หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
ชไตน์ อัม ไรน์ มีฐานะขึ้นกับเมือง Schaffhausen ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองโบราณเล็กๆ มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมือง และมีถนน สายหลักเพียงสายเดียวอาคารบ้านเรือนปลูกสร้างมาแต่โบราณ โดยบางบ้านจะมีมุขหน้าต่างยื่นออกมา ผนังนอกบ้านมีการวาดภาพสีน้ำปูนเปียก บอกเล่าเรื่องราว ต่างๆเอาไว้ โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่า บริเวณศูนย์กลางเมืองคือจตุรัส ราธอส มีน้ำพุอยู่ตรงกลางจตุรัสกลางน้ำพุมีอัศวินสวมเสื้อเกราะยืนอยู่คุณสามารถเก็บภาพ บรรยากาศอันน่าประทับใจของที่นี่
ซูริค (Zurich) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีภูมิประเทศที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำและทะเลสาบ รวมทั้งสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมเช่น โบสถ์เก่าแก่ และ พิพิธภัณท์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster) โบสถ์เก่าแก่แห่งเมืองซูริค ที่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 9 ขึ้นชื่อเรื่องงานกระจกสี (Stain Glass) อันสวยงามโดดเด่น ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินเลื่องชื่อในอดีต มาร์ค ชากัลล์ (Marc Chagall) และออร์แกนโบราณขนาดมหึมาภายในโบสถ์ ข้อสำคัญสำหรับการไปเข้าชมคือ โบสถ์แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน แต่สามารถซื้อโปสการ์ดที่ระลึกได้ และยังเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ของเมืองซูริคอีกด้วย เพื่อนๆ จะเห็น โบสถ์หลังคาสีฟ้า เด่นมาแต่ไกล โบสถ์แห่งนี้ อยู่ใกล้ย่านการค้าที่สำคัญของซูริคอีกด้วย
จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมือง และยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
สวนหมี หรือ บ่อหมี Barengraben (บาเรนกราเบิน) สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเบิร์น ซึ่งสวนหมีแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองว่ามีต้นกำเนิดมาจากหมี ภายในจะมีหมีอยู่ จะมีทั้งในบ่อปูน และริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน ที่มีตาข่ายป้องกันอยู่
ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse Road) เป็นถนนในเมืองเก่าของเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ
มหาวิหารแห่งเบิร์น (The Cathedral of Bern) เป็นศาสนสถานของศาสนาคริสต์ที่มีขนาดใหญ่โตมากแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศักราช 1421 ผ่านกาลเวลาและผู้สร้างแต่ละรุ่นมาจนถึงปี ค.ศ. 1893 จึงแล้วเสร็จ ด้วยความสูงของหอคอยสถาปัตยกรรมโกธิคที่สูงถึง 100 เมตรทำให้ที่นี่กลายเป็นวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
ถนนกรัมกาสเซ ถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณเป็นย่านปลอดรถยนต์เหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าที่มีอายุ 200-300ปี
หอนาฬิกา (Zytglogge) เป็นหอนาฬิกายักษ์ใหญ่เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ.1530 หรือเกือบๆ 500 ปี มาแล้วหอนาฬิกาแห่งนี้ มี 2 ด้าน มุมนี้เป็นมุมที่เดินจากสถานีรถไฟไปหน้าปัดนาฬิกาด้านบนบอกเวลาปกติ 12 ชม. ส่วนหน้าปัดด้านล่างสีแดง เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ ด้านซ้ายจะเป็นซุ้มตุ๊กตาเต้นระบำ
เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นครที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงของโลก" ประตูสู่เทือกเขาแอลป์ มีนาฬิกาดอกไม้ริมทะเลสาบและน้ำพุเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ และเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรป เมื่อมาเที่ยวเมืองนี้นักท่องเที่ยวจะได้เจอสำนักงานหลักขององค์การสหประชาชาติ และสถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่า เช่น โบสถ์เซนต์ปีแอร์ ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าที่สุดของเมือง ศาลากลางเมืองเจนีวาที่มีความเก่าแก่กว่า 500 ปี โรงอุปรากร มหาวิทยาลัยเจนีวา น้ำพุ Jet d’Eau และอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
น้ำพุเจทโด หรือ น้ำพุจรวดเจ็ท (Jet d'Eau) น้ำพุที่สูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบเจนีวา น้ำพุนี้มีชื่อเสียงก้องโลก เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเจนีวาที่มีความสูงถึง 390 ฟุต ปล่อยน้ำครั้งละ 500 ลิตรต่อวินาที ขึ้นไปพุ่งกระจายบนอากาศที่ความสูง 140 เมตร ด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทะเลสาบเจนีวา ต่อมาก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ท่องเที่ยวของ Geneva มาจนถึงปัจจุบัน รอบ ๆ ริมทะเลสาบ มีนาฬิกาดอกไม้และอนุสาวรีย์การรวมชาติที่สวยงาม
นาฬิกาดอกไม้เจนีวา (The Flower Clock) นาฬิกาดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของเจนีวา ตั้งอยู่ในเขตสวนอิงลิชการ์เดน ดอกไม้รอบ ๆ ก็จะเปลี่ยนแบบไปเรื่อย ๆ ตามเทศกาลและฤดูกาล มีชนิด 2 เข็ม และ 3 เข็ม และหน้าปัดนาฬิกามีความชันได้ ไม่จำกัดองศา สามารถใช้กระแสไฟฟ้าหรือพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ถึงไฟฟ้าจะดับก็ยังสามารถใช้งานได้ นาฬิกาดอกไม้นี้ที่สวนอังกฤษ บ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาที่มีต่อเจนีวา นาฬิกาดอกไม้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความมีชื่อเสียงของเมืองเจนีวา ในเรื่องของอุตสาหกรรมนาฬิกานั่นเอง
เมืองโลซานน์ (Lausanne) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา มีทิวทัศน์สวยงามธรรมชาติ อากาศปราศจากมลพิษ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศต. 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ แต่เพื่อความปลอดภัยชาวเมืองจึงย้ายไปอยู่บนเนินเขารอบๆ ทะเลสาบ
เมืองตากอากาศริมทะเลสาปเจนีวาที่มีชื่อเสียง เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ด้วยความเงียบสงบของตัวเมืองบวกกับบรรยากาศที่สุดแสนสบาย ภายในเมืองประกอบไปด้วยร้านค้าน้อยใหญ่มากมาย โรงแรม บ้านพักตากอากาศริมทะเลสาป จากนั้นยังมีกิจกรรมต่างๆเช่นเดินหรือนั่งรถรางชมเมือง ชมสวนดอกไม้ และ รูปปั้นของเฟรดดี้ เมอร์คูรี่ นักร้องวง Queen เจ้าของบทเพลง we are the Champion ด้วย
ปราสาทซิลยอง แห่งมองเทรอซ์ เป็นปราสาทแห่งตระกูลซาวอย อายุเก่าแก่กว่า 1000 ปี สไตล์โกธิกที่มองดูแล้วเหมือนอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาปราสาทซิลยอง เนื่องด้วยเป็นปราสาทแห่งความภูมิใจของชาวสวิส แม้ไม่ใหญ่โตโอฬารเท่าปราสาทอื่นๆ ของยุโรป แต่โบรชัวร์แผ่นพับการท่องเที่ยวของสวิสมักมีปราสาทซิลยองเป็นโลโก้ประจำ ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ถัดจากกำแพงสูงตระหง่านเข้าไปจะเป็นลานปราสาท ที่พัก และที่สำคัญเป็นคุกสำหรับขังนักโทษ
เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ บริเวณเชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดมลพิษ ทางเมืองไม่อนุญาตให้มีรถยนต์แล่นในบริวเวณมือง (Car-Free Zone) ฉะนั้นเพื่อนๆ นักเดินทางคนไหนจะไปเที่ยวเมืองเซอร์แมตส์ ต้องเดินทางเข้าไปโดยรถไฟเท่านั้น
ยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) หรือ กลาเซียร์ เลอ ไดเบอเร็ต (Les Diablerets) เป็นยอดเขาในสวิสเซอร์แลนด์ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร จากสถานี Col du Pillon ขึ้นสู่ยอดเขากลาเซียร์ ซึ่งบนยอดเขาสามารถมองเห็นวิวยอดเขาสำคัญๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ ได้แก่ จุงเฟรา แมทเทอร์ฮอร์น และมองบลองก์ได้อย่างชัดเจน
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
ยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) เป็นภูเขาในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของประเทศ ด้านบนของยอดเขานั้นมีภัตตาคารหมุนได้ 360 องศา พิตซ์ กลอเรีย (Piz Gloria) ภัตตาคารแห่งนี้สามารถหมุนได้เป็นวงกลม ในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นยอดเขาต่างๆจากยอดเขาชิลธอร์นได้หลายยอดเขา เช่น ยอดเขาไอเกอร์ , ยอดเขาทิตลิส , ยอดเขาเมินซ์ รวมถึง ยอดเขาจุงฟราวด์ เป็นต้น
ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เชิญเที่ยวชมวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่ย น้ำตกทรุมเมลบาค อยู่ในภูเขาวนวนเป็นเกลียว เกิดจากธารน้ำแข็งมี10ชั้น และน้ำตก Staubbach น้ำไหลแรงและเย็นมากๆ เห็นมีฝูงแกะที่เขาเลี้ยงอยู่รอบๆ ส่วนถนนในหมู่บ้านของเมืองมีเส้นดียวขนานไปกับช่องเขา สำหรับร้านค้าต่างๆในเมืองนี้ อยู่ใกล้ๆกัน รวมถึงร้านสหกรณ์ ที่นี่ ยังเป็นจุดรวมของรถไฟหลายสาย ที่สถานี Lauterbrunnen เชิญเที่ยวชมความงามของภูเขาที่อยู่รายรอบแนวเทือกเขา Alps,หุบเขา Lauterbrunnen Valley รวมถึงยอด Jungfrau
น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Waterfall) ตั้งอยู่ในเมืองเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในที่สูงกว่า 300 เมตร ซึ่งมีทางน้ำผ่านซอกหน้าผาลงมาแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง และเบื้องล่างของน้ำตกแห่งนี้มีหมู่บ้านน่ารัก ๆ ตัดกับทิวเขาที่ล้อมโดยรอบ น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ เมื่อถึงฤดูร้อนจะมีสายลมอันอบอุ่นพัดพาสายน้ำที่กำลังตกลงสู่เบื้องล่าง จึงทำให้มีละอองน้ำกระจายไปทั่วทิศทาง ดังนั้นน้ำตกแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า น้ำตกชเตาบ์บาค ซึ่งคำว่า ชเตาบ์ (staub) แปลว่า ฝุ่นละออง นั่นเอง
เมืองซูก (Zug) เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุด แต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
หอนาฬิกาเมืองซุก (Zug Clock Tower) เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเป็นเมืองที่รวยที่สุดในสวิตเซอร์เเลนด์มีหอนาฬิกาที่มีความสูงถึง52เมตรหลังคาสีฟ้าขาวสร้างขึ้นในศตวรรษที่13สามารถบอกข้างขึ้นข้างเเรมเเละวันในสัปดาห์ได้อีกด้วย
ร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป The Oldest house of goldsmiths in Europe เป็นร้านที่มีเสน่ห์ของความเก่าเเก่ของวัตถุอาทิเช่น ทองคำ, นาฬิกา,รองเท้า,กระเป๋าหรืออื่นๆอีกมากมายร้านทำทองเเห่งนี้ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ของสะสมหายากเเละนาฬิกาแบรนด์สวิสคุณภาพระดับโลก โดย ลอห์ริ (Lohri) นาฬิกาชั้นนำของเมืองซูก
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553