หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
หมู่บ้านมาฮัท (Mahad) ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของเมืองไรกาด (Raigad) ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นสถานที่ที่พระศรีวรทาวินายกะ (ผู้ประทานพรอันยิ่งใหญ่) อวตารขององค์พระพิฆเนศเสด็จลงมาประทานพรแก่ฤาษีคฤตสมาชผู้ต้องคำสาป ตามตำนานปรากฏในคเณศปุราณะ และมุทคลปุราณะ
วัดสิทธิวินัยยัค (Siddhivinayak Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ในศาสนาฮินดูสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1801ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์ “พระพิฆเนศ” เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในองค์มณฑปศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธา ทันทีที่ท่านก้าวเข้าสู่ ภายในวัดที่คลาคล่ำ ไปด้วยฝูงชนที่มาเคารพสักการะ หลังจากที่ท่านได้สักการะองค์ท่านแล้ว จะมีพิธีกรรมที่ประหลาดอีกอย่างที่จำเป็นต้องทำ คือให้ท่านได้กระซิบคำอธิษฐานต่อ รูปปั้นหนู 2ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านด้วย
เมืองปาลี (Pali) ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของเมืองไรกาด (Raigad) ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นสถานที่ที่เด็กหนุ่มนามว่า “บัลลา” บุตรของนายกัลยันกับนางอินทุมาตี และเป็นผู้นับถือนิกายคณะพัทยะ (Ganabadya) หรือนิกายที่นับถือพระพิฆเณศเป็นเทพเจ้าสูงสุด ได้ถูกพ่อของตนหรือนายกัลป์ยันทำลายแท่นพิธีบูชา เขวี้ยงหินพระคเณศทิ้ง และได้ทำร้ายเด็กหนุ่มผู้นี้ จนกระทั่งพระพิฆเนศเสด็จลงมาประทานพรให้แก่เด็กชายบัลลา และเนรมิตเทวสถานแห่งนี้พร้อมกับสวยัมภูมูรติ ณ ที่แห่งนี้ ตามตำนานปรากฏในคเณศปุราณะ
เทวสถานศรีบัลลาเลศวร ณ วัดศรีบัลลาเลศวา (Sri Ballaleshwar) เมืองปาลี เชื่อกันว่าถ้ามาสักการะพระพิฆเนศที่วัดศรีบัลลาเลศวาแล้ว จะได้รับพรทุกๆอย่างที่ขอจากองค์มหาเทพ ตามตำนานเล่าว่า เด็กน้อยนามบัลลาอาศัยอยู่ในเมืองปาลี ได้สักการะก้อนหินที่ตนเชื่อว่าเป็นรูปของพระพิฆเนศด้วยใจศรัทธาอย่างแรงกล้า พระพิฆเนศจึงได้เนรมิตพระศรีบัลลาเลศวาให้เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ จึงเชื่อกันว่าผู้ที่มาสักการะองค์พระพิฆเนศด้วยใจศรัทธาจะได้รับพรจากพระองค์
เมืองปูเน่ (Pune) เดิมชื่อ ปูนา (Poona) เป็นอําเภอหนึ่งของรัฐมหาราชฏระ ที่มีเมืองหลวงชื่อมุมไบ (บอมเบย์ที่เราเคยท่องสมัยมัธยมว่าเป็นเมืองท่าของอินเดีย) ปูเนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของมุมไบ ห่างออกไปประมาณ 150 ก.ม. และอยู่บนที่ราบสูงเดคแคน (Deccan) สภาพอากาศจึงเย็นสบาย เป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษา มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงถึง 9 แห่ง และสถาบันการศึกษาอีกนับร้อยแห่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Oxford of The East
หมู่บ้านโมรากอน (Morgaon) หรือหมู่บ้านนกยูง ซึ่งตัวหมู่บ้านมีลักษณะทางภูมิศาสตร์คล้ายกับนกยูง อีกทั้งในอดีตยังเป็นที่พำนักของฝูงนกยูงจำนวนมาก หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเมืองปูเน่ ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นสถานที่ที่ศีรษะของอสูรสินธุตกลงมา จากการทำมหายุทธ์กับพระศรีมยุเรศวร และยังเป็นสถานที่เหล่าปัญจเทวตา ที่ประกอบไปด้วย พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม พระศักติ และพระสุริยะ ได้ทรงขอให้พระพิฆเนศเสด็จประทับ ณ สถานที่แห่งนี้ตลอดไป
เทวสถานศรีมยุเรศวร (Shri Mayureshwar) ประดิษฐานอยู่ที่ โมเรกาวน์ (Morgaon) ใกล้กับเมืองปูเน (Pune) วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านนกยูง ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของนกยูงจำนวนมาก ปัญจเทวตา (มหาเทวะ 5 พระองค์ คือ พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม พระศักติ และสุริยเทพ) ได้ขอให้พระพิฆเนศประทับที่นี่ พระพิฆเนศจึงได้เนรมิตเทวสถานแห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์ในการดูแลรักษาเมือง จึงเป็นที่มาของความศรัทธาที่ว่าหากได้มาสักการะที่วัดแห่งนี้แล้วจะแคล้วคลาดจากอุปสรรคและภยันตรายทั้งปวง
เมืองสิทธิธาเทค (Siddhatek) ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเมืองอามาดนาคา (Ahmadnagar) ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นสถานที่ที่พระวิษณุได้ทรงทำพิธีบูชาพระพิฆเนศ และทรงได้รับพรสมปรารถนา จนมีชัยเหนืออสูรมาธุและไกตภะอสุรา และยังเป็นสถานที่ประสูติของสองพระธิดาแห่งพระพรหม ผู้เป็นพระมเหสีแห่งองค์พระพิฆเนศ คือพระนางสิทธิ และพระนางพุทธะ ในช่วงเวลาที่พระพรหมกำลังรังสรรค์โลกและสรรพสิ่งต่างๆ ตามตำนานปรากฎในคเณศปุราณะ
วัดสิทธิวินัยยัค (Siddhivinayak Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ในศาสนาฮินดูสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1801ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์ “พระพิฆเนศ” เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในองค์มณฑปศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธา ทันทีที่ท่านก้าวเข้าสู่ ภายในวัดที่คลาคล่ำ ไปด้วยฝูงชนที่มาเคารพสักการะ หลังจากที่ท่านได้สักการะองค์ท่านแล้ว จะมีพิธีกรรมที่ประหลาดอีกอย่างที่จำเป็นต้องทำ คือให้ท่านได้กระซิบคำอธิษฐานต่อ รูปปั้นหนู 2ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านด้วย
หมู่บ้านเทอูร์ (Theur) ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเมืองปูเน่ ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ตั้งอาศรมของฤาษีกปิละ ผู้ครอบครองแก้วจินตามณีหรือแก้วสารพัดนึกแห่งองค์อินทร์ และเป็นสถานที่ที่พระพิฆเนศเสด็จลงมาช่วยแย่งชิงแก้วจินตามณีจากคณราช โอรสแห่งกษัตริย์อภิจิตและพระนางกุนวดี ผู้ตกอยู่ในอำนาจแห่งความโลภ สุดท้ายคณราชถูกสังหารลง ณ ที่แห่งนี้ หลังจากฤาษีกปิละได้รับแก้วจินดามณีคืนมา จึงได้อธิษฐานขอองค์พระพิฆเนศให้ประทับอยู่ ณ ที่แห่งนี้ตลอดไป
เทวสถานศรีจินดามณี (Shri Chintamani) ตั้งอยู่ที่เทอูร์ ณ วัดศรีจินดามณี ตามเทวตำนานเชื่อกันว่าเจ้าชายกานา โอรสของกษัตริย์อภิจิตแย่งชิงแก้วจินดามณี(แก้วสารพัดนึก) จากฤาษีกาปิละไป ฤาษีกาปิละจึงอ้อนวอนขอให้พระพิฆเนศช่วยเหลือ ต่อมาเมื่อฤาษีกาปิละ รบชนะและได้แก้วจินดามณีคืนกลับมา จึงอธิษฐานขอให้พระพิฆเนศประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป และถวายแก้วจินดามณีนั้นประดับแด่องค์พระพิฆเนศ จึงเชื่อกันว่าเมื่อสักการะบูชาองค์ศรีจินดามณี จะสมหวัง ดังได้อธิษฐานต่อลูกแก้วจินดามณี
ถนนลักษมี (Luxmi Road) อยู่ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย เป็นถนนแหล่งช้อปปิ้งริมถนนที่คึกคักซึ่งอยู่ใกล้กับ Dagdusheth Halwai Ganapati (สถานที่เคารพบูชาที่สูงที่สุดในอินเดีย) ถนนแห่งนี้ใช้จัดงานเฉลิมฉลองพระพิฆเนศ Navratri เทพเจ้าที่เป็นที่รักมากที่สุดของเหล่าสาวกทั้งหลาย และถนนแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกมาก เกือบจะเหมือนกับการซื้อในราคาขายส่งเลยทีเดียว
หมู่บ้านเลนยาดรี (Lenyadri) ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเมืองปูเน่ ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นสถานที่กำเนิดพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระแม่ปารวตี ปางหนึ่งของพระอุมาเทวี ทรงทำพิธีของบุตร โดยจำเป็นต้องบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ภายในถ้ำ ระยะเวลาผ่านไป 12 ปี พระแม่ปารวตีได้ทรงปั้นหุ่นดินเหนียวและทำการประกอบพิธีกรรมต่ออยู่นั้น ผลแห่งการบำเพ็ญเพียรภาวนาได้สัมฤทธิ์ผล รูปปั้นดินเหนียวกลับกลายมามีชีวิตเป็นองค์พระพิฆเนศในวัยเยาว์ที่มีพระชนม์มายุ 10 พรรษา หรือที่เรียกปางอวตารนี้ว่า “บาล คณปติ” ตามตำนานปรากฏในคเณศปุราณะ
เทวสถานศรีคีรีจัตมากา (Shri Girijatmaka) ตั้งอยู่ ณ วัดศรีคีรีจัตมาในถ้ำบนภูเขาริมแม่น้ำกุกดี เมืองเลนยาตรี (Lenyadri) ต้องเดินขึ้นบันไดหินประมาณ 300 ขั้น ภายในเทวสถานแห่งนี้ไม่มีการใช้หลอดไฟให้แสงสว่างโดยใช้แสงสว่างจากแสงของพระอาทิตย์ ได้ชมความงดงามของเทวสถานที่มีศิลปะ แบบคุปตะ ซึ่งถือว่าเป็นยุคทองของศิลปะอินเดียที่สวยงามที่สุด สามารถถ่ายรูปและชมววิทิวทัศน์ บนยอดเขา หากผู้ใดมาเคารพสักการะ “พระศรีคีรีจัตมากา” จะได้รับมนตราที่จะประสบความสำเร็จในการฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง
เทวสถานศรีวิฆเนศวร (Shri Viganeshwar) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำภีมะ ที่เมือง โอซาร์ (Ozar) ณ วัดศรีวิฆเนศวา (Vigneshwar Temple) ประเทศอินเดีย เทวสถานแห่งนี้ มีชื่อเสียงมากในเรื่องความงดงามทางสถาปัตยกรรม “ศรีวิฆเนศวร” หมายถึงผู้ขจัดอุปสรรคและภยันตราย จึงเชื่อว่าผู้ที่มาสักการะองค์ศรีวิฆเนศวรก่อนทำการใดๆ จะทำการนั้นได้สำเร็จราบรื่น ไร้อุปสรรค
เมืองรานจานกอน (Ranjangoan) ตั้งอยู่ในเขตปกครองของเมืองปูเน่ ตามฮินดูคติ ถือว่าเมืองรานจานกอน คือเมืองมณีปุระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระศิวะได้ทรงทำพิธีบูชาพระพิฆเนศ และทรงได้รับพรสมปรารถนา จนสามารถสังหารตรีปุราสูรด้วยธนูเพียงดอกเดียว ตรีปุราสูรนั้น เป็นบุตรของฤาษีคฤตสมาชที่เกิดจากการจาม และเป็นอสูรผู้บูชาและได้รับพรจากพระพิฆเนศ ตามตำนานปรากฏในคเณศปุราณะ
เทวสถานศรีมหาคณปติ (Shri Mahaganapati) อยู่ที่วัดศรีมหาคณาปติ ณ เมืองรานจานกอน (Ranjangaon) เขตปกครองของเมืองปูเน่ เทวสถานศรีมหาคณปตินี้ เป็นสถานที่ที่พระศิวะได้สวดมนต์บูชา ต่อพระคเณศ เพื่อขอความสำเร็จ และการสักการะองค์ศรีมหาคณปติจะทำให้มีอำนาจ ยิ่งใหญ่ สามารถพิชิตมารร้ายและอุปสรรคทั้งหลายได้สำเร็จ
เมืองปูเน่ (Pune) เดิมชื่อ ปูนา (Poona) เป็นอําเภอหนึ่งของรัฐมหาราชฏระ ที่มีเมืองหลวงชื่อมุมไบ (บอมเบย์ที่เราเคยท่องสมัยมัธยมว่าเป็นเมืองท่าของอินเดีย) ปูเนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของมุมไบ ห่างออกไปประมาณ 150 ก.ม. และอยู่บนที่ราบสูงเดคแคน (Deccan) สภาพอากาศจึงเย็นสบาย เป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษา มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงถึง 9 แห่ง และสถาบันการศึกษาอีกนับร้อยแห่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Oxford of The East
พระพิฆคเณศดักดูเชท์ กันปาตี (Dagdusheth Ganpati Temple) พระพิฆคเณศประจำเมืองปูเน่ มีการประดับประดาด้วยเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและเพชร ทั่วทั้งองค์ จนได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นพระพิฆเนศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งในเทศกาลกันปาตีหรือเทศกาลคเณศจตุรถีของทุกปีจะมีการย้ายพระพิฆคเณศทรงเครื่องออกมาประดิษฐานยังศาลาที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้จาริกแสวงบูญได้เข้ามาชมและสักการะองค์เทวรูปของพระพิฆคเณศเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของผู้ที่ได้มาสักการะวัดแห่งนี้
มุมไบ หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ “บอมเบย์ เมืองท่าเก่าแก่ของอินเดียตอนใต้ และเป็นเมืองเอกของ รัฐมหาราษฏร์ ( Maharashtra ) รัฐที่ร่ำรวยด้วยแหล่งโบราณสถานวัดถ้ำมรดกโลกอันวิจิตรตระการตา มุมไบยังเป็นศูนย์รวม ของศรัทธาความเชื่อและวัฒนธรรมหลากหลายมีฐานะเป็นฮอลีวู้ด (บอลลีวู้ด) ของอินเดียมานาน มีทะเลอาระเบียนโอบล้อมอยู่สามด้าน เป็นศูนย์กลางด้านการค้าพาณิชย์ของอินเดีย จึงดึงดูดให้คนมากมายมาที่เมืองแห่งนี้
ประตูอินเดีย (India Gate) คือสิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบและลักษณะคล้ายคลึงประตูชัยของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นประตูทรงโค้งที่มีความสูงถึง 42.35 เมตร โดยเซอร์เอ็ดเวิร์ด ลูตเยนส์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เหล่าทหารอินเดียและอังกฤษจำนวนมากมายที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกัน แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1931 โดยใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นหินทรายแดง ส่วนตรงกลางประตูนั้นมีกระถางหินทรายแดงขนาดใหญ่ซึ่งถูกจุดไฟให้ลุกโชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนกระทั่งปัจจุบัน
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก