หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองปรีน (prien) เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในเขตภูมิภาคทะเลสาบคิมเซ่ นั่งเรือข้ามสู่เกาะแฮเรนคิมเซ่ อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวงที่มีชื่อเรียกเดียวกัน และถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นพระราชวังที่งดงามที่สุดในโลก โดยมีต้นแบบมาจาก พระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส กษัตริย์ลุควิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทุ่มเทเงินทองเพื่อให้พระราชวังแห่งนี้งามสง่าสมพระเกียรติ ตัวพระราชวังโอบล้อมด้วยความร่มรื่นของป่าไม้นานาพันธ์และเชื่อมด้วยคลองขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยสนามหญ้า สวนสวยและน้ำพุแบบฝรั่งเศส ทำให้ดูงามสง่ายิ่งขึ้น
เกาะแฮเรนคิมเซ่ (Herrenchiemsee) อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวงที่มีชื่อเรียกเดียวกัน และถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นพระราชวังที่งดงามที่สุดในโลก โดยมีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส กษัตริย์ลุควิคที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทุ่มเทเงินทองเพื่อให้พระราชวังแห่งนี้งามสง่าสมพระเกียรติ ตัวพระราชวังโอบล้อมด้วยความร่มรื่นของป่าไม้นานาพันธ์ และเชื่อมด้วยคลองขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยสนามหญ้า สวนสวยและน้ำพุแบบฝรั่งเศส ทำให้ดูงามสง่ายิ่งขึ้น
พระราชวังเฮอเรนคีมเซ (Herrenchiemsee Palace) ตั้งอยู่ที่เกาะเคียมเซ พระราชวังแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้าลุควิคที่ 2 แห่งบาวาเรีย มีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส ตัวพระราชวังโอบล้อมด้วยความร่มรื่นของป่าไม้นานาพันธุ์ และเชื่อมด้วยคลองขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยสนามหญ้า สวนและน้ำพุ ส่วนภายในพระราชวังนั้น ตกแต่งด้วยศิลปะอลังการจากช่างฝีมือในยุคนั้น ซึ่งเราจะได้เห็นจากห้องว่าราชการ ห้องบรรทม ห้องฉลองพระองค์ และที่โดดเด่นที่สุดคือ ห้องกระจก ซึ่งออกแบบในสไตล์เฟรนช์โรโคโค
เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่ บริเวณเมืองเก่าเต็มไปด้วยศิลปะการสร้างอาคารในรูปแบบบาวาเรียตอนบน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตกแต่งด้วยลายปูนสไตล์สตัดโก้ และในอดีตเคยเป็นฐานบัญชาการใหญ่ของกองทัพนาซีทางตอนใต้
เหมืองเกลือเบิร์ชเทสการ์เดน(Berchtesgaden Salt Mine)เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1517 ซึ่งในสมัยโบราณเหมืองเกลือเป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว สำหรับการเข้าชมเหมืองเกลือนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเมืองเกลือโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการบำรุงรักษาเอาไว้
หรือ เมืองโอเบอร์อเมอร์เกา เมืองเล็กๆที่แสนน่ารักในแคว้นบาวาเรีย และมีชื่อเสียงด้านแกะสลักไม้ โดยแกะเรื่องราวหรือฉากเหตุการณ์ทางศาสนาคริสต์เป็นหลัก อาคารบ้านเรือนล้วนประดับไปด้วยภาพเขียนสีเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา และมีระเบียงประดับด้วยกระถางต้นไม้ ดอกไม้เล็กๆ ที่นี่ เคยใช้เป็นสถานที่จัดงาน Passion Play ที่เก่าแก่สุดในเยอรมนี ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ10ปี โดยชาวบ้านจะมาร่วมกันแสดงละครกลางแจ้งบอกเล่าเรื่องราวในบั้นปลายพระชนม์ชีพของพระเยซู
หรือ เมืองการ์มิช พาร์เท่น เคียร์เซ่น เมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเขาซุกสปิตเซ่ยอดเขาสูงสุดของเยอรมนี บ้านเรือนสวยงามศิลปะแบบบาวาเรียนรอคโคโค เมืองนี้แบ่งเป็น2เขต คือ เขตGarmischและเขตPartenkirchen เมืองนี้งดงามด้วยภาพวาดบนกำแพงบ้านที่เดินชมไม่รู้เบื่อ ควบคู่กับการพบเจอชาวเมืองที่ยังใส่ชุดพื้นเมือง กางเกงสั้นแค่เข่า เสื้อปักลูกไม้ เป็นปกติวิสัย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมกีฬากลางแจ้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เทนนิส กอร์ฟ ล่องแพ เล่นสเก็ต สกี ไปจนถึงสโนบอร์ด
ซุกสปิตเซ่ ...ยอดเขาสูงสุดในเยอรมันของเทือกเขาแอลป์ระดับความสูง 2,964 เมตร วิวสวยงาม เหมือนยอดเขาทิตลิสและยอดเขาบนเทือกเขาแอลป์จุงเฟราที่สวิส สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถไฟ รถยนต์ ไต่เขา และกระเช้าไฟฟ้า เชิญเที่ยวชมทั้ง ศิลปะโบราณสถาน โบราณวัตถุ สบายๆ กับดอกไม้งามทั้งทิวลิป ฮายาซินต์ ฯลฯ วิวทะเลสาบที่อยู่เบื้องล่างเก็บภาพประทับใจ
ถนนสายโรแมนติก ของประเทศเยอรมัน มีความยาวกว่า 340 ก.ม. จากเมืองเวอร์ซบูรก์จนถึงเมืองฟุสเซ่น เส้นทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในยุโรป เพลิดเพลินกับภาพชนบทอันงดงาม ผ่านพื้นที่เกษตรกรรม ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์อันเขียวขจี และทุ่งแรฟที่ออกดอกเหลืองอร่ามสุดสายตา
ฟุสเซ่น หรือ ฟึสเซิน (Fussen) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ในเขตอ็อสท์อัลก็อย (Ostallgäu) ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศออสเตรียไปทางทิศเหนือ 5 กิโลเมตร และอยู่ที่ปลายทางด้านหนึ่งของถนน Romantic road ยิ่งมองจากมุมสูงเมืองนี้ยิ่งทวีความงาม และเมืองโรแมนติกแห่งนี้นี่แหละคือประตูสู่ปราสาทเทพนิยายนอยชวานชไตน์ เมืองมีประชากร 14,631 คน เป็นที่รู้จักด้านอุตสาหกรรมผลิตไวโอลิน
เมืองชวาล์ฟเกา (SCHWANGAU ชวังเกา) เป็นเมืองชนบทในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เมืองชวังเกาตั้งอยู่ติดกับชายแดนประเทศออสเตรีย ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบฟอร์เกิน เมืองนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของเยอรมัน เช่น ปราสาทโฮเฮนชวาล์ฟเกา(Hohen Schwangau) เป็นเมืองที่น่าอยู่มาก อากาศสดชื่น บ้านเมืองสวยงาม เป็นเมืองที่มีภูเขาของบาราเวีย(Tegelberg)ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาหรือเดินเขากันเลยทีเดียว
ปราสาทนอยส์ชวาสไตน์ ปราสาทแสนสวยตั้งตระหง่านบนยอดเขา งดงามดั่งเทพนิยาย ทิวทัศน์โดดเด่นรอบล้อมด้วยทะเลสาบและธารน้ำ ภายในตัวปราสาทตกแต่งไว้อย่างอลังการ สร้างในปี ค.ศ. 18-19 ในรัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เชิญเยี่ยมชมห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องฮอลล์ที่ใช้ในการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ต พร้อมสัมผัสความงดงามของปราสาทที่ยากเกินกว่าจะบรรยาย แม้กระทั่งราชาการ์ตูนวอล์ทดิสนีย์ยังได้จำลองแบบไปเป็นปราสาทในเทพนิยาย อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์
เมืองมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมนี คือเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย แคว้นตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิซาร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเงิน การธนาคาร และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมัน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีอาร์ตแกลเลอรี่ดีที่สุดด้วย เชิญเที่ยวชมมหานครแห่งนี้ ก่อตั้งในคศ1158 มีบรรยากาศรื่นรมย์ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรือง แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าอันทันสมัยมากมาย
ถนนแมกซิมิเลียน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ และเป็นที่ตั้งร้านขายของแบรนด์เนมราคาแพง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นบนถนนสายนี้อาจได้กระทบไหล่ดาราหรือมหาเศรษฐี ระดับโลก จัตุรัสมาเรียน ใจกลางเมืองเก่านักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ที่จะชม ตุ๊กตาเต้นรำที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่า เวลา11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกวันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
มาเรียนพลัทซ์ จตุรัสมาเรีย หรือ จตุรัสแมรี่ (Marienplatz | Mary's Square) แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย ตั้งอยู่เขตเมืองเก่าใจกลางเมืองมิวนิคประเทศเยอรมนี บริเวณนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการชมวิถีชีวิตของคนมิวนิคในยามเย็น ตามร้านอาหารกลางจัตุรัส ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างพากันมาชุมนุมดื่มเบียร์ พบปะสนทนา พลาดไม่ได้เลือกชมตุ๊กตาเต้นรำที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่าเวลา 11.00 น. ทุกวัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
อิงกอลสตัดท์ เอ้าท์เลท วิลเลจ (Ingolstadt Outlet Village) เป็นเอาท์เลตขนาดใหญ่ที่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ อาทิ AIGNER, BALLY, Birkenstock, Calvin Klein, COACH, ESCADA, FOSSIL, GEOX, GUESS,Hugo Boss, L Occitane, LACOSTE, Levi’s, Lindtt, MICHAEL KORS, Nike, PUMA, Samsonite, SUPERDRY, Swarovski,The North Face,Timberland, TOM TAILOR, TOMMY HILFIGER,TUMI,VALENTINO, Versace, นอกจากนี้ยังมีช็อคโกแลตสวิส, มีด กรรไกรตุ๊กตาคู่ สินค้าของฝากของที่ระลึกอีกมากมาย
เมืองโรเธนบวร์ก เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมือง เป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนี และศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์, โค, กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ค.ศ.1274 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ของเส้นทางสายโรแมนติกของเยอรมนี มีจัตุรัสใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของอาคารเทศบาลเมือง และโบสถ์เซนต์จาคอบ
เมืองเดรสเดน (Dresden City) ประเทศเยอรมนี เมืองเก่าอายุ 810 ปี ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำเอลเบอทางตอนใต้ของกรุงเบอร์ลินค่ะ ซึ่งแต่เดิมที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก แต่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกทำลายลงบางส่วนจากการทิ้งระเบิดโดยฝ่ายพันธมิตร แต่ปัจจุบันก็ได้มีการบูรณะเมืองและซ่อมแซมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่แล้ว นอกจากนั้นยังเป็นเมืองซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย มีระบบการขนส่งนักท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ จึงทำให้เดรสเดนคืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของเยอรมนีที่ไม่ควรมองข้าม
โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช หลังคาทรงหัวหอมในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค อันเป็นสัญลักษณ์ของมิวนิค ที่ร่องรอยของการทำลายล้างสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน บริเวณนี้คือฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 จนถึงยุคของพระเจ้าออกัสตัสผู้แข็งแกร่ง ทรงโปรดให้สร้างเมืองในสไตล์แบบบาร็อคขึ้นเซมเพอร์โอเปร่าที่เมืองนี้มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี
สถานที่อันโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม และดนตรี รวมทั้งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญมากที่สุดในเมืองเดรสเดน และก็ถือว่าเป็นโอเปร่าเฮ้าส์ที่สวยงามมากที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1841 โดยสถาปนิกชื่อ Gottfried Semper ในรูปแบบสถาปัตยกรรมเรอแนสซองส์ ภายในมีการประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยภาพวาด และปูนปั้นที่ถูกสรรสร้างอย่างประณีตจากศิลปินในยุคสมัยนั้น ในปัจจุปันโอเปร่าแห่งนี้ยังคงใช้เป็นที่จัดการแสดงดนตรี และการแสดงในโอกาศสำคัญต่างๆอีกมากมาย
พระราชวังสวิงเกอร์ “ZwingerPalace” ผลงานชิ้นเอกใบรูปแบบศิลปะแบบบาร็อคที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เอลเบ้อ ที่สร้างขึ้นมาโดย ฝีมือของสถาปนิกหลวง มาธฮอยส์ ดาเนียล เปปเปอมาน และช่างแกะสลัก บาลธาซาร์ เพอร์โมเซอร์ จากแบบดั้งเดิมจากเรือนกระจกในพระราชวังแวร์ซายส์ในปี ค.ศ. 1710 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1732
โบสถ์ Hofkirche โบสถ์โฮฟ หรือวิหารหลวงของราชสำนัก สร้างระหว่างปี 1739-1755 ให้เป็นโบสถ์คาทอลิค จึงได้รับการต่อต้านจากชาวเมือง ที่นับถือโปรเตสแตนส์ ริมระเบียงบนหลังคาด้านนอกมีรูปปั้นนักบุญตั้งอยู่รายรอบ 78 รูป และหอระฆังด้านหน้าที่หันสู่แม่น้ำเอลเบอสูงโดดเด่น คือมีรูปปั้นของนักบุญและอัศวินผู้ปกป้องศาสนาตั้งไว้รายรอบอาคาร โบสถ์หลังนี้ได้รับการเสียหายไม่มากจากการทิ้งระเบิด สังเกตได้ว่ามีผนังเป็นสีดำอยู่มาก
พิพิธภัณฑ์ด้านการขนส่ง ที่มีการร่างภาพบนฝาผนังนี้จนในปี ค.ศ. 1906 ได้มีการวางแผ่นกระเบื้องเคลือบจากไมเซ่นจำนวน 24,000 แผ่นลงไปบนรูป
เมืองที่รู้จักกันดีสำหรับประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี และพรั่งพร้อมด้วยมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรมจากทั้งสองภาค ศูนย์กลางการอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุด อีกทั้ง มีความทันสมัยด้านเทคโนโลยีมีชีวิตชีวาและสีสันมาก ซึ่งแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น โพทส์ดามเมอร์ พลัทส์,ประตูชัยบรันเดิ่นบวร์กเกอร์,อเล้กซานเดอร์ พลัทส์ เป็นต้น มีแหล่งช้อปปิ้งมากมาย รวมทั้งมีทรายสีทองจากทะเลบอลติกสวยงาม เชิญเที่ยวชมเมืองสุดฮิปอีกแห่งหนึ่งของโลกที่น่าสนใจ
สร้างขึ้นเมื่อปีคศ1961 เพื่อเป็นป้อมปราการ โดยเยอรมันตะวันตกเป็นผู้ก่อกำแพงขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และแบ่งเบอร์ลินออกเป็น 2ส่วน คือเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออก ช่วงนั้นได้มีความพยายามหลบหนีข้ามเขตแดน จึงเปลี่ยนเป็นคอนกรีตที่แน่นหนา ตั้งอยู่เป็นระยะเวลา 28ปี ก่อนจะทลายลงปีคศ1989 ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็น เมื่อเยอรมันตะวันออกล่มสลาย มีความยาวอยู่เพียง 1.3กม เหลือทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์โดยฝั่งที่หันหน้าสู่ด้านตะวันออกให้ศิลปินจากทั่วโลกมาวาดภาพบนกำแพงหลังการรวมเยอรมันเข้าด้วยใหม่ๆ
ด่านที่เป็นจุดผ่านแดนในยุคสงครามเย็นระหว่างค่ายโลกเสรีกับคอมมิวนิสต์ เยอรมันตะวันตกและตะวันออก มีกำแพงเบอร์ลินกั้น เช็คพอยต์ชาลีเป็นด่านที่นักการฑูต สายลับและผู้ที่ได้รับอนุญาตพิเศษเดินข้ามไปมา2ดินแดน หลังจากที่ได้ทุบกำแพงเบอร์ลิน รวมตัวของเยอรมนีตะวันตกและออกเป็นประเทศเดียวกัน ที่นี่ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งเป็นเขตพรมแดนการปกครองระหว่างอเมริกันและรัสเซีย ที่จัดแสดงเรื่องราวของความสูญเสีย ความพลัดพราก จากครอบครัวและคนที่รักเพียงเพราะการแตกต่างในด้านการปกครอง
เบอร์ลินโดมมหาวิหาร “The Reichstag” เป็นมหาวิหารที่ใหญ่สุดในเบอร์ลิน เป็นศูนย์กลางโปรเตสแตนท์ในเยอรมัน เป็นที่ฝังศพของราชวงศ์โฮเฮนโซเลน เสียดายไม่เห็นเสาโทรคมนาคม สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เคยใช้เป็นอาคารรัฐสภาเยอรมันแห่งระบอบประชาธิปไตย และภายหลังเป็นกองบัญชาการทหารบก
สัญลักษณ์ของของกรุงเบอร์ลิน ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ฝั่งตะวันออก บนใจกลางของเบอร์ลินตะวันตกเดิม เป็นประตูเมืองเก่าแก่ก่อสร้างระหว่างค.ศ.1788-1791 ตามศิลปะแบบโรมัน โดยฝีมือของ C.G.Langhans เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของประเทศเยอรมนี และเป็นเครื่องหมายความสงบสุข ที่นี่..มีถนน Ku'damm เป็นถนนที่หรูหรามีห้างและศูนย์การค้ามากมายพลุกพล่าน ห้างสรรพสินค้าที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นห้างที่ใหญ่สุดในยุโรป KaDeWe หรือ Kaufhaus des Westens คล้ายแฮร์รอดส์ในลอนดอน
อาคารที่ใช้เป็นรัฐสภาแห่งเยอรมนี สร้างขึ้นด้วยศิลปะอิตาเลียนเรอเนสซองส์ในปีค.ศ.1884-1894 อาคารรัฐสภาแห่งนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ครั้งสาธารณะรัฐไวมาร์ จนหลังสงครามโลกได้มีการสร้างโดมแก้วครอบตัวอาคาร โดยสถาปนิกชื่อก้องโลกชาวอังกฤษเซอร์นอร์แมน-ฟอสเตอร์
ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน เป็นย่านที่มีรถติดมากแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมัน ใกล้ๆ บริเวณนี้ มีประตูบรันเนบู อาคารรัฐสภาเยอรมัน และสวนสาธารณะ Tiergarten อยู่ห่างจากเมืองพอสเมเพียง 25 กม.ทางทิศตะวันตกตอนใต้เท่านั่น ถือเป็นเมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีขนาดใหญ่และทันสมัยแห่งหนึ่งในยุโรป ใช้เงินทุนกว่า 4 พันล้านเหรียญยูโร ภายในประกอบไปด้วยตึกที่ทำการของ Sony, A&T, ABB เป็นต้น
เมืองหลวงของสหพันธรัฐแบรนเดนเบิร์กในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮาเวลทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเบอร์ลิน เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ตั้งของพระราชวังปรัสเซียนหลายพระองค์ อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1990 ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมเพราะความมีคุณค่าในความกลมกลืนของภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์
พระราชวังตามประวัติศาสตร์เล่ากันว่า พระเจ้าเฟดเดอริคที่2 ไม่อยากเป็นกษัตริย์ อยากเป็นศิลปิน นักดนตรี คิดหนีพระบิดาไปอยู่อังกฤษกับพระสหาย แต่โดนจับได้ก่อนและถูกพระบิดาแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ปกครองปรัสเซีย แต่พระองค์ก็สามารถปกครองเมืองได้อย่างดีเยี่ยม พระองค์เป็นผู้สร้าง 'พระราชวังซองซูซี' ซึ่งเดิมมีเพียงแค่กระท่อมที่พักยามออกล่าสัตว์เท่านั้น ภายหลังได้ปรับปรุงและสร้างเป็นปราสาทเพื่อไว้ใช้เป็นพักผ่อนในหน้าร้อน เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค สร้างอยู่บนยอดเนิน คล้ายกับว่าปราสาทปลูกอยู่บนไร่องุ่นสวยงามมาก
เมืองโคโลญจน์ เป็นเมืองใหญ่ของปรเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม และเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญจน์ 4711 อันลือชื่อ โดยมีมี มหาวิหารแห่งโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) เป็นอาสนวิหารขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปเรียกเป็นแลนด์มาร์คของเมือง
มหาวิหารแห่งโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) สัญลักษณ์แห่งเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี โบสถ์โรมันคาทอลิกสไตล์โกธิกดั้งเดิมขนานแท้ ด้านหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วฐานแคบ สร้างในปี 1248 ใช้เวลาสร้างยาวนานกว่า 632 ปี และครั้งหนึ่งสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย ได้เคยเสด็จมาเยือนเมื่อคราวเสด็จประพาสเยอรมันครั้งแรกในปี 1897 และที่มหาวิหารแห่งนี้ที่แม้ในปัจจุบันก็ยังมีการขุดพบซากเมืองโรมันโบราณข้างใต้
ถนนย่านเมืองเก่าของเมืองโคโลญ เยอรมัน สร้างในปีคศ1895สไตล์โรมัน ตั้งแต่คต19ถนนเส้นนี้กลายเป็นถนนช้อปปิ้งที่คึกคักขึ้นชื่อของเมืองจนถึงปัจจุบัน หากมาที่นี่คงต้องซื้อพวกเครื่องเหล็กตราตุ๊กตาคู่และน้ำหอมออดิโคโลญ4711สินค้ามีชื่อของเมือง เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อกับหลายถนน มีทางเท้าเดินได้อย่างสะดวกสวยงาม ครอบคลุมพื้นที่ยาวถึง680ม จากมหาวิหารโคโลญทอดยาวไปทางใต้ของเมือง มีแม่น้ำไรน์อยู่เรียบติดถนน เรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ ตึกสำนักงาน ธนาคาร โรงพยาบาล โบสถ์ เรียกได้ว่าที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง
ล่องเรือชมแม่น้ำไรน์ แม่น้ำสายสำคัญที่สุดสายหนึ่งของยุโรป เป็นช่วงที่มีความงดงามโรแมนติกที่สุดของลำน้ำสายนี้ ชมทัศนียภาพอันสวยงามตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำไรน์ อันสร้างความสดชื่นให้เป็นพิเศษ เห็นเนินเขา ปราสาทโบราณอายุกว่า 600 ปี ตึกรูปแบบสไตล์ยุโรปต่างๆ ดูมีเสน่ห์ ตึกสำนักงานริมแม่น้ำ บ้านเรือนน่ารักๆ รวมทั้ง อาคารบ้านเรือนของอดีตเหล่าขุนนางเยอรมนีที่เรียงรายอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของไร่องุ่น ผาหินโลเรอไลย์ ซึ่งมีตำนานเรื่องเล่าที่ลึกลับของเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นบริเวณนั้น
หน้าผาลอไล (Lorelei Rock) อันเป็นตำนานของหญิงสาวที่คร่าชีวิตผู้คนที่เดินทางโดยเรือผ่านแม่น้ำสายนี้ ระหว่างทางผ่านชมทัศนียภาพสองฟากฝั่ง เรื่องราวของปราสาทต่างๆ จากยุคโรมันและชาวเยอรมันเผ่าต่างๆ ที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อคลาย
เมืองบ๊อบพาร์ด (Boppard) เมืองริมแม่น้ำไรน์ ล่องเรือทัศนาจรชมความงดงามของแม่น้ำไรน์ เพลิดเพลินกับเรื่องราวของปราสาทในยุคโรมัน และชาวเยอรมันเผ่าต่างๆ ที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อม คลาย แม่น้ำสายนี้ยังก่อให้เกิดเรื่องราว, ตำนาน และบทเพลงต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนหลงใหล
เมืองแฟรงค์เฟิร์ต เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐเฮสส์ และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและธนาคารกลางยุโรป และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป ถือเป็นเมืองสำคัญทางการเงิน การธนาคารของเยอรมัน เชิญเที่ยวชมเมือง บริเวณจัตุรัสเมืองเก่า ย่านโรเมอร์ ศาลาว่าการนครแฟรงค์เฟิร์ท วิหารโดมแห่งแฟรงค์เฟิร์ท และบ้านเรือนในอดีตที่อนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553