ทัวร์จีน นาขั้นบันไดหลงจี๋ สวนผลไม้ตามฤดูกาล ล่องแพแม่น้ำหลีเจียง เจดีย์เงินและเจดีย์ทอง

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

กุ้ยหลิน (Guilin) คือหนึ่งในเมืองเอกของมณฑลกว่างซี อยู่ทางภาคใต้ของประเทศจีน มีอาณาเขตติดกับมณฑลหยุนหนัน กุ้ยโจว หูหนัน กว่างตง อ่าวตังเกี๋ย และประเทศเวียดนาม ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบแอ่งกระทะ และมีเทือกเขายาวคดเคี้ยวเป็นทางยาว นอกจากนั้นกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ยังเขตหินปูนขาว จึงทำให้กุ้ยหลินนั้นมีถ้ำหินปูนอยู่มากมาย รวมทั้งยังถูกชื่นชมว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน จนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองสวรรค์บนพิภพ ที่ใครๆ ก็อยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต

เมืองหลงเซิ่นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางไส ซึ่งที่นี่ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ป่าไม้ และแร่ธาตุต่างๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุร้อนอีกแห่งหนึ่งในประเทศจีน นอกจากนี้หลงเซิ่นยังเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของชนเผ่าเย้า ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มาหลายร้อยปี สำหรับในเรื่องของการท่องเที่ยวนั้น หลงเซิ่นเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของนาขั้นบันไดบนภูเขา ซึ่งมันก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน

นาขั้นบันไดหลงจี๋ หรือสันหลังมังกร นาขั้นบันไดที่แลดูเหมือนกับมังกรเลื้อยรอบเนินเขา ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอหลงจี๋ แถบหมู่บ้านเหอผิง ได้ชื่อว่าเป็นนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากบริเวณนั้นไม่มีพื้นที่ราบ ชาวบ้านจึงทำนาบนภูเขาในลักษณะขั้นบันได โดยไล่ตั้งแต่ตีนเขาจนถึงยอดเขา เนินเขาเตี้ยก็ดูเหมือนกับขดก้นหอย ส่วนภูเขาสูงก็ดูเหมือนเจดีย์ แต่ละขั้นแต่ละชั้น สลับซ้อนเรียงกันสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่างอัศจรรย์ยิ่ง

เมืองกุ้ยหลิน (Gu?l?n) แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมณฑลกวางสี กุ้ยหลินมีการก่อชั้นของแผ่นดินหินปูนตามธรรมชาติ ซึ่งยังคงดำเนินอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง กุ้ยหลินจึงมีภูเขาที่มีรูปร่างแปลกตาและมีถ้ำสวยงาม มีแม่น้ำหลีเจียงไหลผ่าน มีถ้ำหินปูนอยู่มากมาย เกิดเป็นภูเขางวงช้าง เขาฝูปอหรือเขาขาด ยังมีถ้ำเจ็ดดาว ถ้ำขลุ่ยอ้อ จึงทำให้กุ้ยหลินได้รับขนานนามว่า เมืองแห่ง เขาเขียว น้ำใส ถ้ำแปลก หินงาม

ร้านนวดเท้าสมุนไพร การนวดกดจุดฝ่าเท้าเป็นการช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตไปยังอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายดีขึ้น ส่งผลให้มีการขับถ่ายของเสียออกจากเซลล์และปรับสภาวะสมดุลของร่างกาย ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ท่านรู้สึกสบาย

ร้านยาบัวหิมะ (Bao Fu Ling Shop) ร้านยาที่จำหน่ายบัวหิมะที่มีสรรพคุณรักษาแผลไฟไหม้ บำรุงผิว ซึ่งเป็นยาสมุนไพร ผลิตตามตำรับยาจีนแผนโบราณของราชวงศ์ชิง และเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์แผนโบราณและแผนปัจจุบัน อีกทั้งรัฐบาลจีนยังเข้ามาควบคุมคุณภาพและปริมาณ ที่สำคัญไม่มีวางจำหน่ายสินค้าตามท้องตลาดทั่วไป มาเลือกชมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พร้อมรับฟังการวินิจฉัยโรคโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยังได้ชมการสาธิตการนวดเท้า ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเคลียด และบำรุงการไหลเวียนของโลหิตด้วยวิธีธรรมชาติ

อำเภอเล็กๆริมแม่น้ำหลีเจียงของเมืองกุ้ยหลินที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปนิยมขี่จักรยานชมธรรมชาติบริสุทธิ์ เที่ยวชมน้ำตกสายน้ำใสไหลเวียนเข้าสู่ภายในถ้ำเงินที่งดงามมาก ปราสาทพระจันทร์และเงาสะท้อนในน้ำเปรียบประดุจกระจกใส เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง2,000ปี มีเสน่ห์ตรึงตาตรึงใจผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาสัมผัส อยู่ท่ามกลางธรรมชาติขุนเขาสวยงามเหนือคำบรรยาย ชมภาพชีวิตที่สงบเรียบง่ายดั่งฝัน แม่น้ำหลีเจียงไหลผ่านและคลองอวี้หลงเหออันแสนคดเคี้ยวให้ได้ล่องแพกัน ภูเขาหินปูนผุดขึ้นสูงเสียดฟ้า

โชว์จางอวี้โหมว..การแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวเผ่าหน่าซีบนเวทีกลางแจ้งขนาดใหญ่ เวทีสีแดง ฉากด้านบนสีฟ้า สวยงามตระการตา กำกับการแสดงโดย จางอี้โหมว ซึ่งเคยกำกับการแสดงที่เมือง หยางซั่ว และประสบความสำเร็จมากมาย เวทีนี้สร้างขึ้นใกล้ภูเขาหิมะมังกร ใช้ภูเขาหิมะมังกรเป็นฉากหลังประกอบการแสดง เป็นการแสดงที่สะท้อนถึงเรื่องราวชนกลุ่มน้อยกับภูเขาหิมะมังกรหยก ใช้ทีมงานพื้นเมืองกว่า 500คน เป็นการแสดงที่งดงามอลังการ มีนักแสดงร่วมหกร้อยคน(รวมม้าด้วย)จากชาวบ้านจาก 9 หมู่บ้านในอุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก

ถนนฝรั่งหยังเหยินเจีย หรือ ถนนคนเดิน ที่ขนาบข้างด้วยทิวเขา หน้าตาคล้ายคลึงกับถนนข้าวสาร มีทั้งโรงแรม ผับ บาร์ ร้านอาหาร และยังมีสินค้าแบบจีนวางขายมากชนิด เช่น ผ้าทอที่นำมาทำเป็นปลอกหมอน ผ้าพันคอ เสื้อผ้า กระเป๋าลายดอกไม้หลายขนาด แท่งหินแกะสลักขนาดเล็ก ภาพวาดพู่กันจีน ตวัดลายเป็นรูปเทพเจ้าจีน ธรรมชาติ และสัตว์มงคลต่างๆ หนังสือคำคมของ เหมา เจ๋อ ตุง อดีตผู้นำจีน ก็มีวางขายให้ท่านเลือกซื้อเลือกหา

ล่องเรือแม่น้ำลี่เจียง (Li River) อีกหนึ่งไฮไลต์ของกุ้ยหลินที่ไม่ควรพลาด เพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การชมวิวธรรมชาติในกุ้ยหลินที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ตลอดสายน้ำเต็มไปด้วยป่าเขาและถ้ำรูปร่างแปลกตามากมาย ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติบรรจงสร้างสรรค์ไว้ขึ้นมาได้อย่างลงตัว ความงามเหล่านี้กลายเป็นที่ร่ำลือกันมาช้านาน และนี่ก็เป็นที่มาของคำว่า "เมืองสวรรค์บนพื้นพิภพ"

อยู่ห่างจากตัวกรุงปักกิ่งประมาณ20กม ภูเขาแห่งนี้มีความสำคัญและโด่งดังมาก เนื่องมาจากความเป็นสถานที่พักของจักรพรรดิ์จีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิน จนถึงราชวงศ์ชิน ภายใน มีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ซึ่งทำให้มีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี หรือที่เรียกกันว่า 'เทศกาลใบไม้แดง' แต่ละปีจะมีเทศกาลนี้อยู่ประมาณ 2–3 สัปดาห์เท่านั้น อยู่ในช่วงปลายตุลาคม–ปลายพฤศจิกายน ของทุกปี ตลอดสองข้างทาง มีการขายของที่ระลึก อาหาร ขนมต่างๆมากมายให้เลือกชมและเลือกซื้อ ที่นี่ ยังมีวัดเมฆหยก ศาสนสถานที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน

เมืองกุ้ยหลิน (Gu?l?n) แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมณฑลกวางสี กุ้ยหลินมีการก่อชั้นของแผ่นดินหินปูนตามธรรมชาติ ซึ่งยังคงดำเนินอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง กุ้ยหลินจึงมีภูเขาที่มีรูปร่างแปลกตาและมีถ้ำสวยงาม มีแม่น้ำหลีเจียงไหลผ่าน มีถ้ำหินปูนอยู่มากมาย เกิดเป็นภูเขางวงช้าง เขาฝูปอหรือเขาขาด ยังมีถ้ำเจ็ดดาว ถ้ำขลุ่ยอ้อ จึงทำให้กุ้ยหลินได้รับขนานนามว่า เมืองแห่ง เขาเขียว น้ำใส ถ้ำแปลก หินงาม

Dream Like Lijiang หรือ “ม่งว่านหลีเจียง” เป็นการแสดงโชว์กายกรรมพื้นเมืองของกุ้ยหลิน ที่มีสีสันการแสดงประกอบการโชว์ตระการตา การแสดงสุดพิเศษ ที่มีการผสมผสานระหว่างบัลเลย์และกายกรรมอย่างลงตัว การแสดงที่เล่าถึงความสัมพันธ์ของคนพื้นเมืองที่นี่กับสายน้ำหลีเจียงแห่งนี้ ต้นไม้ ภูเขา รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ลำน้ำหลีเจียง แต่ขอบอกเลยว่าที่นี่ไม่ธรรมดา เพราะมีเทคนิคล้ำสมัย ประกอบกับลีลาที่พลิ้วไหวดังสายน้ำ รับรองว่าคนดูอย่างเราๆ จะต้องเพลิดเพลินอย่างแน่นอน

หยกคืออัญมณีที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ นั่นก็คือ ความใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และความมีสติปัญญา ซึ่งชาวจีนนั้นถือว่าเป็นชนชาติที่มีความผูกพันกับหยกตั้งแต่เกิดจนตาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคและทำให้อายุยืน ดังนั้น ชาวจีนจึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ต่างๆ และมักพกหยกติดตัวไว้เสมอ โดยถ้าเป็นเด็กหญิงจะสวมกำไลหยก ส่วนเด็กชายจะพกจี้หยก

เมืองจำลองบรรยากาศในสมัยราชวงศ์ซ่ง ที่ทางรัฐบาลจีนได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปะวัฒนธรรม สิ่งก่อสร้างในสมัยราชวงศ์ ซ่ง ภายใน จัดสร้างเมืองจำลอง ทั้งกำแพงเมือง บ้าน ตลาด โรงเตี๊ยม และชุมชนโบราณอยู่ด้านใน เชิญสัมผัสบรรยากาศและสัมผัสวิถีชีวิตสมัยราชวงศ์ซ่ง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม การดำเนินชีวิต การแต่งกาย วัฒนธรรม ประเพณีที่จำลองให้เห็นภายในเมืองจำลองนี้

เจดีย์เงิน เจดีย์ทอง (Golden And Silver Pagoda) เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นสัญลักษณ์ของกุ้ยหลิน ตั้งอยู่กลางทะเลสาบซานหู เป็นเจดีย์คู่สูงราว 40 เมตร เจดีย์ที่สร้างด้วยทองเหลือง โดยเป็นเจดีย์ทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนอีกเจดีย์หนึ่งที่อยู่คู่กันสร้างด้วยปูนเป็นสีเงิน รอบๆทะเลสาบอากาศดี วิวทัศน์งดงาม ถือเป็นจุดชมวิวแห่งหนึ่งที่สวยงามภายในเมืองกุ้ยหลิน ในช่วงกลางคืนจะเปิดไฟส่องสว่างที่เจดีย์ สะท้อนผิวน้ำของบึงซานเป็นประกายระยิบระยับ ถ้าจะไปชมแสงสีต้องไปก่อนสามทุ่มนะ เพราะหลังจากนั้นจะปิดไฟแล้ว

เขางวงช้าง ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดเขตเมืองกุ้ยหลิน ริมแม่น้ำหลีเจียง ที่ได้ชื่อว่าเขางวงช้างนั้น มาจากรูปร่างของภูเขาหินที่คล้ายกับงวงของช้างที่กำลังโน้มลงเพื่อกินน้ำจากแม่น้ำหลีเจียงที่อยู่เบื้องล่าง บริเวณเชิงเขาชายฝั่งแม่น้ำเหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อนหย่อนใจ มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก มีแพไม้ไผ่และเรือให้เช่าพายรอบบริเวณ ด้านบนเขาสามารถขึ้นไปเที่ยวชมถ้ำซึ่งมีคำจารึกโบราณ บนยอดเขามีวัดซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงตั้งอยู่

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553