หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
เมืองเกียวโต เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,200 ปีก่อน และยังเป็นศูนย์กลางของเกาะฮอนชู นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น วัดคิงกะกุที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สามารถสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาราชิยาม่าที่สะท้อนให้เห็นถึงแม่แบบของทิวทัศน์ญี่ปุ่น เป็นต้น
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ไทฉะ หรือ ศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อถวายให้แก่เทพเจ้าแห่งการเกษตร ภายในบริเวณศาลเจ้านั้นเต็มไปด้วยรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์นำสาส์นของเทพเจ้าอินาริ ทั้งยังมีอำนาจพิเศษในการแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ นอกจากนี้ทางด้านหน้าศาลเจ้ายังมีเสาโทริอิสีแดงส้มเรียงเป็นแถวเป็นแนวยาวถึง 4 กิโลเมตร ซึ่งเสานี้คือสัญลักษณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาชินโตนั่นเอง
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งในอดีตที่นี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของไซออนจิ คิซึเนะ ต่อมาในปี 1397 จึงได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับโชกุนอาชิคางะ ซึ่งเป็นโชกุนคนเดียวกับในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง เพื่อใช้เป็นที่พำนัก จนกระทั่งท่านโชกุนเสียชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นวัดเซนโดยผู้เป็นลูกชาย แต่วัดที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นแค่แบบจำลองจากของเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยตัวอาคารมี 3 ชั้น ตัวเรือนเป็นสีทองจากทองคำเปลว มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์บนยอด และมีลำธารโดยรอบตัวอาคาร
ศาลเจ้าเฮย์อัน (Heian Shrine) หรือเฮย์อันจินกุ ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต โดยศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1895 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 1,100 ปี ของการก่อตั้งเมืองเกียวโต รวมทั้งเพื่อเป็นการระลึกถึงจักรพรรดิกัมมู ผู้ก่อตั้งเมืองเกียวโตเป็นเมืองหลวงในอดีตด้วย ซึ่งอาคารต่าง ๆ ภายในศาลเจ้านั้นออกแบบ และก่อสร้างโดยเลียนแบบพระราชวังโตเกียว ทั้งยังเต็มไปด้วยต้นซากุระ ที่จะพร้อมใจกันผลิดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ และมีสวนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสวนที่จัดในสไตล์ของญี่ปุ่นแบบโบราณ
ย่านชินเซไก (Shinsekai) แหล่งช้อปปิ้งและย่านแห่งไนท์ไลฟ์ อันมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโอซาก้า สัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือโคมกระดาษรูปปลาปักเป้า ย่าน Shinsekai นี้มีประวัติมาตั้งแต่ปี 1903 เมื่อรัฐบาลเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าในประเทศครั้งที่ 5 บริเวณนี้และย่าน Tennoji ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดแสดง หลังเสร็จสิ้นการแสดงแล้ว ทางราชการได้ตกลงให้สร้างสวนสาธารณะ Tennoji และหอคอย Tsutenkaku ไว้เป็นที่ระลึกทางทิศตะวันตก
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
หมู่บ้านอเมริกา โอซาก้า (Amerika-mura) เป็นย่านช็อปปิ้งและบันเทิงวาไรตี้ เปรียบเหมือนย่านฮาราจูกุแห่งโอซาก้าก็ว่าได้ เพราะเป็นสถานที่นัดพบของเหล่าวัยรุ่นในโอซาก้า เดิมทีบริเวณนี้เป็นคลังสินค้าเก่า ภายหลังถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นสถานที่ขายสินค้านำเข้า อาทิ สินค้าวินเทจ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ แผ่นเสียง ฯลฯ โดยสินค้าส่วนใหญ่ถูกนำเข้ามาจากทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา จนที่นี่ถูกเรียกว่า America-Mura หรือ หมู่บ้านอเมริกัน
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง