หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินนานาชาติทบิลิซี หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสนามบินนานาชาติทบิลิซี (Tbilisi International Airport) ตัวย่อสนามบิน: TBS เดิมชื่อ Novo Alexeyevka International Airport เป็นสนามบินนานาชาติหลักในจอร์เจียตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ 17 กิโลเมตร ของเมืองหลวงทบิลิซิ
สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) เป็นอีกหนึ่งงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเมืองทบิลิซี ออกแบบโดย สถาปัคนิกชาวอิตาเลื่ยนชื่อ Michele De Lucchi สะพานมีความยาวที่ 150 เมตร โครงสร้างนั้นถูกออกแบบและสร้างที่ อิตาลี่ และ นำเข้ามาโดยรถบรรทุก 200 คัน เพื่อเข้ามาติดตั้งในเมือง Tbilisi ที่ตั้งนั้นอยู่บนแม่น้ำ Mtkvari River สามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมือง และยังมี illuminating ที่จะแสดงแสงสีจากไฟ LED ที่ติดตัวรอบตัวสะพานเป็นเวลา 90 นาทีก่อนพระอาทิตย์จะตกลับขอบฟ้าไป
ป้อมนาริคาล่า (Narikala Fortress) หรือ ป้อมปราการนาริกาลา สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของเมืองทบิลิซี่ ประเทศจอร์เจีย เป็นป้อมปราการโบราณที่สามารถมองเห็นวิวเมืองทบิลิซิและแม่น้ำ Mtkvari ถูกสร้างในราวศตวรรษที่ 4 ป้อมปราการนี้ ประกอบด้วย ส่วนของผนังสองส่วนบนเนินเขาสูงชันระหว่างห้องอาบน้ำกำมะถัน และสวนพฤกษศาสตร์ของทบิลิซิ ในสไตล์ "ชูริส ทซิเค" ซึ่งหมายถึง รูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน
รูปปั้นมาเธอร์ ออฟ อะ จอร์เจียน (Mother of Georgian) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Kartlis Deda ตั้งอยู่ที่เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย เป็นรูปปั้นหญิงสาวสูง 20 เมตร บนยอดเขาโซโลลากิ (Solo Laki Hill) อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของชาวจอร์เจีย รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 เพื่อฉลองนครทบิลิซีอายุครบ 1,500 ปี
โรงอาบน้ำโบราณ หรือ อะบาโนตูบานี (Abanotubani) โรงอาบน้ำโบราณแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่สำหรับแช่น้ำพุร้อน ที่มีส่วนผสมของแร่กำมะถัน ซึ่งเชื่อกันว่าในน้ำพุร้อนมีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยกำจัดของเสียและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง โรงอาบน้ำร้อนแห่งนี้ได้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน และในปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการกันอยู่
ถนนซาร์เดนี ถนนคนเดินสายเล็กๆ ที่เป็นศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรม หลังจากการฟื้นฟูในศตวรรษที่ 9 ได้เปลี่ยนชื่อถนนมาเป็นซาร์เดนีเหมือนในปัจจุบันเพื่อเป็นเกียรติแก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส Jean Chardin ปัจจุบันถนนคนเดินสายนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้าแฟชั่น และร้านกาแฟ
เมืองมิสเคด้า (Mtskheta) เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศจอร์เจีย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ห่างจากกรุงทบิลิซี ประมาณ 20 กม. และในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอิเบเรีย (Iberia Kingdom) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงปี ค.ศ. 500 แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรจากสมัยนั้นหลงเหลืออยู่แล้ว ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแผ่ในเมืองนี้ช่วงศตวรรษที่ 4 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนที่นี่เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994
มหาวิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อารามแห่งไม้กางเขน (Monastery of the Cross) อันศักดิ์สิทธิ์ของศานาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโถง ชาวเมืองได้ให้ความเคารพนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก และได้กล่าวกันว่า นักบุญนีโน่ หรือแม่ชีนีโน่แห่งคัปปาโดเกีย (เมืองหนึ่งในประเทศตุรกีปัจจุบัน) ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามา พร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล
วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetitskhoveli Cathedral) สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze ตัววิหารมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย
โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย โบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์เก่าแก่นี้ สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,170 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติของเทือกเขาคอเคซัสรอบทิศ และโบสถ์เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา จึงทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยที่จอร์เจีย ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต
อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) เป็นอนุสาวรีย์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ มีสถาปัตยกรรมแบบโซเวียต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ภายในตกแต่งด้วยประเบื้องโมเสกสีสันสดใส ซึ่งบอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวรัสเซียและชาวจอร์เจีย และหากมองจากมุมนี้ สามารถมองเห็นหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัสอีกด้วย
เมืองกอรี (Gori) เป็นเมืองในจอร์เจียตะวันออกซึ่งทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Shida Kartli เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นบ้านเกิดของ “โจเซฟ สตาลิน” (Joseph Stalin) ชาวจอร์เจียที่ในอดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในการปกครองในเมืองกอรีแห่งนี้
ป้อมอันนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ร่องรอยของซากกำแพงที่ล้อมรอบป้อมปราการแห่งนี้ ได้หลงเหลือไว้เปรียบเสมือนม่านที่ซ่อนเร้นความงดงามของโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิน ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่านให้เราได้ชม
เมืองถ้ำอุพลิสชิเค่ (Uplistsikhe Cave Town) หนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย มีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กันมานานแล้วกว่า 3,000 ปีก่อน ในอดีตช่วงยุคโบราณเมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรม เราจะได้พบกับศาสนสถานที่มีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ชาวเพเก้นใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมซึ่งเป็นลัทธิบูชาไฟ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเข้ามาเมื่อ 1,700 ปีก่อน และยังมีห้องต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 ด้วย
พิพิธภัณฑ์สตาลิน (Museum of Stalin) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมเรื่องราวและสิ่งของเครื่องใช้ของท่านสตาลิน ตั้งแต่สถานที่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต ตั้งอยู่ที่เมืองโกรี ประเทศจอร์เจีย ซึ่งเป็นเมืองที่สตาลินเกิด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากจัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวชีวประวัติและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ของ สตาลินแล้ว ยังรวมไปถึงบ้านหลังจริงที่สตาลินเกิดและใช้ชีวิตในวัยเด็ก และขบวนรถไฟของสตาลินที่ดั้งเดิมเป็นของซาร์นิโคลัสที่2 จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิรัสเซียด้วย
เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เป็นเมืองตากอากาศเล็ก ๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 15,000 คน เมืองบอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่ระดับโลก เพราะมีลำธารน้ำที่ใสบริสุทธิ์ที่ไหลมาจากยอดเขาบาคูเรียนี ที่มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร ที่ค้นพบโดยนายทหารชาวรัสเซีย โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่า ถ้าดื่มน้ำนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ ต่อมาได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตและส่งออกน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมี ที่มีชื่อเสียงไปยังประเทศต่าง ๆ
สวนบอร์โจมี (Borjomi City Park) ตั้งอยู่ที่เมืองบอร์โจมี ประเทศจอร์เจีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน ที่นิยมมาเดินเล่นผ่อนคลายรับอากาศบริสุทธิ์ และดื่มน้ำแร่ หรือชื่นชมสีสันของดอกไม้นานาชนิด สัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นสบาย สามารถชมวิวหรือเก็บภาพมุมสูงโดยการขึ้นกระเช้าสู่จุดชมวิว บนหน้าผาเหนือสวนบอร์โจมี ซึ่งเป็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูงได้เห็นวิวเมือง ที่สวยสดงดงาม
เมืองคูไทซี (Kutaisi) เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ ย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 12-13 เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักร Colchis และ Imeretia ทางภาคตะวันตกของประเทศจอร์เจีย
วิหารเกลาติ (Gelati Cathedral) วิหารนี้ค้นพบในศตวรรษที่ 12 สร้างโดยกษัตริย์ผู้โด่งดังของจอร์เจีย เดวิดที่ 5 (ระหว่างปี ค.ศ. 1073-1125) ที่นี่จะพบสถานศึกษาและศาสนสถานที่กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษา และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจอร์เจีย เป็นสถานที่เก็บรวบรวมภาพจิตรกรรมฝาผนังจำนวนมากมาย ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญและกษัตริย์ในยุคต่าง ๆ ของจอร์เจียไว้ภายในใจกลางวิหารเวอร์จิน (Virgin Cathedral) และยังได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
เมืองบาทูมี่ (Batumi) เมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลบนชายฝั่งตะวันออกของทะเลดำ เป็นเมืองหลวงของอัตจารา (Ajara) เป็นสาธารณรัฐอิสระที่ปกครองตนเอง อยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศจอร์เจีย ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง และมีสภาพภูมิทัศน์ที่หลากหลายแตกต่างกัน มีทั้งบริเวณเทือกเขาสูงที่อุดมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี ไปจนถึงเนินเขาที่เขียวชอุ่ม เป็นหนึ่งในเมืองที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดของจอร์เจีย
จัตุรัสยุโรป (Europe Square) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจัตุรัสที่สำคัญในยุโรป
จัตุรัสเปียเซซ่า (Piazza Square) เมืองบาทูมี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze ที่สร้างด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานและจินตนาการนิทาน และในปี 2011 ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้เริ่มปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยภัตตาคาร โรงแรม ไนท์คลับ และอื่น ๆ
รูปปั้นอาลีและนีโน่ (Ali and Nino Moving Sculptures) เป็นรูปปั้นเหล็กสูง 8 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเลดําที่สามารถเคลื่อนไหวเป็นวงกลมได้ทุก ๆ 8-10 นาที จนกระทั่งบรรจบกันและแยกตัวออกไปอีกครั้งหนึ่ง รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติและศาสนา อาลี ชายหนุ่มชาวอาเซอร์ไบจานที่มาจากครอบครัวชาวมุสลิม และนีโน่ เจ้าหญิงชาวจอร์เจียที่มาจากครอบครัวชาวคริสเตียน นอกจากเรื่องราวความรักของทั้งคู่แล้ว ลักษณะการออกแบบรูปปั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
เมืองทบิลิซี (Tbilisi) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ในหุบเขาที่งดงาม และก็ยังเป็นศูนย์กลางการปกครองและย่านเศรษฐกิจของประเทศจอร์เจีย ประกอบกับมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพราะมีแหล่งน้ำมากมายพร้อมกับมีทำเลที่ดีในการปกครอง ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองหลวงในที่สุด ชื่อทบิลิซิ แปลว่าที่ตั้งอันอบอุ่น มีที่มาจากน้ำพุร้อนกำมะถัน ซึ่งผุดพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมิทควารี
เดอะโครนิเคิลออฟจอร์เจีย (The Chronicle of Georgia ) เป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงนอกเมืองและเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ของประเทศจอร์เจีย ผ่านสาหินขนาดใหญ่จำนวน 16 ต้น และด้วยโครงสร้างอันมหึนั่นก็เลยทำให้กลายเป็นอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ที่เราสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถเห็นวิวเมืองทบิลิซีและทะเลสาบทบิลิซีที่สวยงามอีกด้วย
ถนนรุสทาเวลี (Rustaveli Avenue) เป็นถนนที่มีสินค้ามากมายอาทิ ของที่ระลึก ของฝาก สินค้าหลายหลายประเภท ไว้ให้เลือกช้อปปิ้ง โดยถนนเส้นนี้มีจุดไฮไลท์อีกที่หนึ่งคือ "ร้านอาหาร Samikitno" ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยด้านหน้าของร้านจะมีป้าย I love Tbilisi ที่เหมือนเป็น Landmark สำหรับการถ่ายภาพของนักท่องเที่ยว
เมืองซิกนากี (Sighnaghi) เมืองที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นเหนือกว่าระดับน้ำทะเล 790 เมตร ตั้งอยู่ในหุบเขาอลาซานี (Alazani Valley) และเทือกเขาคอเคซัส เมืองนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น นครแห่งความรัก (Love City) อีกทั้งที่เมืองแห่งนี้ยังสามารถประกอบพิธีการแต่งงาน หรือจดทะเบียนสมรสเมื่อใดก็ได้ และเมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในการทำไร่องุ่น ที่สามารถผลิตไวน์ได้ถึง 70 % ของประเทศ
วิหารบอดี อารามนักบุญนีโน่แห่งบอดบี (Bodbe Monastery) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นอารามนางชี อุทิศให้นักบุญนีโน่ สตรีผู้ประกาศศาสนาคริสต์ในศตวรรษที่ 4 โดยหลุมศพของนักบุญนีโนก็ได้รับการบรรจุไว้ในอารามแห่งนี้
เมืองควาเรลี (Kvareli) เป็นเมืองหนึ่งของแคว้นคาเคติ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์ของจอร์เจีย มีสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะแก่การปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์ และมีเส้นทางเชื่อมต่อแต่ละอุโมงค์ เพื่อใช้เป็นที่เก็บไวน์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกทั้งจอร์เจียยังถือเป็นหนึ่งในชาติที่ผลิตไวน์เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และได้ชื่อว่าเป็น “The Birth Place of Wine” หรือ “The Cradle of Wine Making” สมกับความหมายของชื่อเมืองนี้ที่แปลว่า “ไวน์” มาที่แล้วก็ไม่ควรพลาดชิมไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคแห่งนี้
โบสถ์ทรินิตี้แห่งเมืองทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi) หรืออีกชื่อหนึ่งคือโบสถ์ Sameba เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์ทอดอกซ์จอร์เจีย ตั้งอยู่ในเมืองทบิลิซีซึ่งเป็นเมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1995 และปี 2004 เป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ที่ถูกจัดให้เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในแถบอ่าวเปอร์เซีย และมีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
สนามบินนานาชาติทบิลิซี หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสนามบินนานาชาติทบิลิซี (Tbilisi International Airport) ตัวย่อสนามบิน: TBS เดิมชื่อ Novo Alexeyevka International Airport เป็นสนามบินนานาชาติหลักในจอร์เจียตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ 17 กิโลเมตร ของเมืองหลวงทบิลิซิ
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553