เมื่อพูดถึงการไป ทัวร์ญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงเมืองโตเกียว โอซาก้า เกียวโต หรือ ฮอกไกโด ซึ่งก็มีหลายคนที่คงจะเคยไปเที่ยวมาหมดแล้ว วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จึงอยากจะ ชวนเพื่อนๆ มาเที่ยว เมืองรอง ญี่ปุ่น กันบ้าง แม้จะเป็นที่นิยมน้อยกว่า แต่ก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ บรรยากาศสวยงาม และมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำไม่แพ้เมืองหลักอย่างแน่นอน ใครชอบเที่ยวแบบชิลๆ สบายๆ คนไม่เยอะ ต้องถูกใจ จะมีที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลย
1. กิฟุ (Gifu)
ปักหมุดเที่ยว เมืองรอง ญี่ปุ่น เริ่มกันที่ จังหวัดกิฟุ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเมืองเก่า สถาปัตยกรรมและบ้านเรือนโบราณ พื้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา จึงมีธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น เที่ยวชม ปราสาทกุโจฮาจิมัง ที่ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทบนภูเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น, เดินเล่นถ่ายรูปในเมืองเก่าสุดคลาสิคอย่าง ทาคายามะ, แช่น้ำร้อนในบ่อออนเซ็นกลางแจ้ง, ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสองชั้น ชินโฮตากะโรปเวย์ แห่งเดียวในญี่ปุ่น พร้อมชมวิวบนยอดเขาสูงกว่า 2,000 เมตร นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านเก่าแก่ท่ามกลางหุบเขา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO อีกด้วย
2. นารา (Nara)
ส่วนใครที่ชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ เดินดูสถาปัตยกรรมโบราณ อาคารสวยๆ แนะนำให้มา เที่ยวญี่ปุ่น เมืองรอง ที่ เมืองนารา ในภูมิภาคคันไซ ตั้งอยู่ใกล้กับเกียวโตและโอซาก้า ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นมาก่อนในช่วงปี ค.ศ. 710 – 784 จึงมีสถานที่สำคัญ รวมถึงวัดเก่าแก่มากมาย และยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนแบบเดิมเอาไว้ โดยมีการปรับปรุงให้เป็นร้านค้า คาเฟ่ ถ่ายรูปออกมาเก๋เวอร์ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ชิลๆ เดินเล่นสบายๆ หรือพาผู้สูงวัยมาเที่ยว สถานที่แนะนำ เช่น วัดโทไดจิ, ศาลเจ้าคาสุกะ, วัดโคฟุคุจิ, ย่านนารามาจิ และ สวนสาธารณะเมืองนารา ที่มีน้องกวางเดินเล่นอยู่ในสวน สามารถให้ขนม หรือถ่ายรูปกับน้องได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองนี้เลยล่ะค่ะ
3. ชิบะ (Chiba)
จังหวัดชิบะ ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต ห่างจากโตเกียวแค่ประมาณ 40 นาทีเท่านั้น เป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล จึงเป็นเมืองท่าสำคัญ และมีชื่อเสียงในเรื่องการทำประมง แต่ส่วนใหญ่คนจะรู้จักเพราะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกชื่อดังอย่าง “Tokyo DisneyLand” และ “Tokyo DisneySea” ชิบะจึงเป็น เมืองรอง ญี่ปุ่น ที่เหมาะสำหรับครอบครัว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ทั้งสวนสนุก ที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ อย่าง น้ำตกโนมิโซโนะ, ถ้ำคาเมอิวะ และวัดดังอย่าง วัดนาริตะซัง ชินโชจิ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี เป็นวัดที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรในช่วงปีใหม่ รวมถึง ภูเขาโนโกกิริ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรเรื่องการรักษาโรคภัยต่างๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดอีกด้วย
4. มิเอะ (Mie)
จังหวัดมิเอะ อยู่ในภูมิภาคชูบุ เป็นแหล่งผลิต “เนื้อวัวมัตสึซากะ” ที่ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 เนื้อวัวคุณภาพสูงของญี่ปุ่น ใครที่ชอบทานเนื้อต้องมา! นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ บรรยากาศดี มีทั้งทะเล ภูเขา และสวนดอกไม้สวยๆ เหมาะสำหรับคนที่มองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ใกล้ชิดธรรมชาติ สถานที่แนะนำ เช่น โอะนิกะโจ ที่มีกำแพงหินรูปร่างสวยงามแปลกตา ความยาวกว่า 1.2 กม. และเป็นจุดชมวิวทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของมิเอะ, เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ แหล่งเพาะเลี้ยงและผลิตไข่มุกระดับประเทศ, ศาลเจ้าอิเสะ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสน และมีลำธารไหลผ่าน, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ ที่มีสัตว์มากมายหลากหลายกว่า 1,200 สปีชีส์ และพลาดไม่ได้กับ นาบานะโนะซาโตะ (Nabana no sato) สวนดอกไม้ขนาด 300,000 ตร.ม. ที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่จะกลายเป็นงานประดับไฟ Illumination สุดยิ่งใหญ่
5. ฟุกุโอกะ (Fukuoka)
มาเที่ยว เมืองรอง ญี่ปุ่น กันต่อที่ ฟุกุโอกะ เป็นจังหวัดที่อยู่ริมชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู เดินทางสะดวกสบายเพราะมีบินตรงจากไทยมาที่นี่ได้เลย เป็นจังหวัดที่มีความเจริญ แต่วุ่นวายน้อยกว่าเมืองหลักอย่างโตเกียว โอซาก้า ใครที่อยากได้บรรยากาศแบบในเมือง มีที่เที่ยว ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารเยอะ แต่คนน้อยกว่า แนะนำให้มา ทัวร์ฟุกุโอกะ เลยค่ะ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา เหล่านักเรียน นักศึกษา จึงนิยมมาสักการะขอพรให้สอบผ่าน ให้ผลการเรียนดีกัน, วัดนันโซอิน ที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องโชคลาภ เงินทอง, ฟุกุโอกะทาวเวอร์ จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมือง, ย่านเทนจิน สวรรค์ของนักช้อป, ย่านยะไต ฮากาตะ แหล่งรวมของกินสุดอร่อย และอย่าลืมถ่ายรูปเช็กอินกับกันดั้มยักษ์ที่ LaLaport Fukuoka ด้วยเดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง !
6. โออิตะ (Oita)
จังหวัดโออิตะ เป็นจังหวัดเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดฟุกุโอกะ มีเมืองดังอย่าง เบปปุ (Beppu) และ ยูฟุอิน (Yufuin) สามารถมาเที่ยวในเส้นทางเดียวกับ ทัวร์ฟุกุโอกะ ได้เลย บรรยากาศของโออิตะเรียบง่ายสไตล์สโลว์ไลฟ์ ไม่หรูหรา แต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น โดยที่เมืองเบปปุจะมีบ่อน้ำพุร้อนเยอะและหลากหลายที่สุด รองลงมาคือเมืองยูฟุอิน ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ จะหนักไปทางที่เที่ยวธรรมชาติ เช่น ถ้ำหินปูนใต้น้ำอินะซุมิ อายุกว่า 200 ล้านปี, หุบเขาแม่น้ำยุฟุ หุบเขาลึกรูปตัววีที่มีความงดงามจนถูกเรียกว่า “ทิโรลแห่งเอเชีย”, น้ำตกฮาราจิริ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น จนได้ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำตกไนแองการาของญี่ปุ่นและโลกตะวันออก และ โคโคโนเอะยูเมะ สะพานแขวนคนเดินที่ยาวและสูงที่สุดในญี่ปุ่น
7. อาโอโมริ (Aomori)
อาโอโมริ เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่อยู่เหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ ถูกล้อมรอบด้วยทะเล 3 ด้าน เหมาะแก่การมาพักผ่อน ชมธรรมชาติ สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น สิ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้คือ แอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจำหน่ายทั้งแบบสด และนำมาเป็นส่วนผสมในอาหารและขนมต่างๆ รวมถึงทัศนียภาพที่สวยงามจนต้องตะลึง อย่างเช่น เทือกเขาชิราคามิ ที่เป็นมรดกโลก และ ทะเลสาบโทวาดะ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถขึ้นเรือไปชมวิวแบบ 360 องศา กลางทะเลสาบได้ด้วย ส่วนใครที่มาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม แนะนำจุดชมซากุระที่ ปราสาทฮิโรซากิ 1 ใน 7 ปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ที่มีซากุระกว่า 2,500 ต้น ถือเป็น 1 ใน 100 แหล่งชมซากุระขึ้นชื่อในญี่ปุ่น
8. มิยางิ (Miyagi)
เที่ยวญี่ปุ่น เมืองรอง ให้สนุกต้องมาที่ มิยางิ ในภูมิภาคโทโฮคุ หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่ถ้าเอ่ยถึง เซนได เมืองที่โด่งดังที่สุดในจังหวัดนี้ก็พอจะคุ้นกันขึ้นมาบ้าง จังหวัดนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ในเขตเมืองก็มีความเจริญและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ทั้งยังมีจุดชมซากุระหลายแห่ง และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังอย่าง หุบเขานารุโกะ ที่เที่ยวแนะนำ เช่น ปราสาทชิโรอิชิ, ปราสาทอาโอบะ หรือปราสาทเซนได, หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ, ชมซากุระที่ฮิโตะเมะเซ็มบง, และชมวิวอ่าวมัตสึชิมะที่คันรันเท
9. โอกินาว่า (Okinawa)
โอกินาว่า อยู่ทางใต้สุด ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 160 เกาะ เช่น เกาะอิชิงากิ, เกาะทาเคโตมิ, เกาะอิริโอโมเตะ บรรยากาศผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและตะวันตก เป็น เมืองรอง ญี่ปุ่น ที่เหมาะสำหรับคนรักทะเล อยากมาพักร้อน หาดทรายขาว น้ำทะเลสวยสีฟ้าใส ทรัพยากรใต้ทะเลก็อุดมสมบูรณ์ มีทั้งปะการังและสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากกิจกรรมทางน้ำ ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเที่ยวชม ถ้ำเกียวคุเซนโด ธรรมชาติอันงดงามที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อย และทะเลสาบใต้ดิน, ปราสาทชูริ, หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ แหล่งรวมความบันเทิงที่ให้บรรยากาศของอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเดินช้อปที่ ถนนโคคุไซโดริ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย
10. กุนมะ (Gunma)
ปิดท้ายกันที่ จังหวัดกุนมะ จังหวัดในภูมิภาคคันโตที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของออนเซ็น เป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว หากเดินทางโดยรถไฟชินคันเซ็นจะใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า เที่ยวธรรมชาติ มีลานสกีหลายแห่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งยังมีอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลองเพียบ เช่น ยากิมันจู, นุมาตะดังโกะซุป, คอนเนียคุ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น คุซัตสึออนเซ็น, ทาคาระงาวะออนเซ็น และชิมะออนเซ็น แหล่งน้ำพุร้อนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังอย่าง “Spirited Away” ของ Studio Ghibli
และนี่ก็เป็นเมืองรองน่าเที่ยวในญี่ปุ่นที่พี่เห็ดคัดมาแนะนำ ประเทศญี่ปุ่นยังมีอะไรน่าเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย ใครอยากเปิดมุมมองใหม่ๆ สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ก็เปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองใหญ่ๆ มา เที่ยวญี่ปุ่น เมืองรอง กันได้ มีสถานที่สวยๆ อาหารอร่อยๆ รวมถึงของดีของเด็ดอีกมากมายที่รอให้ทุกคนไปค้นพบ เลือกเส้นทางที่ถูกใจแล้วจองทัวร์ไปกับมัชรูมทราเวลได้นะคะ