“Travel and change of place impart new vigor to the mind.– Seneca”
การท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ จะทำให้จิตใจเราแข็งแกร่ง และได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆได้เสมอค่ะ วันนี้มัชรูมทราเวล จะไม่พาคุณไปไกล แต่จะพาไปประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่เราต่างก็รู้จักกันดี ประเทศนี้มีมนต์เสน่ห์อันเหลือร้าย ที่เชื่อว่าใครไปก็ต้องตกหลุมรักแน่นอน ประเทศ “เวียดนาม” นั่นเองค่ะ ..
ประเทศเวียดนามนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่เราเชื่อว่าใครได้ลองไปสัมผัสจะต้องติดใจกับความสวยงามทางธรรมชาติ หรือสถานที่อันมีเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าอยากเห็นแล้วเห็นอีกเลยทีเดียวล่ะค่ะ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามแล้ว อาหารและวัฒนธรรม ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาสัมผัสประเทศที่สุดแสนจะน่ารักประเทศนี้ค่ะ …
อาหารเวียดนามอาจจะหากินได้ไม่ยากนักในประเทศไทย แต่บอกได้เลยว่าหากท่านผู้อ่านได้ไปลองลิ้มชิมรสที่ต้นกำเนิดแล้วจะต้องติดใจกับรสชาติอาหารอันกลมกล่อม ผสมผสานทั้งรสเค็ม รสหวาน รสเปรี้ยว และรสเผ็ด อีกทั้งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้นานาชนิด และสมุนไพรนานาพันธุ์ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารจานเด่นหลายๆจานของเวียดนามเลยทีเดียวค่ะ
หากใครได้มีโอกาสไป เที่ยวเวียดนาม อาหารจานที่บอกได้เลยว่าพลาดไม่ได้ และยังเป็นจานเด็ดประจำเวียดนามอีกด้วยนั่นก็คือ PHO (เฝอ) นั่นเองค่ะ เฝอจะมีลักษณะคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวของบ้านเรา เพราะได้รับอิทธิพลมาจากจีนเช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันตรง ซุป เส้น และเครื่องเคียง
นํ้าซุปของเมนูนี้จะเคี่ยวจากเนื้อวัวหรือเนื้อไก่ กระดูกหางวัวและเครื่องเทศบางชนิด เช่น ดอกจัน ขิง อบเชยไซง่อน กานพลู ส่วนตัวเส้นนั้น ชาวเวียดนามเค้าเรียกกันว่า “Banh Pho(บั๊ญเฝอ)” จะมีลักษณะกว้างกว่าเส้นเล็ก หรือเป็นเส้นกลมสีขาวขนาดใหญ่กว่าขนมจีนเล็กน้อย เฝอจะนิยมตกแต่งด้วย ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สาระแหน่ โดยมีเครื่องเคียงแยกเป็น โหระพา เลมอน มะนาว ถั่วงอก หรือ พริกหยวก และมีนํ้าปลา ซอสพริกศรีราชา หรือซอสฮอยซิน ไว้ใช้ปรุงรสตามใจชอบค่ะ เมนูนี้ทานได้ง่ายและสามารถทานในมื้อไหนก็ได้ของวัน ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น แต่คนส่วนใหญ่จะนิยมกินเป็นอาหารเช้าค่ะ
อีกหนึ่งเมนูดังที่ใครไปแล้วไม่ได้ลองทานถือว่าไปไม่ถึงนั่นก็คือ “Goi cuon” หรือ ปอเปี๊ยะสดเวียดนามนั่นเองค่ะ ปอเปี๊ยะจะถูกห่อด้วยแป้งบางๆใสๆ เห็นไส้อัดแน่นไปด้วยผักใบเขียว หมูสับ กุ้ง หรือ ปู โดยจะเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง ผักกาดหอม หรือใบมิ้นท์ แต่หากได้มีโอกาสชิมเมนูนี้ในทางตอนใต้ของเวียดนามก็จะมีการใส่ หมูย่าง กล้วยดิบ หรือ มะเฟือง ทานคู่กับนํ้าจิ้มถั่ว ที่แค่ได้ยินก็นํ้าลายสอ
หลังจากชิมอาหารอันเลิศรสของชาวเวียดนามจนพุงกางแล้ว เวียดนามยังมีสถานที่และวัฒนธรรมดีดีรอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเองอีกมากมาย ประเทศเวียดนามมีวัฒนธรรมอันน่าสนใจ และได้รับอิทธิพลมาจากจีนค่อนข้างมาก เพราะถูกปกครองจากประเทศจีนมาหลายต่อหลายครั้ง เพราะฉะนั้น อารยธรรม ศิลปะ วัฒนธรมต่างๆจึงมีความคล้ายและใกล้เคียงกับของประเทศจีนสุดๆ ส่วนการแต่งกายนั้นจะได้รับวัฒนธรรมตะวันตกคล้ายๆกับหนุ่มสาวทั่วๆไปในบ้านเราค่ะ
ท่านผู้อ่านท่านใดที่ชื่นชอบวิถีชีวิตความเป็นเวียดนามและอยากจะลองไปเปิดประสบการณ์ใหม่แต่ไม่อยากไปไหนไกล เราจะขอมาแนะนำสถานที่สำหรับการ เที่ยวเวียดนาม ที่คุณไม่ควรพลาดในประเทศอันสวยงามแห่งนี้ จะมีที่ไหนบ้างตามมาดูกันค่ะ
1.Hoi An
หนึ่งในเมือง เที่ยวเวียดนาม ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีบรรยากาศอันสดใส เป็นกันเอง จึงทำให้เป็นที่จดจำได้ง่ายเพราะเป็นเมืองที่สงบดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมต่างๆ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้าไว้ด้วยกัน จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จาก UNESCO เลยทีเดียวค่ะ ในปัจจุบันเมืองฮอยอันก็เป็นหนึ่งในเมืองชิคๆ ที่เต็มไปด้วย ผลงานศิลปะหัตถกรรม คาเฟ่ และบาร์ต่างๆให้เราได้ชิลพร้อมชมความสวยงามของเมืองนี้อย่างเต็มอิ่มเลยค่ะ
เวลาทำการ : แล้วแต่ที่ระบุตามสถานที่ต่างๆในเมือง
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : เครื่องบินแล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่ เพราะในเมืองฮอยอันไม่มีสถานีรถไฟค่ะ
แผนที่ :
2.Phong Nha-Ke Bang National Park
อีกหนึ่งสถานที่ เที่ยวเวียดนาม ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO นั่นก็คือ “อุทยานแห่งชาติ ฟองญา แก๋บ่าง” แค่นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้วใช่มั้ยล่ะค่ะ ? อุทยานแห่งนี้มีภูเขาอันเก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเชีย ที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติเมื่อ 400 ล้านปีก่อนค่ะ โดยมีทั้งถ้ำฟองญาและแม่น้ำใต้ดินซอน บนอุทยานก็ปกคลุมด้วยป่าเขียวขจี เรียกได้ว่าสวยงามราวกับสวรรค์บนดินเลยค่ะ
เวลาทำการ : 7.30AM-4.30PM
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : เครื่องบินแล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่ / นั่งรถบัสจากเมือง Hue(เว้)
แผนที่ :
3.Halong Bay
อ่าวฮาลอง เกาะแห่งธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสมา เที่ยวเวียดนาม ค่ะ คำว่า “ฮาลอง” นั้นแปลว่า ที่ที่มังกรลงมาเยือนทะเล โดยทีนี่มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับมังกร เพราะมีความสวยงามทางธรรมชาติ ที่บอกเลยว่า สวยเคลิ้มมากค่ะ!! มากๆค่ะ อ่าวแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยมีน้ำสีเขียวมรกตและเกาะหินปูน 1,969 เกาะ โผล่พ้นจากน้ำ แต่ละยอดเกาะก็จะมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และหลายเกาะยังมีถํ้าขนาดใหญ่อยู่ภายในอีกด้วยค่ะ ทีนี่ยังมีบรรยากาศของธรรมชาติอันสวยงามและไม่ปรุงแต่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งหลายให้มาเยี่ยมชม งดงามและสมบูรณ์แบบขนาดนี้บอกได้เลยว่าต้องลองไปอีกสักครั้งในชีวิต
เวลาทำการ : ตัวเกาะไม่มีเวลาเปิดปิด
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : สามารถนั่งรถบัสจากฮานอยแล้วเดินชมวิว รถบัส หรือจะเลือกนั่งเรือธรรมดาและเรือเฟอรี่
แผนที่ :
4.Ho chi minh city
มาถึงสถานที่สุดท้ายแล้วที่เราจะพาผู้อ่านไป เที่ยวเวียดนาม กัน กับเมืองแห่งสีสันที่น่าตื่นเต้นเร้าใจกับกรุง โฮ จี มินห์ นี่เองค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองแห่งการค้าขายและวัฒนธรรมของเวียดนาม จึงทำให้มีบรรยากาศอันคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่นี่คุณจะสามารถเลือกนอนได้ตั้งแต่โรงแรมห้าดาวไล่ไปถึง guesthouse หรือคุณจะไปชิมอาหารระดับภัตตาคาร แล้วอยากลองทานอาหาร street food ก็ยังสามารถพบได้ทุกแบบ เพราะเมืองนี้คุณจะได้ลิ้มลองกับประสบการณ์ใหม่ตั้งแต่ตึกที่สูงเสียดฟ้า ไปจนถึงตึกอันเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่าศตวรรษ และสีสันที่ตัดกันได้อย่างลงตัวของโฮจีมินห์นี้คือเสน่ห์ที่เราขอรับประกันเลยว่าหากได้ไปเยี่ยมชมจะได้ความรู้สึกแปลกใหม่กลับมาอย่างแน่นอนค่ะ
เวลาทำการ : แล้วแต่ที่ระบุตามสถานที่ต่างๆในเมือง
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง : เครื่องบิน
แผนที่ :
ในบางประเทศอย่าง เวียดนามนั้น ภายในเวลาไม่นานก็สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยที่เราอาจจะตามไม่ทันเลยทีเดียวค่ะ ประเทศนี้ได้ผ่านอะไรมามากและมีสิ่งใหม่ๆอีกมากมายรอเราให้ได้เข้าไปสัมผัส เพราะฉะนั้นทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหากเราได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสและเห็นได้ด้วยตาของตนเองคงจะดีไม่น้อย จริงไหมคะ ?