หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
เมืองเกียวโต เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,200 ปีก่อน และยังเป็นศูนย์กลางของเกาะฮอนชู นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น วัดคิงกะกุที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สามารถสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาราชิยาม่าที่สะท้อนให้เห็นถึงแม่แบบของทิวทัศน์ญี่ปุ่น เป็นต้น
วัดคิโยมิซึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple) ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงายามาทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ชื่อวัดตั้งตามชื่อของน้ำตกที่อยู่ในบริเวณวัดที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเทือกเขา เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1,500 ปี มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดในภูมิภาคนี้ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ไทฉะ หรือ ศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อถวายให้แก่เทพเจ้าแห่งการเกษตร ภายในบริเวณศาลเจ้านั้นเต็มไปด้วยรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์นำสาส์นของเทพเจ้าอินาริ ทั้งยังมีอำนาจพิเศษในการแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ นอกจากนี้ทางด้านหน้าศาลเจ้ายังมีเสาโทริอิสีแดงส้มเรียงเป็นแถวเป็นแนวยาวถึง 4 กิโลเมตร ซึ่งเสานี้คือสัญลักษณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาชินโตนั่นเอง
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งในอดีตที่นี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของไซออนจิ คิซึเนะ ต่อมาในปี 1397 จึงได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับโชกุนอาชิคางะ ซึ่งเป็นโชกุนคนเดียวกับในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง เพื่อใช้เป็นที่พำนัก จนกระทั่งท่านโชกุนเสียชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นวัดเซนโดยผู้เป็นลูกชาย แต่วัดที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นแค่แบบจำลองจากของเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยตัวอาคารมี 3 ชั้น ตัวเรือนเป็นสีทองจากทองคำเปลว มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์บนยอด และมีลำธารโดยรอบตัวอาคาร
เมืองนาโกย่า ถือเป็นเมืองเอกของจังหวัดโอจิ ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ ไม่ไกลจากเมืองโอซาก้าและเกียวโตมากนัก มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ แต่กลับมีบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยนาโงย่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผา รวมทั้งงานศิลปหัตถกรรมต่างๆ ทั้งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกหลายแห่ง อย่างเช่น ปราสาทนาโงยะ ศาลเจ้าอัตสึตะ อุทยานแห่งชาติอิเซะชิม่า อันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเซะที่ผู้ที่นับถือลัทธิชินโตให้ความศรัทธาและเคารพมากที่สุด
อุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ ครอบคลุมบริเวณจังหวัดยามานาชิ ชิซูโอกะ คานางาวะ และบริเวณตะวันตกของโตเกียว เป็นอุทยานแห่งชาติชื่อดังของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันดี อุทยานนี้ครอบคลุมพื้นที่ของภูเขาไฟฟูจิ Hakone และคาบสมุทร Izu เรียกได้ว่าเป็นอุทยานที่คึกคักที่สุด เพราะมีกิจกรรมหลากหลายให้นักเดินทางได้ทำ เช่น ปีนภูเขาฟูจิ แช่ออนเซ็น เดินเล่นชมความงามของทะเลสาบ ภูเขาไฟฟูจิ และอื่นๆ อีกมากมาย แบบสายธรรมชาติพลาดไม่ได้เลย
ทะเลสาบฮามานะ (Lake Hamana) ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งแปซิฟิก เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของญี่ปุ่น ครอบคลุมเมืองฮามะมัทสึ (Hamamatsu) และเมืองโคะไซ (Kosai) จังหวัดชิซุโอกะ เรียกได้ว่าแหล่งท่องเที่ยวเริ่ดๆ เพียบ เดิมทีตัวทะเลสาบเองเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่แยกออกมาจากมหาสมุทร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวในปี 1498 ทำให้น้ำจืดเปลี่ยนเป็นน้ำเค็มในที่สุด สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือคังซังจิออนเซน (Kanzanji Onsen) รีสอร์ทน้ำพุร้อนบริเวณชายฝั่งตะวันออก
ทะเลสาบอะชิโนะโกะ หรือ ทะเลสาบฮาโกเน่ เป็นทะเลสาบอันเงียบสงบอันมีภูมิทัศน์สวยงาม เพราะรายล้อมไปด้วยภูเขาและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกเนะ มีลักษณะเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ทอดตัวไปในแนวตะวันตกเฉียงใต้ของแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดฮาโกเนะ ซึ่งทะเสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักจะมาล่องเรือที่มีลักษณะคล้ายเรือโจรสลัดเพื่อชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามในระยะไกล ซึ่งจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือจุดที่อยู่บริเวณใกล้ๆ กับประตูศาลเจ้าฮาโกเนะสีแดงสดที่จมน้ำอยู่
ศาลเจ้าฮาโกเนะ (Hakone Shrine) ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาฮาโกเนะ ริมฝั่งทะเลสาบอะชิ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,250 ปี โดยสร้างขึ้นเมื่อปี 757 มีจุดเด่นที่สังเกตเห็นง่ายๆ คือประตูไม้โทริอิสีแดงขนาดใหญ่อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของศาลเจ้า ส่วนอาคารของศาลเจ้านั้นถูกซ่อนอยู่ในป่าทึบ นอกจากนี้ระหว่างทางเดินสู่ศาลเจ้ายังมีการประดับประดาด้วยโคมไฟตามสองข้างทางตลอดแนว ท่ามกลางร่มไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ทั่วบริเวณของศาลเจ้า โดยศาลเจ้าแห่งนี้มักจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี
โกเทมบะ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท เป็นหนึ่งในเอ้าท์เลทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะนอกจากที่นี่จะมีสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกราคาถูกกว่า 200 ร้านค้าแล้ว รอบๆ บริเวณยังโรแมนติกและสวยงามเพราะตั้งอยู่บนเชิงภูเขาไฟฟูจิ ระหว่างทางเชื่อมไปสู่อุทยานแห่งชาติฮาโกเนะ โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนและมีสะพานเชื่อมถึงกัน นั่นก็คือ West Zone ที่อยู่ด้านหน้าเอ้าท์เลท และ East Zone ที่อยู่ติดติดกับอุทยานฮาโกเนะ และที่นี่ยังมีสวนกุหลาบ และชิงช้าสวรรค์อีกด้วย
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ทุ่งดอกไม้ชิบะซากุระ หรือที่รู้จักกันในนามว่าดอกพิ้งค์มอส ในช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกไม้จะบานและหน้าตาดูคล้ายกับดอกซากุระ ส่วนในฤดูอื่นจะมีใบสีเขียวแทนและดูคล้ายต้นหญ้า จึงเรียกกันว่า ชิบะซากุระ คำว่า "ชิบะ" หมายถึงต้นหญ้า ดังนั้นจะแปลได้ว่า "ซากุระต้นหญ้า" มาเดินชมต้นชิบะซากุระที่มีอยู่นับแสนต้น ซึ่งดูเหมือนพรมหลากสี ทั้งสีขาว สีชมพู และสีแดง ซึ่งสีของดอกจะเข้มขึ้นตามอายุที่ปลูกกันได้ที่นี่
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
ศูนย์จำลองแผ่นดินไหว (Fujinoeki or Earthquake Simulation Center) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับเขตภูเขาไฟฟูจิ ภายในมีห้องจัดแสดงข้อมูลการประทุของภูเขาไฟจากทั่วทุกมุมโลก ห้องแสดงภาพแผ่นดินไหว ห้องแสดงเหตุการหลังแผ่นดินไหว ห้องจำลองแผ่นดินไหว ห้องอุทกภัย ห้องเขาวงกตกระจก นอกจากนี้ยังมีโซนถ่ายภาพกับภูเขาไฟฟูจิ โซนความรู้ต่าง ๆ และโซนช้อปปิ้งสินค้างานฝีมือญี่ปุ่นต่าง ๆ เช่น มีดแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เครื่องสำอาง และของฝากอีกมากมาย
มหานครโตเกียว หรือ "โตเกียว" เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโต มีระบบการปกครองพิเศษที่รวมการปกครองแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน โตเกียวได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และที่นี่ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญๆ ที่ได้รับการโหวตให้ติดอันดับโลกในด้านการท่องเที่ยวอยู่เนืองๆ หากใครคิดจะมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ได้มาเยือนโตเกียวซักครั้งแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกค้างคาใจ เหมือนมาไม่ถึงประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
วัดอาซากุสะ (Asakusa) หรือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ภายในวัดมีเทวรูปคันนงประดิษฐานอยู่ รวมทั้งยังมีเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครมาขอพรสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ นอกจากนี้ยังมีโคมแดงยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ที่ใครมาถึงต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
นากามิเสะ เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ เป็นอีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย มีระยะทาง 250 เมตร รวมทั้งซอยแยกย่อยที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้าอีกหลายซอย สำหรับสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นของฝาก หรือของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นขนมพื้นเมืองที่ทำขายกันสดๆ หรือสำเร็จรูปในกล่องสวยงาม พวงกุญแจ ตุ๊กตา พัด โคมไฟ เข็มกลัด ยูกาตะ เป็นต้น จึงทำให้แต่ละวันจะมีผู้คนแวะมาเยี่ยนเยียนถนนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
วัดนาริตะซัน ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคคันโต โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ผู้คนจะแห่แหนมาขอพรที่วัดแห่งนี้อย่างล้นหลาม ภายในวัดมีเจดีย์ 5 ชั้นอยู่ 1 คู่ มีส่วนหย่อมและสระน้ำขนาดใหญ่ ส่วนอาคารหลักของวัดนั้นมีสถาปัตยกรรมแบบอินเดีย แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสำนักงานใหญ่ของโรงเรียนสอนศาสนาลัทธิชินกอน และถือเป็น 1 ใน 3 วัดหลักของลัทธิคันโตที่ได้สร้างขึ้นอุทิศแด่ เทพเจ้าฟูดูเมียวโอะซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไฟ
อิออนมอลล์ เป็นศูนย์ค้าปลีกและมีสินค้าหลากหลายชนิดจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยภายในห้างอิออนนั้นประกอบไปด้วยส่วนของดีพาร์ทเมนท์สโตร์ซึ่งก็คือห้างจัสโก้ และส่วนที่เป็นพลาซ่าหรือร้านค้าย่อย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดที่สะดวกและราคาไม่แพงมากนัก
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง