หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองโซเฟีย (Sofia City) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐบัลแกเรีย โซเฟียเป็นเมืองหลวงสุดน่ารัก เต็มไปด้วยอาคารเก๋ๆ ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีพาสเทล แค่เดินเล่นถ่ายรูปเฉยๆ ก็มีความสุขแล้ว นอกจากนี้ยังมีร้านค้าให้เพื่อนได้ช้อปปิ้ง พร้อมคาเฟ่และร้านอาหารในเมืองบริเวณมาร์เก็ตฮอลล์ (Market Hall) ให้เราได้แวะชิม แวะช้อปอยู่มากมาย และสีสันในยามค่ำคืนก็ไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย
เมืองรีล่า (Rila) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศบัลแกเรีย มีภูเขาสูงที่สุดของบัลแกเรียและเทือกเขาบอลข่าน โดยมียอดเขาที่ชื่อว่า มาซูล่า ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,925 เมตร
อารามมรดกโลกรีล่า (Rila Monastery) เป็นอารามของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด และมีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดของประเทศบัลกาเรีย อารามแห่งนี้ตั้งอยู่บนจุดที่มีทิวทัศน์สวยงามของภูเขารีล่า ซึ่งอยู่ที่ระดับความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่เราสามารถมองเห็นแม่น้ำริลสก้าและดรุสย่าวิทซ่า ที่ไหลอยู่เบื้องล่างได้อย่างสวยงาม และอารามแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1983
พิพิธภัณฑ์ริล่า (Rila Museum) ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บสมบัติล้ำค่ามากมายของอารามมรดกโลกรีล่า รวมถึงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 10 โดยจัดแสดงเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องที่จัดแสดงเครื่องแต่งกายของท่านอาร์คบิชอป ห้องที่จัดแสดงเครื่องพิมพ์กระดาษที่ทำจากแผ่นทองแดง ห้องที่จัดแสดงไม้กางเขนที่แกะสลักด้วยมือที่มีความละเอียดสูงมาก จึงสามารถสื่ออารมณ์ออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งใช้ในเวลาแกะสลักกว่า 12 ปี
เมืองโซเฟีย (Sofia City) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐบัลแกเรีย โซเฟียเป็นเมืองหลวงสุดน่ารัก เต็มไปด้วยอาคารเก๋ๆ ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีพาสเทล แค่เดินเล่นถ่ายรูปเฉยๆ ก็มีความสุขแล้ว นอกจากนี้ยังมีร้านค้าให้เพื่อนได้ช้อปปิ้ง พร้อมคาเฟ่และร้านอาหารในเมืองบริเวณมาร์เก็ตฮอลล์ (Market Hall) ให้เราได้แวะชิม แวะช้อปอยู่มากมาย และสีสันในยามค่ำคืนก็ไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย
มหาวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) ซึ่งถือเป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของภูมิภาค ก่อสร้างในแบบโดมหลังคาทรงกลมสีเขียว ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่วิตรตระการตา สามารถจุผู้เข้าทำพิธีได้ประมาณ 10,000 คน ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิค อเล็กซานเดอร์ โพมีรานท์เซฟ
โบสถ์เซนต์โซเฟีย (The Sofia Synagogue) ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิหาร เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม และยังได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ยิวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ โดยโบสถ์แห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ Moorish Revival ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ฟริดริช กรูนันเกอร์ (Friedrich Grunanger)
เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศบัลแกเรีย ตั้งอยู่บนฝั่้งแม่น้ำมาริทซา มีสภาพแวดล้อมที่เป็นชนบทที่คล้ายคลึงกับ Great Plains ในสหรัฐอเมริกา แต่ในตัวเมืองกลับมีบางสิ่งที่โดดเด่นเหมือนกรุงโรม ส่วนที่เก่าแก่ของตัวเมืองได้รับการอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรม ทำให้เมืองพลอฟดิฟยังคงมีกลิ่นอายของยุคเรอเนสซองส์จนถึงปัจจุบัน สภาพตึกรามบ้านช่องยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งรูปแบบเดิม ทำให้เป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน
ย่านเก่าแก่ของเมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv Inveterate town) เป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 6 พันปี (นับตั้งแต่ยุคหินใหม่) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองโบราณที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยสดงดงาม ศิลปะวัตถุโบราณและอนุสาวรีย์ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สิ่งก่อสร้างคลาสสิคในดินแดนแห่งนี้ เมื่อมองดูเผินๆ แล้วทำให้บรรยากาศรอบๆ เมืองเหมือนได้จัดฉากไว้สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ เพราะตามซอกซอยต่างๆ ได้ดูคลาสสิคไปเสียทั้งหมด
เมืองเวลีโค ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo) หนึ่งในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศบัลแกเรีย เพียงแค่เราเดินทางขึ้นไปทางเหนือของประเทศ ก็จะพบกับเมืองที่มีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ให้มาชื่นชมสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ชวนให้ต้องมนต์ขลังของโลกยุคโบราณจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น เมืองเวลีโค ทาร์โนโว เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก ด้วยความพร้อมในทุก ๆ ด้านเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของประเทศบัลแกเรียตอนเหนือนั่นเอง
ปราสาทซาร์เรเวต (Tsarevets Castle) เป็นอดีตที่ประทับของจักรพรรดิแห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการในยุคกลางที่สำคัญ และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ตั้งอยู่รายล้อมบริเวณริมแม่น้ำยานตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์
ย่านถนนกูร์โก้ (Gurko Street) ที่นี่เราจะพบกับบ้านที่มีการอนุรักษ์ไว้ในแบบดั้งเดิม โดยบ้านแต่ละหลังนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย
เมืองรูเซ (Ruse) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศบัลแกเรีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ บนฝั่งขวาของแม่น้ำดานูบ อยู่ตรงข้ามกับเมืองจูร์จูของประเทศโรมาเนีย และอยู่ห่างจากกรุงโซเฟียของประเทศบัลแกเรียไปประมาณ 300 กิโลเมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลดำ 200 กิโลเมตร เป็นเมืองท่าริมฝั่งแม่น้ำที่สำคัญของประเทศบัลแกเรีย เมืองรูเซมีสถาปัตยกรรมในศตวรรษที่ 19-20 ศิลปะแบบนีโอบาโรกและนีโอรอโกโกที่น่าดึงดูด ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะเรียกว่ากรุงเวียนนาน้อย
กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) คือเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา(Dambovita) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในโรมาเนียอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว บูคาเรสต์ ยังเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองหลวงของประเทศอื่นๆ เลยเพราะยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” แห่งโรมาเนีย
เมืองซีบิว (Sibiu) เป็นสถานที่สวยงามที่สุดในยุโรปอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองบูดาเรสต์ (Bucharest) แห่งทรานซิลเวเนีย (Transylvania) ตั้งอยุ่ทางตอนกลางของประเทศ เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญทีสุดของโรมาเนีย เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงไต้ เรื่องราวแห่งเมืองนี้ เคยถูกนำไปแต่งนวนิยาย"แดรกคูล่า" ซึ่งในปี ค.ศ. 2007 เมืองซีบิวแห่งนี้ได้รับยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป คู่กับ ลักเซมเบิร์ก และได้รับยกย่องจสก นิตยสาร Forbesสถานที่สวยงามที่สุดในยุโรป
เมืองซิกิสโอร่า (Sighisoara) เมืองที่มีป้องปราการขนาดเล็กในยุคกลาง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทาร์นาว่าแหล่งชุมชนรวมช่างฝีมือและพ่อค้าชาวเยอรมันที่ได้รับเชิญมาตั้งรากฐานแห่งนี้จากกษัตริย์ฮังการีในช่วง ศต.12 ชุมชนแห่งนี้ได้สร้างป้อมปราการที่สำคัญในยุคกลาง แนวกำแพงป้อมปราการแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีจนได้รับรองเป็นมรดกโลกยูเนสโก้ ปี ค.ศ. 1999 และเมืองนี้ยังเป็นบ้านเกิดของเจ้าชาย วาลด เจ้าชายนักรบแห่งเมืองบรานที่นำทัพต่อต้านออตโตมันและเป็นต้นกำเนิดของตำนานนิยายแดร็กคูล่าที่โด่งดังไปทั่วโลก
เมืองบราซอฟ (Brasov) เมืองที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไข่มุกเม็ดงามของประเทศโรมาเนีย เมืองที่ได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวว่า เป็นสวิสน้อยแห่งยุโรปตะวันออก โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ มีร่องรอยอันเก่าแก่ทางวัฒนธรรม เราสามารถท่องเที่ยวตัวเมืองได้ในบริเวณย่านเมืองเก่า สถานที่ที่เราจะได้ชื่นชมอาคารยุคกลาง ที่ค่อนข้างมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน และสัมผัสกลิ่นอายของเมืองเก่าที่ยังคงรักษาความดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
จัตุรัสสภา (Piata Sfatului) ซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารสภาชุมชนเมืองที่มีอายุกว่าพันปี จตุรัสแห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมของสถาปัตยกรรมศิลป์หลายสมัย นับตั้งแต่อาคารแบบโรมาเนสก์ โบสถ์สไตล์เรอเนสซองซ์ โรงแรมแบบบาร๊อค รวมถึงร้านกาแฟภายในอาคารแบบโรโคโค ซึ่งสร้างต่อเนื่องกันมาหลายๆสมัย โดยจัตุรัสแห่งนี้เป็นที่มาของการขนานนามว่า "เมืองบราซอฟเมืองงามที่สุดในโรมาเนีย"
โบสถ์ดำ (Black Church) ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 เป็นโบสถ์ที่ก่อสร้างตามแบบศิลปะโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโรมาเนีย สาเหตุที่เรียกว่าโบสถ์ดำก็เพราะว่า โบสถ์แห่งนี้ถูกไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ.1689 ทำให้คราบดำจากเขม่าเกาะไปทั่วผนังโบสถ์จนกลายเป็นสีดำ ทางรัฐบาลจึงทิ้งให้อยู่ในลักษณะนี้ เพื่อให้เป็นความแปลกและเป็นจุดเด่นของโบสถ์ แต่ภายหลังคราบเขม่าดำได้หลุดลอกไปตามกาลเวลา จนทำให้ปัจจุบันผนังของโบสถ์มีสีไม่ค่อยดำเหมือนในอดีต
ตลาดใจกลางเมืองบราซอฟ (Brasov Market Center) เป็นตลาดที่อยู่ใจกลางเมืองบราซอฟ เป็นตลาดที่ตั้งอยู่บนถนนที่ซอกซอนระหว่างตึกเก่าต่างๆ มีสินค้ามากมายหลายชนิด เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องหนัง งานฝีมือ งานศิลปะ รวมถึงคอหนังสือไม่น่าพลาด เพราะในตลาดแห่งนี้มีร้านหนังสือมากมายหลายร้านเลยทีเดียว
เมืองบราน (Bran) คืออีกเมืองที่มีชื่อเสียงมากเมืองหนึ่งในมณฑลบราโชฟของประเทศโรมาเนีย มีชื่อเสียงในเรื่องของตำนานผีดูดเลือด หรือ แดร็กคิวลา จากความเชื่อที่ว่าเมืองแห่งนี้เป็นที่อยู่ของแดร็กคิวลาในอดีต ปัจจุบันเมืองบรานได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมาตามรอยตำนานผีดูดเลือดนั่นเอง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมือง ก็คือ "ปราสาทบราน" ปราสาทที่สวยงามแต่กลับซ่อนความน่าสะพรึงกลัวจนแทบรู้สึกได้
ปราสาทบราน (Bran Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศโรมาเนีย ปราสาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของปราสาทแดร็กคูล่า โดยตัวปราสาทตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอด สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมควบคุมเส้นทางการค้าและเก็บภาษี ระหว่างแคว้นวาลันเซียและแคว้นทรานซิลวาเนีย นอกจากวิวทิวทัศน์จากตัวปราสาทแล้ว เรายังจะได้ชมวิวฟาร์ม อาคารบ้านเรือนในแบบดั้งเดิมของโรมาเนีย ซึ่งมีความสวยงามมากเลยทีเดียว
เมืองซินายา (Sinaia) เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในมณฑลพราโฮวา โดยตัวเมืองนั้นตั้งลึกเข้าไปในเทือกเขาคาร์เพเธียน เป็นเมืองรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมเมืองหนึ่งของประเทศโรมาเนีย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศที่ดีมาก และมีความหลากหลายทางด้านทัศนียภาพ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่าและกีฬาฤดูหนาว แนะนำว่าควรจะมาเมืองซินายาสักครั้งหนึ่ง
ปราสาทเปเลส (Peles Castle) ตั้งอยู่ในหุบเขาบูเชกิ ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชายคาลอสที่ 1 กษัตริย์แห่งโรมาเนียในสมัยศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อน ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะคล้ายปราสาทสไตล์เยอรมัน ถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่โตเหมือนพระราชวังฤดูร้อนของประเทศอื่น ๆ ในยุโรป แต่ก็ได้รับการยกย่องว่า เป็นปราสาทที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกอาคารเท่านั้น แต่ภายในก็ล้วนตกแต่งไว้อย่างวิจิตรประณีต ปัจจุบันเป็นสถานที่สาธารณะและพิพิธภัณฑ์ ที่เก็บสมบัติล้ำค่าอีกแห่งหนึ่งของประเทศโรมาเนีย
วิหารซินายา (Sinaia Monastery) โดยวิหารนี้ตั้งอยู่บนภูเขาซีนาย (Mount Sinai) ซึ่งเป็นวิหารขนาดใหญ่ของนิกายออร์โธดอกซ์
กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) คือเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา(Dambovita) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในโรมาเนียอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว บูคาเรสต์ ยังเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองหลวงของประเทศอื่นๆ เลยเพราะยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” แห่งโรมาเนีย
ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศโรมาเนีย (Palace of Parliament) ทำเนียบแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา สถาปัตยกรรมสุดอลังการแห่งนี้เริ่มก่อสร้างใน ค.ศ. 1984 โดยนิโคไล เซาเซสคู ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติโรมาเนีย ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคมีขนาดใหญ่ถึง 270x240 เมตร มีความสูง 12 ชั้น ภายในอาคารมีห้องมากถึง 2,000 ห้อง ทั้งภายนอกและภายในอาคารตกแต่งอย่างหรูหรา ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ใช้เป็นรัฐสภาของประเทศ
จัตุรัสแห่งการปฏิวัติหรือลานปฎิวัติสงคราม (Revolution Square) ซึ่งจะมีลักษณะ ถูกโอบล้อมไปด้วยอาคารที่มีความสำคัญซึ่งเคยเป็น สำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ CEC (CEC Headquarter) ของอดีต ประธานาธิบดีนิโคลัส เชาเชสกู (Nicolae Ceausescu)ซึ่งเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์ ที่เผด็จการ แสวง หาอำนาจในทางที่มิชอบ จึงโดนประชาชนก่อการปฎิวัติ ในปี ค.ศ. 1989
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553