หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
หน้าผาโทโนะเฮทสึริ (To no Hetsuri) หรือ หน้าผาล้านปี ตั้งอยู่ในฟุกุชิมะ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่าน กว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
เมืองยูโนะคามิ ออนเซน (Yunokami Onsen) เป็นเมืองตากอากาศออนเซนเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฟูกุชิมะ ที่เดินทางได้ค่อนข้างสะดวก เพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) ที่เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวของญี่ปุ่น ที่มีหลังคาเป็นแบบญีปุ่นโบราณ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองนี้
สถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) ตั้งอยู่ที่ ฟุกุชิมะ เป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น ที่มีอาคารสถานีที่ทําจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งในบริเวณติดกันยังมีจุดออนเซนเท้าให้ใช้บริการได้ฟรีระหว่างที่รอรถไฟ มาเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นเท้าเพื่อผ่อนคล้ายพร้อมกับชมธรรมชาติไปด้วยก่อนที่รถไฟจะมา
หมู่บ้านโออุจิ จูกุ (Ouchi Juku) หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะ ที่สร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนา เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร มีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโอะอุชิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้
เมืองไอสุ (Aizu) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมซามูไร ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือตัวเมืองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ นอกจากนี้ไอสุยังมีมนต์เสน่ห์เรื่องของออนเซ็น และท่านยังจะได้เพลิดเพลินไปกับการกินลมชมวิวบนรถไฟสายพิเศษตู้รถไฟสไตล์โบราณ และตู้รถไฟชมวิวที่มีการติดตั้งกระจกไว้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน ตั้งอยู่เมืองไอสุ-วาคามัทสุ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 โดย Ashina Naomori เพื่อเป็นกองบัญชาการทางทหารในสมัยไอซึ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1868 เกิดสงครามโบชินและถูกเผาในสงครามกลางเมือง ปราสาทนี้ได้ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่าง ๆ
จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ตั้งอยู่ภูมิภาคโทโฮกุ ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่นรองจากฮอกไกโด ที่มีจุดเด่นคือ ภูเขาอิวาเตะซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นภูเขาไฟฟูจิแห่งภาคใต้ หรืออิวาเตะ-ฟูจิ ด้วยรูปร่างและลักษณะที่คล้ายคลึงกับภูเขาฟูจิอย่างกับแกะ นอกจากนั้นอิวาเตะยังได้ชื่อว่า เป็นเมืองแห่งการเกษตรที่มีพืชพรรณผลไม้อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นสินค้าและของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ ส่วนใหญ่จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเกษตรแทบทั้งสิ้น
วัดชูซอนจิ (Chuson-ji Temple) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิวาเตะ ในหอกลางวัดมีพลับพลาทองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก วัดชูซอนจิเป็นหนึ่งในวัดที่มีเรื่องราววัฒนธรรมเกี่ยวกับโอชูวฟูจิวาระหนึ่งบุคคลสำคัญของตระกูลฟูจิวาระ และยังมี “เมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฮิราอิซูมิ” อีกหนึ่งสถานที่ในมรดกโลก พลับพลาทองของวัดชูซอนจิสร้างโดยคำสั่งของโอชูวฟูจิวาระในปี 1124 เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมาชมหากได้มาเยือนเมืองฮิราอิซูมิ พลับพลาทองนี้ยังเป็นที่เก็บกระเถ้ากระดูกตระกูลฟูจิวาระถึงสามรุ่นด้วยกัน
1 ใน 10 สถานที่ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ท่านจะได้นั่งเรือล่องไปตามลำน้ำเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงาม ตลอดสองข้างทาง ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับผาหินที่มีลักษณะคล้ายจมูกของสิงโต อันเป็นที่มาของชื่อ เกบิ ซึ่งหมายถึงจมูกสิงโตนั่นเอง อีกทั้งท่านยังจะได้ลองเสี่ยงทายด้วยก้อนหินแห่งความโชคดี โดยการโยนไปยังช่องของหน้าผา หากท่านสามารถทำได้ก็หมายความว่าท่านจะโชคดี นอกจากนี้ขณะล่องเรือท่านก็จะได้ฟังเพลงพื้นบ้านของญี่ปุ่นอันไพเราะที่ขับร้องโดยนายท้ายเรืออีกด้วย
หมู่บ้านเอะสะชิ ฟูจิวาระ (Esashi Fujiwara Heritage Park) ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านโบราณในบรรยากาศประวัติศาสตร์สมัยเฮอัน เป็นสถานที่สําหรับถ่ายภาพยนตร์ ละครทีวี มากกว่า 200 เรื่องด้วยกัน นอกจากเราจะได้เดินชมบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคแล้วนั้น ภายในยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อีกมากมาย เช่น การแต่งกายเป็นขุนนางสมัยเฮอัน (มีแบบฟรีและเสียเงินเพิ่มเติม) การแต่งกายแบบซามูไร โดยทดลองสวมเกราะแบบซามูไร การลองฝึกยิงธนู นอกจากนี้ยังมีโซนถ่ายภาพแบบ ART 3 มิติ อีกด้วย
เมืองคาคุโนดาเตะ (Kakunodate) เมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอาคิตะโดยชาวญี่ปุ่นถือว่าเมืองนี้เป็นเมืองของซามูไรอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ด้วยความเป็นเมืองเก่าโบราณที่ได้รับการเก็บรักษาสภาพบ้านเรือนไว้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือบ้านเรือนเหล่านี้เป็นของเหล่าบรรดานักรบซามูไรมาตั้งแต่ในยุคสมัยเอโดะ ซึ่งเป็นสมบัติที่ตกทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้
กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบของเมืองยามากาตะ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่รอบเหมืองแร่เงินที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่สวยงามที่สุดด้วยห้องพักแบบเรียวกัง นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ญี่ปุ่นชื่อดัง "โอชิน" และเป็นโมเดลต้นแบบให้กับอนิเมะเรื่อง "มิติวิญญาณ" อีกด้วย เราสามารถเดินเล่นเก็บภาพประทับใจกับบ้านโบราณ หรือออนเซ็นเท้าคลายความเมื่อยล้าได้ที่นี่
ถนนคลิสโรด (Clis Road) ตั้งอยู่ใจเมืองเซ็นไดใกล้กับสถานีรถไฟเซ็นไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ ไอชิบันโช ถือเป็นถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก โดยสินค้ามีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารท้องถิ่นหรือฟาสต์ฟู้ด ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ศูนย์เกมส์ ไปจนถึงแบรนด์เนมระดับไฮเอน
ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นสำหรับป้องกันเมือง ต่อมาเกิดไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1882 จึงทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากกำแพงหินด้านนอกและหอรักษาความปลอดภัย จากทำเลที่ตั้งของปราสาทเดิม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองด้านล่างที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ประวัติศาสตร์ของปราสาทอาโอบะซึ่งอาคารมีรูปแบบเหมือนปราสาทที่เคยมีอยู่ในสมัยเอโดะ ภายในจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ และโรงละครแสดงภาพยนตร์สั้นๆเกี่ยวกับปราสาทให้ชมอีกด้วย
ท่าเรือมัตสึชิมะ อยู่ในอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ในจังหวัดมิยางิ ได้รับการยกย่องว่าเป็นอ่าวที่มีความสวยงามมากที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ประกอบด้วยเกาะเล็กๆกว่า 200 เกาะที่ปกคลุมด้วยป่าสน ผสมผสานกับน้ำทะเลสีฟ้าทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพอันแสนงดงาม การเที่ยวชมเกาะเป็นการเดินทางด้วยเรือที่แล่นรอบอ่าวมัตสึชิมะประมาณ 50 นาที
ล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิม่า (Matsushima Bay Boat) ซึ่งเป็นอ่าวที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น มาล่องเรือเพื่อชมความงดงามของหมู่เกาะกว่า 260 เกาะ ที่มีรูปร่างแตกต่างกัน อันเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอย่างน่าอัศจรรย์ มาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเลี้ยงหอยนางรมคุณภาพ รวมทั้งได้สนุกสนานไปกับการให้อาหารนกนางนวล ที่คอยบินโฉบมากินอาหารจากมือ
วัดโกไดโดะ (Godaido) เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายตั้งอยู่ในเมืองมัตสึชิมะ จังหวัดมิยากิ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสามของสถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีอาคารที่เก่าแก่ที่สุดเขตพื้นที่โตโฮกุที่มีสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะและได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒรธรรมที่สำคัญ
วัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) เป็นวัดเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ภายในอาคารมีการลงรักปิดทองและเพ้นท์สีประตูบานเลื่อนไว้อย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่สวยงามและมีชื่อเสียงของญี่ปุ่นของเมืองมัตซูชิม่า มีอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติซึ่งขึ้นทะเบียนโดยจังหวัดคือ ต้นพลัม Garyubai ที่ปลูกโดยผู้บัญชาการทหารที่มีชื่อเสียงของดาเตะ มะซามูเนะ
วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple) สร้างขึ้นเพื่อไว้ทุกข์และบูชาเทพมิทสึมุเนะ เทพแห่งความเมตตาที่เสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 19 ปี ทางเข้าวัดมีสวนมอสและหินตั้งอยู่และด้านหลังวัดเป็นป่าไม้สนซีดาร์สำหรับนั่งทำสมาธิ บริเวณพื้นที่วัดเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพภายในหลุมฝังศพตกแต่งด้วยทองคำ และภาพวาดหรูหรา รวมถึงสัญลักษณ์แบบตะวันตกเป็นรูปดอกจิก หัวใจ ข้าวหลามตัด โพธิ์ดำ ไม้กางเขน และรูปดอกกุหลาบที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิ ในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว และสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง เราสามารถเข้าถึงตัวสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด และสามารถป้อนอาหารและอุ้มสุนัขจิ้งจอกได้
ตุ๊กตาไม้ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำภูมิภาคโทโฮขุ ซึ่งได้การรับรองอย่างเป็นทางการให้เป็นศิลปะพื้นเมืองประจำชาติ โดยมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยหัวกลมโต ลำตัวตรง ( แต่ในปัจจุบันมีลำตัวมีความหลากหลายมากขึ้น ) และใบหน้าของตุ๊กตาแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไปเพราะการวาดใบหน้านั้นจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้วาดในข่วงเวลานั้นๆ และในส่วนของฐานต้องมีชื่อของช่างแกะสลักไว้ด้วย ภายพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีการจัดแสดงตุ๊กตาโคเคชิที่รวบรวมมาจากทุกหมู่เกาะในญี่ปุ่น รวมทั้งการแสดงวิธีการผลิตตุ๊กตาโดยช่างมืออาชีพด้วย
เมืองฟุคุชิมะ (Fukushima) ภูมิภาคโทโฮกุ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น โด่งดังเรื่องอุตสาหกรรมประมงขนาดใหญ่จึงมีอาหารทะเลสดๆ จำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีผลไม้ที่ขึ้นชื่อคือ พีช (Momo) เชอร์รี่ (Sakuranbo) องุ่น ฯลฯ และยังเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ สามารถเดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองนี้แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ สถานที่ชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก