หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองหลวงของแคว้นกาสี อันถือเป็นดินแดนแห่งการแสวงบุญสำหรับชาวพุทธทั่วโลก รวมทั้งเป็นดินแดนชำระล้างบาปสำหรับชาวอินเดีย โดย พาราณสี ถือเป็นเมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่เกิดของพระโพธิสัตว์หลายครั้ง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่แม่น้ำคงคา ไหลผ่าน ซึ่งถือเป็น แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์และได้รับความนับถือจากชาวอินเดีย นอกจากนี้ เมืองพาราณสี ยังเป็นสถานที่ตั้งของศาสนสถานที่สำคัญอีกมากมาย รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถิชีวิตของชาวอินเดียอย่างแท้จริงอีกด้วย
แม่น้ำสายสำคัญ อันมีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดสำหรับชาวฮินดู โดยชาวฮินดูมีความเชื่อว่าแม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดจากสรวงสวรรค์ ใครได้อาบ หรือดื่มกินถือเป็นมงคลสูงสุดแก่ชีวิต อีกทั้งชาวฮินดูยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า ถ้านำร่างคนตายมาเผาแล้วกวาดกระดูกลงที่แม่น้ำแห่งนี้ คนตายก็จะได้ขึ้นสวรรค์ กิจกรรมการล่องเรือชมแม่น้ำคงคา นักท่องเที่ยวจะได้ชมทัศนียภาพตลอดสองข้างทางที่มีทั้งบริเวณที่แออัดไปด้วยบ้านเรือน และบริเวณที่ไม่มีบ้านเรือนเนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นฝั่งนรก รวมทั้งได้ชมวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ด้วย
เมืองสารนารถ คือ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานที่ชาวพุทธควรไปเยืยนให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ตั้งของ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สถานที่ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 จนก่อให้เกิดพระรัตนตรัย ครบเป็นครั้งแรกของโลก ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นอกจากนี้เมืองสารนารถยังมีสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาอื่นๆอีก อาทิ ธรรมเมกขสถูป เจาคันธีสถูป เป็นต้น
เจาคันธีสถูป โบราณสถาน อันมีความสำคัญมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพบกับท่านปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 โดยสถูปแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้มีพระศรีรัตนตรัยครบ ทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เดิมทีสถูปมีความสูงประมาณ 300 ฟุต แต่เมื่อเวลาผ่านก็เกิดผุพัง จนเหลือเพียงแค่ 70 ฟุต ต่อมาในสมัยพระเจ้าอักบาร์มหาราช พระองค์ทรงสั่งให้สร้างต่อเติมโดยใช้ศิลปะแบบมุสลิม
ธัมเมกขสถูป สถานที่ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตนะสูตร ให้กับเหล่าปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ท่าน ซึ่งท่านอัญญาโกณทัญญะเกิดดวงตาเห็นธรรม ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน โดยธัมเมกขสถูปเป็นสถูปขนาดใหญ่ มีความสูง 31.3 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 28.3 เมตร ฐานด้านล่างก่อด้วยหิน สูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง สร้างเป็นช่องๆเพื่อเป็นที่ระดิษฐานพระพุทธรูปแบบต่างๆ รวมทั้งมีการสร้างเป็นช่องใหญ่รอบองค์พระสถูปจำนวน 8 ช่อง ซึ่งมีความหมายถึง มรรคมีองค์ 8 ประการ
พุทธคยานับเป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุดและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลกเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา โดยเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นเวลากว่า 2,500 ปีที่สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของจุดหมายในการแสวงบุญของชาวพุทธผู้มีศรัทธาทั่วโลก พุทธคยามีชื่อเรียกอีกชื่อว่า วัดมหาโพธิ์ (Mahabodhi Temple) ตั้งอยู่ที่จังหวัดคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา 350 เมตร
พระมหาเจดีย์พุทธคยา อีกหนึ่งอนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม สูง 170 ฟุต วัดรอบฐานได้ 121.29 เมตร มีความวิจิตร งดงามเป็นอย่างมาก ซึ่งพระมหาเจดีย์พุทธคยา เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ หรือ กระดูกของพระพุทธเจ้า รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระพุทธเมตตาด้วย
บ้านนางสุชาดาหรือสุชาฏากุฏี ธิดากฎุมพีแห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคมผู้ถวายข้าวมธุปายาสอันประณีตแด่มหาบุรุษก่อนการตรัสรู้ ชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่ง แม่น้ำเนรัญชราบริเวณท่าสุปปติฏฐะ สถานที่พระมหาบุรุษได้อธิษฐานลอยถาดทองริมฝั่งแม่น้ำ
แม่น้ำเนรัญชรา เป็นนแม่น้ำสำคัญในทางพุทธประวัติ ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า "ลิลาจัน" มาจากคำสันสกฤตว่า "ไนยรัญจนะ" แปลว่า แม่น้ำที่มีสีใสสะอาด แต่จริงๆ แล้วเนรัญชราในปัจจุบันมีแต่ทรายเต็มไปหมด เพราะทางน้ำไหลก็ตื้นเขินมาก และผู้คนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้
เมืองนาลันทา หนึ่งในแคว้นมคธ อยู่ห่างจากพระนครราชคฤห์ประมาณ 1 โยชน์ (ประมาณ 16 กิโลเมตร) ณ เมืองนี้มีสวนมะม่วง ชื่อ ปาวาริกัมพวัน (สวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี) ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับแรมหลายครั้งคัมภีร์ฝ่ายมหายานกล่าวว่า พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นอัครสาวก เกิดที่เมืองนาลันทา แต่คัมภีร์ฝ่ายบาลีเรียกถิ่นเกิดของ พระสารีบุตรว่า หมู่บ้านนาลกะหรือนาลันทคาม
มหาวิทยาลัยนาลันทา ซากมหาวิทยาลัยในพระพุทธศาสนาที่รุ่งเรืองโด่งดังที่สุดในโลก ในบริเวณอันกว้างขวาง และยังเป็นบ้านเกิดของ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร ที่นี่ยังมีพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระสารีบุตร ปรากฏอยู่ และศาสนวัตถุสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ พระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานอยู่นอกเขตรั้วของมหาวิทยาลัยสงฆ์ นามว่า “หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ” หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ” ที่เลื่องชื่อที่สุดในประเทศอินเดีย เพราะเป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่หลุดรอดจากการถูกทำลายของกองทัพมุสลิมในปี พ.ศ. ๑๗๖๖
หลวงพ่อองค์ดำ เป็นหลวงพ่อที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน ตามที่คนไทยนิยมเรียกว่า “ปางมารวิชัย” เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลัก จากหินสีดำ หน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้วฟุต สูงนับจากพระเพลาถึงยอดพระเกตุ ๖๙ นิ้วฟุต เป็นพระพุทธรูปที่มีความสมบูรณ์ที่สุด พระนาสิกวิ่นและนิ้วพระหัตถ์บิ่นเล็กน้อย ซึ่งมีอายุ ๑,๐๐๐ กว่าปี ตั้งอยู่ทางตะวันตกของมหาวิทยาลัยนาลันทา สร้างในสมัยพระเจ้าเทวาปาล
เมืองราชคฤห์ เป็นเมืองในหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ 5 ลูก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบญจคีรีนคร และเป็นเมืองตั้งหลักพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า โดยพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสารผู้ครองนคร เป็นเมืองที่มีประวัติความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากที่สุด สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าและพระสาวกยังปรากฏอยู่มากมาย เช่น พระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏ วัดเวฬุวันซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ถ้ำสุกรขาตาที่พระสารีบุตรได้บรรลุธรรม ถ้ำสัตบรรณคูหาที่ทำสังคายนาครั้งแรก เป็นต้น
เขาคิชฌกูฏ เป็นภูเขาขนาดเล็กที่อยู่ทางทิศใต้ของกรุงราชคฤห์ (Rajgir) แคว้นมคธ ปัจจุบันคือ จังหวัดนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งเขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่ประทับจำพรรษาของพระพุทธเจ้า ในพรรษาที่ 2, 5, 7 และพรรษาสุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน เขาคิชฌกูฏ หรือคนที่อินเดียเรียกว่า เขาหัวแร้ง เนื่องจากรูปร่างเหมือนอีแร้ง มีคำกล่าวว่า ถ้าใครได้เดินขึ้นมาจนถึงยอดเขาคิชฌกูฏสักครั้ง เปรียบเหมือนว่าได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด
วัดชีวกัมพวัน (Jivaka Ambavana Monastry) ของหมอชีวกหรือชีวกโกมารภัจจ์ เป็นอารามที่เป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก อยู่ในกรุงราชคฤห์ หมอชีวกได้รับมอบหมายจากพระเจ้าพิมพิสารให้ทำหน้าที่เป็นแพทย์หลวงประจำพระพุทธองค์ ต่อมาหมอชีวกได้รับพระราชทานส่วนหนึ่งของสวนมะม่วง (Mango Grove) จากพระเจ้าพิมพิสารเป็นรางวัลในการรักษาพระเจ้าพิมพิสารให้หายขาดจากโรคเรื้อรังได้ หมอชีวกจึงสร้างเป็นอารามถวายแด่พระพุทธเจ้า และใช้อารามเป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยทั่วไป
วัดเวฬุวัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของวัด คือ วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา พระเจ้าพิมพิสาร ทรงยก พระราชอุทยานสวนไม้ไผ่ถวายเป็นที่ประทับแห่งแรกแด่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระสงฆ์สาวกพุทธองค์ทรงประทับจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้แล้ว 6 พรรษาเจริญพระพุทธมนต์เจริญสมาธิภาวนา ณ อุโบสถสถานที่ประชุมพระสาวกอรหันต์ 1,250 รูป ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 พุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่ภิกษุเหล่านั้น การประชุมนี้ว่า จาตุรงคสันนิบาต มูลเหตุแห่งพิธีมาฆบูชา
เมืองไวสาลี หรือ เมืองเวสาลี เมืองหลวงของแคว้นวัชชี เป็นเมืองใหญ่หนึ่งในเจ็ดของอินเดียโบราณ เมืองเวสาลีเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าจำพรรษาสุดท้าย ตอนพระพุทธองค์เสด็จผ่านมายังเมืองนี้ ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า “อีกสามเดือนจากนี้ไป ตถาคตจะดับขันธ์ปรินิพพาน” หลังจากนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จไปเมืองกุสินาราซึ่งเป็นสถานที่เสด็จปรินิพพาน
กูฏาคารศาลาวัดป่ามหาวัน อารามที่กษัตริย์ลิจฉวีสร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในป่ามหาวันทางเหนือของอาณาจักรวัชชีในป่าหิมาลัยและพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในพรรษาที่ 5 ชมเสาอโศกที่มีรูปสิงห์อยู่ในลักษณะนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่สมบูรณ์ที่สุด ปัจจุบันเหลือเพียงซากโบราณสถานที่ประกอบไปด้วยสังฆาราม ห้องพัก ห้องประชุม
ปาวาลเจดีย์ เจดีย์สถานอยู่ที่เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี พระพุทธเจ้าทรงทำนิมิตต์โอภาสแก่พระอานนท์ พระมหาสาวกอุปัฏฐากประจำพระองค์ เป็นครั้งที่ ๑๖ และครั้งสุดท้ายจากนั้นพระพุทธเจ้าทรงปลงพระชนมายะสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์ ในวันเพ็ญเดือน ๓ ก่อนปรินิพพาน ๓ เดือน พุทธวาจาในวันปลงอายุสังขาร “สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ชนเหล่าใดทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งพาล ทั้งบัณฑิต ทั้งมั่งมี ทั้งขัดสน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า”
กุสินารา หรือ มาถากุนวะระกาโกฏ ในภาษาท้องถิ่น อันหมายถึง ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ ซึ่งเมืองกุสิรา ถือเป็น 1 ใน พุทธสังเวชนียสถาน 4 แห่งที่มีความสำคัญสำหรับชาวพุทธ โดยเมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือ ป่าสาละ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระองค์ด้วย นอกจากนี้ เมืองกุสินารา ในปัจจุบันยังมีอนุสรณ์สถานทางด้านพระพุทธศาสนา อาทิ สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วิหารปรินิพพาน ที่ประดิศฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน เป็นต้น
สถูปใหญ่ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วิหารปรินิพพานซึ่งเป็นที่ประดิษ ฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน พระพุทธรูปปางอนุฏฐิตไสยาสน์ มีพุทธลักษณะคือพระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา ศิลปะมถุรา มีอายุกว่า 1,500 ปี ในจารึกระบุผู้สร้างคือ หริพละสวามี โดยนายช่างชื่อ ทินะ ชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะเพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดาแสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พราหมณ์เจดีย์ เป็นสถานที่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ หรือโทณพราหมณ์เจดีย์ ปัจจุบันตั้งอยู่ทางด้านหลังของ “วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์” เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย โดยมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่เป็นที่สังเกตเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าได้ปลงสังขาร ซึ่งอยู่ในสวนสวนมะม่วงของนางอัมพปาลี นางคณิกาประจำเมืองเวสาลี ซึ่งนางได้อุทิศถวายเป็นอารามในพระพุทธศาสนาและยังเป็นสถานที่ทำสังคายาครั้งที่ 2 รวมทั้งเป็นเส้นทางเสด็จผ่านเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปรินิพพาน
ลุมพินีวัน เป็น 1 ในพุทธสังเวชนียสถาน 4 แห่งที่มีความสำคัญสำหรับชาวพุทธ และเป็นพุทธสังเวชนียสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศเนปาล โดยลุมพินีวัน คือสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาแห่งศาสนาพุทธ หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชทรงโปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า เสาอโศก มาปักไว้ โดยจารึกข้อความไว้ว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า
วัดไทยลุมพินี พุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ คือ สถานที่ประสูติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อประมาณ 2600 ปีมาแล้ว ภายในมีถาวรวัตถุสำคัญที่ชาวพุทธนิยมไปสักการะ คือ "เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช" ที่ระบุว่าสถานที่นี้เป็น สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ นอกจากนี้ยังมี วิหารมายาเทวี สถานที่ประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปของพระนางสิริมหามายาให้ประสูติพระราชโอรส วัดไทยลุมพินีแห่งนี้จึงได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2540
สาวัตถี เป็นเมืองโบราณในสมัยพุทธกาลมีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล 1 ใน แคว้นมหาอำนาจใน 16 มหาชนบทในสมัยพุทธกาล จากนี้เมืองสาวัตถีนับว่าเป็นเมืองสำคัญในการเป็นฐานในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าที่สำคัญ เพราะเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา
วัดเชตวันวิหาร เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นวัดที่พระพุทธเจ้ารวมทั้งพระอรหันต์ได้จำพรรษาอยู่นานที่สุดถึง 19 พรรษา สร้างโดยอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี กล่าวกันว่าต้องขนเงินมาปูพื้นที่ให้เต็มสวนจึงจะซื้อที่ดินมาสร้างวัดถวายแด่พระพุทธเจ้าได้ เพราะในสมัยนั้นดินแดนทุกแห่งเป็นของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์
ต้นโพธิ์พระอานนท์ ต้นโพธิพระอานนท์พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ถือว่าอายุกว่า 2500 ปีซึ่งเป็นอายุยาวนานที่สุดในโลก ชาวเมืองสาวัตถีในสมัยนั้น เมื่อเวลาเข้าไปยังพระเชตุวันก็นำดอกไม้เครื่องหอมไปบูชาพระศาสดา แต่บางคราวพระพุทธองค์เสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์ ชาวเมืองก็นำเครื่องสักการะไปวางไว้ที่ประตูคันธกุฎี ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีจึงขอร้องพระอานนท์ให้หาสถานที่ๆสมควรสักแห่ง เพื่อให้ชนทั้งหลายได้วางเครื่องสักการะบูชาพระศาสดาในเวลาที่พระองค์ไม่ประทับอยู่ที่พระเชตุวั
เมืองที่มีความหลากหลายด้านเผ่าพันธุ์ อันประกอบด้วยอินโด-อารยัน ดาร์วีเดียน และอื่นๆ มีชนกลุ่มน้อยไม่ต่ำกว่า 90 กลุ่ม ลักเนาว์มีความเจริญรุ่งเรืองด้านศิลปวัฒนธรรมและบทกวีแบบเปอร์เซียควบคู่ไปกันความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยุคใหม่ ในอดีต คนอินเดียเรียกเมืองนี้ว่า เมืองจ้าวอาหรับ (City of Nawabs) บ้างก็เรียกว่าสุวรรณภูมิแห่งบูรพา (The golden city of the east) ส่วนฝรั่งเรียกว่าคอนแสตนโนเปิลแห่งอินเดีย (Constantinople of India) จะอย่างไรก็ตาม ล้วนก็แสดงความมั่งของลักเนาว์มาแต่อดีตกาล
กรุงเดลี (Delhi) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ เมืองยังเคยเป็นศูนย์กลางของอำนาจการปกครองของอินเดียมาหลายพันปี ทั้งจากผู้ครองนครที่เป็นสุลต่าน มุสลิม กษัตริย์ฮินดู และจักรพรรดิโมกุล อันเป็นช่วงของการแพร่ขยายอิทธิพลและวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม ซึ่งส่งผลให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ยาวนานหลายยุคสมัย