หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงประเทศเดนมาร์ก เมืองที่มีบรรยากาศสวยซึ้งและสง่างามดังเมืองแห่งเทพนิยาย โคเปนเฮเกนเป็นทั้งเมืองหลวง และเมืองชายฝั่งทะเลของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะซีแลนด์ และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีการทำประมงและเป็นเมืองท่าของการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โคเปนเฮเกนยังเป็นเมืองใหญ่ที่สวยงามและน่าสนใจด้วยมีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลาย และเมืองนี้ยังได้จัดอันเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย
รูปปั้นเงือกน้อยเป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหิน ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์และจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโคเปนเฮเกน โดยต้นกำเนิดของรูปปั้นเงือกน้อยเกิดจากความประทับใจของคาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์กต่อละครบัลต์เรื่อง The Little Mermaid อันเป็นนิทานสุดคลาสสิกของนักเล่านิทานชื่อดังอย่างคริสเตียน ฮันส์ แอนเดอร์สัน จากนั้นเขาจึงสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นโดยใช้แบบใบหน้าจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อเอลเลน ไพรซ์
พระราชวังอามาเลียนบอร์กหรือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสครบรอบ 300 ปีของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก ที่เหล่าพระราชวงศ์ยังใช้เป็นที่ประทับจนถึงปัจจุบัน บริเวณโดยรอบประกอบด้วยพระราชวังจำนวน 4 หลัง และโบสถ์อีก 1 หลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นในศิลปะสไตล์เดนมาร์กโรโคโค ส่วนด้านหน้ามีพระรูปทรงม้าของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า จนทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่งดงามที่สุดของทวีปยุโรป
ปราสาทโรเซนบอร์กตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 ในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 ในศิลปะแบบดัตช์เรเนซองส์ โดยนอกจากความสวยงามของภายนอกปราสาทแล้ว ภายในยังตกแต่งอย่างหรูหราด้วยวัตถุที่ล้ำค่ามากมาย ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ในบริเวณชั้นใต้ดินด้วย ซึ่งในอดีตปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อจุดประสงค์ใช้ในการพักร้อนของเชื้อพระวงศ์ในสมัยนั้น ทั้งยังเคยถูกวางเพลิงจากกองทัพอังกฤษถึง 2 ครั้ง คือในปี 1794 และปี 1801
ถนนคนเดินสตรอยก์ หรือ Stroget Street ซึ่งแปลว่า “การเดินเล่น” ประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี 1962 ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งทางเท้า และ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน ถนนคนเดินมีความยาวที่สุดในโลก ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ stergade โดยมีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตร ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน ส่วนย่าน Nygade นั้น เป็นอดีตเขตโคมแดงและถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่ากะลาสีเรือ
เรือสำราญ DFDS อันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี
ออสโล (Oslo) นครหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองสวยงามในเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของยุโรปเหนือ ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmoya แน่นอนว่าแต่ละเกาะมีสถานที่เที่ยวสวยงาม และมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ มีอากาศหนาวเย็น 6 เดือน อุณหภูมิ 0 - 40 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนเพียง 3 เดือน อุณหภูมิ20-25องศาเซลเซียส ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เช่น สวนวิกเกอร์ลันด์ วัดไทยนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เป็นต้น
เมืองอุ๊ตต้า (Otta) ในเขตอุ๊ปแลนด์ (Oppland) เปรียบเสมือนเมืองหน้าด่านก่อนเข้าสู่ภูมิภาคฟอย์ดแห่งนอร์เวย์
จุดชมวิวดาล์สนิบบา (Dalsnibba) จุดชมวิวที่สูงที่สุดและสวยสุดของนอร์เวย์ตั้งอยู่ที่เมือง Geiranger จุดนี้สามารถสัมผัสความงามอันน่าอัศจรรย์ของ Geiranger fyord ได้อย่างใกล้ชิดและยังได้ชมความเขียวขจีและสีขาวของ เทือกเขา Geirangerซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะได้ในแบบพาโนรามา จุดชมวิวแห่งนี้สูงกว่า 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในยามหมอกลงนักท่องเที่ยวจะรู้สึกเสมือนยืนอยู่บนท้องฟ้าเลยทีเดียว ทัศนียภาพอันแสนบริสุทธิ์งดงามทำให้จุดชมวิวแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ
ฟยอร์ดไกแรงเกอร์ (Geirangerfjord) ดินแดนแห่งฟยอร์ดอันงดงาม ตั้งอยู่ในเมืองสกันดา ประเทศนอร์เวย์ ฟยอร์ดคือบริเวณทางภูมิศาสตร์ของช่องทางน้ำของอ่าวยาวและแคบที่อยู่ระหว่างหน้าผาสูงชันอันเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง โดยส่วนในสุดของฟยอร์ดเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเล็กๆ นาม Geiranger นอกจากความสมบูรณ์ของฟยอร์ดแห่งนี้ สิ่งที่โดดเด่นก็คือน้ำตก 2 สาย คือ Seven Sisters และ Suitor นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะเดินเขาขึ้นไปด้านบนเพื่อชมความงามของฟยอร์ดในมุมกว้าง ที่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ล่องเรือสําราญฟยอร์ด ชมความงามซองน์ฟยอร์ด ที่ได้ชื่อว่า เป็น King of Fjord ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีภูมิประเทศที่งดงาม มหัศจรรย์ ของธรรมชาติ รังสรรค์สร้าง อันเกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งปีแล้วปีเล่า เป็นเวลาหลายล้านปีก่อน ลำน้ำคดเคี้ยวไหลซอกซอนอยู่บนชายฝั่ง เต็มไปด้วยขุนเขาสูงสลับซับซ้อน มีความยาวถึง 204กม จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน ชมธารน้ำตกและธารน้ำแข็งกลาเซียร์ที่ยังปรากฏเป็นผืนแผ่นขาวบนทิวโตรกเขา 2ฟากฝั่ง
ภูมิภาคนูรด์ฟยอร์ดเดน บริเวณนี้มีทะเลสาบ หุบเขา และชายฝั่ง ฟยอร์ดมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดของม้าพันธุ์ฟยอร์ดดิงอีกด้วย ภูมิภาคแถบนี้เป็นถิ่นอาศัยของชาวไวกิ้งโบราณ แล้วเข้าหมู่บ้านโอลเด็น ที่เก่าแก่มีอายุย้อนหลังไปเมื่อปีค.ศ. 1759 แหล่งเพาะปลูกและฟาร์มปศุสัตว์ของชาวนอร์เวย์
ธารน้ำแข็งบริกสดาล (Briksdal Glacier) ธารน้ำแข็งเกิดจากการที่หิมะตกลงมาแล้วสะสมกันจนหนา 45-60 เมตร แล้วเกิดการเคลื่อนตัวลงมาอย่างช้า ๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนลึกลงไปเพราะความหนักของหิมะที่สะสมกันจนเป็นน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวไปในหุบเขาก็จะค่อย ๆ แตกออกแล้วละลายกลายเป็นลำธาร ธารน้ำแข็งที่ถูกตัดขาดและแตกออกไหลลงทะเลเรียกว่า “ภูเขาน้ำแข็ง” สีของธารน้ำแข็งมักจะมีสีเขียวแกมม่วง หรือ แกมน้ำเงิน กลาเซียร์แห่งนี้มีอาณาเขตติดกับอุทยานแห่งชาติยอสเทอดาล
เมืองฟลอม หรือ ฟลัม (Flam city) เป็นเมืองเล็กๆ ของประเทศนอร์เวย์ในเขตภูมิภาคซองก์ฟยอร์ด หรือเป็นศูนย์กลางแห่งฟยอร์ดนอร์เวย์ ได้สัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดของฟยอร์ด “Sognefjord” ที่มีความยาวและลึกที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวนิยมมาเพื่อนั่งรถไฟขึ้นไปชมวิวบนภูเขา และผ่านหมู่บ้านชนบทที่มีความสำคัญในด้านศูนย์กีฬาฤดูหนาวของยุโรปเหนือ หมู่บ้านชนบทที่โดดเด่นไปด้วยสีแดง เหลือง เขียวสดๆ ตัดกันอย่างสวยงามและชมเส้นทางรถไฟสาย “Flambana” ทิวทัศน์งดงามเรียงรายไปด้วยน้ำตกใหญ่น้อยที่เกิดจากการละลายของหิมะ
รถไฟสายโรแมนติกฟลัมสบานา (Flåmsbana railway) หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สูงและสวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองฟลัม ประเทศนอร์เวย์ ขบวนรถไฟฟลัมสบานาใช้หัวรถจักรแบบโบราณ หน้าต่างขนาดใหญ่ให้ได้ซึมซับความสวยงามของวิวสองข้างทางอย่างเต็มที่ รถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารขึ้น-ลงแค่ที่สถานีต้นทางฟลัมและสถานีปลายทางไมร์ดัลเท่านั้น โดยระหว่างทางจะมีจุดจอดพักชมวิวที่สถานีน้ำตกจอสฟอสเซ่น (Kjosfossen) ถึงสถานีไมร์ดัลเพื่อนๆ สามารถแวะทานอาหารหรือช้อปปิ้งของที่ระลึกได้ มีร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่มากมาย
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน (Bergen) เมืองเล็กๆ แสนน่ารักและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาถึงเจ็ดลูก มีท่าเรือที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร เที่ยวชมเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market และ Bryggen ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ซึ่งเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่น จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
ยอดเขาฟลอยเอน (Mount Floyen) จุดชมวิวในเมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ ยอดเขาฟลอยเอ่น สูง 320 เมตร จากระดับน้ำทะเล หากต้องการชมวิวเมืองในมุมสูง จะต้องซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถรางไฟฟ้า Fløibanen ไปชมวิวที่ยอดเขาแห่งนี้ สถานีต้นทางอยู่ใจกลางเมือง Bergen เดินทางประมาณ 10 นาที เพื่อขึ้นไปยังสถานีด้านบนสุด ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนเขา ด้านบนนี้ยังเป็นจุดแวะพัก มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของฝาก รวมไปถึงจุดถ่ายรูปต่างๆ กิจกรรมอื่นๆบนยอดเขาก็มี Hiking, Mountain Bike, พายเรือ Canoe และกิจกรรมสำหรับครอบครัว
ออสโล (Oslo) นครหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองสวยงามในเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของยุโรปเหนือ ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmoya แน่นอนว่าแต่ละเกาะมีสถานที่เที่ยวสวยงาม และมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ มีอากาศหนาวเย็น 6 เดือน อุณหภูมิ 0 - 40 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนเพียง 3 เดือน อุณหภูมิ20-25องศาเซลเซียส ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เช่น สวนวิกเกอร์ลันด์ วัดไทยนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง (The Viking Ship Museum) สถานที่จัดแสดงเรือไวกิ้งโบราณไว้ทั้งหมด 3 ลำ โดยมีการขุดพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1867 ถึงปี ค.ศ.1903 ประมาณ 150 ปี และมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นเรือที่แตกต่างยุคกันไป โดยลำแรกมีชื่อว่า “The Oseberg Ship” เรือที่สร้างด้วยไม้โอ๊กและมีขนาดความยาวถึง 22 เมตร มีส่วนกว้างของลำเรือ 5 เมตร เรือลำที่ 2 “The Gokstad Ship” ซึ่งยาวกว่าลำแรกเพราะวัดความยาวได้ 23 เมตรในขณะที่มีความกว้างเท่ากัน สร้างขึ้นในปี 900 พร้อมกับเรือที่พบเป็นลำที่ 3 “The Tune Ship”
อุทยานฟร็อกเนอร์ หรือ สวนฟร็อกเนอร์ ตั้งอยู่ย่านถนนคนเดิน คาร์ล โจฮัน เกท กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นสวนที่ใหญ่สุดในกรุงออสโล สวนนี้เป็นที่ตั้งแสดงผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ "กุสตาฟ วิกเกแลนด์" จำนวนกว่า 212 ผลงาน ใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ในการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด กลางแจ้ง ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ สวนนี้ยังมีสะพาน น้ำพุ สระน้ำ สนามกีฬา และพื้นที่จัดกิจกรรมปิคนิค-อาบแดด-เล่นเกมส์ และผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อน
ย่านถนนคนเดินคาร์ลโจฮันเกท (Karl Johangen Gate) เป็นแหล่ง Shopping ที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าประเทศนอร์เวย์จะมีสินค้าที่แพง แต่ก็ยังมีช่วงลดราคาสินค้า คือ ปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
เมืองอัลต้า..เมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นศูนย์การบริหารงานของเทศบาล ก่อตั้งขึ้นเป็นเทศบาลเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1838 ปัจจุบัน เมืองอัลต้า กลายเป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษาที่สำคัญของนอร์เวย์ มีความสวยงามทางทัศนียภาพ สามารถชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ เพราะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลด้วย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์กและเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่า มีแหล่งแม่น้ำที่มีปลาแซลมอนที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป (North Cape Exhibition Center) พิพิธภัณฑ์ไทยที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมนอร์ธเคป ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงกระทำพิธีเปิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2532 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสของล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปี พ.ศ.2450 นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก รับฟังและชมเรื่องราวของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในห้อง Auditorium ก่อนชมปรากฏการณ์จริงด้านนอก
เมืองโรวาเนียมิ หรือ เมืองแห่งซานตาคลอส (Rovaniemi) ตั้งอยู่บริเวณเส้นอาร์คติค เซอเคิล เป็นเมืองหลวงของดินแดนแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ อยู่ใจกลางพื้นที่ป่าของแลปแลนด์นี้ ซึ่งมีแม่น้ำ 2 สายที่ไหลผ่านใจกลางเมือง คือ แม่น้ำ Kemijoki และแม่น้ำ Ounasjoki เนื่องจากแลปแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของซานตาคลอส ชายแก่หนวดขาวที่แสนใจดี ที่นั่งรถเลื่อนที่ลากด้วยกวางเรนเดียร์มาแจกของขวัญวันคริสต์มาสให้แก่เด็ก ๆ สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่นี่ จึงมีความเกี่ยวเนื่องถึงซานตาคลอส
หมู่บ้านซานต้า โรวาเนีย (Santa Claus Village) 'บ้านซานตาคลอสแห่งขั้วโลกเหนือ' ดินแดนแห่งความสุขแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ ทั่วโลกมีโอกาสมาเยี่ยมซานต้า ที่นี่ตั้งอยู่ในเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจำลองพาดผ่าน เมื่อใครเดินก้าวข้ามเส้นนี้ เสมือนการก้าวเข้าสู่วงกลมอาร์กติกอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้มีออฟฟิศของซานต้า ที่ทำการไปรษณีย์ของซานต้า ร้านขายของขวัญ งานหัตถกรรม และของที่ระลึกต่าง ๆ เราสามารถมาถ่ายรูปกับซานต้าคลอสตัวจริง หรือส่งโปสการ์ดและของขวัญไปยังคนที่รักและคิดถึง
เมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” เนื่องจากความงดงามและโดดเด่นของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย เมืองเฮลซิงกิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ต่อมาในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เฮลซิงกิได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่เมืองตรูกู เฮลซิงกิจึงมีความโดดเด่นท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก
จตุรัสซีเนเตอร์ หรือ เซเนทสแควร์ (Senate Square) รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญๆ ที่สร้างในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย จตุรัสกลางเมืองแห่งนี้เป็นที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ ๆ สำคัญของเมือง มีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ โดยใจกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า
ตั้งอยู่ในสวนซิเบลิอุส สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า แปลกตา ทันสมัย ผลงานของศิลปิน Eila Hiltunen สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก600แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง10.5ม ลึก 6.5ม หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
เป็นเรือสำราญหรูหราเหมือนโรงแรม และได้ชื่อว่าเป็นเรือที่สวยงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย เส้นทางจากนอร์เวย์เดินทางข้ามทะเลบอลติคสู่กรุงสต็อคโฮลม์ ประเทศสวีเดน ภายในเรือ มีห้องพักแบบโรงแรมทุกอย่าง นอกจากนั้นยังมี ภัตตาคาร ไนต์คลับ ซาวน่า คาสิโน ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่นเกมของเด็ก และร้านค้าปลอดภาษี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามยามเรือถอนสมออกจากเมืองเฮลซิงกิ
สต็อกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสต็อกโฮล์ม 909,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 2.2 ล้านคนสต็อกโฮล์มเป็นที่ตั้งของรัฐบาลสวีเดน และที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน
ศาลาว่าการเมืองสต็อคโฮลม์..สัญลักษณ์ของกรุงสต๊อกโฮลม์ สร้างเสร็จปี1923 และเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนในศตวรรษที่20 เป็นที่ทำการของศาลาว่าการเมือง และสถานที่สำหรับจัดงานรับรางวัลโนเบล ในทุกๆปี(ยกเว้นสาขาสันติภาพที่มีขึ้นในออสโล นอร์เวย์)ตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8ล้านก้อน และตกแต่งผนังใน Golden Hall หรือห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Ragner Ostberg และศิลปินชั้นนำในเวลานั้น
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553