เวียดนาม ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ เพราะเดินทางง่าย ที่เที่ยวหลากหลาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย สามารถเลือกเที่ยวได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ แถมราคาไม่แพง บทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอมา รีวิว แชร์ประสบการณ์ เที่ยวเวียดนามกับทัวร์ เดินทางช่วงต้นปี 2024 ในเส้นทาง เที่ยวเวียดนามกลาง ทริปนี้ได้ไปเมือง ดานัง ฮอยอัน และพักบนบานาฮิลล์ เป็นการเที่ยวแบบชิล ๆ ไม่เหนื่อยมาก ทำให้มีเวลาในการเที่ยวแต่ละที่เยอะขึ้น จะสนุกขนาดไหน มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้างไปชมพร้อม ๆ กันเลย !!
การเตรียมตัวก่อนบิน
ทริปนี้เราจะไปเที่ยวกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ในช่วงต้นปีอากาศที่เวียดนามกลางจะเย็นสบาย ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป และยังได้เที่ยวบนเขา โดยรวมอุณหภูมิประมาณ 14-25 องศาเซลเซียส ในทริปนี้เป็นการ เที่ยวเวียดนามกับทัวร์ เราเลยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพราะทางทัวร์จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน ที่กิน ที่พัก เอกสารต่าง ๆ ให้ทั้งหมด สิ่งที่เราต้องเตรียมเลยจะเป็นของส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ โดยนอกจากเสื้อผ้าสวย ๆ สำหรับไปถ่ายรูปแล้ว อาจมีสิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่ม ดังนี้
1) แลกเงิน สามารถแลกเงินจากร้านแลกเงินที่ไทยไปเลย หรือจะไปแลกกับไกด์ท้องถิ่นก็ได้ พี่เห็ดแนะนำ >> อัปเดต 10 ร้าน แลกเงินต่างประเทศ ให้เรทดีที่สุดในไทย
2) อินเทอร์เน็ต การใช้งานอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศสามาถทำได้หลายวิธี ทั้งการเปิดโรมมิ่ง การซื้อซิมเน็ตเพื่อไปต่างประเทศ การซื้อซิมท้องถิ่น และการใช้ Pocket Wi-Fi เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก แต่ทริปนี้พี่เห็ดเลือกเปิดโรมมิ่งจากเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ เมื่อไปถึงเวียดนามก็สามารถเปิดใช้งานได้เลย แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าควรใช้แบบไหนดี ลองดูข้อมูลที่พี่เห็ดรวบรวมไว้ให้ได้ที่ >> 4 วิธี ใช้เน็ต ต่างประเทศ พร้อมข้อดี ข้อเสีย และวิธีเปิดใช้งาน
3) ประกันการเดินทาง เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงควรซื้อประกันการเดินทางเพิ่มเติม เตรียมตัวไว้เพื่อความอุ่นใจค่ะ
วันที่ 1
เริ่มต้นวันแรก เรียกได้ว่าชิลตั้งแต่ต้นทริปเลยค่ะ เพราะทางทัวร์นัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.30 น. เราจะเริ่มออกเดินทางกันตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ เวลาประมาณ 15.50 น. ด้วย สายการบิน VIETJET AIR เที่ยวบิน VZ962 กรุงเทพ-ดานัง เมื่อมาถึงสนามบินจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็กอิน ไฟล์ทนี้ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ก็ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง (Danang International Airport) เวลาประมาณ 17.30 น. จากนั้นก็ใช้เวลาในการต่อแถวเพื่อผ่านตม.ไม่นานเลย
เมื่อรับกระเป๋าเรียบร้อยเราก็เริ่มต้น เที่ยวเวียดนามกลาง กันที่ เมืองดานัง ที่แรกที่เราจะไปก็คือ ถ่ายรูปกับ รูปปั้นปลามังกร หรือ คาร์ฟดาร์ก้อน (Ca Chep Hoa Rong) สัตว์เก่าแก่ตามตำนานของเวียดนามที่กำลังพ่นน้ำอยู่บริเวณแม่น้ำฮาน มีลักษณะหัวเป็นมังกร ตัวเป็นปลา เป็นรูปปั้นที่สร้างจากหินอ่อน น้ำหนัก 200 ตัน ความสูง 7.5 เมตร ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ว่าใครมาดานังก็ต้องมาถ่ายรูปที่นี่
ด้านหลังจะเป็น สะพานแห่งความรัก (Love Bridge Da Nang) เป็นสะพานที่คนหนุ่มสาวนิยมซื้อกุญแจมาคล้องที่สะพาน บนสะพานมีการประดับตกแต่งด้วยเสาโคมไฟรูปหัวใจสีแดง บรรยากาศช่วงเย็นไปจนถึงค่ำถือว่ามีความโรแมนติกมาก สมกับชื่อสะพานแห่งความรักเลย
ไม่ไกลกันเราจะมองเห็นความอลังการของ สะพานมังกร (Dragon Bridge) สะพาน 6 เลน ที่มีความยาว 666 เมตร มีไฮไลต์อยู่ที่มังกรยักษ์สีทองบนสะพาน เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ถือเป็นสะพานที่มีความอลังการมากที่สุดเวียดนาม ณ ขณะนี้ ทุก ๆ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.00 น. จะมีการแสดงมังกรพ่นไฟและน้ำให้ได้ชม
หลังจากนั้นทางทัวร์จะพาไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ข้อดีของการมากับทัวร์คือเราจะมีรถบริการรับส่งตลอดทริป ทำให้หมดกังวลเรื่องการเดินทาง ในการทานอาหารจะแบ่งเป็นโต๊ะ โต๊ะละ 8-10 ท่าน มีรายการอาหารให้เลือกหลากหลาย รสชาติอร่อยถูกปาก แถมหัวหน้าทัวร์ไทยยังมีการเตรียมน้ำพริกมาช่วยเพิ่มความแซ่บให้อาหารมื้อนี้อีกด้วย
หลังจากทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาพักผ่อน ที่พักของเราในคืนนี้ดีมากค่ะ เพราะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ห้องพักกว้างขวาง แถมบริเวณโรงแรมยังมีร้านอาหาร ร้านขนม ให้ได้เลือกชิมมากมาย โดยเฉพาะร้านอาหารทะเล อาหารอร่อย สด สะอาด คนเวียดนามมาทานกันเยอะ พี่เห็ดก็ไม่พลาดที่จะไปลิ้มลอง ซึ่งก็อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ พี่เห็ดถึงกับทานซ้ำ 2 คืนเลยทีเดียว
วันที่ 2
ตื่นมาในเช้าวันที่ 2 ของทริป เที่ยวเวียดนามกับทัวร์ ทางทัวร์จะนัดเราแบบ 6 7 8 ที่หมายถึง ตื่นนอนเวลา 06.00 น. ทานอาหารเช้าเวลา 07.00 น. และเตรียมพร้อมในเวลา 08.00 น. เพราะวันนี้รถจะออกในเวลา 08.30 น. อาหารเช้าวันนี้มีให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งอาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารเวียดนาม ซึ่งพี่เห็ดประทับใจอาหารเวียดนามมาก โดยเฉพาะ เฝอ ตอนเช้า ๆ ได้สดน้ำซุปร้อน ๆ สดชื่นคล่องคอมากจริง ๆ พี่เห็ดทานไป 2 ชาม อิ่มแปร้เลย มีแรงสำหรับเที่ยวได้ทั้งวัน
จากนั้นจะนั่งรถไป เมืองฮอยอัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทางทัวร์จะพาเราไป หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Village) เพื่อล่องเรือกระด้งก่อน เพราะจะได้ไม่ร้อนแดด ตัวเรือทำด้วยการสานไม้ไผ่เข้าด้วยกันเป็นรูปทรงกลม คล้ายกับกระด้งหรือตะกร้า และเคลือบด้วยน้ำมันสนเพื่อกันน้ำเข้า สามารถนั่งได้ 1-2 คน ไม่รวมคนพาย ก่อนขึ้นเรือต้องใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย ระหว่างการล่องเรือจะได้ชมวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวบ้าน และชมการแสดงร้องเพลงจากคนพายเรือ แต่ละเพลงสนุกสนานมาก มีเพลงไทยด้วยนะ โดยเรือจะล่องไปช้า ๆ ไปตามเส้นทางในสวนมะพร้าว ไม่แรง ไม่น่ากลัว ใช้เวลาล่องประมาณ 40 นาที แต่สนุกสนานไม่น่าเบื่อเลย เพราะนอกจากเพลงสนุก ๆ แล้ว พี่คนพายเรือยังคอยเอนเตอร์เทนเราตลอด ส่วนใครไม่สะดวกล่องเรือ เขาก็มีที่สำหรับนั่งรอด้วยค่ะ
จากนั้นนั่งรถไป เมืองโบราณฮอยอัน เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและต่างชาติเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างดี ตัวอาคารยังคงอนุรักษ์ความโบราณไว้ แต่มีการทาสีและตกแต่งด้วยสีสันสดใส พร้อมด้วยจุดเช็กอินมากมาย เช่น สะพานญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ วัดกวนอู ศาลเจ้า ชุมชนชาวจีน และบ้านโบราณอายุยาวนานกว่า 200 ปี เป็นที่เที่ยวที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายรูป เพราะสวยงามคลาสสิกทุกมุม นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก เรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง แต่ส่วนมากจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ราคาไม่แพง และเนื่องจากคนไทยไปเที่ยวเยอะ แม่ค้าที่นี่เลยจะพูดไทยได้ค่ะ
ช่วงบ่ายพาไปแวะ Sơn Trà Marina คาเฟ่สไตล์ซานโตรินีริมทะเล ตกแต่งเป็นสีฟ้าขาว ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ สามารถมาแวะพักผ่อน ดื่มเครื่องดื่มอร่อย ๆ และถ่ายรูปสวย ๆ
ก่อนกลับโรงแรม ไปสักการะ เจ้าแม่กวนอิม ณ วัดหลิงอิ๋ง (Linh Ứng) ที่ตั้งอยู่บนเกาะเซินตร่า ภายในวัดบรรยากาศเงียบสงบ มีรูปปั้นปูนขาวของเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ความสูง 67 เมตร ฐานกว้าง 35 เมตร ยืนอยู่บนฐานดอกบัว หันหลังให้ภูเขา และหันหน้าออกสู่ทะเล เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองชาวประมงที่ออกไปหาปลา นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อในการขอพรเรื่องสุขภาพ การค้าขาย และการขอลูกอีกด้วย
วันที่ 3
เช้าวันนี้ตื่นเต้นสุด ๆ เพราะเราจะได้ขึ้นไปบน บานาฮิลล์ (Bana hills) กัน จากในตัวเมืองเราจะนั่งรถเพื่อไปยังจุดขึ้นกระเช้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ในการเดินทางจะต้องทั้งขึ้นบันไดเลื่อน นั่งกระเช้าที่ยาวที่สุดในเวียดนาม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ระหว่างทางจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขา สายหมอก และสัมผัสอากาศเย็น ๆ พี่เห็ดแนะนำให้เตรียมกระเป๋าใบไม่ใหญ่ไปนะคะ เพราะจากจุดขึ้นกระเช้าไปโรงแรม ลูกทัวร์จะต้องลากกระเป๋าเอง และระยะทางค่อนข้างไกล เพื่อความสะดวก แนะนำเป็นกระเป๋าไซส์ไม่เกิน 20 – 24 นิ้วจะดีกว่าค่ะ
ด้านบนบานาฮิลล์บรรยากาศดีมาก ๆ สวยเหมือนอยู่ในเมืองแถบยุโรปเลยทีเดียว และเนื่องจากบนยอดเขาบานาฮิลล์มีความสูง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศดีสุด ๆ มีนักท่องเที่ยวคึกคัก พร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก เตรียมชุดสวย ๆ ไปถ่ายรูปได้เต็มที่เลย
มื้อกลางวันวันนี้จะเป็นบุฟเฟต์นานาชาติ โดยเราจะทานกันที่ห้องอาหารฝั่งใหม่นะคะ จะไม่เหมือนบุฟเฟต์ตอนเย็น เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าไปเช็กอินที่โรงแรมกัน โรงแรมด้านบนจะเป็นสไตล์ยุโรป ห้องจะไม่ใหญ่มาก แต่อากาศดี นอนสบายมากเลย หลังจากเก็บกระเป๋าไกด์จะพาเดินชมรอบ ๆ พร้อมกันเพื่อแนะนำจุดขึ้นลงกระเช้า เพราะถ้าเราลงผิดจะต้องเสียเงินเพื่อขึ้นมาด้านบนใหม่ ดังนั้นต้องตั้งใจฟังไกด์แนะนำดี ๆ นะคะ
ที่นี่มีจุดให้เที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านฝรั่งเศส (French Village) ที่ตึกอาคาร สถาปัตยกรรม ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มีการออกแบบตกแต่งเป็นธีมยุโรป ให้บรรยากาศเหมือนได้ไปเที่ยวฝรั่งเศสจริง ๆ
ภายในหมู่บ้านมีแลนด์มาร์กที่สำคัญอย่าง โบสถ์เซนต์ เดนิส (Saint Denis) โบสถ์จำลองสไตล์โกธิค ที่สามารถเข้าไปถ่ายรูปด้านในได้
นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ อย่าง สวนสนุก (Fantasy Park) ที่รวมเครื่องเล่น พร้อมการแสดงแสง สี เสียงต่าง ๆ บนพื้นที่กว่า 2,100 ตารางเมตร โดยเราสามารถเล่นเครื่องเล่น ดูหนัง 3D, 4D และ 5D ได้ฟรีทุกอย่าง ยกเว้นห้องหุ่นขี้ผึ้งและโรงไวน์ แต่ที่ประทับใจคือ บนบาน่าฮิลล์มีการปลูกดอกไม้เยอะมาก ๆ เดินไปมุมไหนก็สวยหมดทุกที่เลย ทั้งยังมี สวนดอกไม้แห่งความรัก (Le Jardin D’Amour) สวนสวยสไตล์ยุโรปที่มีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด เติมความสดชื่นสดใสได้เป็นอย่างดี
หลังจากเที่ยวกันจนเหนื่อยก็ได้เวลาเข้าโรงแรมไปอาบน้ำเตรียมตัว เพื่อมาทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารบุฟเฟต์ บอกเลยว่าเป็นทริปที่กินอิ่มทุกมื้อจริง ๆ ค่ะ หากท่านใดทานอาหารเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับโรงแรมนอน บริเวณนั้นยังมีลานเบียร์ให้ได้ดื่มผ่อนคลายกันอีกด้วย
วันที่ 4
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการ เที่ยวเวียดนามกับทัวร์ แล้วค่ะ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเป็นทริปเที่ยวแบบสบาย ๆ ไกด์เลยนัดลงจากบานาฮิลล์ประมาณ 10 โมง ในช่วงเช้าพี่เห็ดเลยไปถ่ายรูปกับจุดไฮไลต์ของที่นี่กันก่อน นั่นก็คือ สะพานทอง หรือ สะพานมือ (Golden Bridge) เป็นสะพานสีเหลืองทอง ความยาวประมาณ 150 เมตร สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของภูเขาและป่าไม้ทั่วพื้นที่ ใครที่อยากได้รูปสวย ๆ ไม่มีคน พี่เห็ดแนะนำให้มาช่วงประมาณ 7 โมงเช้านะคะ
ก่อนจะกลับทางทัวร์จะพาไปแวะ ตลาดฮาน (Han Market) ตลาดโบราณเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในดานัง แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนขายสินค้าคนท้องถิ่น และโซนขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว มีสินค้าหลากหลาย เช่น เสื้อเวียดนาม หมวก รองเท้า กระเป๋า สินค้าพื้นเมือง โดยเฉพาะงานฝีมือ เช่น ภาพผ้าปักมือ โคมไฟ ผ้าปัก กระเป๋าปัก ตะเกียบไม้แกะสลัก ชุดอ๋าวหย่าย (ชุดประจำชาติเวียดนาม) และยังมีขนมต่าง ๆ ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไทยกันด้วย พี่เห็ดได้ขนมจากตลาดนี้เยอะเลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับการ รีวิว เที่ยวเวียดนามกับทัวร์ ของพี่เห็ด จะบอกว่าประทับใจในการเดินทางครั้งนี้มาก เพราะเป็นโปรแกรมที่เวลาบินสบาย ไม่เหนื่อย มีเวลาให้เที่ยวแต่ละสถานที่เยอะพอสมควร มีอาหารให้ทานครบทุกมื้อ อิ่มท้องอิ่มใจสุด ๆ หากเพื่อน ๆ ท่านไหนที่อยากไป เที่ยวเวียดนามกลาง แบบนี้ก็สามารถสอบถามกับพี่เห็ดได้เลย พี่เห็ดยินดีให้บริการ และแนะนำโปรแกรมทัวร์ที่เหมาะกับความต้องการให้นะคะ