สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินนานาชาติลี่เจียงซานยี่ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติลี่เจียงซานยี่ (Lijiang Sanyi International Airport) ตัวย่อสนามบิน: LJG ตั้งอยู่ในเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1992 และเปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1995 จัดเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มสนามบินในยูนนาน
เมืองโบราณต้าหลี่ (Dali Ancient Town) เป็นเมืองโบราณแห่งที่ยังคงอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะเห็นประตูเมืองทั้งด้านใต้ และด้านเหนือที่มีสถาปัตยกรรมสอดรับกัน ตามสองฟากของถนนสายเก่าแก่มีบ้านโบราณ ร้านค้าต่าง ๆ ปลูกสร้างไว้อย่างกระจัดกระจาย มีถนนสายเก่าแก่ที่ตัดผ่านตัวเมืองโบราณสายหนึ่ง ซึ่งทุกวันนี้ได้กลายเป็นถนนย่านการค้าที่เจริญคึกคัก มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น เจดีย์สามองค์ในวัด "ฉงเซิ่ง" ทะเลสาบเอ๋อไห่ น้ำพุ "หูเตี๋ย" เจดีย์สามองค์วัดฉงเซิ่ง ซุ้มประตู กำแพงเมือง เป็นต้น
ด่านเจดีย์สามองค์ เขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู พระเจดีย์สามองค์นี้เดิมเรียกว่า หินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไปก่อนเดินทางออกจากเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดน พม่า ต่อมาในปี พ.ศ. 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีได้เป็นผู้นำชาวบ้านก่อสร้างเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ดัง ที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้ด่านเจดีย์สามองค์ยังเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญของไทยและพม่าใน อดีต บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ มีร้านขายสินค้าจากประเทศพม่า
เมืองจงเตี้ยน (Zhongdian City) หรือ แชงกรี-ลา (Shagri-La) เปรียบได้กับสวรรค์บนดินที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เนื่องจากเป็นเมืองสวยงาม ผู้คนล้วนมีมิตรไมตรี มีบรรยากาศเงียบสงบแบบสวรรค์บนดิน ทำให้หลายคนปรารถนามาสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็นระดับ 1–2 องศา เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของมณฑลยูนนาน ของสาธารณะรัฐประชาชนจีน และทางใต้สุดของมณฑลนี้ ก็อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยของเรา ปัจจุบันนี้เมืองจงเตี้ยน มีสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเกิดขึ้นใหม่อย่างมาก มีวัดวัดต้าฝอ วัดซงจ้านหลิน ตลาดเก่าเมืองจงเตี้ยน ฯลฯ
วัดซงจ้านหลินซื่อ (Songzanlin Monastery) เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบต ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฝอปิง ห่างจากเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือ 4 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1679 เป็นวัดลามะที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี มีพระลามะจำพรรษาอยู่กว่า 700 รูป สร้างขึ้นโดยดะไลลามะองค์ที่ 5 ซึ่งใกล้เคียงกับสมัยอยุธยาตอนต้น ในช่วงศตวรรษที่ 18 สมัยจักรพรรดิ์คังซีแห่งราชวงศ์ชิงได้มีการซ่อมแซมต่อเติมอีกหลายครั้ง โครงสร้างของวัดแห่งนี้สร้างตามแบบพระราชวังโปตาลา ในเมืองลาซา (ทิเบต) มีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) เป็นช่องระหว่างหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซี ที่อยู่ระหว่างทางแยกของเมืองลี่เจียงและเมืองจงเตี้ยน อันเป็นบริเวณที่น้ำไหลผ่าน ระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยกและภูเขาหิมะฮาป๋า อันเป็นจุดที่น้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว โดยช่วงที่แคบที่สุดนั้นมีความกว้างเพียง 30 เมตรเท่านั้น ซึ่งตามตำนานมีเรื่องเล่าขานว่า ในอดีตช่องแคบนี้เคยมีเสือกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ เนื่องจากตรงกลางแม่น้ำในจุดนี้ มีหินที่เรียกว่าหินเสือกระโดดตั้งอยู่ และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อช่องแคบนี้นั่นเอง
โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง (Changjiangdiyiwan) เป็นจุดที่แม่น้ำแยงซีหรือจินซาเจียงซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงทิเบต ตกลงมากระทบกับภูเขาไห่หลอ ทำให้ทิศทางของแม่น้ำหักโค้งไหลย้อนขึ้นไปทางเหนือ จุดนี้อยู่ห่างจากเมืองลี่เจียงประมาณ 53 กิโลเมตร เป็นเส้นทางระหว่างเมืองลี่เจียงและเมืองจงเตี้ยน
เมืองลี่เจียง (Lijiang City) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอวี้หลง รอยต่อที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตกับที่ราบสูงยูนนาน-กุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงเหนือ เชื่อมกับที่ราบริมฝั่งแม่น้ำจินซาเจียง นั่นจึงทำให้ที่นี่มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูเขาสูง ธารน้ำแข็ง ที่ราบระหว่างภูเขา หุบโตรกผาอันสูงชัน และที่ราบขั้นบันได นอกจากนั้นลี่เจียงยังเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยแบ่งออกเป็นสองเขตและมีเขาสิงโตเป็นเส้นแบ่งเขต นั่นก็คือเขตเมืองใหม่ลี่เจียง และเขตเมืองเก่าลี่เจียง
สระมังกรดำ (Black Dragon Pool) สระน้ำมังกรดำหรือเฮยหลงถัน ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะยู้วฉวน เมืองลี่เจียง โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร ในบริเวณเชิงเขาเซี่ยงซาน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1737 ในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งสระน้ำมังกรดำมีจุดเด่นคือ เป็นน้ำที่เกิดจากน้ำพุอันมีความใสจนมองเห็นพืชใต้น้ำสีเขียว ที่สะท้อนกับผืนน้ำราวกับสีของมรกต นอกจากนี้ภายในบริเวณยังสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฮั่น ทิเบตและนาซี ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งสะพานหินโค้ง
เมืองโบราณลี่เจียง ตั้งอยู่ในอำเภอปกครองตนเองของชนชาติน่าซีแห่งลี่เจียง ในมณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเมืองที่เริ่มสร้างตั้งแต่ปลายราชวงศ์ซ่งและต้นราชวงศ์หยวน เมืองนี้อยู่บนที่ราบสูงยูนนานและกุ้ยโจวที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกิน 2,400 เมตร เป็นตลาดและเมืองสำคัญที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันมีชาวเมืองกว่า 25,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวน่าซี มีชาวเมืองร้อยละ 30 ยังคงประกอบอาชีพผลิตเครื่องศิลปหัตถกรรม ที่มีมาแต่ดั้งเดิมและการค้า
ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดสวยและมีชื่อเสียงของประเทศจีน มีลักษณะเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มีหิมะปกคลุมตรงปลายยอดตลอดทั้งปี จนได้ชื่อว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองจีน"
ทะเลสาบไป่สุ่ยเหอ หรือ Baishui He Lake (มาจากภาษาจีน 白水河) อยู่ในลี่เจียง ตั้งอยู่ทางตะวันออกของภูเขาหิมะมังกรหยก และ ทะเลสาบเกิดจากน้ำหิมะของภูเขา เป็นสาขาของแม่น้ำจินซา (Jinsha) ทะเลสาบจะมีสีขาวเทาเนื่องจากประกอบด้วยหินปูนที่ทับถมของตะกอนเมื่อน้ำละลายไหลผ่านแม่น้ำจึงเป็นที่มาของชื่อ “ทะเลสาบขาว” น้ำสะอาด และป่าเขียวชอุ่มเป็นดง ทัศนียภาพสวยงาม
การแสดง (Impressions Lijiang Show) ซึ่งเป็นหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงลี่เจียง นอกจากชมเมืองเก่า เที่ยวภูเขาหิมะ ก็คือการชมโชว์สุดอลังนี่หล่ะ ถือเป็นโชว์แบบโอเพ่นแอร์ที่สเกลใหญ่ที่สุดในจีน บอกเลยว่ายิ่งใหญ่ กับฉากผาหินสีแดง มีแบล็คกราวด์ฉากเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก โดยการแสดงจะร้องเพลง เต้น และแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมตามคัมภีร์ตงปาของคนพื้นเมืองลี่เจียงที่นี่
อุทยานน้ำหยก (Jade Water Village) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในลี่เจียง เป็นหัวใจทางด้านวัฒนธรรมของชนเผ่านาซี มีความกลมกลืนกับธรรมชาติที่งดงาม ประกอบไปด้วยประตูสวรรค์ มีรูปปั้นแกะสลักด้วยไม้ ข้างขวาเป็นพ่อ ข้างซ้ายเป็นแม่ และน้ำตกมังกรที่ไหลไปตามไหล่เขาโดยจะแบ่งได้เป็น 3 ชั้น และยังมีต้นไม้เทวดา ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของคนในพื้นที่นั้นโดยมีอายุมากกว่า 500 ปี และแหล่งน้ำภายในอุทยาน ยังมีอุณหภูมิที่เหมาะแก่การเลี้ยงปลาแซลมอน ทางอุทยานจึงได้นำปลาแซลมอลมาเลี้ยงไว้
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553