หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก หรือ สนามบินมิวนิก (Munich International Airport) ตัวย่อสนามบิน: MUC ชื่อเต็มคือ ท่าอากาศยานมิวนิก "ฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ชเตราส์"ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติต่อฟรัให้บริการในเขตมิวนิคและภูมิภาคบาวาเรีย และเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รองจากสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีเส้นทางบินสู่ 248 จุดหมายปลายทางทั่วโลก โดยสนามบินแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่เพื่อทดแทนสนามบินเดิมที่มีขนาดเล็ก และเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535
เมืองอินส์บรูค เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมรอบตัวเมือง เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นทีโรล เจ้าของดินแดนออสเตรียนแอลป์ อยู่ทางตะวันตกในประเทศออสเตรีย เป็นเมืองขนาดเล็กริมแม่น้ำอินน์ ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ เมื่อซัมเมอร์มาเยือนจะกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง อุณหภูมิกำลังเย็นสบายที่ 17 องศาเซลเซียส ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่รักธรรมชาติ รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง
หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินน์สบรูก ประเทศออสเตรีย สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกผสมบาโร้ก และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้นรูฟกลายเป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ
เทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomite Mountains) เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ที่ทอดตัวอยู่ในเขตอิตาลีตอนเหนือ มีอาณาเขตครอบคลุมบริเวณแคว้นทิโรลใต้ และแคว้นเนเนโต้ เทือกเขาโดโลไมท์ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากลักษณะของยอดเขาต่าง ๆ ที่แทงยอดสูงเสียดฟ้า มีทัศนียภาพงดงาม จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ทั้งในช่วงฤดูหนาวที่มีสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อนของที่นี่ ก็ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขาอีกด้วย
เมืองโบลซาโน่ (Bolzano หรือ Bozen) เหตุที่เมืองนี้มีสองชื่อ เนื่องจากเคยเป็นส่วนหนึ่งของออสเตรียมาก่อนวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรียนั้นมีอิทธิพลกับเมือง Bolzano เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภาษา และสถาปัตยกรรม รวมถึงพลเมืองที่นีมักมีดวงตาสีฟ้าและผมสีทอง นอกจากนี้ คุณจะพบกับปราสาทและหอคอยที่เก็บรักษาไว้อย่างดีทำให้ที่นี่มีเสน่ห์แบบชนบท ในละแว้กใกล้ๆ มีภูเขาที่เหมาะสำหรับการปีนเขาและในพิพิธภัณฑ์ของเมืองมีมัมมี่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกให้คุณได้ชื่นชมเป็นอย่างมาก
ในสมัยโรมันเป็นที่ชุมนุมทางเศรษฐกิจการเมือง รวมทั้ง เป็นตลาดขายสมุนไพรเมื่อหลายร้อยปีก่อนด้วย ปัจจุบัน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีน้ำพุ ร้านกาแฟน่ารักน่านั่งเพลินๆ และร้านค้ามากมาย อีกทั้งยังเป็นตลาดขนาดย่อม ที่มีเอกลักษณ์ที่ต่างจากจัตุรัสใหญ่ของเมืองอื่นๆ ภายในจัตุรัส เป็นแหล่งขายผักผลไม้ และขายสมุนไพรด้วย แต่ในช่วงกลางคืนจัตุรัสแห่งนี้จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กันในยามราตรี
ทะเลสาบ Braies หรือ Lago Di Braies หรือในภาษาเยอรมันเรียกอีกชื่อว่า Pragser Wildsee เป็นทะเลสาบในเขต Prags Dolomites ใน South Tyrol ประเทศอิตาลี อยู่ในเขตเทศบาล Prags ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา Prags ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมันเป็นฉากของการส่งผู้ต้องขังค่ายกักกันไปยัง Tyrol และที่นี่เป็นสถานที่สำหรับถ่ายหนังและละครมากมาย ที่นี่จะดูสงบ ภาพของภูเขา มีทิวต้นสนล้อมรอบ ตัดกับน้ำสีฟ้าอมเขียวใส
ทะเลสาบมิซูริน่า (Misurina Lake) เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำใสราวกับกระจก สะท้อนภาพภูเขาลงบนผืนน้ำ ทะเลสาบตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของแนวเทือกเขาแอลป์ ในเขตเบลลูโน่ (Belluno) ในแคว้นเวนีโต้ (Veneto) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี โดยปลายทะเลสาบคือที่ตั้งของโรงพยาบาลที่รักษาโรงหอบหืด รอบๆ ทะเลสาบจะมีร้านอาหาร ร้านให้เช่า อุปกรณ์สกี และมีลานสกีตั้งอยู่ไม่ไกล และที่ทะเลสาบนี้ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้ที่จัดกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี ค.ศ. 1956
เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย
จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย
ซานมาร์โค (san marco) คือ ห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป ซึ่งยังไม่มีใครค้านมาจนทุกวันนี้ เปียซซ่า ซานมาร์โค หรือจัตุรัสซานมาร์โค เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิสที่สวยงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก (Basilica di San Marco หรือ Saint Mark’s Basilica) เป็นจุดเด่นของลานกว้างที่เต็มไปด้วยฝูงนกพิราบและนักท่องเที่ยว ถ้านั่งเรือมาเมื่อถึงที่ท่าซานมาร์โค จะพบเสาสูงสองต้นอยู่ริมน้ำ เสาหนึ่งเป็นรูปสิงห์โตมีปีกแห่งเซนต์มาร์ก อีกเสาหนึ่งคือนักบุญธีโอดอร์ซึ่งทั้งสองเป็นสัญลักษณ์ของเวนิส
เมืองเมสเตร้ (Mestre) เป็น Gateway to Venice ในแคว้นเวเนโต้ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยอาคารประวัติศาสตร์ สวนสาธารณะเขียวชอุ่ม และวัฒนธรรมอิตาลีแบบดั้งเดิมที่ทำให้ภูมิภาคชนบทแห่งนี้ เป็นที่ท่องเที่ยวอันสะดวกสบายและสวยงาม ห่างจากคลองเวนิสไปเพียงไม่กี่นาที เมืองเมสเตรเป็นย่านเล็ก ๆ ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ เต็มไปด้วยสวนสาธารณะ ร้านดีไซเนอร์แบรนด์ดัง และจัตุรัสที่มีแลนด์มาร์กเก่าแก่
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองแห่งแหล่งกำเนิดศิลปะของโลก เป็นจุดกำเนิดของยุคเรอเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป เชิญเที่ยวชมมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นมหาวิหารที่เรียกว่าดูโอโม หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ปราสาท แกลอรี่ บาร์ ร้านอาหาร รวมทั้งคลับ และดิสโก้ ทุกสถานที่ๆจะได้พบกับความทันสมัยและความสวยงามตลอดเวลา มีแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆมากมายเพราะเป็นศูนย์กลางของผู้นำแฟชั่น เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย
มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิออเร ชื่อเต็มคือ อาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์(Cathedral Of Santa Maria Del Fiore)หรือที่ชาวฟลอเรนซ์นั้นจะเรียกว่า“เซนต์แมรีแห่งบุปผา”ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ มณฑลฟลอเรนซ์ แคว้นตอสคานา ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่13 แต่สร้างเสร็จ ออกแบบใหม่ใน คศ.1436โดย สถาปนิกมากมายหลายคนที่มีชื่อเสียง สำหรับโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น ออกเเบบโดย“ฟิลิปโป บรูเนลเลสชี”ซึ่งมันมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.5 เมตร โดยมีบันไดในการขึ้นไปชมด้านบนถึง 463 ชั้นด้วยกัน
หอระฆัง “The Belfort” ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ มีความสูงถึง 83 เมตรและเคยถูกเผาทำลายเมื่อปี ค.ศ. 1280 หากท่านใดต้องการทดสอบพลังของตัวเอง พร้อมกับการชมบรรยากาศของ เมือง แบบพาโนราม่า ท่านสามารถเดินขึ้นบันได 366 ขั้นไปยังยอดหอระฆังแห่งนี้ได้
เปียซซา เดล ซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) จัตุรัสใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่สวยงาม เเละเต็มไปด้วยประติมากรรมชั้นยอด ของศิลปินเอกชาวอิตาเลี่ยนมากมายมาตั้งรวมกัน จนมีคนกล่าวว่ามันเหมือนกับเเกลลอรี่กลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเละเต็มไปด้วยงานประติมากรรมที่ทรงคุณค่าเเละประเมินค่าไม่ได้มากมายหลายต่อหลายชิ้นเลยทีเดียว
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ยังคงหลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1333 มีสีเหลืองทองอร่าม บวกกับสองฟากของสะพานถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพ เลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายทอง ด้านบนหลังคาของอาคารพาณิชย์ได้ต่อเติมให้เป็นทางเดินลอยฟ้า เชื่อมระหว่างพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่กับพระราชวังพิตติ
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมิลานเพียง 60 นาที แหล่งช้อปปิ้งที่พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบหรูหราสไตล์อิตาลี ด้วยร้านค้าบูติกกว่า 100 ร้านที่นำเสนอแฟชั่นแบรนด์อิตาลี และแบรนด์ระดับโลกอื่นๆในคอลเล็กชั่นของฤดูกาลผ่านๆมา อาทิ ARMANI, VALENTINO, PAUL SMITH, D&G, VERSACE เป็นต้น พร้อมส่วนลดสูงสุด 70% จากราคาค้าปลีกทุกวันตลอดทั้งปี นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่หลากหลายให้เลือกใช้บริการอีกด้วย
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
ปราสาทสฟอร์ซ่า เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน เคยเป็นที่พัก-ที่นั่งของขุนนางแห่งมิลาน และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งในทวีปยุโรป สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 อดีตพระราชวังหลวงที่ประทับของผู้ปกครองนครมิลาน นับเป็นปราสาทที่ใหญ่โตอลังกาลแห่งหนึ่งในยุโรป ปัจจุบันเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์และที่เก็บผลงานศิลปะ วัตถุโบราณ เหรียญต่างๆ และเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้ง รูปแกะสลักที่ไม่เสร็จของ มิคาแลงจิโอ
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าและห้างเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อิสระให้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553