@MushroomTravel
อยู่บ้านมานานหลายเดือน ได้เวลาออกเที่ยว! พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอปักหมุดไปเมืองจีน หน้าหนาว เที่ยวจิ่วจ้ายโกว สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A อุทยานแห่งชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามราวกับสรวงสวรรค์ กลางหุบเขาแห่งเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน แม้จะขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวว่าต้องไปในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่บอกเลยว่าถ้าได้ ตะลุยหิมะ จิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว สัมผัสอุณภูมิติดลบ เย็นยะเยือก ทั่วทุกบริเวณปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ก็แฮปปี้ต่อใจไปอีกแบบ รับรองได้ว่าจะพบกับความสวยงามที่น่าหลงใหลไม่แพ้ฤดูกาลไหนๆ แน่นอน
จิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว เดือนไหน ?
ถ้าใครชอบความหนาวเย็นสุดขั้วต้องไป เที่ยวจิ่วจ้ายโกว ช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ สภาพอากาศหนาวเย็นจัด จนถึงขั้นติดลบ อุณหภูมิประมาณ -2 ถึง 14 องศาเซลเซียส ธรรมชาติโดยรอบทั้งภูเขา ต้นไม้ พืชพรรณต่างๆ จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน น้ำตก ลำธาร จะกลายเป็นน้ำแข็ง รวมถึงยังได้เห็นทะเลสาบสีฟ้ามรกตท่ามกลางบรรยากาศหิมะ งดงามราวกับเทพนิยาย ให้บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ ใครที่อยากถ่ายรูปกับหิมะสีขาวต้องมาช่วงนี้เท่านั้น รับประกันเลยว่าถ้าได้มาสัมผัสด้วยตาของตัวเองจะรู้สึกประทับใจ ไม่มีวันลืมเลย
ไฮไลต์ที่เที่ยวจิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว
1. ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake)
เช็กอินกันที่แรก ทะเลสาบห้าสี หนึ่งในจุดที่สวยงามและนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมชมเยอะที่สุด ตั้งอยู่ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,472 เมตร น้ำลึกประมาณ 5 เมตร น้ำใสจนเห็นพื้นด้านล่างของทะเลสาบ สีของผืนน้ำสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะเมื่อยามแสงอาทิตย์สาดส่องกระทบผิวน้ำ สีของน้ำในทะเลสาบจะสะท้อนเป็นสีสันถึง 5 เฉดสี สวยงามสะกดตา ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสีสันต่างๆ นี้มาจากการสะสมของแร่ธาตุ และพืชน้ำชนิดต่างๆ โดยจะมีสีสันแตกต่างกันไปตามฤดูกาลและช่วงเวลา ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูหนาว ต้นไม้ริมทะเลสาบจะเต็มไปด้วยหิมะสีขาวตัดกับสีของทะเลสาบ สวยเด่นดูมีพลัง จัดว่าสวยที่สุดใน จิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว เลย
2. ทะเลสาบยาว (Long Lake)
ไปต่อกันที่ ทะเลสาบยาว ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และลึกที่สุดในจิ่วจ้ายโกว ด้วยเนื้อที่กว่า 581 ไร่ ความยาวกว่า 7 กิโลเมตร และลึกถึง 103 เมตร ทอดตัวโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เนื่องจากหิมะบนภูเขาละลายลงมา น้ำในทะเลสาบสีฟ้าสวยงาม ล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงชัน และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปกคลุมด้วยหิมะ งดงามราวหลุดออกมาจากภาพวาด ความพิเศษในช่วงฤดูหนาว ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งหนากว่า 60 เซนติเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งกันเป็นจำนวนมาก
3. ทะเลสาบแรด (Rhino Lake)
อีกหนึ่งมุมมหาชนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ ทะเลสาบแรด ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในจิ่วจ้ายโกว บรรยากาศของทะเลสาบแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวต้นไม้ทุกต้นจะกลายเป็นสีขาวโพลน ดูเย็นยะเยือก ให้ความรู้สึกแตกต่างจากฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนผืนน้ำในทะเลสาบใสและนิ่งราวกับแผ่นกระจก สะท้อนวิวธรรมชาติโดยรอบ ถ้าอยากมาชมวิวเงาสะท้อนสวยๆ มาที่ทะเลสาบแรดรับรองได้เลยว่าไม่ผิดหวัง
4. ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake)
ทะเลสาบกระจก เป็นทะเลสาบที่ผืนน้ำใสสะท้อนวิวธรรรมชาติ ภูเขา ท้องฟ้าได้สวยงามราวกับกระจก น้ำในทะเลสาบที่สงบนิ่ง ประกอบการหักเหของแสงและเงา ทำให้เห็นภาพที่สวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามาในวันที่อากาศแจ่มใส ฟ้าเปิด มีแสงแดดอ่อนๆ ก็จะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ
5. ทะเลสาบนกยูง (Peacock Lake)
ถ้ามา จิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว ต้องแวะ ทะเลสาบนกยูง ด้วยความที่ทะเลสาบมีรูปร่างคล้ายกับนกยูง จึงเป็นที่มาของชื่อ แม้พื้นที่จะไม่กว้างมากนัก มีความยาวเพียงแค่ 310 เมตร แต่ความสวยงามของที่นี่สวยจับใจ เพราะน้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล ไล่เฉดฟ้าอ่อน ฟ้าอมเขียว และน้ำเงินตามความตื้นลึกของน้ำ ในช่วงฤดูหนาวต้นไม้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวนวล ดูแล้วคล้ายนกยูงกำลังจำศีล หากมาในช่วงที่มีแสงแดดจะมองเห็นความงดงามได้ทั่วบริเวณ
6. น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall)
ปิดท้ายกันที่ น้ำตกธารไข่มุก หรือ น้ำตกนู่รือหลาง (Nuo Ri Lang Waterfall) ถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว มีความสูง 40 เมตร กว้าง 310 เมตร เกิดจากหินปูนที่แข็งตัวจนกลายเป็นรูปทรงคล้ายพัด มีสายธารน้อยใหญ่ไหลผ่านลดหลั่นทอดยาวผ่านชั้นหินต่างๆ ยามมีแสงแดดสาดส่องตกลงกระทบผิวน้ำจะส่องประกายราวกับเส้นไข่มุกเหมือนชื่อน้ำตก บางครั้งอาจได้เห็นสายรุ้งจากแสงแดดที่สะท้อนกับละอองน้ำอีกด้วย หากได้มาในช่วงฤดูหนาว ก็จะเห็นหิมะเกาะตามต้นไม้ โขดหิน และถ้าอากาศหนาวมากๆ น้ำที่น้ำตกก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นประติมากรรมจากธรรมชาติที่สวยงาม
เตรียมเครื่องแต่งกายให้พร้อม
เตรียมความพร้อมก่อนจะไป จิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นจนถึงขั้นติดลบ แถมจะได้เจอหิมะด้วย ต้องเตรียมเครื่องกันหนาวให้พร้อม ควรสวมเสื้อผ้าอย่างน้อย 3 ชั้น และควรเป็นเสื้อที่สามารถกักเก็บความอบอุ่นได้ดี เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่น นอกจากจะสวมเสื้อไหมพรม เสื้อโค้ต กางเกงกันหนาว ผ้าพันคอ หมวก ถุงเท้า รองเท้าแล้ว อาจจะมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ ด้วย อย่างเช่น
1. ลองจอห์น (Long Johns) : ชุดชั้นในสำหรับใส่ในช่วงอากาศหนาว มีรูปทรงกระชับ เป็นเสื้อแขนยาวถึงข้อมือ และกางเกงขายาวถึงข้อเท้า หรือคลุมถึงปลายเท้า ทำจากผ้าหลายชนิด เพื่อรักษาความอบอุ่นและแห้ง
2. ถุงมือ : ช่วยให้ความอบอุ่นกับมือและนิ้วมือ และป้องกันการเจ็บผิวหรืออาการชาบริเวณมือจากอากาศที่หนาวจัด ผลิตจากผ้าสักหลาด ไหมพรมทัก ขนสัตว์ หรือหนัง
3. ที่ปิดหู (Earmuffs) : มีลักษณะคล้ายหูฟังแบบครอบหู ช่วยให้หูของเราไม่แดง ร่างกายอบอุ่นขึ้น หรือป้องกันอาการปวดหูจากอากาศหนาวจัด แถมยังป้องกันไม่ให้หิมะเข้าหูได้ด้วยนะ
4. แผ่นความร้อนสำหรับพกพา : มีหลายชนิด ทั้งแบบแปะในเสื้อผ้าแนบเนื้อ, แบบแปะนอกเสื้อผ้า, แบบถุงสำหรับใส่ในกระเป๋าเสื้อ หรือใครจะหยิบมาถือในมือก็ได้
5. ร่ม : หากวันไหนดูพยากรณ์อากาศแล้วว่าหิมะจะตก แนะนำให้พกร่มติดไปด้วย เพราะหิมะอาจทำให้เสื้อผ้าเราเปียกได้ และอาจทำให้รู้สึกหนาวยิ่งกว่าเดิม
จิ่วจ้ายโกว หน้าหนาว พูดได้เต็มปากว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่บรรยากาศสวยสะกด เต็มไปด้วยหิมะสีขาว และน้ำทะเลสาบสีสวย ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง แต่จะดีกว่านี้ถ้าได้ชวนครอบครัว หรือคนรักไปเที่ยวด้วยกัน รับรองว่า เที่ยวจิ่วจ้ายโกว มีแต่ภาพความประทับใจ ตกหลุมรักซ้ำๆ ได้อย่างแน่นอน