พี่เห็ดเข้าใจดีว่าจํานวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ที่ยังคงสูงขึ้น บวกกับอัตราการฉีดวัคซีนโควิดในเมืองไทยที่ห่างไกลจากเป้าหมาย ย่อมทําให้พวกเราอดเป็นกังวลกันไม่ได้ จนหลายคนเริ่มคิดว่า งั้นเรา ซื้อ ทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด เดินทางไปฉีดที่ต่างประเทศให้มันจบๆ ไปเลยดีมั้ย? พี่เห็ดแนะนําว่า ก่อนตัดสินใจซื้อทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด เรามาอ่านบทความนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อทบทวนข้อดี-ข้อเสีย กับ 5 เหตุผลสำคัญเหล่านี้
อย่าลืมว่า วัคซีนต้องฉีด 2 เข็ม
ถ้าถึงขนาดจะซื้อทัวร์เพื่อไปฉีดวัคซีนในต่างประเทศทั้งที พี่เห็ดแนะนําว่าควรเลือก ทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ของวัคซีนยี่ห้อ Pfizer หรือ Moderna เพราะสามารถรับมือกับโควิดสายพันธุ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งวัคซีนทั้งสองยี่ห้อนี้ ต้องฉีดทั้งหมด 2 โดส หรือ 2 ครั้ง ในระยะเวลาที่ห่างกันประมาณ 3 สัปดาห์ หมายความว่า ถ้าเราไปถึงที่ประเทศนั้นๆ แล้วได้ฉีดเข็มแรก ก็ต้องอยู่ต่ออีกประมาณ 3 สัปดาห์เพื่อฉีดเข็มที่ 2
สําหรับวัคซีน Johnson & Johnson ที่ฉีดแค่เข็มเดียว ก็ยังต้องรอดูว่าจะสามารถรับมือกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้ดีหรือไม่
5 ข้อที่ผู้เดินทางต้องเอาตัวไปเสี่ยง
1. การติดเชื้อระหว่างออกทัวร์ และการแพ้วัคซีน
อย่าลืมว่า วัคซีนไม่ใช่หมวกกันน็อค ที่ใส่แล้วจะป้องกันได้ทันที วัคซีนของ Johnson & Johnson ที่ฉีดเพียงเข็มเดียว ยังใช้เวลาถึง 15 วัน กว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันในร่างกายได้มากพอ แปลว่า ถ้าเราติดเชื้อระหว่างออกทัวร์ หรือเกิดแพ้วัคซีนรุนแรง เราต้องหวังพึ่งประกันสุขภาพระหว่างการเดินทาง ไม่อย่างนั้นค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาในต่างประเทศ อาจทําให้เราล้มละลายได้เลยทีเดียว
2. การเปลี่ยนแปลงนโยบายของประเทศนั้นๆ
สำหรับบางประเทศ เช่น เซอร์เบีย มีการฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยว เพราะคนในประเทศส่วนหนึ่งไม่ยอมฉีด รัฐบาลเซอร์เบียจึงฉีดให้ชาวต่างชาติ เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนในประเทศ หรือ มัลดีฟส์ ที่ทางรัฐบาลก็ยังใช้วัคซีนจากการบริจาค นำมาฉีดให้นักท่องเที่ยว ดังนั้น หากประเทศนั้นๆ มีการเปลี่ยนเปลงนโยบาย เราก็อาจเสี่ยงในการเดินทาง และเสียค่าใช้จ่ายไปโดยไม่ได้ฉีดวัคซีนได้ทุกเมื่อ
3. ความน่าเชื่อถือของบริษัททัวร์
ปัจจุบันการ ซื้อทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด ยัง ไม่ถือว่าเป็นเรื่องถูกกฎหมายอย่างชัดเจน นายกสมาคมไทยบริการ ท่องเที่ยว (TTAA) ให้สัมภาษณ์กับ “สํานักข่าวประชาชาติธุรกิจ” ว่า “ทางสมาคมฯ ก็ไม่ได้เห็นด้วย เนื่องจากหลายๆ ประเด็นยังไม่มีความชัดเจน ทางสมาคมฯ ได้แจ้งเตือนบริษัทนําเที่ยวทุกรายไปแล้ว” ดังนั้นบริษัททัวร์อาจไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ ผู้เดินทางจึงต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดไว้เอง
4. การถูกปฏิเสธวีซ่า โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
สถานการณ์โควิดทําให้การขอวีซ่าเดินทางในหลายประเทศยิ่งยากลําบากมากขึ้น จึงเป็นไปได้ที่เราอาจถูกปฏิเสธวีซ่า ทําให้เราต้องเสียเงินที่จองทัวร์ไป และอาจมีผลต่อการขอวีซ่าในครั้งถัดไป
5. สถานที่ท่องเที่ยวอาจปิด
อุตส่าห์ได้ไป เที่ยวต่างประเทศ ที่ห่างหายไปนานทั้งที แต่ครั้งนี้เราอาจจะไม่สามารถท่องเที่ยวได้เต็มที่อย่างที่หวังไว้ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง ต่างก็ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟู
ค่าใช้จ่ายที่แอบแฝง
การซื้อ ทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด โปรแกรมทั่วไปนั้น มักจะรวมค่าใช้จ่ายที่เราคุ้นเคย เช่น โรงแรมที่พัก หัวหน้าทัวร์ พาหนะในประเทศ มื้ออาหารตามที่ระบุในโปรแกรม ประกันอุบัติเหตุ และค่าเข้าชมสถานที่บางส่วนไว้แล้ว แต่นอกจากนี้ ยังมี ค่าใช้จ่ายที่มักจะไม่ถูกรวมในโปรแกรมทัวร์ทั่วไป เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ทิปคนขับรถ ทิปหัวหน้าทัวร์ ค่าบริการอื่นๆ ที่เรียกใช้พิเศษ นอกเหนือจากตารางที่กําหนด ไปจนถึงค่าวีซ่า
และยังมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่มักไม่ถูกรวมไว้ในค่า ทัวร์ฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งเราต้องเช็คให้ดี เช่น
– ประกันสุขภาพหากป่วย หรือติดเชื้อโควิดระหว่างทัวร์
– ประกันสุขภาพแพ้วัคซีน
– ค่ากักตัวในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย
– ค่าตรวจโควิดก่อนการเดินทาง
– ค่ารับส่งเพื่อฉีดวัคซีน
– ค่าตั๋วเครื่องบิน (เพราะทัวร์แบบนี้ไม่ใช่ตั๋วกรุ๊ปที่มีการล็อคไว้ก่อน)