@MushroomTravel
So Hot เบอร์นี้ มีงบไม่ถึงหมื่นก็เที่ยว เวียดนาม หน้าร้อน ได้!
หยุดยาวหน้าร้อนแบบนี้จะอยู่ที่บ้านก็คงจะเฉาตายพอดีค่ะ จะดีกว่ามั้ยถ้าลุกขึ้นมาจัดกระเป๋าแล้วไปออกทริปกันที่เวียดนามแบบยกครัวกันดีกว่า งานนี้รับรองเลยว่า งบไม่ถึงหมื่นก็เที่ยว ช้อป กิน ฟินเว่อร์ที่ เวียดนาม หน้าร้อน อย่างนี้ได้เหมือนกัน!
แล้วทำไมต้องเวียดนาม? เพราะนอกจากเวียดนามจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยเราแล้ว ยังเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แบบถ้าพลาดคือเสียใจแน่นอน อีกอย่างการเดินทางไปก็แสนจะง่ายดาย ถึงมีงบไม่เยอะก็ไปได้ค่ะ วันนี้ Mushroom Travel เลยคัดสรร 5 สถานที่ท่องเที่ยวชนิดที่แบบครบรส ครบเครื่อง ให้ไปเช็คอิน สร้างแลนด์มาร์คกันเลยทีเดียวค๊า
1. เมืองฮานอย
มาเวียดนาม ทั้งที ก็ต้องแวะมาเช็คอินกันที่เมืองฮานอย ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของเวียดนาม เมื่อครั้นปี พ.ศ. 1553 เชียวนะคะ มีอายุราวๆ 1,000 ปี ปัจจุบันเมืองฮานอยได้กลายเป็นแหล่งรวบรวมวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส น่าไปเซลฟี่เป็นอย่างมาก แถมมีย่านชุมชน ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่สุดของเมือง มีถนนสาย 36 ชาวเวียดนามเรียกถนนสายนี้ว่า “บาเมื่อยซัวโฟเฟือง” แปลว่า 36 ถนน แต่ชาวต่างชาติจะรู้จักกันในชื่อว่า “โอลด์ควอเตอร์” ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงถนนเยาวราชบ้านเราค่ะ คล้ายๆ กันเลย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่เป็นมรดกโลกอย่าง “อ่าวฮาลอง” ทะเลสาปที่มีเนื้อที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร มีเกาะหินปูนที่ถูกกัดเซาะมากว่าพันปีจนกลายเป็นหินปูนรูปทรงสวยงามวางเรียงรายกัน
การเดินทางชมรอบเมือง : จักรยานเช่า ราคาประมาณ 10,000 ดอง/วัน
ซิโคล่ (สามล้อถีบ) ราคาประมาณ 5,000 ดอง/คน
2. วัดเฉินก๊วก
ได้เดินทางมาที่ เวียดนาม หน้าร้อน แบบนี้ก็ต้องแวะหาที่สงบๆ พักใจให้ร่มๆ ผ่อนคลายกันสักหน่อย โดยเรายังคงอยู่กันที่เมืองฮานอย สำหรับสายบุญขอแนะนำให้พาครอบครัวมาสักการะพระที่วัดเฉินก๊วก เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเวียดนาม ซึ่งนอกจากจะมีตัวเจดีย์โดดเด่นทรงสูง 11 ชั้น ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปีแล้ว ก่อสร้างในราชวงศ์ลี้ โดยกษัตริย์เลนามเดอ มีต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ได้รับเป็นของขวัญมาจากอินเดีย ยังมีแผ่นจารึกแห่งเกียรติยศ พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่มีทั้งรูปปั้นแกะสลักและวัตถุโบราณอายุหลายร้อยปีที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายชิ้น อีกอย่างเรายังสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมต่างๆ พร้อมเพลินเพลินไปกับสวนสวยงาม และบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น รอบๆ ตัววัดเป็นย่านเมืองใหม่ที่มีชื่อว่า “เบฟเวอรี่ฮิลล์ของฮานอย” ที่น่าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
3. เยี่ยมชม ระบำตุ๊กตาหุ่นกระบอกน้ำ
มาเวียดนาม ก็ต้องแวะมาชม ระบำตุ๊กตาหุ่นกระบอกน้ำ ที่เป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านอันมีเอกลักษณ์ของชาวเวียดนามเขาล่ะ โดยการแสดงจะแบ่งออกเป็นชุดๆ แต่ละชุดก็จะเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตเอย การทำมาหากินเอย รวมถึงศิลปะการละเล่นพื้นบ้านต่างๆ ของชาวเวียดนาม ตรงกลางเวทีจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่เพื่อใช้สำหรับการแสดง ผู้ชักหุ่นกระบอกจะอยู่หลังฉาก แถมต้องยืนแช่น้ำไปครึ่งตัวขณะทำการแสดง ส่วนฉากแต่ละฉากก็ตกแต่งออกมาอย่างสวยงาม สะท้อนถึงศิลปะของประเทศเวียดนาม นอกจากฉากแล้วยังมีดนตรีประกอบการแสดง แสง สี เสียง และเอ็ฟเฟ็กต์ตระการตาอีกมากมาย การแสดงหุ่นกระบอกน้ำจะมีให้ได้ชมถึง 17 ชุด แต่ละชุดก็จะบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันไป รับรองเลยว่ามีลูกก็พาลูกไป มีหลานก็พาหลานมา ติดอกติดใจแน่นอนค่ะ
สถานที่ตั้ง : โอลด์ควอเตอร์
ช่วงเวลาเปิดการแสดง : แสดงวันละ 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.15 น.
ราคาบัตรเข้าชม : ตัวที่นั่งธรรมดา 2 ราคา คือ 20,000 ดอง และ 40,000 ดอง/ตั๋ว VIP 85,000 ดอง/ค่ากล้องถ่ายรูปอีก 10,000 ดอง
4. พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
มาต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ เราจะพาทุกท่านนั่งไทม์แมคชีนย้อนอดีตไปในสมัยที่ลุงโฮฯ ยังอยู่ โดยพาไปเรียนรู้วิถีชีวิตและช่วงเวลาในอดีตของผู้นำคอมมิวนิสต์ที่ปลดปล่อยเวียดนามให้เป็นเอกราชกันค่ะ ใครที่เดินทาง มาเวียดนาม ไม่แวะมาที่นี่คือพลาดมาก! เพราะสถานที่นี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2406 เพื่ออุทิศแด่ชีวิตและมรดกต่างๆ ที่สืบทอดมาจากอดีตประธานาธิบดีคนสำคัญ และอุทิศให้แก่การไฟท์เพื่ออิสรภาพอีกด้วย ตัวพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์มีความโดดเด่นเป็นสง่า โครงสร้างของอาคารได้รับอิทธิพลมาจากโซเวียต รูปปั้นของลุงโฮฯ มีขนาดใหญ่และตั้งตระหง่านอยู่ภายใน ภายในมีการจัดนิทรรศการมากมาย ทั้งเรื่องราวส่วนตัวของลุงโฮฯ แบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน แต่ละห้อง แต่ละชั้น ก็จะมีเรื่องราวหลายเรื่อง ที่แบ่งเป็นช่วงสมัยต่างๆ รวมทั้งภาพขาวดำสมัยสงคราม ภาพบอกเล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของทหารและการสู้รบเพื่ออิสรภาพ พร้อมทั้งแนวคิดการใช้ชีวิตของลุงโฮฯ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ นอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของลุงโฮฯ ให้เราได้เยี่ยมชมกันด้วยล่ะ
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ข้างสุสานโฮจิมินห์ และจัตุรัสบาดิงห์ เราสามารถนั่งมอไซค์รับจ้างหรือแท็กซี่ไปลงที่พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ได้
5. ถนนสายเก่า 36
หลังจากที่ไปแวะเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ ของเวียดนามมาแล้ว ตกเย็นก็ขอแวะมาที่ ถนนสายเก่า 36 หรือ 36 เฝอเฟืองของ เวียดนาม หน้าร้อน แต่ที่นี่ไม่ร้อนนะคะ ที่เป็นแหล่งขายของที่ระลึก สินค้าที่มีชื่อเสียงทางด้านงานหัตถกรรม และสินค้าพื้นเมือง เปิดทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮานอย ที่มาของชื่อ ถนน 36 สายนี้มาจาก 36 อาชีพอันเก่าแก่ที่เคยทำมาค้าขายกันในย่านนี้ ซึ่งปัจจุบันมีประวัติยาวนานมามากกว่า 600 ปี ถึงแม้จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย เหมาะมากสำหรับการมาเดินช้อป ซื้อของที่ระลึกไปฝากๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และญาติๆ เพราะมีทั้งร้านค้าของที่ระลึก ไหมพรม รองเท้า แกลเลอรี โคมไฟ นอกจากนี้ก็ยังมีของแบรนด์เนมและงานก็อปเกรดเอ แต่ของฝากที่น่ารักและน่าตำเห็นจะเป็นพวก ตุ๊กตาเวียดนามน่ารักๆ กระเป๋า และของใช้จุกจิกเวียดนามสไตล์ ที่เราสามารถต่อราคาได้! เพราะแม่ค้าบางคนพูดไทยได้ แถมยังชอบคนไทย และรับเงินไทยด้วยค๊า
สำหรับสาวออฟฟิศ ที่ต้องการหนีความวุ่นวาย หนีความร้อนวัวตายควายล้มของประเทศไทยมาที่ เวียดนาม หน้าร้อน แบบนี้พร้อมครอบครัวที่น่ารัก แต่ยังไม่มีเวลาวางแผนการเดินทาง วางแพลนการเที่ยว งั้นมาเที่ยวกับเราสิคะ คอนเฟิร์มเลยว่างานนี้ไม่ใช่แค่ไป 5 สถานที่ที่แนะนำไปด้านบนเท่านั้น เรายังมีโปรแกรมเที่ยวอีกเพียบ อยากเที่ยวเวียดนามแบบจุใจ ในงบไม่ถึงหมื่น คลิกที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้ด่วนๆ ค่ะ!
www.mushroomtravel.com