ช่วงซัมเมอร์อากาศเมืองไทยร้อนเหงื่อตกขนาดนี้ แถมยังเป็นช่วงที่มีวันหยุดเยอะ หรือบางบ้านน้องๆ หนูๆ อาจอยู่ในช่วงปิดเทอม จะมีอะไรดีไปกว่าการ พาลูกเที่ยวสวนสัตว์ต่างประเทศ เพราะถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กๆ ด้วยการบินลัดฟ้าไป สวนสัตว์ต่างประเทศ นอกจากจะเป็นการเรียนรู้โลกใบใหม่แล้ว ยังได้เรียนรู้ชีวิตสัตว์หายาก สัตว์หลากหลายสปีชีส์ที่หาชมไม่ได้ในไทยอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วรีบเคลียร์วันว่าง จองตั๋วเครื่องบิน หาที่พัก หาบริษัททัวร์ที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ แล้วพาเด็กๆ ไปท่องโลกกว้างพร้อมๆ กับพี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลย
1. สวนสัตว์ซูเรเซีย (Zoorasia) – โยโกฮาม่า, ญี่ปุ่น
เริ่มต้นทริปด้วยการพาน้องๆ หนูๆ ไปเที่ยว สวนสัตว์ซูเรเซีย ตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) เป็นสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 มีพื้นที่ประมาณ 45.3 เฮกตาร์ มีสัตว์กว่า 100 สายพันธุ์ แถมบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เพราะที่นี่จำลองบรรยากาศป่าจากประเทศต่างๆ เลียนแบบที่อยู่อาศัยของสัตว์ได้เหมือนจริงมาก
พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 8 โซนจัดแสดง คือ ป่าเขตร้อนเอเชีย, ป่ากึ่งขั้วโลก, ทุ่งหญ้าโอเชียเนีย, ที่ราบสูงเอเชียกลาง, หมู่บ้านบนภูเขาญี่ปุ่น, ป่าอเมซอน, ป่าฝนแอฟริกา และทุ่งหญ้าสะวันนาแอฟริกา เราจะได้เห็นสัตว์หาชมยาก อย่าง จิงโจ้ต้นไม้ (Ornate Tree-Kangaroo) หรือ โอคาพี (Okapi) รวมทั้ง ช้าง, ยีราฟ, หมีขั้วโลก, หมีดำ หรือ ลิงจมูกยาว ก็มีให้เราได้ชมเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางธรรมชาติ และพื้นที่นันทนาการสำหรับเด็กและครอบครัวอีกด้วย ส่วนตอนกลางคืนก็จะมีการจัดกิจกรรม “Night Zoorasia” ชมวิถีชีวิตของเหล่าสัตว์ในยามค่ำคืน เรียกได้ว่าเป็นการ พาลูกเที่ยวสวนสัตว์ต่างประเทศ ที่ได้ใกล้ชิดสัตว์หลากสายพันธุ์มากที่สุดเลยก็ว่าได้
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 16.30 น. / ปิดทุกวันอังคาร
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 800 เยน / นักเรียนมัธยมปลาย 300 เยน / นักเรียนมัธยมต้น และประถม 200 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Sotetsu Railways จากสถานี Yokohama Station ไปลงที่สถานี Tsurugamine จากนั้นต่อรถบัสไปยังสวนสัตว์
เว็บไซต์ : www.hama-midorinokyokai.or.jp/zoo/zoorasia
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1MRiM1AoGC988jWh8
2. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) – ฮอกไกโด, ญี่ปุ่น
ยังคงอยู่ในญี่ปุ่น ตามไปส่องสัตว์กันต่อที่ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ตั้งอยู่ในเมืองอะซาฮิกาว่า (Asahikawa) แห่งฮอกไกโด (Hokkaido) สวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในญี่ปุ่น เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1967 โดยแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นแลชาวต่างชาติเข้ามาชมความน่ารักของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่มากกว่า 3 ล้านคนต่อปี ที่นี่มีสัตว์ให้ชมมากกว่า 700 ชนิด จาก 124 สายพันธุ์ ทั้งยังมีจุดเด่นคือทางสวนสัตว์มีการออกแบบกรงสัตว์ที่คำนึงถึงสัตว์แต่ละชนิด มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สบาย ทำให้นักท่องเที่ยวยังสามารถชมสัตว์ผ่านกรงได้อย่างชัดเจนในทุกมุมมอง
สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์เด็ดของที่นี่คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งจะเป็นอุโมงค์ที่จะผ่านบริเวณสระว่ายน้ำของฝูงเพนกวิน ทำให้เรารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเจ้าเพนกวินแบบสุดๆ และในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะ ยังมีโชว์ เพนกวินเดินพาเหรด ให้นักท่องเที่ยวได้ชมพร้อมเก็บภาพความน่ารัก ใครที่อยากมาชมแนะนำให้มาช่วงกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีโซนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ โซนหมีขั้วโลกและหมาป่า โซนสัตว์น้ำที่สวยงามอลังการ มีโชว์ป้อนอาหารให้กับสัตว์ต่างๆ และยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด อย่างเช่น กวาง, นกอินทรี, หมาป่า และเครน เป็นต้น บอกได้เลยว่าที่นี่มีสัตว์ขั้วโลกและสัตว์อื่นๆ ที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ พร้อมด้วยกิจกรรมให้ทำเยอะมาก เพลิดเพลินสุดๆ
เวลาเปิดปิด : เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ตรวจสอบอีกครั้งในเว็บไซต์
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Asahikawa Station จากนั้นต่อรถบัส หมายเลข 41, 42 หรือ 47 ไปลงที่ Asahiyama Zoo
เว็บไซต์ : www.city.asahikawa.hokkaido.jp/asahiyamazoo
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/zPF5Czr5JbJeTT1S9
3. สวนสัตว์ปักกิ่ง (Beijing Zoo) – ปักกิ่ง, จีน
เดินทางต่อไปยัง สวนสัตว์ต่างประเทศ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์และสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีน นั่นก็คือ สวนสัตว์ปักกิ่ง ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง มีชื่ออย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1955 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 80 เฮกตาร์ เราจะเห็นสัตว์หายากต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกกว่า 400 สายพันธุ์ จำนวนมากกว่า 5,000 ตัว พลาดไม่ได้ต้องแวะไป บ้านแพนด้า (Panda House) ชมเจ้าแพนด้าตัวอ้วนกลมนอนกินไผ่ ทั้งยังมีของฝากให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน เช่น ตุ๊กตา พวงกุญแจ และเข้าไปเยือนอควาเรียมขนาดใหญ่ สัมผัสวิถีชีวิตสัตว์ใต้ท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีโซนที่เปิดให้ชมสัตว์หลากหลายสายพันธุ์อีกมากมาย อย่างเช่น กอริลล่า, หมีขั้วโลก, จิ้งจอกอาร์กติก และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงมีการจัดแสดงสัตว์กลางคืนและสัตว์เลื้อยคลานหน้าตาแปลกๆ กว่าร้อยชนิด แถมยังมีกิจกรรมให้ล่องเรือตามลำน้ำชมบรรยากาศภายในสวนสัตว์อีกด้วย ขอบอกว่าสนุกคุ้มค่า ใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันแบบเต็มอิ่มจุใจอย่างแน่นอน
เวลาเปิดปิด : เวลา 07.30 – 17.00 น. (เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
ค่าเข้าชม : High Season 14 RMB / Low Season 10 RMB
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Dongwuyuan (Beijing Zoo) ทางออก B จะเจอประตูทางทิศใต้ของสวนสัตว์
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/UuEnoUNvpRkSr1p88
4. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโคอาล่าปาร์ค (Koala Park Sanctuary) – ซิดนีย์, ออสเตรเลีย
ย้ายประเทศไปกันที่ออสเตรเลียกันบ้างกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโคอาล่าปาร์ค สวนสัตว์พื้นเมือง ตั้งอยู่ในเขตเวสต์เพนแนนฮิลส์ (West Pennant Hills) เมืองซิดนีย์ (Sydney) เป็นสวนสัตว์ที่เราจะได้เพลิดเพลินไปกับการชมวิถีชีวิตและความน่ารักของเหล่าสัตว์พื้นเมืองหลายสายพันธุ์ เช่น หมีโคอาล่า, จิงโจ้, วอมแบท, วัลลาบี, นกอีมู และสุนัขดิงโก้ เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศของที่นี่ล้อมรอบไปด้วยป่ายูคาลิปตัส โดยเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น แถมเรายังสามารถลูบหัว จับตัวจิงโจ้หรือหมีโคอล่าได้แบบตัวเป็นๆ นอกจากนั้นยังมีโชว์พิเศษ เช่น การตัดขนแกะ และการขว้างบูมเมอแรง กิจกรรมของชาวพื้นเมืองในออสเตรเลียที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนอีกด้วย
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันคริสต์มาส)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ $32 (อายุ 14 ปีขึ้นไป) / เด็ก $18 (อายุ 4-14 ปี) / ครอบครัว $90 (ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 2 คน)
เว็บไซต์ : www.koalapark-sanctuary.com.au
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/2YYnFqzRKsW81XPQA
5. สวนสัตว์โทรอนโต (Toronto Zoo) – โตรอนโต, แคนาดา
เดินกันให้ฉ่ำปอด เพราะ สวนสัตว์โทรอนโต เป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา ตั้งอยู่ในเมืองโตรอนโต เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974 ด้วยพื้นที่ 710 เอเคอร์ มีสัตว์มากกว่า 300 สายพันธุ์ จำนวนมากกว่า 3,000 ตัว โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ ทั้งหมด 7 โซน ได้แก่ แอฟริกา, อเมริกา, ออสตราเลเชีย, แคนาดา, ยูเรเชีย, อินโดมาลายา และทุนดรา ซึ่งแต่ละโซนได้จำลองถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ เราจะได้พบกับ เสือไซบีเรีย, ลีเมอร์หางปล่อง, กวางมูส, หมีกริซซี่ และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งมีโซนนิทรรศการ การจัดแสดงสัตว์แสนรู้ เครื่องเล่น สวนน้ำ และกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำอีกเพียบ ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ ทางสวนสัตว์จึงมีบริการรถรับส่ง ที่มีชื่อว่า Zoo Mobile ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว การันตีได้เลยว่าการ พาลูกเที่ยวสวนสัตว์ต่างประเทศ สนุกเพลินจนลืมเวลา ไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน
เวลาเปิดปิด : วันธรรมดา เวลา 09.30 – 16.30 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ราคาแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ตรวจสอบอีกครั้งในเว็บไซต์
เว็บไซต์ : www.torontozoo.com
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/b7ggB1bv3ASe7SFQ7
6. สวนสัตว์เนชั่ลแนลการ์เด้นท์ (National Zoological Gardens) – พริทอเรีย, แอฟริกาใต้
ขึ้นชื่อว่าประเทศแอฟริกาใต้ สัตว์แปลกๆ หาชมได้ยากต้องมาที่นี่เท่านั้น สวนสัตว์เนชั่ลแนลการ์เด้นท์ สวนสัตว์ที่ดีที่สุดของแอฟริกา แถมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำยังได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกาใต้อีกด้วย ตั้งอยู่ในเมืองพริทอเรีย (Pretoria) โดยเปิดบริการเมื่อปี ค.ศ.1899 ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางประมาณ 85 เฮกตาร์ มีสัตว์มากถึง 4,500 ชีวิต จุดเด่นของที่นี่คือความหลากหลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สิงโต, เสือ, เมียร์แคท, ลิงกิบบอน, นกฟลามิงโก้, นกอีมู และเหล่าแอนทิโลปจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสัตว์ปีก, สัตว์น้ำ และสัตว์เลื้อยคลาย พร้อมให้ชมอีกมากมาย ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีจุดตั้งแคมป์ซึ่งจะมีไกด์พานักท่องเที่ยวไปดูชีวิตของสัตว์ยามค่ำคืนได้อีกด้วย
เวลาเปิดปิด : ทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ R 100,00 / เด็ก R 70,00
เว็บไซต์ : www.pretoriazoo.org
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/e12DG39pU9VCTTLF8
7. สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) – สิงคโปร์
ปิดท้ายทริป พาลูกเที่ยวสวนสัตว์ต่างประเทศ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรากับ สวนสัตว์สิงคโปร์ สวนสัตว์ป่าดิบชื้นที่โด่งดังมากที่สุดในสิงคโปร์ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุด มีสัตว์กว่า 4,200 ตัว โดยมีการเลี้ยงแบบป่าเปิด ซึ่งจำลองบรรยากาศให้เหมือนป่าจริงๆ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด มีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ มากถึง 11 โซน ซึ่งแต่ละโซนจะมีรูปแบบเฉพาะตัวที่ต่างกัน ทั้งยังมีการแสดงสุดพิเศษจากเหล่าสรรพสัตว์ให้ได้ชมอีกด้วย นับได้ว่าที่นี่มีสัตว์หลากหลายและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
เวลาเปิดปิด : เวลา 08.30 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ S$49 / เด็ก S$34 / ผู้สูงอายุ S$20
เว็บไซต์ : www.mandai.com/en/singapore-zoo.html
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/zvmvNhSt9UGuz8qb6
พี่เห็ดบอกได้เลยว่า สวนสัตว์ต่างประเทศ ชื่อดังระดับโลกเหล่านี้ ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสควรลองไปเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ให้กับตัวเอง และการ พาลูกเที่ยวสวนสัตว์ต่างประเทศ ก็เป็นเหมือนการเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้เด็กๆ ได้สัมผัสวิถีชีวิตของเหล่าสัตว์แบบใกล้ชิด ได้เรียนรู้ เข้าใจและตื่นตาตื่นใจไปกับเรื่องราวที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนอย่างแน่นอน