อากาศร้อนๆ แบบนี้ต้องพาตัวเองไปดับร้อนฮีลใจด้วยการเที่ยวทะเลสักหน่อย มาเปลี่ยนบรรยากาศ บินลัดฟ้าไปเที่ยว โอกินาว่า (Okinawa) เกาะทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส พร้อมที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย มีเมืองหลักคือ นาฮะ (Naha) และหมู่เกาะเล็กๆ อีกกว่า 12 เกาะ เรียกได้ว่าเป็นเขตกึ่งร้อน ทำให้สภาพอากาศของที่นี่อบอุ่นแตกต่างจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ บอกเลยว่า เที่ยวโอกินาว่า ถูกใจคนรักสนุก ชอบทำกิจกรรมอย่างแน่นอน จะดำน้ำดูปะการัง นั่งเรือดูวาฬ หรือจะไปชิลที่คาเฟ่ก็มีร้านน่ารักๆ เพียบ
ที่สำคัญ โอกินาว่า ยังมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ทำให้มีเสน่ห์แตกต่างไม่เหมือนที่ไหน นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักร้อนในฝันของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยจากกรุงเทพฯ ถึงโอกินาว่าใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกล ว่าแล้วพี่เห็ด มัชรูมทราเวล ก็จะขอพาเพื่อนๆ ไป ทัวร์โอกินาว่า สัมผัสเมืองน่ารักๆ แห่งนี้ไปด้วยกัน กับ 10 ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด
1. ปราสาทชูริ (Shuri Castle)
มาเปิดพิกัดแหล่งน่า เที่ยวโอกินาว่า ที่แรกกับ ปราสาทชูริ เป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 เดิมเป็นพระราชวังของอาณาจักรริวกิว ซึ่งตัวปราสาทแห่งนี้เคยถูกทำลายไปครั้งหนึ่งในช่วงสงคราม จนเหลือเพียงกำแพง แต่ก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก หรือ UNESCO World Heritage และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมความงดงามของสถาปัตยกรรม และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ได้ ใครอยากเห็นตัวปราสาทสีแดงเด่นเป็นสง่าแบบนี้ ต้องไปสัมผัสด้วยตาของตัวเองนะคะ
2. ผามันซาโมะ (Cape Manzamo)
ถ้าใครได้ไป ทัวร์โอกินาว่า ต้องไม่พลาดมาเยือน ผามันซาโมะ หรือเรียกกันว่า “ผางวงช้าง” เป็นหน้าผาที่ถูกคลื่นน้ำทะเลกัดเซาะจนมีรูปร่างคล้ายกับงวงช้าง สูงราว 20 เมตร เป็นหนึ่งในจุดเช็คอินที่สวยงามของโอกินาว่า แถมยังเคยมีซีรีส์มาถ่ายทำที่นี่ด้วย ทุกคนจะมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลที่กว้างใหญ่สุดสายตา แถมยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่โรแมนติกสุดๆ มาเดินรับลมเย็นๆ พร้อมชมวิวสวยๆ แบบนี้มันดีต่อใจจริงๆ
3. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)
มาตื่นตาตื่นใจกันต่อที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ให้เราได้ชื่นชมความงามของโลกใต้ทะเลลึกสีคราม ภายในอาคารมีการจัดแสดงสัตว์น้ำนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบโอกินาว่า ไม่ว่าจะเป็นโซนสัตว์ทะเลน้ำลึก โซนแสดงปะการัง โซนฉลาม และไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ ตู้ปลาขนาดยักษ์ที่มีฉลามวาฬ และกระเบนราหู แหวกว่ายไปมา ให้เราชมสัตว์ทะเลไซส์ยักษ์ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ด้านนอกยังมีสระน้ำกลางแจ้งจัดแสดงโลมาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการจำลองโลกใต้น้ำที่สมจริง และยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ
4. หมู่บ้านอเมริกัน มิฮามะ (Mihama American Village)
มา เที่ยวโอกินาว่า ยังไงให้เหมือนได้มาเที่ยวสหรัฐอเมริกา ต้องไปที่ หมู่บ้านอเมริกัน มิฮามะ ศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่ที่จำลองบรรยากาศหมู่บ้านสไตล์อเมริกัน เดิมทีตรงนี้เคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐอเมริกา จึงทำให้มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ภายในหมู่บ้านมีทั้งรีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ลานแสดงคอนเสิร์ต และคาเฟ่ หากเดินเล่นออกไปไม่ไกลนักจะมองเห็นชายหาด มานั่งชมพระอาทิตย์ตกได้บรรยากาศฟินๆ ไปอีกแบบ
5. หมู่บ้านอาณาจักรริวกิว (Ryukyu-Mura Village)
ยกขบวนกิจกรรม เพิ่มความสนุกมาให้นักท่องเที่ยวแบบไม่พัก กับ หมู่บ้านอาณาจักรริวกิว หมู่บ้านวัฒนธรรมแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สำคัญของโอกินาว่า ที่มีแต่ความสนุกไม่เหมือนที่ไหน เพราะที่นี่เรียกว่าเป็นธีมปาร์ค สวนสนุกขนาดเล็กที่จำลองเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของอาณาจักรริวกิวในสมัยโบราณ อาคารไล่เรียงกันไป ซึ่งแต่ละหลังก็จะนำเสนอวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น การทอผ้า เครื่องปั้นดินเผา เล่นดนตรี ระบายสีรูปปั้น เก็บอ้อย ทำขนม และยังมีการแสดงพื้นบ้านแบบครบรสอีกด้วย
6. โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World)
ความสนุกของการ เที่ยวโอกินาว่า ยังไม่จบ ไปต่อกันที่ โอกินาว่าเวิลด์ แหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมสถานที่เที่ยวทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโอกินาว่าไว้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านหัตถกรรม พิพิธภัณฑ์งู สวนผลไม้เขตร้อน
และที่พลาดไม่ได้คือ ถ้ำเกียวคุเซ็นโด (Gyokusendo Cave) ถ้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความยาวถึง 5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นถ้ำที่ยาวเป็นอันดับสองของประเทศเลยทีเดียว ภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ตัดสลับกับน้ำสีฟ้า สวยงามและเย็นยะเยือกในเวลาเดียวกัน
7. ถนนโคคุไซโดริ (Kokusaidori Street)
ใครเป็นขาช้อปต้องมาที่ย่านนี้ ถนนโคคุไซโดริ ถนนที่รวมแหล่งกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง ไว้ในที่เดียว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาฮะ บอกได้เลยว่าที่นี่คึกคักตลอดเวลา เพราะเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางวันยันกลางคืน ทุกตรอกซอกซอยจะเต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ต่างๆ ใครอยากจะหาอะไรกิน หรือซื้อของฝาก ของที่ระลึก ก็ต้องมาที่นี่ ยิ่งถ้าเป็นช่วงกลางคืนจะยิ่งคึกคักกว่าเดิม ไม่มีเหงาอย่างแน่นอน
8. เกาะโคอุริ (Kouri Island)
ออกเดินทางไปตามหารักกันต่อที่ เกาะโคอุริ เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโอกินาว่า สามารถเดินทางไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับได้ เพราะมีสะพานเชื่อมระหว่างตัวเมืองและเกาะในระยะทางเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีจุดแลนด์มาร์คแสนน่ารักอย่าง หินรูปหัวใจ (Heart Rock) หินขนาดใหญ่สองก้อนที่มีลักษณะคล้ายหัวใจ ตั้งอยู่บริเวณชายหาด จนทุกคนขนานนามให้เกาะนี้ว่าเป็น “เกาะแห่งความรัก” ทำให้กลายเป็นสถานที่สุดโรแมนติก เต็มไปด้วยคู่รักและครอบครัวมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก
9. ซากปราสาทคัทสึเรน (Katsuren Castle Ruins)
ตามมาดูซากแห่งประวัติศาสตร์กันที่ ซากปราสาทคัทสึเรน ปราสาทที่เคยมีชื่อเสียงมากที่สุดในสมัยขุนนางอามาวาริ ในศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ด้วยความที่ซากปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชัน ใกล้กับชายฝั่งทะเล ทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลกับวิวตัวเมืองได้พร้อมกัน แน่นอนว่าถ่ายรูปกันได้เพลินๆ
10. ตลาดสาธารณะมะกิชิ (Makishi Market)
ปิดท้ายด้วยการไปฝากท้องให้อิ่มจนพุงกางกันที่ ตลาดสาธารณะมะกิชิ ตลาดอาหารสดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนาฮะ ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่ายซื้อของเป็นกิจวัตรประจำวัน มีของขายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ เนื้อ และอาหารทะเลสดๆ ที่จับได้ในทะเลแถบโอกินาว่า ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ สามารถนำวัตถุดิบที่เราซื้อมาไปให้พ่อค้าแม่ค้าปรุงอาหารให้กินได้เลยทันที แถมราคายังเป็นกันเอง ชาวซีฟู้ดเลิฟเวอร์ต้องไม่พลาดเด็ดขาด
หากใครที่หลงรักญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม แต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า การได้มา ทัวร์โอกินาว่า ก็เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม แต่ยังคงเสน่ห์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไว้ได้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันที่เมื่อยล้า ให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาจิตใจ มีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส ชมสัตว์โลกใต้ทะเล แถมเรื่องอาหารก็ต้องยกนิ้วให้ บอกเลยว่าไป เที่ยวโอกินาว่า สนุกแน่นอน!