เพราะว่า เมืองไทยของเรา เป็นเมืองร้อน
เพราะว่า เมืองไทยของเรา ไม่เคยหิมะ
เพราะว่า เมืองไทยของเรา ไม่เคยสัมผัสอากาศหนาวแบบหนาวจริงๆจังๆ
ทำให้เรา ตื่นเต้นกับหิมะเป็นพิเศษ แต่ส่วนใหญ่นั้น เราจะรู้กันดีว่า ช่วงเวลาของการไปเล่นหิมะที่ต่างประเทศมักจะเป็นช่วงฤดูหนาว หรือว่าช่วงปลายปี จนถึงต้นปี แต่วันนี้ เรามีพิเศษกว่านั้นก็คือ เราจะชวนคุณมาสนุกกับหิมะในหน้าร้อนกันค่ะ อย่างที่รู้ๆกันว่า หน้าร้อน ของเรา หน้าร้อนของหลายๆประเทศต้องพบกับภาวะเหนียวเหนอะหนะ แต่หน้าร้อนของที่นี่ จังหวัดยะมะงะตะ ภูมิภาคโทโฮกุ ประเทศญี่ปุ่น ยังมีหิมะขาวๆให้เราได้เล่นสนุกกันในช่วงหน้าร้อน จริง!! ซัมเมอร์สกี เล่นได้ที่นี่หล่ะ เพราะอะไรใช่มั้ยล่ะคะ…ตามมาค่ะ เรากำลังจะเล่าให้ฟัง
ด้วยความที่ยะมะงะตะ มีหิมะตกหนัก จึงทำให้ช่วงเวลาของฤดูหนาว ยากลำบากเป็นพิเศษ ไหนจะพายุ ไหนจะหิมะ ไหนจะการเดินทางที่ทุลักทุเล คนจึงไม่ค่อยนิยมมาเล่นสกี หรือกิจกรรมทางหิมะกันสักเท่าไหร่ แต่พอเข้าถึงช่วงหน้าร้อน เดือนเมษายน จนถึงประมาณเดือนกรกฎาแล้วล่ะก็ หิมะเริ่มโดนความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำให้ละลายและนุ่มนิ่มขึ้น คราวนี้หล่ะ กิจกรรมเกิด คนเต็ม และใครๆก็อยากมาเล่นกับหิมะขาวๆกันทั้งนั้น
เริ่มกันที่แสวงบุญเพื่อการเอาฤกษ์ เอาชัยกันสักหน่อย และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินบนทางเดินต้นสน บันไดหิน 2,466 ขั้นสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้ค่ะ
สำหรับความน่าสนใจของที่นี่ ว่ากันว่า คนญี่ปุ่นเองนั้น จะมาเดินเพื่อทดสอบจิตใจและความแข็งแรงของตัวเองในช่วงที่อากาศหนาวเย็น เป็นการฝึกสมาธิ และผ่อนคลายจิตใจที่เหนื่อยล้าให้กับตัวเอง หลังจากที่ทำงานมาทั้งอาทิตย์ หรือว่าทั้งเดือนนั่นเองล่ะค่ะ การมาที่นี่นั้น มาเองเห็นทีจะเดินหลงทางหาทางกลับไม่เจอแน่ๆ ก็เลยต้องรบกวนผู้แสวงบุญให้มาเป็นผู้นำทาง (ผู้แสวงบุญที่มาแสวงบุญจริงๆนะ ไม่ได้แอ๊บ!!) ซึ่งใครที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้เลยค่ะ เค้ามีเจ้าหน้าที่ดูแลให้ข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยว ที่เราขอบอกว่าพร้อมให้ข้อมูลมากๆเชียวล่ะค่ะ
เอาล่ะ มาเดินแสวงบุญ ชมความงามของธรรมชาติไปพร้อมๆกันนะคะ
เส้นทางหินแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร ปูยาวไปตามเส้นทางต้นซีดาร์ สร้างขึ้นในกลางศตวรรษที่ 17 รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกของชาติ และยังได้รับรางวัลสามดาวจากมิชลินอีกด้วย อย่างที่บอกว่าต้นสนพวกนี้มีอายุอันนามกว่าหลักร้อยปี ไปจนถึงพันปี ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน แม้ในหน้าร้อนที่อากาศร้อนแรง เดินไปเรื่อยๆ ก็พบกับเจดีย์ 5 ชั้นที่สูงถึง 29 เมตร ว่ากันว่าเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในแถบภาคเหนือของญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้เป็นมรดกของชาติด้วย แหม..พอเจดีย์นี้อยู่ท่ามกลางหิมะ ความหนาวและหมอกหนาแล้ว รู้สึกว่าสวยงามกว่าแบบปกติเชียวล่ะค่ะ
เหนื่อยหรือยังคะ…?
เอาวิธีการเดินทางมาฝากด้วยจ้า
1. รถบัสไปยังภูเขาฮากุโระจากสถานี Tsuruoka ของรถ JR และลงที่ป้ายสุดท้าย (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) ในการเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินเขา ให้ใช้รถบัสขบวนเดียวกัน แต่ลงที่ Haguro Center (ใช้เวลาประมาณ 35 นาที)
2. การเดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาทีจากทางเชื่อม Shonai Asahi IC ของทางด่วน Yamagata Expressway
จบจากกิจกรรมแรก มาต่อด้วยกิจกรรมที่ 2 นั่นก็คือ Snow Shoe นั่นเอง เย่….! รู้นะ ว่าหลายคนรออยู่ อย่างที่บอกว่าวันที่มานี่ ฝนตกด้วย ดังนั้น สภาพที่เห็นก็เป็นแบบทุลักทุเลแบบนี้หล่ะค่ะ
ที่นี่คือสกีรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่บน กัสซัง อีกหนึ่งในเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเดวะ ซันซังค่ะ อย่างที่บอกว่าช่วงเวลาที่เค้าเปิดให้เล่นสกีนั้นคือช่วง เมษายน – กรกฎาคม (เห็นมั้ยหล่ะ หน้าร้อนพอดี) และตอนนี้คือเดือนมีนาคม เราเลยได้เล่น Snow Shoe และย่ำหิมะที่แสนละเอียดและสะอาดมาก เป็นการปลอบใจ ❤
เรามาเดินเล่นกันเลยดีกว่า ….
สำหรับวิธีการเดินทางมาที่นี่ สามารถเลือกดูได้จากที่นี่เลยค่ะ www.gassankanko.jp
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับกิจกรรมหน้าร้อนที่ให้คุณหนาวได้ไม่ยาก สำหรับใครที่สนใจ ลองไปกันได้ เราว่าภูมิภาคโทโฮกุ เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่น่าเที่ยวมากในญี่ปุ่น ใครเบื่อฮอกไกโด เบื่อโตเกียว เบื่อโอซาก้าแล้ว มาเที่ยวกันได้จ้า