ทัวร์เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม โคโลญ เทศกาลดอกทิวลิป ล่องเรือหมู่บ้านกีธูร์น ชมบ้านคิวบ์

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

สนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต หรือ ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Airport) หรือชื่อเต็มคือ ท่าอากาศยานฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์ ตัวย่อสนามบิน: FRA เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครแฟรงก์เฟิร์ต เมืองศูนย์กลางทางการเงินของยุโรป

เมืองสวยริมแม่น้ำไรท์

ล่องเรือชมแม่น้ำไรน์ แม่น้ำสายสำคัญที่สุดสายหนึ่งของยุโรป เป็นช่วงที่มีความงดงามโรแมนติกที่สุดของลำน้ำสายนี้ ชมทัศนียภาพอันสวยงามตลอดสองฟากฝั่งแม่น้ำไรน์ อันสร้างความสดชื่นให้เป็นพิเศษ เห็นเนินเขา ปราสาทโบราณอายุกว่า 600 ปี ตึกรูปแบบสไตล์ยุโรปต่างๆ ดูมีเสน่ห์ ตึกสำนักงานริมแม่น้ำ บ้านเรือนน่ารักๆ รวมทั้ง อาคารบ้านเรือนของอดีตเหล่าขุนนางเยอรมนีที่เรียงรายอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของไร่องุ่น ผาหินโลเรอไลย์ ซึ่งมีตำนานเรื่องเล่าที่ลึกลับของเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นบริเวณนั้น

เมืองโคโลญจน์ เป็นเมืองใหญ่ของปรเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม และเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญจน์ 4711 อันลือชื่อ โดยมีมี มหาวิหารแห่งโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) เป็นอาสนวิหารขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปเรียกเป็นแลนด์มาร์คของเมือง

มหาวิหารแห่งโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) สัญลักษณ์แห่งเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี โบสถ์โรมันคาทอลิกสไตล์โกธิกดั้งเดิมขนานแท้ ด้านหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วฐานแคบ สร้างในปี 1248 ใช้เวลาสร้างยาวนานกว่า 632 ปี และครั้งหนึ่งสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย ได้เคยเสด็จมาเยือนเมื่อคราวเสด็จประพาสเยอรมันครั้งแรกในปี 1897 และที่มหาวิหารแห่งนี้ที่แม้ในปัจจุบันก็ยังมีการขุดพบซากเมืองโรมันโบราณข้างใต้

เมืองดุสเซลดอล์ฟ เมืองสมัยใหม่ของประเทศเยอรมนี แต่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมและเทศกาลต่างๆมากมายที่ยังคงรักษาไว้ในภูมิภาคดุสเซลดอร์ฟ

หมู่บ้านกีร์ธูน (Geithoorn Village) หรือเวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์หมู่บ้านในฝันที่ปราศจากถนน ต้องโดยสารผ่านทางเรือในคลองรอบหมู่บ้านเท่านั้น เป็นหมู่บ้านที่ไม่มีรถไม่มีถนน ไม่มีมลพิษ หรือความวุ่นวายใดๆ มีแต่ลำคลองน้ำใส เรือพายลำน้อยต้นไม้ใบหญ้าและอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น และมีสะพานไม้ทรงสวยมากกว่า 170 สะพานไว้เชื่อมระหว่างบ้านเรือนเข้าหากัน ณ หมู่บ้านแห่งนี้จึงเป็นดั่งสววรค์สำหรับการพักผ่อนแบบสโลวไลฟ์อย่างแท้จริง

เมืองลิซเซ่ เมืองแห่งดอกทิวลิป ดอกไม้เก่าแก่อีกชนิดหนึ่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเนเธอร์แลนด์และสินค้าส่งออกสำคัญมาจนทุกวันนี้ เมืองลิซเซ่เป็นแหล่งปลูกทิวลิปใหญ่และสำคัญยิ่งของเนเธอร์แลนด์ อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมเพียง 29 กม. หากได้มาเที่ยวเมืองนี้ คงได้ตื่นตาตื่นใจตั้งแต่สองข้างทาง เต็มไปด้วยดอกไม้หัวขึ้นแซมทุ่งหญ้าเป็นระยะๆ ยิ่งออกห่างจากตัวเมืองไปเท่าใด ได้เห็นทุ่งดอกทิวลิป ไฮยาซินต์ และนาซิสซัสหลากสี สลับกับบ้านฟาร์มและโกดังบริษัทส่งออก

สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof Garden) สวนดอกไม้ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในเมืองลิซเซ่ เมืองเล็กๆ ทางใต้ของเนเธอร์แลนด์ สวนแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเพราะบรรดาดอกทิวลิปหลากหลายสี และดอกไม้สายพันธุ์อื่นที่ชูช่อเบ่งบานสวยงามไม่แพ้กัน โดยสวนแห่งนี้สามารถปลูกดอกไม้ได้ถึง 7 ล้านดอกต่อปี และเปิดให้ชมความงามได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเท่านั้น

หมู่บ้านกังหันลมโบราณ Zaanse Schans ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์วัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวเนเธอร์แลนด์สมัยก่อน มีกลิ่นอายหรือสัญลักษณ์ของความเป็นมาในอดีต ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ชาวดัชต์ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ค.ศ. 17-18 หมู่บ้านนี้นอกจากกังหันลมที่เป็นจุดขายแล้ว ยังมีโรงสาธิตวิธีการทำชีส ทำขนม ทำรองเท้าไม้ ฟาร์มเลี้ยงแกะ ทำหน้าที่ผลิตกระดาษ งานไม้

กรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป โดยเฉพาะช่วงคริสต์ศตวรรษที่17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เช่น การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในเวลากลางวัน ฟังดนตรีคลาสสิกในยามค่ำคืนการชมกังหันลม โรงงานทำชีส โรงงานทำรองเท้าไม้ หมู่บ้านชาวประมง หรือ ดอกทิวลิป

เที่ยวชมกรุงอัมสเตอร์ดัมโดยการ "ล่องเรือหลังคากระจก" ลัดเลี้ยวเข้าตามลำคลอง สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งสภาพบ้านเรือนเก่าแก่แบบชาวดัชต์ที่ยังคงความงดงามสืบทอดมาแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และทัศนียภาพของบ้านเรือนที่อยู่ริมคลองมากถึง 2,500 หลัง มีเอกลักษณ์พิเศษเป็นอาคารทรงแคบ ที่มีตะขออยู่ชั้นบนสุดของอาคารเอาไว้ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน รับรู้เเรื่องราวอย่างน่าประทับใจระหว่างชมบ้านเรือนริมคลอง

จัตุรัสดัมสแควร์ เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งมีสถานที่สำคัญของกรุงอัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่มากมาย ทั้งโบสก์เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 14 อนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกว่าเป็นศูนย์กลางอนุสรณ์สำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวของอัมสเตอร์ดัมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ว่าได้ โดยชื่อของจัตุรัสแห่งนี้มีที่มาจากเขื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำอัมสเทล ซึ่งเขื่อนแห่งแรกถูกสร้างขึ้นในบริเวณจัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1200

เมืองร็อตเตอร์ดัม หรือ เมืองรอตเทอร์ดัม เป็นเมืองท่าหลักและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส นับเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอีราสมุส ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์ มีลักษณะต่างจากเมืองอื่นๆ ในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ในปี ค.ศ. 2007 และได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น "เมืองแห่งสถาปัตยกรรม"

ท่าเรือเก่า Old Harbor เป็นสถานโบราณที่เก่าแก่เกี่ยวกับท่าเรือเล็กๆของชาวรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวมาที่นี่ยังได้ชมทำเนียบขาวรอตเตอร์ดัมได้ที่นี่ด้วย นอกจากนี้ ยังมี อาคารวิลเลมสเนิร์ฟ (Willemswerf) สถาปัตกรรมอลังการตั้งอยู่ริมน้ำ ให้ได้ชมกัน

กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศเบลเยียม เป็นศูนย์กลางทางการของสหภาพยุโรปและเป็นที่ตั้งศูนย์กลางการบริหารของสหภาพยุโรป หรือ EU (European Union) มีประชากรประมาณ2ล้านคน พูด2ภาษาดัทช์และฝรั่งเศส เชิญเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น อะตอมเมี่ยม,จัตุรัสแกรนด์,รูปปั้นเด็กน้อยยืนปัสสาวะ มาเนคินปิส เป็นต้น หากท่านชอบดูเมืองสวยๆ สถาปัตยกรรมงามๆ แนะนำบรัสเซลส์ เป็นเมืองๆหนึ่งที่สวยไม่แพ้กรุงปราก เชิญสัมผัสมนตร์เสนห์ของ "กรุงบรัสเซลส์" เมืองสวยงาม สวรรค์น้อยๆ ในยุโรป

ถือเป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ของเมืองบรัสเซลส์ สถาปัตยกรรมลูกเหล็กทรงกลมนี้เป็นสัญลักษณ์รูปโครงสร้างอะตอมที่ขยายใหญ่หลายล้านเท่า สร้างขึ้นเป็นหอแสดงนิทรรศการระหว่างงานยูนิเวอร์แซล เอ็กซิบิชั่นในปีคศ1958 โดยAndre Waterkyne ก่อสร้างในรูปทรงที่เป็นโมเลกุลเหล็กใส ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์และแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของกรุงบรัสเซลส์ มีความสูง108ม ประกอบด้วยลูกบอล9ลูก แต่ละลูกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง18ม ในตัวอะโตเมี่ยมยังมีลิฟท์ที่เร็วที่สุดในยุโรป วิ่งด้วยความเร็วสูงถึง5ม/วินาที หนัก2400ตัน

หรือ รูปปั้นเด็กน้อยยืนปัสสาวะ หรือ แมนิเก้นพีส ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแกรนด์งดงามของกรุงบรัสเซล เป็นประติมากรรมเด็กชายตัวเล็กๆกำลังยืนแอ่นตัวปัสสาวะอย่างน่ารัก ผู้สร้างประวัติศาสตร์และตำนานพื้นเมืองของชาวเบลเยี่ยม บ้างเล่าว่าหนูน้อยยืนฉี่รดระเบิดที่คนร้ายเอามาวางไว้ ทำให้เมืองบรัสเซลล์ปลอดภัยจากการระเบิด ถือว่าดับชนวนระเบิด ปกป้องเมืองไว้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ รูปปั้นนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ใครๆต้องมาถ่ายรูป น้ำปัสสาวะนี้คือน้ำพุที่ชาวเมืองและต่างชาตินิยมดื่มกันที่นี่

จตุรัสกรองปลาซ เป็นจตุรัสในกรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียม เลื่องชื่อว่าสวยงามที่สุดในยุโรป และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 ออกแบบโดยเลอโนตร (Le Notre) สถาปนิกผู้ริเริ่มสร้างเมืองแวร์ซายส์ให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ชวนให้ระลึกถึงการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส มีถนน 7 สาย ทอดตัวสู่จตุรัสกลางเมืองที่สวยงามนี้ ถนนที่ล้อมรอบบ่งบอกถึงสินค้าที่ขาย เช่น ถนนขายเนย ถนนขายเนื้อ เป็นต้น ตื่นตากับอาคารรายรอบที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้ง บาโร้ค โกธิค นีโอ- โกธิค

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553