Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

12 วันชิวๆที่ ICELAND (ตอนที่ 2)

โพสเมื่อ

มาติดตามรีวิว ทริป เที่ยว Iceland จาก Guest สุดพิเศษ กันต่อในตอนที่ 2 หลังจากได้ชมแสงเหนือกันไปแล้ว ครั้งนี้จะไปลุยกันที่ไหน ท่ามกลางหิมะสีขาวแบบนี้ ตามไปชมกันค่ะ ส่วนใครยังไม่ได้ชมตอนแรก คลิกไปที่ ตอนที่ 1 ได้เลยจ้า


12 วันชิวๆที่ ICELAND (ตอนที่ 2)

DAY 05

หลังจากหลับสบายอีกเช่นเคย ก็ได้เวลาทานอานหารเช้า

ห้องครัว และห้องอาหารตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้น

มื้อเช้าก็ ง่ายๆครับ โจ๊ะสำเร็จรูป ไก่ย่าง

อยากกินอะไรยากๆ แต่ทำกันไม่เป็นหลังจากมื้อเช้า

ก็ได้เวลาออกเดินทางไปจุดหมายแรกของวันนี้

ระหว่างทางก็ได้พบกับ สิ่งที่น่าจะเป็น Mossy Lava Rock

แต่นี่คงเป็นสภาพตอนหน้าหนาวระหว่างทางจะมีจุดแวะพัก อยู่ตลอดทางเนื่องจากออกกันมาตอนเช้า เราเลยแวะได้เรื่อยๆ

ทะเลสาบแข็งอีกแล้ว

ตามจุดแวะพักจะมีม้านั่ง กับโต๊ะแบบนี้อยู่ นั่งปิคนิคกันได้ แต่ฤดูนี้ไม่ค่อยมีคนนั่งเท่าไหร่ ชมวิว ถ่ายรูปกันเสร็จก็ย้าย ไปแวะจุดพักต่อไปทางไป Skaftafell National Park มีระยะทางพอสมควร เลยมีจุดให้จอดเยอะหน่อย เลยจอดชมวิวถ่ายรูปซะ

และก็ทะเลสาบแข็งอีกแล้ว ถึงแล้วครับ Skaftafell National Park ถึงที่จอดรถจะเป็น ร้านอาหาร และ souvenir แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา

มีแต่รูปด้านข้าง ที่นี่จะมี Glacier อยู่ทางด้านขวา น่าจะเดินไปชมได้ แต่ถ้าจะปีนธารน้ำแข็งน่าจะต้อง มีไกด์นำไปมั้งครับ
..
ส่วนด้านซ้ายก็จะเป็น จุดหมายของเรา > Svartifoss waterfall
ทางไปที่ Svartifoss waterfall ต้องเดินขึ้นเขาไปซักพัก ไม่ไกลมาก
แต่ถ้ามาหน้าหนาว จะมีหิมะที่แข็งๆ แล้วลื่นๆอยู่หลายจุด
..
สำหรับคนที่ไม่ได้ใส่รองเท้าเดินป่า เดินเขาที่กันลื่นได้
ก็จะมีที่สวมกับรองเท้า แบบนี้ขายครับ

จะมี 2 แบบ, แต่แบบนี้อยู่เลยครับ ไม่มีลื่น 
สำหรับผมไม่ได้ซื้อใส่ เพราะมั่นใจในรองเท้าลุยป่าที่ซื้อมา เลยลื่นไปหลายรอบ 555+ ระหว่างทางขึ้น ก็จะมีบันไดบ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ครับ เพราะน้ำแข็งที่เกาะตรงบันไดมันลื่น
เดินขึ้นมาแถวยอดๆเขา ลมก็จะแรงนิดนึง ซักพัก ก็จะเห็น Svartifoss waterfall อยู่ไกลๆ
แล้วก็ต้องเดินลงไปที่น้ำตก ช่วงลงนี่อันตรายครับ ถ้าไม่ได้ใส่กันลื่นจะลื่นมาก แล้วก็ถึงครับ
พกอาหารมานั่งกินตรงนี้จะชิวมาก
เที่ยว Icelandชมวิว เดินถ่ายรูปเล่นได้ซักพัก ก็ต้องย้ายที่เพราะเสียเวลาที่นี่พอสมควร วิวระหว่างทางเดินกลับ
เที่ยว Iceland
ลงมาจาก Skaftafell ประมาณช่วงเย็น เราก็ได้หาที่พักสำหรับวันนี้ แต่เต็มอีกแล้วครับวันนี้ เลยต้องขับรถไปเรื่อยๆ เพื่อ walk in ออกมาอากาศไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
ระหว่างทางที่จะไปหาที่พัก พวกเราก็ได้มาถึง Ice Beach ซึ่งที่จริงเป็นจุดหมายของเราในวันพรุ่งนี้ เลยแวะซะเลยครับ
เที่ยว Iceland เดินเล่นถ่ายรูปได้ไม่นานก็ต้องรีบไปต่อเพราะเรายังไม่มีที่พักสำหรับวันนี้ ออกมาจาก Ice Beach ได้ซัก 10นาที เราก็หาที่พักจนได้ แต่ที่นี่เราจำชื่อที่พักกันไม่ได้ จำได้แต่บ้านหลังที่พักชื่อ Summer House ด้านหน้าที่พักวันนี้

วันนี้อากาศดูท่าไม่ค่อยจะดี มีเมฆครึ้งและฝนตกเราเลยวางแผนนอน แล้วตื่นมาอีกทีตอนตี 4
แต่ตื่นมาฝนก็ยังตกอยู่ ก็เลยนอนกันต่อ

DAY 06 

เช้าแล้ว.. ฝนก็ยังไม่หยุด
..
วันนี้พวกผมได้ซื้อทัวร์  Ice Cave เที่ยว Iceland ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ไว้
ทางทีมของของบริษัททัวร์ ได้นัดหมายให้ไปเจอกันที่ Jokulsarlon, Ice Beach
เราเลยกลับไปที่ Ice Beach อีกครั้ง
..

ระหว่างรอเวลานัดหมาย ก็ได้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปครับ
แต่คราวนี้มาอยู่อีกฝั่งนึง วิวก็จะไม่เหมือนกันครับ

เที่ยว Iceland

นกน้ำเข็ง

มีคนแอบมองจากในน้ำ

แก๊งนก

ฝนตกก็ยังมีคนมาพาย paddle board เล่น ชิวมาก แล้วก็ถึงเวลานัดหมาย หลังจากคุยกันเรียบร้อย คุณไกด์ก็พาไปขึ้นรถ
เป็นรถลุยๆ ทรงประมาณนี้ครับ เพื่อขับพาไปยังถ้ำน้ำแข็ง

ตื่นเต้นมากครับกับจุดหมายนี้ เนื่องจากตอนจอง ทางเว็บของบริษัททัวร์ ได้บอกกำหนดเวลาของทริปไว้ว่า ใช้เวลาประมาณ 2 – 2.30 ชม. แล้วก็ถึงซักทีครับ

เมื่อมาถึง คุณไกด์ก็จะแจกที่ใส่เท้ากันลื่น คนละหนึ่งอัน แล้วก็ได้เวลาลุย แต่ก็ต้องผิดคาดอีกครั้ง เมื่อไกด์พาเดินเข้าไป ได้ประมาณ 20ก้าว คุณไกด์ก็บอกว่า สุดแล้วแล้วก็ให้บอกให้พวกเราชมวิว ถ่ายรูปในถ้ำซักพักแล้วจะเรียกกลับรู้สึกพลาดมากครับ คิดว่าจะได้เดินลุยๆซัก 2 ชม.แต่ก็แอบคิดกันว่าคงพาไปอีกที่ คงไม่แค่นี้หรอกมั้งเราเลยถ่ายรูปเล่นกันซักพัก


แต่ก็ไม่ได้ไปต่อครับ 555 ร้องไห้เวลาที่บอกมาในเว็ป น่าจะเป้นเวลาเดินทางทั้งหมด รวมนั่งรถมาที่ Ice Cave นี้ด้วย กว่ารถจะพากลับมาถึง Ice Beach, Jokulsarlon ก็เย็นๆครับ ทริปนี้ใช้เวลาพอสมควร 3-4 ชม. หมดไปกับการเดินทางซะส่วนใหญ่ ใครจะทัวร์ Ice Cave เลยควรดูรายละเอียด

ระยะทางของถ้ำให้ดีครับจะได้ไม่ผิดหวังแบบพวกเรา ( Ice Cave กับ Gracier Tour ส่วนใหญ่ เปิดให้บริการเฉพาะช่วงหน้าหนาวครับ ต้องเช็คในเวปของเอเย่นต์อีกที )

วันนี้ก็ได้หาที่พักไว้ แถวๆเมืองถัดไป Hofn หลังจากออกจาก Jokulsarlon ซักพัก ข้างทางก็จะเริ่มมี สีอื่นบ้างนอกจากสีขาวของหิมะ

ด้วยความไม่รีบของพวกเรา เลยจอดแวะชมวิวถ่ายรูป เรื่อยๆ

แล้วก็มาถึงซักที ที่พักในวันนี้ Lindarbrekka เป็นเหมือนฟาร์ม เจ้าของชิวอีกแล้วครับ

วันนี้พวกผมได้ทำการลิงใช้เว็บที่เค้าว่าเอาไว้เช็คแสงเหนือ northernlightsiceland.com แต่ก็ยัง งงๆ ได้ความประมาณว่า ไม่น่ามีให้เห็นบวกกับอากาศตอนนั้นที่มีแต่เมฆ และฝนตก เลยนอนกันยาวเลยครับ

DAY 07

ก่อนจะออกเดินทาง พวกเราก็ได้คุยกับเจ้าของที่พัก กันซักพัก เค้าอัธยาศัยดีมากครับ เค้าอยู่กันประมาณแบบนายพราน ชาวไร่ ชิวๆ
พวกเราได้เจอกวางระหว่างทางมาที่นี่ เลยได้ถามเค้าเกี่ยวกับกวาง คุยไปคุยมา เค้าก็ได้ให้พวกเราดูเขากวาง

น่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งกวางครับ เขาใหญ่มากแล้วเค้าก็ให้เขาอันเล็กพวกเรามาหนึ่งอัน แต่ก็ไม่ได้เอามาครับ เพราะกลัวจะมีปัญหาที่สนามบิน

ระหว่างทาง เจอที่สวยๆที่แวะ ได้เรื่อยๆครับ

ฝนตกก็ยังแวะระหว่างทางไป Hverir, ก็ได้มาถึงเมือง Egilsstadir อากาศก็เริ่มโอเคร เราเลยแวะที่เดินเล่นที่ parks ของเมืองนี้กัน
ก็จะเหมือนเป็นเขาลูกเล็กๆ ให้เดินขึ้นไป

วิวจากด้านบน

ทางเดินขาลง จะมีวิวเมืองให้ชม

แล้วก็มาถึง Hverir

ที่นี่เป็น geothermal area พื้นดินมีโคลนจากกำมะถันและมีควันน้ำพุร้อน พุ่งออกมาจากพื้นดิน จะมีกลิ่นเหม็น กำมะถันและไข่เน่า

เดินเล่น ถ่ายรูปได้ซักพักก็ไปกันต่อ

Mývatn เป็นทะเลสาบใน หมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Reykjahlíð

จะมีควันๆแบบนี้ เป็นเหมือน Blue Lagoon แต่อันนี้ลงไปเล่นไม่ได้ แต่ที่เมืองนี้ จะมีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ชื่อว่า Myvatn Nature Baths  ที่นี่ไม่จะต้องจองเหมือน Blue Lagoon ที่ Reykjavikและคนไม่ค่อยเยอะครับพวกเราเลยพลาดไม่ได้ เพราะดูแล้วน่าจะชิวมาถึงช่วงเย็นพอดี อากาศกำลังดี


ชุดว่ายน้ำ ค่าบริการคนละ 2400 isk เข้าไปถึงจะมีที่อาบน้ำเปลี่ยนชุด เป็นที่อาบน้ำรวมก่อน ที่จะเข้าไปข้างใน

มาถึงช่วงอาทิตย์กำลังจะตกพอดี วิวดีมาก เป็นการผ่อนคลายที่ชิวมากกก คนไม่เยอะเหมือน Blue Lagoon ที่ Reykjavik แต่จะมีกลิ่นเหมือนกำมะถันหน่อยๆ ซึ่งที่ Reykjavik จะไม่มีครับ

จะมีห้องซาวน่า ให้บริการฟรีข้างๆด้วยครับ หลังจากแช่บ่อน้ำร้อนเสร็จชิวๆก็ได้เวลาเข้าที่พัก > Hlid Hostel วันนี้พวกเรามีแผน จะขับรถออกไปดูแสงเหนือที่วิวสวยๆกันก่อนจะออกเดินทาง ก็มีแสงเหนือโผล่มาให้เห็นตรงที่พัก

มาเป็นม่านเลยครับวันนี้ สวยมาก หลังจากถ่ายรุปได้แป๊ปนึง ก็ออกเดินทาง..จอดที่แรก

แต่จุดนี้เมฆเยอะไปหน่อย เลยย้ายครับ จุดถัดมา เมฆก็ยังเยอะอยู่

แต่มีอยู่ช่วงนึงแสงมาทะลุเมฆเลยครับ รู้สึกว่าอยู่ใกล้มากแต่ถ่ายไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะยืนดูเพลินไปหน่อย  แต่โชคดีมีโกรโปร เก็บภาพเป็น timetlapse ไว้ได้

หลังจากนั้นเมฆก็มายาวๆ แล้วก็จบสำหรับวันที่ 7 ครับ

DAY 8

ที่แรกของวันนี้ Godafoss Waterfall เค้าว่าที่นี่เป็นน้ำตกที่ น่าสนใจและจะสวยที่สุดในฤดูหนาว ระหว่างทางก็เหมือนเดิมครับ มีสถานที่ท่องเที่ยวและชมวิวอยู่เรื่อยๆเราก็แวะกันเรื่อยๆ ที่แรก ออกจาที่พักมาหน่อย ก็จะเป็นถ้ำ ที่คนสมัยก่อนอยู่กัน

ก็ไม่มีอะไรมากครับที่นี่เลยไปกันต่อ

 ก็ว่าจะแวะกันไม่เยอะเพราะต้องทำเวลา แต่มันสวยหลายจุดเลยจอดไปเรื่อยเลย

 และแล้วก็ถึงครับ > Godafoss Waterfall ระหว่างทางเดินไปน้ำตก ก็จะมีแต่หิมะ ขาวเนียนมาก

 เดินมาซักพักก็ถึงแล้วว ลมแรงมากเหมือนเดิมครับ หนาวสุดๆ

ดูใหญ่อลังการสุดๆ

 หลังจากเดินเล่นรอบๆ ก็ไปกันต่อ

Akureyri

เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือและในปี 2015 Lonely Planet ได้จัดอันดับให้เป็น Top 10 เมืองที่ดีที่สุดในยุโรปและแล้วก็มาถึง

ไฟแดงในเมืองนี้ เป็นรูปหัวใจด้วย

 ถึงจะใหญ่เป้นอันดับสองในไอซ์แลนด์ แต่ขับรถสิบกว่านาทีก็ถึงแถบชานเมืองแล้ว พวกเราว่าจะไปดูตลาดเก่าแก่ที่มีมานานแถวๆนั้นแต่ก็พลาดเพราะว่าตลาดวายหมดแล้วมารู้ทีหลังว่าจะมีเป็นบางช่วงครับ

เลยถ่ายรูปเล่นกันเพราะมาเร็วไปหน่อยแล้วก็เจอม้าอีกแล้วครับ ม้าที่นี่น่ารักมากกกๆครับ เชื่องสุดๆ

เล่นกับม้าจนเพลินไปหน่อย เราเลยเข้าที่พักกันเลย ที่พักวันนี้ก็อยู่แถวชานเมือง Akureyri > Vacation Home Fagravik

สภาพที่พักวันนี้ ชิวมากก

 ด้านหน้ามี jacuzzi แต่หนาวขนาดนี้ใครจะเล่น ด้านหลังเป็นทะเลสาบบ


ตกดึกก็ตั้งใจจะออกไปดูแสงเหนือกัน แต่ก็ผิดหวัง เพราะเมฆมาเต็มมาก ขนาดพวกเราเช็คอย่างดีว่าวันนี้ฟ้าใส มีแสงเหนือเว็บที่ไว้เช็คแสงเหนือนี่เชื่อไม่ได้นะครับ 55 แต่ยังไงก็ออกมากันแล้ว ก็ถ่ายรูปไว้ซักหน่อย

DAY 9

วันนี้ตื่นเช้าว่าจะไปถ่ายอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบหลังบ้านพักแต่ก็พลาด


ไม่มีแม้แต่เงาของแสงอาทิตย์ หลังจากนั้นพวกเราก็ เดินทางไปยังจุดหมายแรกในวันนี้ > HvitserkurHvitserkur > ตั้งอยู๋ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ ผาหินใหญ่ๆ เค้าว่ามันคือการก่อตัวของหินภูเขาไฟ  มาถึงที่จอดรถ จะเป็นที่โล่งติดชายทะเล เหมือนจะไม่มีอะไรเลย และลมแรงมาก ต้องเดินไปซักพัก ทางเดินก็จะโล่งแบบนี้

 Hvitserkur > นั้นจะอยู่ด้านล่างหน้าผา


ถ่ายรูปได้ไม่นานอีกแล้วครับ หนาวมาก แล้วก็ไปกันต่อที่ > Blonduos เป็นเมืองที่เราได้จองที่พักสำหรับวันนี้ไว้ ด้วยความที่เดินทางเร็วกว่าแผนประมาณ 2 วัน พวกเราเลยไม่รีบและ จอดตามจุดชมวิว ข้างทางเรื่อยๆ

โบสถ์ในเมือง

แล้วก็เข้าที่พักกัน
ที่พักก็ชิวๆครับ

DAY 10

 เช้าแล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง

 จุดหมายวันนี้เราว่าจะไป > Snaefellsnes national parks แถวๆนั้นขึ้นชื่อว่ามีจุดท่องเที่ยวสวยๆมากมาย รวมถึง Kirkjufell ที่เป็นเป้าหมายในวันนี้ แต่ว่าเดินทางมาหลายวัน วันนี้เราก็เริ่มเปื่อยๆกันแล้วครับ ระหว่างทางก็ไม่ค่อยได้จอดกันเท่าไหร่

 เมืองบนเกาะ

อันนี้จะเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับ > Kirkjufell

 แล้วก็มาถึง > Kirkjufell ที่นี่จะมีทั้ง ภูเขา น้ำตก และทะเลสาบอยู่ในที่เดียวกัน

 ภูเขาแหลมๆนี้ถ้าดูจากด้านอื่นจะไม่ใช่ทรงนี้ครับจะเห็นเป็นทรงนี้จากมุมฝั่งนี้เท่านั้น ถ่ายรูปได้ซักพัก อากาศก็ไม่ค่อยจะดีอีกแล้วครับเลยมาหาอะไรกินกันในเมืองกันก่อน

สภาพท้องฟ้าหลังทานอาหารเสร็จ

 แต่เวลายังเหลืออีกเยอะ เราเลยขับรถเลยไปหน่อย ก็เจอถ้ำแบบนี้ แต่ช่วงนี้ไม่ได้เปิดครับ

 เลยขับรถไปเรื่อยจนเย็น

DAY 11

วันที่ 11 พวกเราไม่มีแผนสำหรับวันนี้เพราะว่าที่ๆเราไปมาเมื่อวาน คือแผนของวันนี้ตอนเช้าก็ได้หาที่เที่ยวกันในเน็ตสรุปว่า > Selfoss waterfall คือที่ๆเราจะไปวันนี้

แต่กูเกิลแมพได้พาเรามาที่ Selfoss city ซะงั้นซึ่งระยะทางไกลจาก Selfoss waterfall มากพวกเราเลยหาสถานที่ท่องเที่ยวแถวๆเมืองแทนแล้วก็ได้เจอกับ > Kerio Crater Lake> Kerio Crater Lake คือปากปล่องภูเขาไฟที่มีทะเลสาบอยู่ตรงกลาง พื้นดินรอบๆมีสีแดงเลือดหมู ที่นี่เสียค่าเข้าชมคนละ 400isk

 ด้านหลังของภูเขาจะมีดงต้นสน

ตั้งแต่มาที่ไอซ์แลนด์ เพิ่งเจออะไรที่เขียวแบบนี้ แล้วก็หมดวัน เนื่องจากทางมาจาก Snaefellsnes > Selfoss City มีทางโดนปิด ทำให้พวกเราหลงอยู่พักใหญ่กว่าจะมาที่ Selfoss city พวกเราไม่เคยเช็คสภาพถนนกับสภาพอากาศในเว็บก่อนเดินทางเลย ใครมาเที่ยว ก่อนเดินทางเช็คก่อนก็ดีครับ

DAY 12

แล้วก็มาถึงวันจบทริปที่ไอซ์แลนด์ หลังจากเดินทางมา 12วัน วันนี้เราได้วางแผนว่าจะมาแช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon เป็นการปิดทริป
Blue Lagoon ที่นี่จะต้องทำการ pre booking ในเว็บก่อนถึงจะใช้บริการได้ จะมีค่าเข้าใช้บริการตั้งแต่ 5400isk – 9500isk และ 53000isk สำหรับ 2คน  ถ้าจะเอาชัวต้องจองก่อนวันที่จะไปประมาณ 2 อาทิตย์ก็ดีครับ พวกผมจองก่อนประมาณ 1 อาทิตย์ ได้มาแค่ 4 ที่
ระหว่างรอเวลาที่จองไว้สำหรับ Blue Lagoonระหว่างทางผ่านเมือง Reykjavikเราเลยแวะมาเดินเล่นที่โบสถ์ Hallgrímskirkja
ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คใน Reykjavikนอกจากเป็นโบสถ์และ ด้านบนของโบสถ์เป็นจุดชมวิวเมืองด้วย

 โบสถ์จะเปิดให้เข้าชมช่วงประมาณ 11 โมง เราก็มาต่อแถวเพื่อเข้าไปชมกัน

 แล้วก็เข้ามาข้างใน แต่ไม่ได้ขึ้นไปจุดชมวิวเพราะคนเยอะมาก

ภายในของโบสถ์ ระหว่างทางไป Blue Lagoon ก่อนจะถึง Blue Lagoon เราก็จอดที่จุดชมวิว เนื่องจากมาไวไปหน่อย

Blue Lagoon เค้าว่าเป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลก ในน้ำจะมีแร่ธาตุที่ดีต่อผิวพรรณและร่างกาย และ Blue Lagoon ยังมีระบบการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุก 40 ชั่วโมง

 ที่นี่คนเยอะมาก เข้ามาแสดงหมายเลข booking ที่เคาน์เตอร์พนักงาน เค้าก็จะให้เป็นสายข้อมือคนละอัน

มีสภาพแบบนี้ครับก็จะเอาไว้สแกนเปิดตู้ล๊อคเกอร์และสแกนตอนซื้อของกินและเครื่องดื่ม ใน Blue Lagoon แล้วออกมาจ่ายเงินหลังออกจาก Blue Lagoon แล้ว

เป็นการผ่อนคลายที่ดีมากหลังจากลุยมาหลายวัน หลังจากแช่ Blue Lagoonเราก็กลับไปเดินเล่นที่ Reykjavikก่อนที่จะนำรถไปคืนที่สนามบิน

 ในเมือง Reykjavik มี street food ชื่อดังอยู่เป็นร้านฮอตดอก ชื่อ Baejarins Beztu Pylsur เป็นร้านที่เปิดมานานมาก ตั้งแต่ปี 1937

 มีเมนูเดียวครับดูเรียบๆ แต่อร่อยมากโดนกันไปคนละ 2-3อัน ใครผ่านมาแนะนำให้มาลองเลยครับ กินเสร็จก็เดินย่อยกันซักพัก

หลังจากนั้นพวกเราก็เข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวกลับในเช้าพรุ่งนี้จบแล้วครับสำหรับทริป ไอซ์แลนด์ ขอบคุณทุกคนที่ตามดูจนครบนะครับ หวังว่าทุกคนจะชอบ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ ถ้ามีทริปครั้งหน้าไว้จะมาแชร์ประสบการ์ณการท่องเที่ยวกันใหม่นะครับ ขอบคุณครับผม

ขอบคุณรีวิวสวยๆ จาก Guest สุดพิเศษ สมาชิกหมายเลข 1524222 สังกัด Pantip จากกระทู้ “[CR] 12 วันชิวๆที่ ICELAND” ที่มามอบประสบการณ์ พาเที่ยวไอซ์แลนด์ ที่เที่ยวที่กินจัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : FB/sasin.paraksa


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?

1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ยุโรป ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel