว แถมยังเป็นวันแม่ เหมาะสำหรับการพาคุณแม่และครอบครัวออกไปเที่ยวพักผ่อน ใครกำลังเล็งๆ ที่เที่ยวไทย วางแผนว่า สิงหาคม เที่ยวไหนดี มาทางนี้เลยค่ะ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล คัด 5 ที่เที่ยวเดือนสิงหาคม ในเมืองไทย มาให้ชม มีที่ไหนบ้างไปดูกัน!!
1. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
สิงหาคม เที่ยวไหนดี เริ่มต้น เที่ยวไทย กันที่ ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปนอนกางเต็นท์นับดาวที่ละลานเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืน ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการมองเห็นกาแล็กซี่ทางช้างเผือกด้วยตาเปล่า ไม่ต้องแบกกล้องส่องดาวไปให้เปลืองแรงเลยค่ะ แต่การจะไปพิชิตภูสอยดาวได้นี่ต้องฟิตร่างกายกันหน่อยนะ เพราะว่าต้องเดินป่าข้ามเขาหลายลูกกว่าจะไปถึง แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อขึ้นไปถึงแล้วและได้เห็นทางช้างเผือกสวยๆ ยามค่ำคืน บอกเลยว่าคุ้ม! แถมยังมีทะเลหมอกฟินๆ ให้เห็นกันเกือบทั้งวันอีกด้วย ยิ่งไปช่วงเดือนสิงหาคมที่เป็นหน้าฝนจะได้ทะเลหมอกกันแบบจุใจ อากาศเย็นสบาย วิวสวยอลังการมาก สายลุยต้องไม่พลาดเที่ยวภูสอยดาวกันนะคะ
2. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ทริปถัดมาไปกันที่ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะจะไปเยือนในช่วงหน้าฝน บอกเลยว่าดีงามไม่แพ้ช่วงหน้าหนาวเลยค่ะ อากาศเย็นสบาย สูดหายใจได้เต็มปอด มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความชุ่มฉ่ำของต้นไม้ใบหญ้า มีจุดชมวิวให้นักล่าทะเลหมอกได้ถ่ายรูปฟินๆ อาทิ จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ จุดชมวิววัดกองเนียม จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ จุดชมวิวช้างดอย จุดชมวิวระเบียงกังหันลม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญให้เราได้แวะเที่ยวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว พระตำหนักเขาค้อ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติที่น่าไปสุดๆ
3. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก
สิงหาคม เที่ยวไหนดี ขอเอาใจสายเอ็กซ์ตรีมกันบ้าง ด้วยการพาไป เที่ยวไทย ในกิจกรรม ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก หนึ่งในจุดล่องแก่งที่มีชื่อเสียงของไทย ซึ่งจะเริ่มกิจกรรมกันในช่วง เดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี โดยลำน้ำเข็กนั้นไหลมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ เหมาะกับนักผจญภัยทุกระดับ สามารถไปยังจุดเริ่มต้นได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องเดินเท้าเข้าป่า และมีระยะให้พักเหนื่อย ซึ่งการล่องแก่งลำน้ำเข็กจะมีระดับความยากง่ายอยู่ที่ 1-5 สลับกันไปตลอดเส้นทางกว่า 8 กิโลเมตร รวมทั้งหมด 18 แก่ง ใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง คนรักการผจญภัยต้องไม่พลาด! แต่ก่อนไปควรโทรสอบถามสภาพความแรงของน้ำที่ททท.พิษณุโลกก่อนนะจ๊ะ จะได้ไม่เสียเที่ยวจ้า
4. ล่องแพ จังหวัดกาญจนบุรี
สำหรับใครที่เป็นสายชิล ชอบความเย็นสบายของสายน้ำและการชมธรรมชาติ สิงหาคม เที่ยวไหนดี ต้องไม่พลาดกิจกรรม ล่องแพ จังหวัดกาญจนบุรี เหมาะสำหรับการไป เที่ยวไทย เป็นหมู่คณะ เที่ยวกับครอบครัว กลุ่มเพื่อนหลายๆ คน โดยเป็นการล่องแพไม้ไผ่ที่ไหลไปตามสายน้ำแบบชิลๆ ได้นั่งเอาขาแช่น้ำชมวิวสองข้างทาง หรือว่าจะกระโดดลงเล่นน้ำเลยก็ได้ ถ้าใครไปกันเป็นคณะแนะนำว่าเช่าแพใหญ่แบบนั่งทานอาหารด้วยกัน หรือจะร้องคาราโอเกะสร้างความสนุกสนาน รับรองว่าฟินสุดๆ ซึ่งที่กาญจนบุรีก็มีบริการล่องแพมากมายในหลายสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำแคว เขื่อนศรีนครินทร์ หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ แต่ถ้าอยากได้ฟีลแอดเวนเจอร์กว่านั้น ก็สามารถเลือกล่องแพไปตามแม่น้ำต่างๆ เช่น ที่แม่น้ำน้อย หรือแม่น้ำซองกาเลีย เป็นต้น
5. น้ำตกปิตุ๊โกร จังหวัดตาก
ปิดท้าย เที่ยวไทยเดือนสิงหาคม กันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับขาลุย สายเดินป่า ด้วยการไปเที่ยว น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ตั้งอยู่บนดอยเทือกเขาสามหมื่น ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ติดกับเขตรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมาร์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในป่าลึก มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รายล้อม ที่สำคัญเมื่อมองดูไกลๆ จะเห็นว่า น้ำตกเป็นรูปหัวใจ ไหลลงจากหน้าผาสองฝั่งที่มาบรรจบกัน การจะไปถึงน้ำตกแห่งนี้ต้องใช้เวลาในการเดินเท้าเข้าป่า รวมค้างคืนในป่าด้วยอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน บอกเลยว่าถ้าจะมาพิชิตน้ำตกแห่งนี้ นอกจากจะฟิตร่างกายให้พร้อมแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องพร้อมด้วย เพราะเป็นการเดินป่าในหน้าฝน ฉะนั้นต้องมีรองเท้าเดินป่าที่พื้นไม่ลื่น เสื้อกันฝน ยากันยุงกันทาก ฯลฯ ใครที่อยากท้าทายความสามารถตัวเองในการเดินป่า เส้นทางพิชิตน้ำตกปิตุ๊โกรเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ