หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
จตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี แปลว่า "จตุรัสอัศจรรย์" หรือ ที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า คือ บริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่า ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างได้แก่ มหาวิหารปิซ่า หอเอน หอศีลจุ่ม เริ่มสร้างปีคศ.1173 แล้วเสร็จในปีคศ.1372 ปัจจุบันยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปีคศ.1987
มหาวิหารปิซา (Duomo di Pisa) เป็นมหาวิหารขนาดมหึมา ถูกสร้างขึ้นในปี 1093 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์แบบปิซา เกือบ 1,000 ปี ตั้งอยู่ใจกลางของจัตุรัส Piazza dei Miracoli ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่อันเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดและมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ควบคู่ไปกับหอเอนปิซาซึ่งตั้งอยู่อย่างอิสระ มหาวิหารนี้ยังเป็นโบสถ์ที่ใช้งานอยู่ ในปัจจุบัน
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เมืองเจนัว..บ้านเกิดของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ค้นพบทวีปอเมริกา เป็นเมืองท่าพาณิชย์สำคัญของอิตาลี มีอายุกว่าแก่กว่าสองพันปี ปัจจุบัน เป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของอิตาลี่ได้แก่ เฟียต,อัลฟ่าโรมีโอ,แลนเซีย มีตึกเก่าสมัยโรมันย้อนยุค อาคารบ้านเรือนที่ค่อนข้างแออัด บริเวณอ่าวเจนัวเป็นที่ทอดไว้ด้วยเรือสำราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาว เรือโบราณจำลองขนาดยักษ์ และมีประภาคารสูงตระหง่าน กลางเมืองที่นี่ มีน้ำพุจตุรัสเฟอรารี่ ที่นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปกัน
เซราวัลเล เอาท์เลท (Serravalle Shopping Outlet) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองมิลาน สถานที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมือง และจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของประเทศอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่าง ๆ กว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein, Guess, Etro, Nike, Mariella Burani, Swarovski และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าและห้างเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อิสระให้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นจุดจอดรับ-ส่ง เป็นท่าล่องเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใครโดยใช้เรือแทนรถใช้คลองแทนถนน
จตุรัสเซนต์มาร์ค..ชุมชนที่ยิ่งใหญ่สุดของเวนิซ ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเวนิส และเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพมากที่สุดในโลก ในระหว่างวันเต็มไปด้วยผู้คน กิจกรรมยอดฮิตที่นี่ คือ การให้อาหารนก นอกจากนี้ ยังมีสถานที่น่าสนใจต่าง ๆ เชิญเดินเที่ยวชมตามอัธยาศรัย เช่น สะพานสะอื้นที่ทอดเชื่อมระหว่างศาลและคุกหลวง,พิพิธภัณฑ์-ดอร์ด,วิหารเซนต์มาร์คที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยศิลปะยุคโมเสส,สะพานริอัลโต ที่ทอดข้ามแกรนด์คาเนลสัญลักษณ์ที่สำคัญของเวนิส,ช้อปปิ้งของที่ระลึกต่างๆ และสินค้าแบรน์ดเนมชื่อดัง
สะพานสะอื้น หรือบางคนเรียกว่า "สะพานแห่งการทอดถอนใจ” ซึ่งทอดข้ามด้านหลังวังของผู้ปกครองเวนิสในอดีต ไปยังคุกที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้คือจุดหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งอิสรภาพของเหล่านักโทษ และคุกแห่งนี้เองเป็นที่คุมขังนักรักกระเดื่องนาม “คาสโนว่า” ซึ่งเขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่สามารถแหกคุกนี้หนีออกมาได้ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง
สะพานริอัลโต (Rialto Bridge) สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 สะพานนี้มีประวัติที่น่าสนใจเพราะเป็นสะพานที่ทอดข้ามแกรนด์คาเนลเพียงแห่งเดียวมายาวนานเป็นพันปี เดิมเป็นสะพานไม้ ปัจจุบันปรับปรุงซ่อมแซมใหม่เป็นสะพานหินแข็งแรง จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1854 จึงมีการสร้างสะพานแห่งใหม่ข้ามแกรนด์คะแนลเพิ่มขึ้น สะพานริอัลโตนับว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเวนิส และสามารถะมองเห็นวิวสวยมุมกว้างสวยๆ ของคลองใหญ่ได้ดี และบริเวณรอบๆ สะพานจะมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย
เมืองเซียนา (Siena) หรือ เมืองซีเอนา เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซียนา (Province of Siena) จังหวัดในแคว้นทัสกานี (Tuscany) ซึ่งเป็นแคว้นในภาคกลางของประเทศอิตาลี อีกทั้งยังเป็นแคว้นที่ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์งดงามมาก และมีไวน์ที่รสชาติดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของอิตาลี โดยสิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดของมหาวิหารคือโดมและหอระฆัง โดยโดมที่ตั้งอยู่บนหอแปดเหลี่ยมมาสร้างเพิ่มโดยจาน โลเรนโซ แบร์นินี ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยแถบหินอ่อนขาวสลับเขียวดำยกเว้นด้านหน้าที่แทรกด้วยหินอ่อนสีชมพูแก่เกือบแดง
จตุรัสเปียซซ่า เดล คัมโป (Piazza Del Campo) ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นมรดกโลก และเคยเป็นบ้านของปาลิโอนักแข่งม้าที่มีชื่อกระฉ่อนที่สุดในโลก ถือเป็นจตุรัสที่มีความสวยงามแปลกตา ด้วยรูปทรงเป็นแบบเกือกม้าคล้ายๆ กับรูปพัด ลาดเอียงแบบขั้นบันได ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลาว่าการเมืองเซียน่า อีกทั้งมีร้านกาแฟ, บาร์, ร้านค้า และของที่ระลึกมากมาย ล้อมรอบด้วยตึกอาคารสไตล์อิตาลี นอกจากยังเป็นสถานที่ที่นิยมจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดงานแต่งงาน, แสดงเครื่องแต่งกายต่างๆ และเป็นสถานที่พบปะชุมนุมของชาวเมือง
พระราชวังปาลาโซ พลับบลิคโค (Palazzo Pubblico) ซึ่งเป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในแบบโรมาเนสก์ ภายนอกตกแต่งแบบอิตาลียุคกลางที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเป็นพระราชวังที่มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นตึกที่ทำงานของรัฐบาล โดยก่อสร้างด้วยศิลปะแบบโรมาเนส ภายในทุกห้องของพระราชวังนี้ได้รับการตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม
มหาวิหารเซียนา (Siena Cathedral) หรือที่เรียกว่ามดูโอโมดิเซียนา (Duomo Di Siena) มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1215-1263 วิหารที่มีความงามของโดมที่ตั้งอยู่บนหอคอยแปดเหลี่ยมและหอระฆัง ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนขาวสลับเขียวดำ แต่เฉพาะด้านหน้าของมหาวิหารที่ถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนสีชมพู โดยสีขาวและสีดำที่นำมาตกแต่งนั้นเป็นสีสัญลักษณ์ของเมืองเซียนา ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นสีของม้าเซเนียส และอาสเคียส ผู้ก่อตั้งเมือง
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553