I LOVE YUZAWA “ยูซาว่า” ฉันรักเธอ : หิมะแรกในชีวิต @ GALA YUZAWA
หลังจากที่เฮียได้เดินทางจากกรุงเทพมาถึงโตเกียว เฮียก็นั่งชิงคันเซนมาถึงสถานี GALA YUZAWA ซึ่งนี่จะเป็นการเจอหิมะครั้งแรกในชีวิตของเฮีย การเดินทางสู่ความสุข ความฮา กำลังเริ่มต้นแล้ว เหมือนเดิม เพื่อความสนุกแบบเต็มอรรถรส เฮียจะพยายามเล่าความสนุกออกมาแบบละเอียดยิบที่สุดนะ เผื่อใครที่สนใจจะได้ไปตามรอยเฮียได้ รับรองว่าทริปตะลุยเมืองหิมะ YUZAWA ครั้งนี้สนุกจริงๆให้ดิ้นตายเถอะ
OK! พร้อมกันหรือยังทุกคน ถ้าพร้อมแล้ว Let’s Go!
หลังจากออกมาจากตัวสถานี เราก็จะมาเจอกับทางเข้าของ GALA SNOW RESORT เลยนะ ซึ่งมันน่า amazing มากๆ อารมณ์เหมือนออกจาก BTS แล้วเจอ Dream World เลยอะไรประมาณนั้น (ที่นี่เป็นสกีรีสอร์ทแห่งเดียวในญี่ปุ่นเลยนะที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟกันแบบนี้ ไฮโซมั่กๆๆ)
ที่นี่ บนป้ายเขาจะมีภาษาไทยไว้คอยช่วยนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยนะ น่ารักจัง
ตรงส่วนนี้จะเป็นที่ให้เรามาเช่าพวกเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงล็อคเกอร์สำหรับเก็บของ จะมีป้ายบอกราคา มีที่วัดขนาดความสูง ขนาดรองเท้าอะไรเตรียมไว้พร้อมเลย (หรือถ้าใครอยากซื้อไปเลยก็ทำได้นะ เขามีร้านไว้ขายด้วยนะ อยู่ใกล้ๆกันนี่แหละ แต่ซื้อมาจะมาเล่นที่ไหนในเมืองไทย นอกจากที่ Gateway เอกมัย)
เสร็จแล้วก็ไปเขาคิว จะเห็นได้ว่าที่นี่เขามีพวกอุปกรณ์สกีเตรียมไว้เยอะมากๆ
อันนี้คือตั๋วเช่าล็อคเกอร์ เห็นเลข 2095 มะ อันนั้นคือหมายเลขล็อคเกอร์ของเฮียวันนี้นะจ๊ะ ส่วน 51634 คือรหัสสำหรับเปิดตู้ครั้งแรกนะจ้ะ
และนี่คือหน้าตาของตู้ล็อคเกอร์ที่ GALA YUZAWA ไฮโซมากๆเพราะว่าเป็นระบบดิจิตอลเลยนะ วิธีใช้ก็คือกรอกเลข 5 ตัวที่อยู่บนบัตรเพื่อเปิดตู้ พอเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของเสร็จก็ให้ปิดตู้ แล้วเราก็ต้องตั้งรหัสรักษาความปลอดภัยใหม่เอง 4 ตัว แค่นี้ตู้ก็จะล็อคปิดให้เรา พอเราจะเปิดก็ให้กดไอ้รหัส 4 ตัวที่เราสร้างเมื่อกี้อีกทีนะถ้าเกิดลืมรหัสขึ้นมาไม่ต้องตกใจนะ เดินไปบอกเจ้าหน้าที่ให้เขามาช่วยไขให้ได้ แต่บัตรเราก็ต้องอย่าทำหายนะ
อันนี้คือชุดที่เฮียต้องใส่เพื่อไปตะลุยหิมะนะ ก็จะมี เสื้อ กางเกง กับรองเท้า และถุงมือ ค่อนข้างหนักทีเดียวสำหรับชุดเล่นหิมะชุดนี้
พอใส่ชุดเสร็จ เราก็เก็บของเข้าล็อคเกอร์ให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมไปขึ้นกระเช้า (ที่นี่เขาเรียกว่า GONDOLA) เพื่อขึ้นไปบนยอดกัน
ตรงสถานีทางขึ้น GONDOLA ใครเคยไปเกนติงที่มาเลเซียก็คงคุ้นเคยกันดี
ขึ้นมาถึงก็เจอ FOOD COURT ก่อนเลย เฮียอยากเข้าไปชมมาก แต่เก็บไว้ก่อน ขอเฮียไปเจอหิมะที่รอคอยก่อนนะจ๊ะ
พอมาถึงข้างบน ถ้าใครยังขาดอุปกรณ์อะไร หรืออยากจะได้อะไรเพิ่มก็สามารถมาซื้อได้ที่ข้างบนนี้นะ เขามีร้านเปิดรออยู่อีกที่นึงจร้า
ส่วนใครที่ชอบแนวขอพรก็มาซื้อป้ายได้ตรงนี้ 500 เยน พอเขียนเสร็จเดี๋ยวเราจะได้ไปผูกป้ายขอพร พร้อมกับสั่นระฆังแห่งความรักกลางหิมะด้านนอกกัน เฮียก็เขียนด้วยนะ ฮาดี
กิจกรรมแรกที่เราจะมาเล่นกันในวันนี้ คือ เล่นกระดานลื่นกลางหิมะกัน บินมาเหนื่อยๆ เล่นกันขำๆ เบาะๆกันก่อนเนอะ (ตรงนี้มีความฮา คือ พี่ GALA เขาพิมพ์ภาษาไทยผิดด้วยแหละ อะนะ ให้อภัยเขาหน่อย พี่เขาอุตสาห์มีความพยายามแปลเพื่อพวกเราคนไทยขนาดนี้)
ระหว่างกำลังจะเดินออกไปเล่นหิมะด้านนอก เฮียตกใจอีกรอบที่มาเจอร้านนี้ นี่มันร้านเครปชื่อดังนี่ พี่มาทำอะไรกันบนยอดเขาสูงขนาดนี้ครับเนี๊ยะ เฮียอยากจะซื้อกินเหลือเกิน แต่เฮียต้องไปทำกิจกรรมก่อนอะนะ รอไปเจอกันอีกทีที่ฮาราจูกุแล้วกันนะตัวเอง แล้วเฮียก็ได้เจอกับหิมะครั้งแรกแบบเต็มๆในชีวิต เฮียดีใจจนลืมถ่ายรูปหิมะมาให้ดูเลย มันนุ่มเหมือนน้ำแข็งไสจริงๆนะ ตอนเฮียไปหิมะกำลังตกหนักเลย ซึ่งข้อดีของการมาเล่นหิมะตอนที่หิมะกำลังตกแบบนี้คือหิมะมันจะนุ่มปุยมากๆ ตอนเฮียเอามือจับนี่อยากจะเอามาโปะลงบนชาม แล้วราดน้ำแดง นมข้นจริงๆ จะได้รู้ว่าถ้าได้กินแล้วจะเป็นยังไง จะอร่อยเหมือนคากิโกริของร้าน After You รึเปล่า (คิดแต่เรื่องกินตลอดจริงๆ)
ก่อนจะไปเล่นกระคานลืน อ้าวพิมพ์ผิดตามพี่ GALA เลย ไปเล่นกระดานลื่น เฮียก็เอาป้ายไปผูกตรงลานระฆัง พร้อมกับสั่นระฆังให้คุณนายที่เมืองไทยได้ยินว่า “กาล่าหนาวมาก” ม่ายช่าย “I LOVE YOU” ต่างหาก
อันนี้คือกิจกรรมการเล่นกระดานลื่นกลางหิมะของเฮีย เล่นแล้วนี่อารมณ์เหมือนพี่เสกโลโซจริงๆ “เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14 ตอนที่ฉันไปสวนสยามครั้งแรก” สนุกดีนะกระคานลืน (ยังเล่นไม่เลิก) มีแอบเสียวด้วยว่าจะเบรคได้ไหม ตอนเบรคเราก็แค่เอาขาวางลงไปคอยเบรคนะจ้ะ ไม่ยากๆ
อันนี้คือตัวลานเล่นกระดานลื่นที่ GALA นะจ้ะ เฮียว่าเป็นกิจกรรมน่ารักๆเหมาะกับเด็กๆ และครอบครัวที่พาลูกๆมาเที่ยวมากๆ
หลังจากเล่นกระดานลื่นจนสาสมใจ เฮียก็เอากลับไปคืนด้านใน พร้อมกับเตรียมเล่นกิจกรรมอีกอันที่สนุกสุดฮา นั่นก็คือ การเดินบนหิมะด้วยรองเท้าญี่ปุ่นโบราณกัน กิจกรรมนี่ราคา 1500 เยน เองนะ
ป๋าที่ใส่เสื้อเหลืองส้มคนนี้ คือคนที่มาพาเฮียพร้อมกับคนอื่นๆไปเล่นกิจกรรมนี้กัน ใครไปแล้วได้เจอคนนี้ถือว่าโชคดีมากนะ เพราะป๋าแกฮาไม่หยุดจริงๆยังกับ หม่ำ จ๊กมก น่าจับมาเมืองไทยเข้าคณะตลกจริงๆ
นี่คือหน้าตาของรองเท้าตะลุยหิมะแบบเต็มๆ เฮียเคยเห็นแต่ในพวกการ์ตูนนินจาฮาโตริตอนเด็กๆ วันนี้เพิ่งจะได้เห็นของจริง แถมจะได้ใส่ด้วย
พอเดินออกไปด้านนอก ทางพนักงานก็จะมาช่วยผูกรองเท้าลุยหิมะโบราณติดเข้ากับรองเท้าของเรา
ดูท่าป๋าเขาซะก่อน ไม่ธรรมดาตลอด
แล้วป๋าเขาก็จะนำทุกคนเดินตะลุยหิมะไปตามทางเดิน ก่อนที่เราจะเจอกับอุโมงค์ใหญ่ยักษ์อันนี้
อันนี้คือด้านในอุโมงค์
ป๋าเขาก็จะพยายามพูดอังกฤษกับพวกลูกทัวร์ตลอดอะนะ แม้ป๋าจะไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
เนื่องจากว่าวันที่เฮียไปหิมะตกหนักมากๆ เลยทำให้เห็นวิวไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ถ้าได้มาวันที่หิมะตกไม่หนักเฮียว่าน่าจะวิวสวยกว่านี้เยอะเลย แต่แค่นี้ก็แหล่มแล้วนะเฮียว่า เห็นภูเขาสวยๆ ขาวๆ
ป๋าเขาบอกมาด้วยนะว่า บนภูเขาแถวๆนี้ยังมีหมีอยู่ ซึ่งหมีที่ว่านี่คือหมีแบบโหดเหมือนในการ์ตูนไอ้เขี้ยวเงินเลยอะนะ ไม่ได้หมีน่ารักแบบแพนด้า แต่พวกเราไม่ต้องกลัวเพราะหน้าหนาวแบบนี้คุณหมีเขาจะนอนจำศีลยาวๆไม่ออกมาข้างนอก แต่ถ้าเกิดคุณหมีออกมาแล้วเราได้เจอคือพวกเราโชคดีมากๆ
โชคดีบ้าอะไรครับป๋า ถ้าพี่หมีออกมาจริงเฮียวิ่งป่าราบแน่ๆ อันนี้ไม่รู้ว่าป๋าพูดจริงพูดเล่นนะ ป๋าแกสายฮาตลอดจริงๆ
เวลาเดินตะลุยหิมะจะรู้สึกได้เลยนะว่ารองเท้าช่วยทำให้ขาเราไม่จมลงไปในหิมะจนลึกเกินไป ทำให้เดินกลางหิมะง่ายขึ้น ภูมิปัญญาชาวญี่ปุ่นโบราณนี่แจ่มจริงๆวันที่เฮียไปทัศนียภาพไม่ค่อยสู้ดีนัก ภาพเลยออกมาไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรอะนะ แต่เฮียดูคนอื่นรีวิวตอนวันที่ไม่มีหิมะก็สวยกว่านี้เยอะเลยนะ
ขากลับเฮียและทุกคนเริ่มหมดแรงเพราะเดินกันค่อนข้างไกลทีเดียว เลยขอนอนเล่นกลางหิมะซะหน่อย ตอนทิ้งตัวลงไปนี่แบบนุ่มมาก ตัวจมเลยอะ สุโก่ยๆ
หลังจากเดินจนเหนื่อย แล้วก็ say goodbye กับป๋าหม่ำ จ๊กมก กันเรียบร้อย เฮียเลยเข้ามาพักใน Food Court ถึงข้างนอกจะหนาวมากแต่ข้างในนี่อุ่นสบายด้วยฮีทเตอร์ ตอนเฮียไปก็เจอคนไทยหลายกลุ่มเลยทีเดียว ได้ข่าวว่าตอนนี้คนไทยมาเที่ยวที่นี่มากเป็นอันดับ 2 เลยนะ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เฮียว่าอีกไม่นานคงได้เป็นที่ 1 แน่นอน
วิวหิมะจากใน Food Court ยังสวยเลยอ่ะ
ตอนแรกว่าจะหาอะไรกินกันซะหน่อยเป็นมื้อเที่ยง แต่เนื่องจากว่าทุกคนยังไม่ค่อยหิวกันก็เลยเปลี่ยนใจไปกินขนมกันแทน (แม้แต่ในเมนูอาหารของที่นี่ ก็ยังมีภาษาไทยให้คนไทยเลยแหะ)
ปรากฎว่าเดินออกมาหน่อย มีร้านไอติม BLUE SEAL หรือก็คือนมแบรนด์ FOREMOST ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีมาช้านาน มาเปิดให้บริการด้วยแหละ เห็นแล้วเฮียกรี๊ดแตกกันเลยทีเดียว เพราะเฮียอยากชิมมานานแล้ว BLUE SEAL ของดีของดังแห่งเกาะโอกินาว่า
วิธีการสั่งก็คือ เราต้องไปที่ตู้หยอดเหรียญหน้าร้านกันก่อน จะเห็นได้ว่าเมนูเยอะมากๆ
หยอดเงินเข้าไปแล้วกดเมนูที่อยากจะกินกัน ถึงจะไม่มีภาษาไทย แต่ก็มีรูปภาพให้ดูแทนนะจ๊ะ ไม่ยากๆ
แล้วเราก็ยื่นตั๋วให้ทางพนักงานไป ถ้าใครสั่งไอติมตักแบบเฮียก็ต้องเลือกรสที่อยากจะกินจากตู้ตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ แล้วค่อยบอกพนักงานว่าจะเอารสอะไร
แล้วเฮียก็ได้ชิม BLUE SEAL สมหวังซะที ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่อยากจะชิมมาตั้งนาน โดยเฉพาะตัวกาแฟคาราเมลลูกบน เข้มข้นเวอร์
ถามว่าเฮียเพี้ยนรึเปล่า อากาศหนาวเหน็บแต่มากินไอติม คือใน Food Court มันไม่หนาวเลยไง อุ่นเลยทีเดียว อารมณ์เหมือนเราเข้าห้างในไทยที่ข้างนอกโคตรร้อนแต่ข้างในเปิดแอร์โคตรหนาว ยังไงยังงั้น
หลังจากกินขนม พร้อมกับนั่งคุยเรื่องความสนุกของการได้มาเที่ยวที่ GALA YUZAWA จนเสร็จ เฮียก็นั่งเจ้า Gondola กลับลงมาด้านล่างอีกครั้ง เปลี่ยนชุด คืนของที่เช่ามาเรียบร้อย แล้วเฮียก็ออกไปนั่งรถบัสด้านนอก GALA เพื่อที่จะกลับไปยังสถานี ECHIGO- YUZAWA กัน (ที่เฮียบอกไว้ตอนที่แล้วไงว่ามีถบัสไปถึง GALA เลย ถ้าไม่อยากต่อชิงคังเซนขึ้นมาบนนี้)
แต่เฮียจะกลับไปทำอะไรในเมืองกันนะ
สำหรับวันนี้เฮียคงต้องขอเบรคความสนุกไว้แค่นี้ก่อน เพราะว่าทริปนี้มันเป็นการเดินทางที่ยาวมากๆ และมีรายละเอียดและความฮา ความสนุก เล็กๆน้อยๆ เยอะมากๆ
ขอบคุณรีวิวน่ารักๆจาก Guest สุดพิเศษ ที่มามอบประสบการณ์จัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : FB/eatbypro